ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 600 การค้นพบใหม่ของพวกผู้เชี่ยวชาญ

นีลเซ็นยืนอยู่ด้านนอกอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดชาวประมงคนหนึ่งเดินมามองเขาครั้งหนึ่งแล้วเดินไปจากนั้นกลับมาถามอย่างรวดเร็ว “คุณเป็นเพื่อนของฉินเหรอ? ผมคือแอนดรูว์ ทัคเกอร์จำผมได้ไหม? ผมเคยไปที่ฟาร์มปลาของพวกคุณ…”
ความสามารถในการจดจำของนีลเซ็นเป็นเลิศเขามองครั้งเดียวก็จำชาวประมงคนนี้ได้แอนดรูว์ ทัคเกอร์คือคนที่ไปที่ฟาร์มปลาต้าฉินเพื่อติดต่อให้ฉินสือโอวมาร่วมงานเดินขบวนครั้งนี้
เช่นนี้นีลเซ็นก็ทักทายเขาแอนดรูว์ ทัคเกอร์บอกว่าเขาเพิ่งมาถึงเพราะวันนี้ที่ฟาร์มปลาต้องให้อาหารสัตว์พอดีแล้วถามว่าฉินสือโอวอยู่ที่ไหน
นีลเซ็นชี้ไปที่ร้านเครื่องดื่มด้านหลังแอนดรูว์ ทัคเกอร์เดินเข้าไปเห็นฉินสือโอวกำลังดื่มอยู่กับเบิร์ดก็ยิ้มพลางพูด “พวกคุณนี่ชิคจริงๆ ดูท่าคุณคงเข้าใจความหมายที่แท้จริงของงานเดินขบวนแล้ว”
ฉินสือโอวสั่งเบียร์สดแก้วใหญ่ให้เขาแล้วพูด “กินดื่มให้อิ่มก่อนถึงจะมีแรงทำกิจกรรมไม่ใช่เหรอ?”
แอนดรูว์ ทัคเกอร์ยกนิ้วโป้งให้เขาแล้วเงยหน้ากระดกหนึ่งอึกใหญ่จากนั้นคุยกับฉินสือโอวเรื่องข่าวเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงการประมงระหว่างประเทศ
นั่งอยู่ที่ร้านเครื่องดื่มเย็นกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วพวกฉินสือโอวก็เดินออกมาเข้าสู่การเดินขบวนอย่างเป็นทางการป้ายที่นีลเซ็นชูอยู่ในมือเป็นตัวอักษรภาษาจีน นี่ทำให้เขาเป็นจุดสนใจพอชาวประมงจำนวนหนึ่งเข้าใจความหมายของตัวอักษรภาษาจีนแถวนั้นแล้วก็ตั้งใจเชิญให้เขาไปอยู่ด้านหน้านำขบวนด้วยความจริงใจ
ในที่สุดนีลเซ็นก็คว้าโอกาสเป็นจุดสนใจมาได้ หน้าตาเคร่งขรึมก้าวเท้าอย่างองอาจเอาป้ายกระดาษมาเป็นธงชาติชูอยู่บนหัวเหมือนผู้นำทหารสามเหล่าทัพตอนที่กลุ่มคนมุงดูเยอะยังเตะขาไปด้วย…
ครั้งนี้พวกเจ้าของฟาร์มปลาจัดเดินขบวนกันอย่างยิ่งใหญ่อลังการที่หน้าอาคารสํานักงานของรัฐมีเวทีอยู่เวทีหนึ่งและมีคนยืนพูดอยู่ด้านบน ชาวประมงที่อยู่ด้านล่างก็ส่งเสียงตอบกลับไปด้วยเช่น ‘ต้องแก้ไขปัญหา’ ‘เอาวันหยุดของฟาร์มปลากลับมา’ ฉินสือโอวเองก็ร่วมด้วยส่งเสียงอย่างเบาๆ
แคนาดาเป็นประเทศที่มีความหลากหลายประเทศนี้สามารถมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นได้เยอะเช่นการเดินขบวน
การเดินขบวนของแคนาดาไม่เหมือนประเทศอื่นผู้เดินขบวนเพียงต้องการใช้โอกาสนี้ปลดปล่อยความรู้สึกจัดให้ยิ่งใหญ่อลังการดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชนกระแสหลักและรัฐบาลแม้ว่าผลสุดท้ายจะไม่ได้ใส่ใจจริงๆ
เป็นแบบนี้บ่อยเข้าพวกชาวบ้านก็รู้สึกว่าการเดินขบวนไม่มีอะไรน่าสนใจพวกเขาเห็นจนชินตาแล้ว คุณเดินขบวนของคุณไปฉันก็ทำธุระของฉันขอเพียงไม่เกี่ยวกับฉันก็จะไม่เข้าไปก้าวก่าย
ดังนั้นแม้ว่าครั้งนี้พวกเจ้าของฟาร์มปลาจะทั้งตั้งเวทีทั้งส่งเสียงโวยวายและภายหลังยังมีคนไปล้อมเดินขบวนที่ถนนควีนแต่ก็มีคนมุงดูไม่มาก
ฉินสือโอวที่เดินอยู่ในขบวนรู้สึกว่ากิจกรรมนี้ไม่มีความน่าสนใจเลยแม้แต่น้อยยังสู้การเดินขบวนประท้วงที่เกาะแฟร์เวลไม่ได้เลย
แต่มองจากภายนอกการเดินขบวนในครั้งนี้ยังถือว่ายิ่งใหญ่ด้านหน้ามีรถตำรวจเปิดทางด้านหลังมีรถตำรวจปิดท้ายมีสื่อเจ้าใหญ่อยู่ตลอดทาง ฉินสือโอวคิดว่าข่าวท้องถิ่นของนครเซนต์จอห์นคืนนี้ต้องเป็นกิจกรรมเดินขบวนของวันนี้ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่เลว
เป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้การเดินขบวนที่แคนาดามีความเป็นเอกลักษณ์ ตอนเริ่มไม่มีอะไรแต่ไม่นานผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมก็แสดงความแตกต่างออกมา
เหมือนที่ย้ำตลอดอยู่แคนาดาเป็นประเทศของผู้อพยพมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประเพณีขนาดการเดินขบวนยังมีความแตกต่าง
ผู้ร่วมเดินขบวนหลักๆ ของครั้งนี้คือคนอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน แคนาดาและมีเจ้าของฟาร์มปลาที่เป็นคนเอเชียอยู่มากแต่ความสามารถในการปรับตัวของคนเอเชียค่อนข้างดีไม่ชอบก่อเรื่องจึงมีมาเข้าร่วมไม่เยอะ
คนอังกฤษไม่พูดแล้วผู้ดีที่หยิ่งทะนงพวกนี้เรียกร้องให้ขบวนไปนั่งชุมนุมอย่างสงบที่หน้าประตูสำนักงานรัฐจนกว่าทางรัฐจะประนีประนอม ความคิดที่เรียบง่ายจนน่าสงสารของพวกเขาคิดว่าทางรัฐจะประนีประนอม
นิสัยคนฝรั่งเศสชอบผสมโรงในแคนาดาถ้าเห็นว่ามีคนเพิ่มความยุ่งยากในการเดินขบวนคนคนนั้นก็คือคนฝรั่งเศส
แต่การเข้าร่วมเดินขบวนของคนฝรั่งเศสมีเหตุผลพวกเขาเข้าร่วมเดินขบวนเพื่อไปร่วมสนุกอยู่ด้วยกันกับคนที่สนิทและคนแปลกหน้าไม่ได้ต้องการทำอะไรจริงๆ เจ้าของฟาร์มปลาพวกนี้หลังจากเดินมาถึงถนนควีนแล้วก็ขอให้ทุกคนกระจายตัวแล้วไปสังสรรค์กันเองหรืออะไรก็ว่าไป
คนเยอรมันค่อนข้างยึดมั่นในเมื่อพูดแล้วว่าต้องการเดินขบวนอย่างนั้นทุกคนก็ต้องทำให้ถึงที่สุดเพิ่งจะเดินมาได้ครึ่งถนนควีนก็จะจบแล้ว? ไม่ได้ เดินต่อไป! ไม่เพียงแต่ต้องเดินไปตามถนนควีนแต่ยังต้องเดินล้อมลานและตึกสำนักงานของรัฐด้วยถึงอย่างไรก็ต้องเดินขบวนต่อไป
เช่นนี้ต่างกลุ่มก็ต่างความคิดเจ้าของฟาร์มปลาพวกนี้เริ่มถกเถียงกันอย่างรุนแรงฉินสือโอวรู้สึกว่าคนพวกนี้เชื่อถือไม่ได้ดูเวลาก็ใกล้จะเที่ยงแล้วเขาเลยจะกลับฟาร์มปลาไปกับเบิร์ดก่อน
นีลเซ็นโยนป้ายทิ้งอยากจะไปเหมือนกัน ฉินสือโอวยั้งเขาไว้พร้อมพูด “ไม่พวก นายต้องอยู่ต่อ ไปกับพวกเขาต่อ”
“ทำไมล่ะครับ?”
“เพราะพวกเราฟาร์มปลาต้าฉินพูดไว้แล้วว่าจะร่วมเดินขบวนให้ตลอดดังนั้นนายที่เป็นตัวแทนฟาร์มปลาของเราต้องอยู่ต่อ นายไม่อยู่ต่อหรือจะให้ฉันอยู่ต่อ?” ฉินสือโอวพูดอย่างแน่วแน่
นีลเซ็นพูดด้วยความน้อยใจ “แน่นอนสิครับเจ้านาย คุณเป็นเจ้าของฟาร์มปลานะผมน่ะเป็นลูกน้องคุณ”
ฉินสือโอวพยักหน้า “ดูสินายก็รู้นี่ว่านายเป็นลูกน้องฉัน ในเมื่อนายเป็นลูกน้องฉันนายจะไม่ฟังสิ่งที่ฉันพูดได้เหรอ? เบิร์ดถ้าฉันออกคำสั่งกับนาย นายจะไม่ฟังไหม?”
เบิร์ดตะเบ๊ะพร้อมพูดเสียงดัง “ไม่ครับท่าน! ผมจะเชื่อฟังคำสั่งท่านทุกอย่างครับ!”
“ดีมาก อย่างนั้นนีลเซ็นนายไปกับฉัน เบิร์ดอยู่ที่นี่เป็นตัวแทนฟาร์มปลาเข้าร่วมกิจกรรม”
เบิร์ด“…”
หลังกลับถึงบ้านวันนี้วินนี่ไม่ได้ไปทำงานพอดีพอเห็นฉินสือโอวกลับมาอย่างฮึกเหิมเธอก็อดถามไม่ได้ “กิจกรรมการเดินขบวนจัดได้สำเร็จดีเหรอ? พวกคุณได้รับการรับประกันอะไรจากรัฐบาลแล้วใช่ไหม?”
ฉินสือโอวยักไหล่พลางพูด “ใครจะไปรู้ล่ะ? ผมไม่ได้รอจนการเดินขบวนสิ้นสุดก็กลับมาแล้ว นั่นเป็นการเล่นของเด็กๆ ผมกลับมาดูฟาร์มปลาของมดีกว่า”
“อ้อ พูดถึงเรื่องนี้ คุณบาลซักมาหาคุณบอกว่าเป็นเรื่องเจรจาอะไรกับคุณสักอย่าง” วินนี่ส่งน้ำผลไม้ให้เขาแล้วพูด
ฉินสือโอวไปหาพวกผู้เชี่ยวชาญพวกเขามีความเด็ดขาดและเพียรพยายามจริงๆ แยกกันนั่งเรือคายักตามหาเต่ามะเฟืองที่ซ่อนตัวอยู่
อย่างไรเสียก็เป็นคณะนักวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากประเทศพวกเขามีเครื่องมือที่ทันสมัยอยู่ในมือเยอะมากวางเครื่องค้นหาใต้ทะเลพวกนั้นลงในฟาร์มปลาก็สามารถมองเห็นสภาพใต้ทะเลได้ผ่านทางไอแพดที่อยู่ในมือ
ฉินสือโอวขับเจสกีเข้าไปแล้วตะโกนพูดกับบาลซัก “เฮ้ ศาสตราจารย์ คุณมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
พอเห็นร่างของเขาบาลซักก็ตาเป็นประกายส่งรูปรูปหนึ่งในไอแพดให้เขาดูพร้อมพูดอย่างตื่นเต้น “พ่อหนุ่ม ดูสินี่คืออะไร? การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ พวกเราอาจจะพบสัตว์ชนิดใหม่ที่ฟาร์มปลาของคุณ”
……………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset