ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 620 ควบคุมกล้องถ่ายรูปใต้น้ำระยะไกล

ฉินสือโอวดึงจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมง อยู่ๆ ก็มีสายโทรศัพท์จากพ่อโทรเข้ามา เขาใช้ข้อศอกคิดก็เดาได้ว่าพ่อคงจะพบปลาแบมบูซ่าแล้ว
แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พอรับสายโทรศัพท์ เสียงที่ฟังดูเร่งรีบของพ่อก็ดังขึ้นมา “แย่แล้ว เสี่ยวโอว เกิดเรื่องขึ้นแล้ว! มีไอ้สารเลวตัวไหนไม่รู้เอาปลาก่านจื่อหุนมาปล่อยในบ่อปลาของเรา! โชคดีที่เจ้าเกี๊ยวซ่ามันไปเจอเข้า เลยเห่าใส่จนพวกมันกลัวแล้ววิ่งหนีไป ทิ้งปลาก่านจื่อหุนเอาไว้ริมแม่น้ำตั้งสี่ตัว!”
เกี๊ยวซ่าก็คือสุนัขเยอรมันเชฟเพิร์ดติ๊งต๊องที่เสี่ยวฮุยหลานของฉินสือโอวเลี้ยงเอาไว้ ทั้งวันมันรู้จักแต่กินซาลาเปากินเกี๊ยว ไม่ทำงานทำการอะไรเลย มันไปเจอคนโยนปลาอะไรกันล่ะ เห็นๆ กันอยู่ว่าฉินสือโอวเป็นคนไปเจอ คาดว่ามันน่าจะเห็นปลาแบมบูซ่าสี่ตัวกำลังดีดไปมาอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำถึงได้ส่งเสียงเห่าเรียกออกมาเรื่อยๆ
แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวายหลายอย่าง
ฉินสือโอวปลอบพ่อว่าอย่าเพิ่งเป็นกังวล บอกให้เขาเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อนอย่าเพิ่งพูดออกไป จากนั้นก็ไปหาฉินเผิงให้มาช่วยติดกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาการความปลอดภัยไว้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านกับลำน้ำสักสองสามจุด ส่วนที่บ้านก็เลี้ยงสุนัขพันธุ์พื้นเมืองฉลาดๆ ไว้อีกสักสองตัว ต่อจากนี้ก็หมั่นตรวจดูกล้องวงจรปิดบ่อยๆ ครั้งนี้คนที่คิดจะทำลายบ่อปลาทำไม่สำเร็จ ครั้งหน้ามันต้องกลับมาอีกแน่
พ่อวางสายไปด้วยความร้อนรุ่มกลุ้มใจ ฉินสือโอวจึงโทรศัพท์ไปหาหัวหน้าหมู่บ้านอีกครั้งแล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง ทั้งยังบอกให้เขาช่วยดูแลที่บ้านให้หน่อย
ประสิทธิภาพของโรงงานอาหารกระป๋องก็แสดงผลขึ้นมาทันที พอหัวหน้าหมู่บ้านได้ยินว่ามีคนเข้ามาปล่อยปลาแบมบูซ่าในหมู่บ้าน เขาก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที “เอาล่ะ เสี่ยวโอว เรื่องนี้นายไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะหาคนไปจัดการให้นายอย่างสาสมเลย! ติดตั้งกล้องวงจรปิด พอหาคนทำเจอแล้วฉันจะช่วยจัดการให้นายเอง!”
ที่หัวหน้าหมู่บ้านเอาใจใส่ขนาดนี้ นอกจากจะเป็นเพราะได้รับผลประโยชน์จากฉินสือโอวเรื่องโรงงานอาหารกระป๋องแล้ว ก็เป็นเพราะความต้องการเกี่ยวกับบ่อปลาด้วย เขารู้ว่าพ่อแม่ของฉินสือโอวปฏิบัติกับคนอื่นยังไง รู้ว่าหลังจากปลาในบ่อโตแล้ว ถ้าเขาอยากทาน แค่ไปขอก็ได้ปลามาทานแล้ว ถ้าปลาในบ่อถูกปลาแบมบูซ่าที่มีคนเอามาปล่อยกินไปหมด ก็คงจะไม่มีอะไรเหลือให้เขาทานแล้ว
เมื่อหลายสาเหตุรวมๆ กัน พอได้ยินว่ามีคนเอาปลาแบมบูซ่ามาปล่อยลงบ่อปลา เขาก็รู้สึกร้อนใจยิ่งกว่าฉินสือโอวเสียอีก
พอจัดการเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว ฉินสือโอวก็กดวางสายโทรศัพท์แล้วลากเก้าอี้นอนออกมาเพราะจะอ่านหนังสือ
หู่จือที่อยู่ที่โต๊ะไม่รู้ว่าไปแหย่ต้าป๋ายท่าไหน ตัวโอพอสซัมเวอร์จิเนียที่ไม่เคยหือไม่เคยอือกับอะไรมาก่อนถึงได้ร้องคำรามใส่มันอย่างไม่พอใจออกมาไม่หยุด หู่จือเหลือบตามองมันแล้วใช้อุ้งเท้าฟาดเข้าไปด้วยความรำคาญจนต้าป๋ายล้มลงไปกับพื้น
ฉินสือโอวกำลังจะเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ต้าป๋ายก็ลุกขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว มันจ้องเขม็งไปที่หู่จืออย่างโหดเหี้ยม หลังจากนั้นก็วิ่งออกจากประตูไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปไม่นาน ฉงต้าก็วิ่งเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางที่ดูโหดร้ายน่ากลัว มันอ้าปากแล้วร้องคำรามออกมาทันที “โฮ่ว! โฮ่ว!”
ต้าป๋ายวิ่งออกมาจากด้านหลังแล้วร้องใส่ฉงต้าด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ฉินสือโอวฟังไม่เข้าใจว่าพวกมันกำลังร้องว่าอะไร ฉงต้าเองก็น่าจะไม่เข้าใจเช่นกัน แต่มันก็รู้ว่าน้องเล็กของตัวเองโดนคนอื่นรังแกเข้าแล้ว จึงร้องคำรามใส่หู่จือด้วยความโมโห
พอหู่จือเห็นว่าตัวเองเสียเปรียบด้านพละกำลังก็เห่าโฮ่งๆ อย่างว่าง่ายๆ แล้วคิดจะวิ่งหนีไป
ปรากฏว่าตอนที่มันวิ่งไปถึงข้างๆ ตัวของฉงต้า ฉงต้าก็หมุนตัวไปฟาดมันอย่างจังหนึ่งครั้ง มันฟาดจนหู่จือไปอยู่อีกฝั่งของห้องโถงเลยทีเดียว
หู่จือรู้สึกโมโหขึ้นมาแล้ว มันลุกขึ้นมาตั้งหลักแล้วพุ่งไปข้างหน้าเหมือนลูกธนูแหลมคมที่ถูกยิงออกไปก่อนจะก้มหัวชนฉงต้าหนึ่งครั้ง จนฉงต้าที่กำลังนั่งยองๆ อยู่กลิ้งไปกับพื้นเหมือนผลน้ำเต้า
สงครามความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ตอนแรกหู่จือคิดจะชนฉงต้าแล้ววิ่งหนีไป แต่มันไม่รู้เลยว่าต้าป๋ายก็ไม่ใช่พวกที่จะยอมปล่อยให้ตัวเองโดนแหย่ง่ายๆ เช่นกัน พอสซัมเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ฉลาดสุดๆ มันวิ่งมาไม่นานก็กระโดดขึ้นไปบนหลังของหู่จือก่อนจะยื่นขาหน้าออกมาข่วนไปทั่ว จนขนแผงคอที่เป็นระเบียบของหู่จือยุ่งเหยิงไปหมด
หู่จือสะบัดตัวอย่างแรง ฉงต้าลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วโบกอุ้งเท้าอ้วนๆ ของมันโดยคิดจะฟาดหู่จือ เป้าจือได้ยินเสียงร้องคำรามของหมีกับเสียงเห่าของสุนัขดังมาจากในบ้าน พอเห็นฉงต้ากับต้าป๋ายกำลังรังแกพี่ชายของตัวเองอยู่จึงรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที มันกระโดดลอยตัวขึ้นไปบนอากาศอย่างกล้าหาญแล้วปะทะกับฉงต้าที่เพิ่งจะลุกขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ฉงต้ายังออมมือให้ไม่ได้ทำอะไรเกินขอบเขต แต่ตอนนี้เมื่อเห็นหู่เป้าสองพี่น้องมากันครบแล้ว มันจึงไม่ขอเกรงใจอีกต่อไป หมีสีน้ำตาลแสดงท่าไม้ตายออกมา มันเงยหน้าขึ้นแล้วร้องคำรามอย่างต่อเนื่องจนกระจกทั้งหมดในวิลล่าสั่นไปหมด
หู่จือและเป้าจือตกอยู่ในความตะลึง ฉงต้าอาศัยสถานการณ์ที่ตัวเองกำลังได้เปรียบใช้กำลังออกโจมตี มันโบกอุ้งเท้าสองครั้งก็ฟาดจนสองพี่น้องหู่เป้าลอยกระเด็นออกไป
ทางด้านปอหลัวที่กำลังหาวก็ปีนลงมาจากโซฟา มันกะพริบตาอย่างสะลึมสะลือเพราะความง่วงแล้วมองดูสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ
หู่จือถูกฟาดจนสะบัดเข้ามา หลัวปอเพิ่งตื่นนอนจึงมีปฏิกิริยาตอบโต้ช้า แป๊บเดียวก็ถูกมันทับเอาไว้เสียแล้ว!
ศักดิ์ศรีของราชาหมาป่าถูกยั่วยุเข้าแล้ว!
หลัวปอออกแรงมุดออกมาจากใต้ลำตัวพี่ใหญ่หู่จือ มันเงยหน้าขึ้นพร้อมลากเสียงหอนยาวเหยียดเพื่อส่งสารท้ารบ แต่ขณะกำลังคิดจะบุกเข้าไป ปรากฏว่าพอมองเห็นหู่จือกับเป้าจือที่มีท่าทางโหดเหี้ยมดุดันกับฉงต้าที่กำลังคลุ้มคลั่งดุร้าย ทั้งยังมีต้าป๋ายที่มีเขี้ยวเล็บแหลมคม แล้วหันกลับมามองเนื้ออ้วนๆ ของตัวเองอีกครั้ง มันก็มุดเข้าไปใต้โซฟาอย่างไม่เต็มใจแทน
หู่จือกับเป้าจือก็รู้ว่าคงยืนหยัดเผชิญหน้ากับฉงต้าไม่ไหว อีกทั้งห้องโถงยังไม่ใช่สนามรบที่ดีอีกต่างหาก พื้นที่กว้างและโล่งเกินไป ทำให้ฉงต้าเป็นฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้และเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตกเป็นรองจากความโง่งุ่มง่ามไม่ปราดเปรียวของมัน
ดังนั้นพี่น้องแลบราดอร์จึงจับต้าป๋ายฟาดลงไปอย่างแรงแล้ววิ่งตรงเข้าไปในห้องครัว
ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ฉงต้าที่กำลังโมโหย่อมต้องบุกตามเข้าไปในครัวอยู่แล้ว
ฉินสือโอวเห็นว่านี่กำลังจะไปกันใหญ่แล้ว ตีกันอยู่ในห้องโถงยังไม่เป็นไร ยังไงก็มีพื้นที่กว้างขวางอยู่แล้ว นอกจากโซฟากับโต๊ะก็ไม่มีของอย่างอื่นอีก ถึงแม้จะเป็นโต๊ะกับโซฟาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเหยียบ แต่ห้องครัวไม่ได้เด็ดขาด ของด้านในถ้าไม่ใช่ของที่ทำมาจากกระจกก็เป็นของที่ใช้ไฟฟ้า…
พอเห็นว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงกำลังจะวิ่งพล่านเข้าไปในครัว ฉินสือโอวก็ตกใจจนตะโกนออกมาอย่างรีบร้อน “กลับมานี่! พากันกลับมาให้หมด! หม่าม๊าวินนี่จะต้องโกรธแน่ๆ…”
เหล่าสัตว์เลี้ยงโกรธจนตาเขียวแล้ว ใครมันจะไปสนใจคำพูดไกล่เกลี่ยของเขากัน? แกดึงฉัน ฉันกัดแก พวกมันเริ่มพากันกลิ้งไปมาอยู่ในห้องครัวแล้ว
‘ปัง’ หู่จือชนเข้ากับตู้เย็น มันชนจนตู้เย็นขนาดใหญ่ที่สูงยิ่งกว่าฉินสือโอวถึงกับสั่น…
‘เพล้ง’ ต้าป๋ายกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะแล้วเตะหนึ่งครั้ง จานใบหนึ่งก็ลอยไปหาเป้าจือ…
‘ผลัวะ’ ฉงต้าดวงไม่ดี เหยียบมะเขือเทศหลายลูกที่กลิ้งอยู่บนพื้นจนล้มลงไปบนพื้นทันที
‘ฮึ่ม’ ฉงต้าที่กำลังโมโหโบกอุ้งเท้าใหญ่เตรียมฟาดเป้าจือ เป้าจือกำลังกระโดดขึ้นไปบนอ่างล้างจาน ก้นของมันชนอยู่กับก๊อกน้ำ
ฉงต้าโบกอุ้งเท้าด้วยความโกรธ เป้าจือก็กระโดดหลบอย่างมีไหวพริบปฏิภาณจึงได้ยินเพียงเสียงระเบิดที่ดังขึ้นมา ก๊อกน้ำถูกฟาดจนหักออกจากกันแล้ว…
เมื่อฉินสือโอววิ่งมาถึงประตูห้องครัว น้ำสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาพอดี มันพุ่งใส่ฉงต้าที่อยู่ตรงกันข้ามจนเปียกไปหมดทั้งหน้า ฉงต้าหลบออกมา สายน้ำที่มีพลังเต็มเปี่ยมเลยพุ่งออกไปข้างนอกต่อไป มันพุ่งออกไปไกลถึงสิบกว่าเมตรแล้วพุ่งเข้าใส่หน้าของฉินสือโอวเต็มๆ
แม่แกสิ! รดหน้าฉันแล้ว! ฉินสือโอวอยากจะร้องแต่ก็ร้องไม่ออก เขาตวาดขึ้นเสียงดัง “เจ้าพวกเด็กชั่ว! พวกแกตายแน่ หม่าม๊าวินนี่ตีพวกแกตายแน่!”
เมื่อเห็นสายน้ำที่กำลังพุ่งออกไป หู่เป้าฉงป๋ายที่ฟัดกันนัวเนียก็มองกันไปมา แกมองฉัน ฉันมองแก พวกมันเปลี่ยนสีหน้าจากความโกรธอย่างรวดเร็วและต่างก็พากันทำท่าทางใสซื่อราวกับไม่มีความผิดออกมา จากนั้นมันก็ก้มหัวมุดหน้าเข้าหาตัวแล้วออกไปข้างนอกอย่างเงียบเชียบ
ฉินสือโอวจ้องมองพวกมันด้วยความโมโห หู่จือออกไปถึงประตูเป็นตัวแรกก็รีบเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็ว มันทำท่าทางราวกับว่าตัวเองไม่เกี่ยวอะไรด้วย จากนั้นก็บิดขี้เกียจแล้วลุกออกไป
หลัวปอที่หมอบอยู่ใต้โซฟาก็ยื่นหัวออกมามอง พอเห็นว่าในครัวไม่มีเสียงของการต่อสู้แล้วมันก็มุดออกมาด้วยความประหลาดใจพลางวิ่งเหยาะๆ ไปมองดูที่หน้าประตูห้องครัว จากนั้นมันก็แสยะยิ้มมุมปากอย่างมีความสุข พวกแกอวดดีกันต่อไปเถอะ! ฉันจะรอดูตอนหม่าม๊ากลับบ้าน!
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset