ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 607 การใช้งานอันเยี่ยมยอดของรถดับเพลิง

การต่อสู้ระหว่างฝูงห่านดุเดือดรุนแรงเป็นอย่างมาก!
ห่านสีขาวตัวใหญ่หลายร้อยตัวกำลังต่อสู้กันอยู่ในทุ่งหญ้า ห่านทั้งสองสายพันธุ์มองไปยังฝ่ายตรงข้ามด้วยสายตาเย็นชา รังสีอาฆาตแผ่กระจายไปทั่ว ทันใดนั้นเสียงร้อง “แคว๊กแคว๊ก” ทุ้มต่ำก็ดังสนั่นไปทั่วฟ้าราวกับเสียงกลองในสงคราม เพื่อปลุกขวัญกำลังใจให้แก่ฝูงห่านของตน!
เดิมทีเสี่ยวหลัวปอกำลังไล่ตามห่านหัวสิงโตอย่างสนุกสนาน แต่ปรากฏว่าจู่ๆ พวกห่านหัวสิงโตที่มันไล่อยู่ก็หยุดวิ่งหนีและหันกลับมา…
ทันใดนั้นเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของหมาป่าสีขาวก็พลุ่งพล่านไปทั่ว เสี่ยวหลัวปอรู้สึกว่าตัวเองถูกไล่ล่าขึ้นมาทันที มันกะพริบตาปริบๆ มองไปยังห่านหัวสิงโตที่กำลังโมโหอยู่แล้วหันไปมองห่านไท่หูที่แผ่รังสีอาฆาตออกมา จากนั้นมันก็หดหัวลงอย่างว่าง่ายทันที มันรีบซอยเท้าพลางแกว่งหางไปมาแล้ววิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
แต่สงครามในครั้งนี้เกิดการปะทุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันที่พึ่งจะวิ่งเล่นกับห่านหัวสิงโตจนเข้าไปอยู่ในวงล้อมของพวกห่านคิดหรือว่าจะหนีออกไปจากตรงนี้ได้ง่ายๆ?
ฝูงห่านทั้งสองสายพันธุ์เหมือนคลื่นขนาดใหญ่สองลูก เมื่อพวกมันพัดผ่านเข้าหากัน การปะทะอันรุนแรงก็เกิดขึ้น!
ตอนนี้ฉินสือโอวมองไม่เห็นเงาของเสี่ยวหลัวปอผู้น่าสงสารอีกต่อไป ราวกับว่ามันถูกกลืนหายเข้าไปในคลื่นสีขาวพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว
ห่านไท่หูนั้นเร็วกว่าห่านหัวสิงโต ความสามารถในการต่อสู้ก็แข็งแกร่งกว่า ปากของพวกมันเหมือนกริช ทุกครั้งที่แทงเข้าไปก็จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บ ห่านหัวสิงโตก็ไม่ได้อ่อนแอ พวกมันมีพลังเยอะพอสมควรจึงมีแรงมากมายมหาศาล มันไม่เพียงแค่กัดเท่านั้น แต่ยังกระพือปีกขึ้นและฟาดลงมาอย่างแรงอีกด้วย
ทันใดนั้นเอง ขนของห่านหัวสิงโตก็ปลิวกระจายไปทั่วราวกับหิมะตก ส่วนห่านไท่หูก็ถูกชนจนตัวลอยขึ้นฟ้า ห่านหัวสิงโตหลายตัวชนพวกมันจนลอยสูงขึ้นไปหลายเมตรจนเหมือนว่าห่านไท่หูกำลังกระโดดแทรมโพลีนอยู่…
เมื่อเห็นเหตุการณ์วุ่นวายเช่นนี้ ฉินสือโอวก็อดยิ้มแหยะๆ ออกมาไม่ได้ เขารีบถอยหลังไปหลายก้าว ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะมีเลือดห่านเปื้อนบนร่างกายได้
ฉงต้าผู้กล้าหาญก็ตกใจเหมือนกัน เสียงร้องโวยวายดังลั่นจนสะเทือนไปทั่วฟ้าคือเสียงของเครื่องจักรผลิตไข่ห่านงั้นเหรอ? โอ้ ให้ตายเถอะ พวกมันดูสุดยอดไปเลยแฮะ
เมื่อเห็นสงครามอันวุ่นวายที่อยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นฉินสือโอวก็นึกถึงเสี่ยวหลัวปอขึ้นมาได้ เขามองไปรอบๆ พลางคิดในแง่ดีว่า ไม่แน่เสี่ยวหลัวปออาจจะออกมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วก็ได้?
แต่เขาก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากหัวของเสี่ยวหลัวปอที่โผล่ออกมาจากฝูงห่าน
เขามองไปยังฉงต้า มันมองไปยังสงครามระหว่างห่านทั้งสองสายพันธุ์ไม่วางตาพลางเคี้ยวเนื้อแห้งแสนอร่อยไปด้วย ท่าทางราวกับกำลังดูภาพยนตร์อย่างมีความสุข
“กินๆ เข้าไป! อย่ามัวชักช้า รีบเข้าไปหาเสี่ยวหลัวปอเร็วสิ!” ฉินสือโอวตีเข้าไปที่ก้นของฉงต้า
เขาเกือบจะด่าออกมาแล้ว โว้ว สงครามดุเดือดขนาดนี้ เสี่ยวหลัวปอคงไม่ด่วนชิงตายไปก่อนหรอกนะ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวหลัวปอจริงๆ ฉินสือโอวรู้ได้ทันทีว่าเขาก็จะมีอันเป็นไปเหมือนกัน วินนี่คงไม่ปล่อยเขาไปแน่!
เขามองออกไปยังที่ไกลๆ แต่ทั้งห่านพวกนั้นและเสี่ยวหลัวปอผู้เคราะห์ร้ายต่างก็มีขนเป็นสีขาวราวหิมะ ตอนนี้สีขาวของสัตว์ทั้งสองผสมปนเปกันไปหมดจนเขาแสบตาจนตาจะบอดอยู่แล้ว แบบนี้จะหาเสี่ยวหลัวปอเจอได้ยังไงกัน?
ยังโชคดีที่เสี่ยวหลัวพยายามเอาตัวรอดสุดชีวิต เพราะในตัวของลูกหมาป่าสีขาวตัวนี้นั้นมีสายเลือดของหมาป่าอยู่ มันจึงยังมีความเก่งกาจอยู่บ้าง
ในตอนที่ห่านทั้งสองสายพันธุ์ปะทะกันนั้น ลูกหมาป่าอย่างเสี่ยวหลัวปอก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนร่างของห่านตัวโตเต็มวัยสีขาวผู้โชคร้ายตัวหนึ่ง มันใช้อุ้งเท้ากอดคอห่านตัวนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำไมมันถึงไม่กล้ากางกรงเล็บงั้นเหรอ นั่นก็เพราะต้องทำแบบนี้เท่านั้นถึงจะหนีรอดจากการถูกเหยียบตายได้น่ะสิ!
ฉงต้าที่ถูกฉินสือโอวตบเข้าที่ก้นจำเป็นต้องลุกขึ้น เพื่อกระตุ้นความสามารถในการดมกลิ่นของตน การดมกลิ่นของมันดีกว่าสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์อยู่มาก ไม่นานมันก็หาตำแหน่งของเสี่ยวหลัวปอเจอ มันสะบัดแผงคอของแล้วพุ่งตัวเข้าไปยังฝูงห่าน
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฉงต้าที่เป็นหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ขนาดนี้ ฝูงห่านพวกนั้นคงตกใจหนีกระเจิงไปนานแล้ว
แต่ตอนนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับที่อยู่ของพวกมัน ฝูงห่านที่กำลังเดือดดาลอยู่จึงไม่เพียงไม่กลัวฉงต้าแล้ว แต่มันยังตีฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่หยุดหย่อนด้วย พวกมันทั้งกัดทั้งตี นอกจากนี้ยังมีห่านอยู่หนึ่งตัวที่กระพือปีกตีฝ่ายตรงข้ามจนตัวเองบินมาอยู่บนหลังกว้างๆ ของฉงต้าอีก จากนั้นมันก็โจมตีฝ่ายตรงข้ามจากด้านบน
ฉงต้านับว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก มันไม่ได้เข้าไปผสมโรงการต่อสู้ของฝูงห่าน มันรีบเข้าไปหาเสี่ยวหลัวปอแล้วอ้าปากงับหัวของเจ้าตัวเล็กก่อนจะยกตัวมันขึ้นมา จากนั้นก็สะบัดหัวดึงเสี่ยวหลัวปอออกมาแล้ววิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
ตอนที่กำลังออกมา เหล่าห่านสีขาวพวกนั้นไม่ได้สนใจฉงต้าเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ศัตรูที่สำคัญที่สุดของพวกมันไม่ใช่ฉงต้าที่เข้ามาขโมยไข่ แต่เป็นศัตรูที่ต้องการแย่งที่อยู่ของพวกมันต่างหาก
เสี่ยวหลัวปอร้องออกมาอย่างน่าสงสาร หัวของมันอยู่ในปากของฉงต้า ขาหน้าของมันทั้งสองข้างกอดคอของฉงต้าแน่น…หรือว่ากระดูกระหว่างคอกับหลังของมันจะหักไปแล้วกันนะ เหมือนว่าตอนนี้หัวของมันกำลังถูกแขวนเอาไว้ ส่วนตัวของมันก็ถูกดึงแยกออกจากกัน
ฉินสือโอวมองภาพนั้นพลางรู้สึกปวดคอแทน ฉงต้านี่ชักจะสร้างสรรค์เกินไปหน่อยแล้ว หรือว่าเวลาที่หมีน้ำตาลงับลูกของมันก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน?
หลังจากที่วิ่งออกมาแล้ว ฉงต้าก็อ้าปากแล้วปล่อยเสี่ยวหลัวปอลงกับพื้น จากนั้นมันก็นั่งลงกับพื้นพร้อมร้องครางออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
สภาพของเสี่ยวหลัวปอน่าเวทนาเกินกว่าจะรับไหว ขนที่หัวเปียกชุ่มและจับตัวกันเป็นก้อน ส่วนขนที่ร่างกายก็ถูกห่านกัดจนยุ่งเหยิงไปหมด มันนอนลงกับพื้นพลางมองไปยังฉินสือโอวด้วยท่าทางหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันน่ากลัวมากเลยนะ!
ฉินสือโอวทำได้เพียงอุ้มเสี่ยวหลัวปอขึ้นมากอดแล้วตบก้นมันเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจราวกับปลอบเด็กเล็ก ส่วนฉงต้าก็ยกก้นของตัวเองขึ้นแล้วออกวิ่งกลับบ้านไป คาดว่ามันคงไม่อยากโดนฉินสือโอวจับเป็นทหารบุกเข้าไปยังฝูงห่านเพื่อทารุณมันอีก
จะปล่อยให้ฝูงห่านสู้กันต่อไปแบบนี้ไม่ได้ ห่านไม่ใช่ไก่หรือเป็ด พวกมันจะตีกันจนตายกันไปข้างอย่างควบคุมไม่ได้
ดังนั้นเขาจึงต้องให้บุชและนิมิตส์ออกโรง แต่เมื่อฉินสือโอวเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ตอนนี้บุชและนิมิสต์ที่ควรจะอยู่บนท้องฟ้าก็กลับไปต่อสู้ที่เทือกเขาเคอร์บัลแล้ว!
ฉินสือโอวรีบหันกลับมามองรอบๆ อย่างร้อนใจ ทันใดนั้นเขาก็หันไปเห็นรถดับเพลิงในฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอทที่เข้ามาจอดอยู่ข้างใน เขารีบวิทยุหานีลเซ็นเพื่อให้เขารีบขับรถเข้ามาข้างใน
รถดับเพลิงขนาดใหญ่ขับเข้ามาพร้อมเสียงดังลั่น นีลเซ็นปรับหัวสปริงเกอร์อย่างรวดเร็วจากที่ไกลๆ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เปิดน้ำก่อนกดสวิตช์เปิดเพื่อใช้น้ำแรงดันสูงเข้าจัดการฝูงห่านพวกนั้น
ห่านฝูงใหญ่แยกออกจากกันทันที อย่าว่าแต่พายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเลย เจ้านี่สามารถเป็นเข็มจากสวรรค์ได้เลยทีเดียว!
นีลเซ็นรู้สึกว่าแบบนี้ยังไม่ค่อยได้ผล เขาจึงเพิ่มปริมาณน้ำไปอีก มันเลยกลายเป็นปืนใหญ่น้ำไปทันที น้ำจากสายยางพรั่งพรูออกมาซึ่งน้ำพวกนั้นก็พุ่งเข้าไปยังตัวห่านโดยตรงจนพวกมันกระเด็น
ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกตำรวจจะใช่ปืนน้ำแรงดันสูงในการสลายการชุมนุม เจ้านี่ใช้งานได้ดีจริงๆ นอกจากจะไม่ทำอันตรายพวกห่านจนถึงแก่ชีวิตแล้ว ยังสามารถแยกพวกมันออกจากกันได้อีกด้วย มันเหมาะสำหรับการหยุดการจลาจลมากที่สุด
ปืนน้ำยังคงมีน้ำพุ่งออกมาไม่หยุด ฝูงห่านที่ล้มลงไปลุกขึ้นมาและทำท่าจะต่อสู้กันอีกครั้ง แต่ผลปรากฏว่าพวกมันกลับต้องมาเผชิญหน้ากับกระแสน้ำอันรุนแรงอีกครั้ง พวกมันยืนไม่อยู่อีกต่อไป เมื่อลุกขึ้นได้ก็ถูกน้ำทำให้ล้มกระเด็นไปอีก จนสุดท้ายพวกมันก็ยอมแพ้ จากนั้นพวกมันก็เปลี่ยนมาเก็บปีกแล้วว่ายน้ำหนีแทน
ขนสีขาวลอยอยู่ในน้ำสีเขียว เท้าของมันเป็นดั่งไม้พาย….
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีห่านตัวไหนกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้กันอีกเลย นีลเซ็นเห็นแบบนั้นจึงปิดก๊อกน้ำ เขาคอยสังเกตการณ์อยู่ในทุ่งหญ้าอยู่ครู่หนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าสงครามของห่านเหล่านั้นได้จบลงแล้ว
จากนั้นเขาก็กลับไปหาฉินสือโอวเพื่อบอกเรื่องนี้กับเขาและเหล่าคนงานในฟาร์มปลา เขารู้สึกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้นอีกเป็นแน่ ครั้งนี้พวกห่านต่อสู้กันก็เพราะเรื่องพื้นที่อยู่อาศัย เรื่องนี้สามารถบอกได้ถึงสัญชาติการเอาชีวิตรอดที่ค่อนข้างสูงของพวกมัน แล้วแบบนี้จะไม่ทะเลาะกันอีกได้เหรอ?
เขาถามเหล่าพนักงานฟาร์มปลาว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร บูลโบกมือไปมาพลางพูดออกมาว่า “จะไปยากอะไรล่ะ? คุณก็กำจัดทุ่งหญ้านั่นทิ้งไปเสียสิ ไม่ได้เหรอ?”
ฉินสือโอวตอบกลับอย่างอารมณ์เสีย “แบบนั้นสู้สร้างทุ่งหญ้าให้ห่านไท่หูเพิ่มขึ้นอีกที่หนึ่งไม่ดีกว่าเหรอ ให้พวกมันอยู่ฝั่งแม่น้ำ”
เหล่าคนงานในฟาร์มปลามองหน้ากันไปมาแล้วค่อยๆ พากันพยักหน้า “เป็นความคิดที่ดีเลย บอส งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน”
“พวกนายทำไมถึงได้ขี้เกียจแบบนี้นะ!” ฉินสือโอวอดที่จะรู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมาไม่ได้ แต่พวกนั้นเห็นด้วยกับความคิดของเขาก็ดีแล้ว ฝูงห่านชอบทุ่งหญ้าไม่ใช่เหรอ? แบบนั้นก็ทำทุ่งหญ้าให้มันเพิ่มสิ
…………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset