ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 621 ควบคุมกล้องถ่ายรูปใต้น้ำระยะไกล – จริงๆ

พอวินนี่กลับมา หลัวปอก็พุ่งเข้าไปหาด้วยท่าทางแบบพวกขี้ฟ้องทันที มันเห่าไปทางห้องครัวสองสามครั้ง หลังจากนั้นก็เก็บหางทำท่าทางเหมือนผู้ถูกกระทำแล้วเดินขนาบข้างกับเท้าของวินนี่ไปอย่างเงียบๆ
วินนี่ทั้งสับสนและยุ่งเหยิง เธอเข้าไปดูที่ห้องครัว ก๊อกน้ำถูกจุกไม้ก๊อกอุดไว้ แต่ก็ยังมีน้ำหยด ‘ติ๋งๆ ’ ออกมา
“ฉิน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันคะ?” วินนี่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดถามเขา
ฉงต้า ต้าป๋าย หู่จือและเป้าจือสัตว์เลี้ยงทั้งสี่ตัวนั่งเรียงแถวกันอยู่หน้าโซฟาพร้อมก้มหน้าลงต่ำ แต่ละตัวต่างก็อ่อนระโหยโรยแรงด้วยกันทั้งนั้น
เมื่อได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้ วินนี่ก็พอจะนึกสาเหตุได้คร่าวๆ แล้ว พอฉินสือโอวกำลังจะอธิบาย เธอก็ยิ้มน้อยๆ แล้วโบกมือขัดเขาไว้ จากนั้นเธอก็นั่งลงบนโซฟาพลางจ้องมองเหล่าสัตว์เลี้ยง เธอชี้ไปที่ห้องครัวแล้วถามขึ้นมา “ไหนบอกหม่าม๊าหน่อยสิ นั่นมันเรื่องอะไรกัน?”
หลัวปอกระโดดขึ้นมาบนโซฟาอย่างปราดเปรียว มันทำท่าเยี่ยมๆ มองๆ ส่งเสียงร้องอูฮูออกมา แถมยังทำคิ้วตั้งตรงตาจ้องเขม็ง แสดงท่าทางของสุนัขรับใช้ออกมาอย่างสมบทบาท
เวลาที่วินนี่สั่งสอนเหล่าสัตว์เลี้ยง เธอจะไม่ทำสีหน้ายิ้มพรายให้พวกมัน เธอจึงตบฝ่ามือลงไปบนก้นของหลัวปอแล้วไล่ให้มันลงไปนั่งบนพรมดีๆ
หลัวปอลงไปนั่งเรียงกันอยู่ข้างๆ ต้าป๋ายอย่างหมดอาลัยตายอยาก เห็นๆ กันอยู่ว่านี่ไม่เกี่ยวกับมัน ทำไมมันต้องโดนดุด้วยเล่า?
พอคิดได้แบบนี้ หลัวปอก็เงยหน้าขึ้นมามองวินนี่อย่างไม่ยอมแพ้ ปรากฏว่าพอวินนี่ตบพนักพิงโซฟาแรงๆ มันก็เริ่มตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อย ทันใดนั้นมันก็นึกถึงภาพเหตุการณ์วันที่ถูกผลักจนกลิ้งตกลงไปในน้ำขึ้นมาแล้วยอมนั่งดีๆ อย่างเชื่องๆ พร้อมแหงนหน้ายืดอก!
บุชกับนิมิตส์ผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดบนเทือกเขาเคอร์บัลมาแล้วหนึ่งวัน พวกมันกระพือปีกบินเข้ามาในวิลล่า
ปากของบุชคาบลูกแพะภูเขาเอาไว้หนึ่งตัว นี่เป็นครั้งแรกที่มันจับเหยื่อแบบนี้ได้ ตอนแรกมันกะจะกลับบ้านมารอรับคำชมอย่างมีความสุข แต่เมื่อเห็นท่าทางที่กำลังไต่สวนคดีของวินนี่ มันก็รีบทิ้งลูกแพะภูเขาแล้วกระพือปีกบินออกไปทันที
นิมิตส์ก็ช่ำชองและมีเล่ห์เหลี่ยมอยู่แล้ว มันไม่ได้บินเข้ามา พอบินมาถึงประตูแล้วเห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน มันก็หมุนตัวบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืนทันที…
ฉินสือโอวตามซีมอนสเตอร์ให้มาซ่อมก๊อกน้ำ ซีมอนสเตอร์มีความถนัดด้านงานช่างมากๆ เขานำเครื่องมือเข้ามาในห้องครัว พอเห็นสภาพของก๊อกน้ำที่ถูกตบจนหักเขาก็ถึงกับส่ายหัว “นี่เป็นท่อยางเหล็กกับพลาสติกแบบเก่าไม่ทนทาน หัวหน้า หลังจากนี้ก็เปลี่ยนระบบน้ำให้วิลล่าหน่อยเถอะครับ”
พละกำลังของฉงต้าไม่ได้มากพอที่จะฟาดท่อประปาเหล็กจนหัก เพียงแต่ท่อน้ำผ่านแดดผ่านลมรวมกับอากาศหนาวเหน็บจนพื้นกลายเป็นน้ำ เหล็กไม่มีความเหนียวความทนทานอยู่อีกแล้วจึงเกิดอาการล้าอย่างรุนแรง ฉงต้าดวงซวยเลยได้เจอกับโอกาสดีๆ แบบนี้ ไม่อย่างนั้นผ่านไปอีกสักพักมันก็คงแตกออกมาเองอยู่ดี
ท่อน้ำส่วนที่อยู่ติดกับด้านหลังก๊อกน้ำใช้งานไม่ได้แล้ว ซีมอนสเตอร์ซ่อมแซมจุกไม้ก๊อกไปแล้วเล็กน้อย เขาใช้เครื่องตัดแบบไฟฟ้าตัดท่อน้ำท่อนนี้รวมทั้งก๊อกน้ำออก จากนั้นก็ใช้จุกไม้ก๊อกอุดเอาไว้ทั้งหมด เขาบอกฉินสือโอวว่าพรุ่งนี้จะมาซ่อมให้อีกครั้ง
พาวลิสกับเด็กๆ คนที่เหลือเห็นว่าคึกคักน่าดูจึงนั่งล้อมอยู่รอบๆ เพื่อรับชมด้วยความสนอกสนใจเป็นอย่างยิ่ง
วินนี่ขมวดคิ้วมองพวกเขา กอร์ดอนจึงยื่นหน้าออกมาพูด “พี่วินนี่พี่สั่งสอนพวกมันต่อสิ พวกเราไม่พูดอะไรหรอก เราจะนั่งดูอยู่เฉยๆ เลย”
คราเคนน้อยก็พูดเสริมขึ้นมา “พี่วินนี่สั่งสอนมันต่อสิครับ นี่ดูน่าสนใจมากๆ เลยนะ”
คิ้วโก่งของวินนี่ค่อยๆ ตั้งตรง เชอร์ลี่ย์เห็นว่าท่าไม่ดีแล้วจึงใช้แววตาส่งสัญญาณให้คนอื่นรับรู้แล้วรีบวิ่งขึ้นไปข้างบน
เด็กๆ ทั้งเจ็ดคนทยอยวิ่งตามกันขึ้นไปข้างบน วินนี่จึงสั่งสอนสัตว์เลี้ยงพวกนี้ต่อ ฉินสือโอวที่บังเอิญหันกลับมาก็เห็นรถกระป๋องรูปร่างประหลาดที่ขับเข้ามาอย่างช้าๆ
รถคันนี้มีล้อสี่ล้ออยู่ทุกๆ ด้านจนดูเหมือนสัตว์ประหลาดที่มีล้องอกขึ้นมาจนเต็มตัว ที่หน้ารถเป็นกระจกครอบทรงครึ่งวงกลม ลักษณะสูงประมาณสามสิบเซนติเมตร มันกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ โดยที่กระจกครอบหน้ารถจะหันมาทางวินนี่อยู่ตลอด
ฉินสือโอวรู้สึกประหลาดใจจึงเข้าไปดูรถกระป๋องคันนั้นใกล้ๆ พอเขาโน้มตัวเข้าไป รถคันนั้นก็ถอยหลังไปทันที แต่มันก็ไม่ได้ปรับทิศทางตอนถอยให้ดี จึงชนเข้ากับฉงต้า
ฉงต้ากำลังถูกวินนี่ดุก็อารมณ์ไม่ดี ความคิดก็เริ่มสับสน พอรถคันเล็กถอยมาชนมันก็เหมือนจะหาเรื่องทารุณตัวเอง รถกระป๋องจึงถูกตบจนลอยกระเด็นไป
“ฉงต้า!” วินนี่ตวาดด้วยความโมโห
ฉินสือโอวใช้นิ้วแคะหู เขาได้ยินเสียงครวญครางจากด้านบนดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา
แค่ครู่เดียวพวกเด็กๆ ที่เพิ่งจะขึ้นไปข้างบนก็พากันวิ่งลงมาข้างล่างอย่างรีบร้อน ในมือของเชอร์ลี่ย์ถือแท็บเล็ตคล้ายๆ ไอแพดเอาไว้ พอพวกเขาหารถเจอก็พากันมุงดูอยู่ตรงนั้น หลังจากนั้นเชอร์ลี่ย์ก็ถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้น “ยังดีอยู่ รถยังไม่เสีย ไม่อย่างนั้นคงเป็นคราวของพวกเราที่ถูกดุแล้ว!”
ฉินสือโอวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “นี่คืออะไรเหรอ?”
เด็กๆ ทั้งเจ็ดคนอ้ำๆ อึ้งๆ พากันไม่ยอมพูด ฉินสือโอวจึงเข้าไปหยิบแท็บเล็ตอันเล็กมา ด้านบนคล้ายส่วนเชื่อมต่อเพื่อควบคุมและเดินเครื่อง มีปุ่มแบบสัมผัสที่สามารถเคลื่อนที่ได้รอบทิศ เขาลองสัมผัสปุ่มพวกนี้ รถคันเล็กก็เคลื่อนที่ไปรอบๆ ตามคำสั่งของเขา
อีกทั้งบริเวณหน้าจอตรงกลางแท็บเล็ตก็คือฉากเหตุการณ์ที่ถูกถ่ายโดยกระจกครอบที่อยู่ด้านหน้ารถ
ฉินสือโอวถามขึ้นมาอีกครั้ง ลอเรนซ์ลูกสาวของแลนซ์จึงอธิบายว่า “นี่คือรีโมตควบคุมกล้องถ่ายรูปใต้น้ำระยะไกลค่ะ คุณครูบาลซักให้พวกเราเล่น พวกเราใช้มันดูโลกใต้น้ำได้ค่ะ”
“เมื่อกี้พวกเขาใช้มันมาแอบดูฉันสั่งสอนพวกเด็กๆ เหรอ?” วินนี่ถาม
เด็กๆ ทั้งเจ็ดคนได้ยินก็พากันวิ่งหนีแตกกระเจิงไปทันที กอร์ดอนกับเจสมีปฏิกิริยาตอบสนองก่อนคนอื่น พวกเขาต่างก็ชี้หน้ากันแล้วตะโกนออกมา “เป็นความคิดของเขาทั้งหมดเลย!”
คราเคนน้อยชี้ไปที่เชอร์ลี่ย์แล้วพูดบ้าง “เธอนั่นแหละที่บังคับรถอยู่ตลอด!”
“แต่เมื่อกี้นายเป็นคนแย่งแผงบังคับไปนะ ไม่อย่างนั้นรถจะชนฉงต้าได้ยังไง?” เชอร์ลี่ย์ดึงหูคราเคนน้อยพร้อมพูดขึ้นมาด้วยความโมโห
ฉินสือโอวสังเกตดูรถบังคับอย่างละเอียด ภาพจากกล้องหน้ารถมีคุณภาพสูงมาก ภาพที่ถ่ายออกมาก็คมชัดมากเช่นกัน เขามองรถบังคับขณะที่ในใจก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “โอเค โอเค ไม่ต้องโวยวายแล้ว พี่วินนี่ไม่ตำหนิพวกเธอหรอก อาจารย์ที่ปรึกษาให้พวกเธอยืมรถบังคับนานแค่ไหน พอจะบอกฉันได้ไหม?”
“ตอนที่พวกเขาไม่อยู่ พวกเราใช้ได้ตลอดเลย” พาวลิสตอบ
ฉินสือโอวยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นมา “หลังจากที่พวกเธอได้มาแล้ว ก็ใช้มันเพื่อดูโลกใต้ทะเลอย่างเดียวเลยใช่ไหม?”
มิเชลผงกหัวอย่างแรงพร้อมทั้งตอบเขากลับไป “ใช่แล้ว ฉิน โลกใต้ทะเลสวยมากจริงๆ ! คุณรู้ไหมว่าพวกเราเห็นอะไร? แนวปะการังที่สวยมากๆ ! แล้วก็ปลาตัวเล็กสีสวยๆ ตั้งเยอะแยะ!”
“ใช่ สุดยอดมากจริงๆ !” เด็กที่หยาบกระด้างแบบเจสก็ยังอดที่จะแสดงความตื่นตะลึงออกมาไม่ได้เหมือนกัน
ฉินสือโอวพูดกับพวกเขา “พรุ่งนี้ฉันจะพาพวกนายไปดูทะเลสาบเฉินเป่าแล้วกัน ว่ากันว่าที่ทะเลสาบเฉินเป่ามีซากเรืออับปางกับขุมทรัพย์อยู่ด้วย พวกนายอยากไปเล่นเกมล่าขุมทรัพย์กันไหม?”
พอได้ยินอย่างนี้ เด็กๆ ทั้งเจ็ดคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา กอร์ดอนถามเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย “พระเจ้า! ฉิน คุณว่าที่ทะเลสาบนั่นจะมีขุมสมบัติของโจรสลัดไหม?”
“อาจจะมีก็ได้ ใครจะรู้ ใช่ไหมล่ะ?” ฉินสือโอวยักไหล่พูดตามอำเภอใจ
จะมีขุมทรัพย์โจรสลัดไหมเขาไม่รู้แน่ชัด แต่เขารู้ว่าฟอสซิลไดโนเสาร์ในทะเลสาบเฉินเป่าจะได้กลับมาเห็นแสงสว่างอีกครั้งแล้ว ใช่แล้วล่ะ เขาจะยืมมือพวกเด็กๆ เพื่อขุดค้นสมบัติเหล่านั้นออกมา
พวกเด็กๆ พากันตื่นเต้นกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ตอนมื้ออาหารเย็นเจสไปหาพ่อแล้วถามกับเขา “แด๊ดดี้ๆ พวกเราเป็นลูกหลานของโจรสลัดไวกิ้งใช่ไหมฮะ?”
ชาร์คจัดระเบียบหนวดเคราใต้คางด้วยท่าทางราวกับกำลังรู้สึกภาคภูมิใจก่อนพูดขึ้น “ไม่ พวกเราเป็นลูกหลานชาวไวกิ้ง ไม่ใช่โจรสลัดไวกิ้ง!”
“มันแตกต่างกันด้วยเหรอ?” ฉินสือโอวถามขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจนัก
ทันใดนั้นชาร์คกับพวกซีมอนสเตอร์ก็ตะโกนขึ้นมาเป็นเสียงเดียวกัน “ต้องต่างกันอยู่แล้ว!”
ฉินสือโอวรู้สึกปวดตับขึ้นมาทันที จบกัน ต้องฟังคำบรรยายอีกแล้ว
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset