ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 609 ควรแต่งงานได้แล้ว

เมื่อได้ยินว่าเป็นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับฟาร์มปลาของตน ฉินสือโอวก็รีบลุกขึ้นมารับเอกสารวิจัยไปอ่านทันที
หัวข้อแรกคืองานวิจัยที่เกี่ยวกับล็อบสเตอร์สีรุ้ง ใช่แล้ว ล็อบสเตอร์สีรุ้ง นี่คือชื่อใหม่ของกุ้งมังกรที่มีเปลือกหลากสีซึ่งอยู่ในฟาร์มปลาต้าฉิน ความฝันที่จะตั้งชื่อสายพันธุ์ใหม่ๆ ของบิลได้พังทลายลงไปแล้ว….
ล็อบสเตอร์สายพันธุ์นี้กับเมนล็อบสเตอร์ธรรมดาไม่มีอะไรแตกต่างกัน ทั้งทางสายพันธุ์และยีนของพวกมัน ฉินสือโอวรู้เรื่องนี้นานแล้ว แต่ที่เปลือกของมันเปลี่ยนสีได้นั้นเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะพลังของจิตสำนึกโพไซดอนและแบคทีเรียที่เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วจะส่งผลต่อพวกมัน
บิลและทีมของเขาวิจัยล็อบสเตอร์ตัวนี้ด้วยความตื่นเต้น ผลปรากฏว่าเมื่อพบว่าล็อบสเตอร์ที่เปลือกเปลี่ยนสีได้พวกนี้คือเมนล็อบสเตอร์ พวกเขาจึงไม่สามารถตั้งชื่อสายพันธุ์ใหม่ได้ พวกมันก็เหมือนกับล็อบสเตอร์ผีและล็อบสเตอร์สีฟ้าเป็นเพียงเมนล็อบสเตอร์ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ก็เท่านั้น
เรื่องนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างผิดหวังเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะถ้าพวกเขาไม่เจอล็อบสเตอร์สายพันธุ์ใหม่ พวกเขาก็ไม่สามารถตั้งชื่อสายพันธุ์ของมันได้ หมายความว่าพวกเขาตื่นเต้นกันโดยสูญเปล่า
ส่วนฉินสือโอวไม่ตกใจเลยแม้แต่น้อย เขารู้ผลของมันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าหากว่าล็อบสเตอร์พวกนี้เปลี่ยนเป็นล็อบสเตอร์สายพันธุ์ใหม่จริงๆ เขาจะเปิดเผยให้ผู้เชี่ยวชาญรู้เหรอ?
โชคดีที่เขาเคยเรียนชีววิทยาสมัยอยู่ชั้นมัธยมปลาย ฉินสือโอวรู้ว่ามีเพียงการข้ามสายพันธุ์เท่านั้นถึงจะก่อให้เกิดสัตว์สายพันธุ์ใหม่ๆ การข้ามสายพันธุ์เป็นเงื่อนไขที่สำคัญของการเกิดสายพันธุ์ใหม่ ฝูงล็อบสเตอร์พวกนี้เดิมทีไม่ได้ผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์กับล็อบสเตอร์พันธุ์อื่นๆ อยู่แล้ว
แต่ฉินสือโอวไม่สามารถให้ผลงานวิจัยนี้เผยแพร่ไปข้างนอกได้ เขาจึงแกล้งทำเป็นพูดออกมาอย่างตกใจว่า “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ? พระเจ้า ที่แท้ก็ไม่ได้เป็นเพราะสายพันธุ์ของมันหรอกเหรอ? ผมไม่อยากจะเชื่อเลย!”
บิลเป็นคนซื่อ เขาตกอยู่ภายใต้การแสดงหลอกๆ ของใต้เท้าฉินจนต้องถอนหายใจออกมา “การเกิดสัตว์สายพันธุ์ใหม่ต้องเกิดมาจากการวิวัฒนาการทางชีวภาพ แต่การเกิดการวิวัฒนาการได้ต้องมีสามสิ่ง หนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของความถี่ในยีนประชากร สองคือการกลายพันธุ์และการรวมตัวกันของยีน และสามคือการคัดสรรและการข้ามสายพันธุ์ทางธรรมชาติ”
“แบบนั้นล็อบสเตอร์สีรุ้งกับเมนล็อบสเตอร์ก็มียีนที่เหมือนกันเหรอ?” ฉินสือโอวถาม
บิลส่ายหัวไปมาอย่างผิดหวังแล้วพูดอธิบาย “ไม่ใช่ พวกมันต่างกัน แต่ต่างกันน้อยมาก ธรรมชาติของโลกใบนี้ การกลายพันธุ์และการรวมตัวกันของยีนเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดการวิวัฒนาการทางชีวภาพ การคัดสรรทางธรรมชาติจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของการเกิดยีนประชากรและส่งผลต่อทิศทางการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต การจะเกิดสัตว์สายพันธุ์ใหม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขสองข้อนี้”
“แต่ว่า!” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาเสียงดังแล้วอธิบายต่อไป “แต่ว่าการคัดสรรจากธรรมชาติที่ทำให้ความถี่ของยีนเกิดการเปลี่ยนแปลงนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดสัตว์สายพันธุ์ใหม่เสมอไป ตราบใดที่การเชื่อมต่อของยีนไม่ถูกตัดขาด การวิวัฒนาการของสัตว์พวกนั้นก็จะไม่สามารถข้ามข้อจำกัดของสายพันธุ์ได้”
ใต้เท้าฉินพยักหน้าอย่างเข้าใจทันที ความจริงแล้วเขาไม่ได้เข้าใจสิ่งที่สุภาพบุรุษมีอายุคนนี้พึมพำออกมาเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะลึกซึ้งมากไปหน่อย
อย่างไรก็ตาม เขาเข้าใจแล้วว่าหลังจากงานวิจัยนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญก็คิดว่าล็อบสเตอร์สีรุ้งคือล็อบสเตอร์ที่ถูกกระตุ้นโดยล็อบสเตอร์กาฟคีเมียทำให้โครงสร้างยีนของมันเกิดการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงสีสันของมันก็เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพภายนอก
นี่เป็นคำอธิบายจากการเฝ้าดูการพัฒนาของล็อบสเตอร์กาฟคีเมียที่มีมาอย่างต่อเนื่อง แบคทีเรียชนิดนี้เข้าไปยังร่างกายของล็อบสเตอร์โดยการแทรกตัวเข้าผ่านรอยแตกของเปลือกและแผลบนร่างกายของมัน ถ้าเปลือกของล็อบสเตอร์แข็งแรงพอที่จะลดความเสียหายลงได้ หรือมีเปลือกเพิ่มขึ้นอีกชั้นเพื่อที่จะป้องกันการแทรกซึมของแบคทีเรียได้ โดยธรรมชาติแล้วล็อบสเตอร์กาฟคีเมียก็จะไม่ทำงาน
เปลือกของล็อบสเตอร์สีรุ้งในตอนนี้มีสารชนิดนี้อยู่ บิลและทีมของเขายังไม่ได้วิจัยเรื่องนี้จนรู้แน่ชัด พวกเขารู้เพียงว่ามันเป็นสสารไคทินที่ส่งผลต่อความสามารถของมัน อย่างความสามารถในการรับรู้และต้านศัตรูของล็อบสเตอร์ ดังนั้นพวกมันจึงสามารถเอาชีวิตรอดจากการรุกรานของแบคทีเรียนี้ได้
แม้ว่าไม่มีทางที่จะมีการเกิดสายพันธุ์ใหม่แล้ว แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญก็ยังได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ พวกเขาศึกษาหัวข้อนี้เพราะพวกเขาคิดว่าสสารนี้สามารถสกัดแล้วนำมาวิจัยได้ และอาจจะสร้างผลประโยชน์อย่างใหญ่หลวงได้ในอนาคต เช่นการใช้สสารนี้ในการส่งเสริมสสารชนิดอื่น อย่างเซลล์มะเร็งและเชื้อเอชไอวีพวกนั้น เมื่อนำสสารนี้ไปรวมเข้ากับยา พวกมันอาจจะสามารถโจมตีเซลล์ที่ก่อให้เกิดโรคพวกนี้ได้ก็เป็นได้
อีกทั้งบิลยังแนะนำฉินสือโอวว่าเขาไม่ควรขายล็อบสเตอร์พวกนี้ แต่ควรนำพวกมันมาเพาะพันธุ์และขายลูกของพวกมันดีกว่า
การทำลายของล็อบสเตอร์กาฟคีเมียทำให้ราคาล็อบสเตอร์ทั่วโลกตกต่ำลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การปรากฏตัวของล็อบสเตอร์สายรุ้งอาจจะทำให้สถานการณ์อันเลวร้ายนี้ดีขึ้นได้
เหล่าผู้เชี่ยวชาญไม่มีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม เพราะในท้องทะเลนั้น สัตว์บางสายพันธุ์มักจะเกิดการวิวัฒนาการขึ้นในทางใดทางหนึ่งเพื่อต่อสู้กับธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พวกเขาคิดอย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆ ว่าฟาร์มปลาต้าฉินนั้นโชคดีมากที่ล็อบสเตอร์ของฟาร์มปลาแห่งนี้เกิดการวิวัฒนาการ พวกเขาไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งเลยแม้แต่น้อย
แต่งานวิจัยที่เกี่ยวกับเต่ามะเฟืองนั้นค่อนข้างซับซ้อน พวกเขาทำการวิเคราะห์จากเผ่าพันธุ์ทางธรรมชาติ อาหาร ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศและอื่นๆ อีกมากมาย จนสุดท้ายผลก็ออกมาว่าเต่ามะเฟืองถูกการกระตุ้นจากมลพิษทางทะเลทำให้พวกมันฉลาดขึ้นเล็กน้อย ทำให้พวกมันเรียนรู้ที่จะจดจำ พวกมันจะจดจำตำแหน่งของน่านน้ำที่สะอาดๆ ไว้ระหว่างที่พวกมันเดินทาง และจะกลับไปยังที่แห่งนั้นทุกปี แบบนี้อัตราการเสียชีวิตของพวกมันจึงลดลง
ฉินสือโอวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่างานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ไม่เลวเลย เขารู้สึกว่าการที่ฝูงเต่ามะเฟืองกลับมานั้นเกี่ยวกับการที่พวกมันฉลาดขึ้นเหมือนกัน ที่นี่มีของกินมากมาย น้ำสะอาด ศัตรูก็น้อย ทำไมถึงจะไม่กลับมาล่ะ?
เรื่องงานวิจัยอื่นๆ นั้นค่อนข้างสับสนปนเปกันไปหมด งานวิจัยที่ฉินสือโอวให้ความสำคัญมากที่สุดคืองานวิจัยเกี่ยวกับสาหร่ายทะเล แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ใช่แล้ว การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสาหร่ายไม่ได้เห็นได้ชัด จึงไม่มีใครคิดว่ามันจะส่งผลต่อเนื้อของกุ้งและปลาจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอันที่จริงแล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสาหร่ายทะเลพวกนี้
เมื่อรับเอกสารงานวิจัยมา ฉินสือโอวก็ไปส่งบิลขึ้นเรือ พาวเวลล์และเด็กคนอื่นๆ มากมายต่างพากันวิ่งตรงเข้ามาทางนี้ เมื่อเห็นว่าบิลกำลังกลับไปยังเรือวิจัย เขาก็ถามออกมาว่าจะขอขึ้นไปดูเรือนั้นได้หรือไม่
วิชาวิทยาศาสตร์ธรรมชาตินั้นต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ชาวแคนาดาและชาวอเมริกาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก ในสายตาของพวกเขา ความรู้ที่สำคัญที่สุดคือความรู้ทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ สิ่งนี้และเทววิทยาศาสตร์มีความสำคัญมากพอกัน
ดังนั้นบิลจึงไม่ได้ปฏิเสธ เขาพาเด็กๆ ขึ้นเรือไปด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง แบบนี้ถือเป็นการดีที่พวกเขาจะได้เริ่มรู้ซึ้งในวิชาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
ฉินสือโอวกลับมายังเก้าอี้ที่ชายหาดแล้วเอนตัวลง เสี่ยวหลัวปอเดินเข้ามาหาเขาอย่างเกียจคร้าน หลังจากพบเจอกับเหตุการณ์ความรุนแรงของพวกห่าน มันก็ไม่ค่อยสนใจการล่าเหยื่อเท่าไร การเล่นสนุกนี้ค่อนข้างอันตราย มันยังเด็กอยู่ จึงไม่เหมาะที่จะเล่นอะไรแบบนี้
ฉินสือโอวกวักมือเรียกเสี่ยวหลัวปอ มันจึงวิ่งเหยาะๆ มาหาเขา ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างดีและดูอบอุ่นขึ้นเยอะ
เสี่ยวหลัวปอนอนลงข้างๆ แต่ฉินสือโอวกลับอุ้มเสี่ยวหลัวปอขึ้นมาวางไว้บนตัก จากนั้นก็เล่นโทรศัพท์มือถือต่อไปเรื่อยๆ
ทำไมเสี่ยวหลัวปอถึงไม่เข้าใจความหมายของเจ้านายกันนะ? มันทำหน้าปั้นปึ่งแล้วย่ำเท้าไปมาบนขาของฉินสือโอวอย่างหนักแน่น นี่เป็นวิธีการนวดชนิดหนึ่งที่ฉินสือโอวค่อนข้างชอบ
ลมทะเลพัดผ่านไปมาตลอดเวลา ฉินสือโอวปล่อยให้จิตสำนึกโพไซดอนเข้าไปใจกลางทะเล ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้ไปลาดตระเวนบริเวณน้ำลึกเลย นั่นก็เพราะตอนนี้เขากำลังวุ่นกับผลผลิตและกำไรจากปลา เขาจึงเพิ่มพลังโพไซดอนไปในพวกปลา กุ้งและสาหร่ายทะเลที่อยู่ในพื้นที่จับปลา นับว่าเป็นวิธีพิเศษที่ทำให้พวกมันอุดมสมบูรณ์
หลังจากที่ฉินสือโอวตรวจตราดูฟาร์มปลาและไม่พบปัญหาอะไร เขาก็ดำลงไปในน้ำลึกเพื่อดูว่าจะเจอกับอะไรใหม่ๆ หรือไม่
ที่แรกที่เขาลงไปคือบริเวณที่เรือไททานิคจมลงใต้ท้องทะเล ก่อนหน้านี้เหล่าหมึกสายทำงานกันอยู่ที่นี่อย่างขยันขันแข็ง พวกมันค่อยๆ ทำความสะอาดสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในเรืออับปางลำนี้
ฉินสือโอวดูทรัพย์สินพวกนั้น หลังจากที่เขาตรวจสอบเรือไททานิคเขาก็คิดว่าหลายปีมานี้เรือลำนี้คงโดนแรงดันของน้ำทะเลและการไหลทะลักของน้ำเข้าไปทำลายมันจนพังย่อยยับ
เพราะเหตุนี้เขาจึงคิดว่าอย่างไรเรือลำนี้ก็ต้องล่มสลาย งั้นเขาก็ทำการรื้อมันด้วยตัวเองซะเลยก็สิ้นเรื่อง นอกจากนี้ยังนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ได้อีกด้วย ดูสิว่าข้างในยังจะมีของล้ำค่าอะไรอยู่อีกหรือเปล่า
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset