ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 642 กิจกรรมการท่องเที่ยวของเจ้าของฟาร์มปลา

วิทยาลัยเพลสตัน ถ้าไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษก็อาจจะฟังเป็นพรินซ์ตัน มันคือมหาวิทยาลัยวิจัยเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก เป็นหนึ่งในสถาบันในเครือไอวีลีก
แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ใช่อย่างนั้น วิทยาลัยเพลสตันของที่นี่เป็นเพียงแค่วิทยาลัยวิชาชีพธรรมดาๆ แห่งหนึ่งในนครเซนต์จอห์นเท่านั้น ในความเป็นจริงรัฐนิวฟันด์แลนด์ทั้งรัฐ นอกจากมหาวิทยาลัยอนุสรณ์นิวฟันด์แลนด์แล้ว สถาบันการศึกษาแห่งอื่นก็มีแต่เน่าๆ กันทั้งนั้น…
ฉินสือโอวคิดว่าทั้งสองคนอาจจะค่อนข้างลำบากเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษาของมหาวิทยาลัยในแคนาดา เรื่องนี้ต้องเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการพักการเรียนของมหาวิทยาลัยในแคนาดาให้ฟังก่อน
ถ้าพูดถึงนักศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของแคนาดา โดยทั่วไปแล้วการปิดเทอมภาคฤดูร้อนจะประกอบด้วยพฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคมและสิงหาคมทั้งหมดสี่เดือน ปิดเทอมภาคฤดูร้อนของนักศึกษาจะเป็นเวลาที่ยาวนานมาก
ระหว่างช่วงเวลานี้ นักศึกษามีตัวเลือกหลายทาง สามารถเลือกใช้ช่วงปิดเทอมลงเรียนบางวิชาเพื่อพยายามเรียนให้จบการศึกษาโดยเร็ว หรือจะไปดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เมืองรอบๆ เพื่อเพิ่มพูนวิสัยทัศน์ให้กับตัวเองก็ได้ และนอกจากนี้ก็สามารถเลือกที่จะพักการเรียนเพื่อไปทำงานได้ด้วย
ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องปกติที่นักศึกษาจะทำงานในเดือนมิถุนายน แต่ก็ยังมีเงื่อนไขข้อเบื้องต้นอยู่ นั่นก็คือต้องเป็นการศึกษาระดับปริญญาตรี แต่สำหรับวิทยาลัยวิชาชีพแบบวิทยาลัยเพลสตันจะไม่ใช่อย่างนั้น
สำหรับวิทยาลัยวิชาชีพ เดือนมิถุนายนเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะเปิดหลักสูตรระยะยาวในเดือนมกราคม เดือนพฤษภาคม และเดือนกันยายน
เดือนกันยายนจะเป็นหลักสูตรการสอนครั้งใหญ่ ดังนั้นมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นการเรียนหลักสูตรปริญญาตรีหรือการเรียนหลักสูตรวิชาชีพ ทุกๆ คณะวิชาจะเปิดการเรียนการสอน เดือนมกราคมจะเป็นการเรียนคลาสเล็ก สาขาการเรียนบางส่วนจะเปิดเรียนในช่วงนี้ เดือนพฤษภาคมจะเปิดเรียนค่อนข้างน้อย แต่มักจะเป็นการเปิดเรียนสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งก็คือนักศึกษาอย่างหวังเหล่ยกับเหยาลี่ลี่นั่นเอง ถ้าไม่ได้มีอะไรนอกเหนือจากความคาดหมายเดือนมิถุนายนพวกเขาก็น่าจะต้องเข้าเรียนและคงไม่มีเวลาออกไปทำงาน
ตอนนี้ทั้งคู่มีเวลาออกมาทำงาน ดังนั้นฉินสือโอวจึงคาดการณ์ว่าพวกเขาคงเป็นนักศึกษาต่างชาติซ้ำชั้น
อะไรคือนักศึกษาต่างชาติซ้ำชั้น? นี่เป็นชื่อเรียกเฉพาะ แค่เห็นชื่อก็รู้ความหมายนั่นก็คือนักศึกษาต่างชาติที่ต้องซ้ำชั้นเรียนนั่นเอง แต่นักศึกษาประเภทนี้ไม่เหมือนกับนักศึกษาซ้ำชั้นที่จีน พวกเขาคือนักศึกษาต่างชาติที่โอนย้ายมา
เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า ตอนนี้มหาวิทยาลัยในประเทศจีนมีการเปิดรับลงทะเบียนเรียนอย่างกว้างขวาง ขอแค่มีความสามารถเพียงเล็กน้อยก็สามารถสอบเข้าเรียนระดับปริญญาตรีได้แล้ว นักศึกษาที่ออกไปเรียนต่อต่างประเทศในตอนนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเรียนเก่งมากจนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศรับเข้าเรียน ก็เป็นเพราะที่บ้านอยากให้พวกเขาออกไปเรียนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า
ถ้ามาเรียนที่นครเซนต์จอห์น โดยพื้นฐานแล้วก็เพื่อจะมุ่งมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยอนุสรณ์นิวฟันด์แลนด์
มหาวิทยาลัยอนุสรณ์นิวฟันด์แลนด์เป็นมหาวิทยาลัยสหสาขาของรัฐเพียงที่เดียวในนิวฟันด์แลนด์ เป็นหนึ่งในระดับบนสุดของแคนาดา และมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก
เหมือนกับมหาลัยแห่งอื่นในอเมริกาเหนือ มหาวิทยาลัยอนุสรณ์นิวฟันด์แลนด์ค่อนข้างเข้าง่าย แต่จบยาก ที่นี่ไม่ได้เรียนจบง่ายขนาดนั้น ทางมหาลัยมีข้อกำหนดทางวิชาการสำหรับนักศึกษาที่เข้มงวดมาก อีกทั้งยังไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยในอเมริกาด้วย ถ้ามีนักศึกษาของพวกเขาสอบตกวิชาหนึ่งในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนก็ต้องเรียนซ้ำอีกครั้งทั้งยังต้องสอบผ่านก่อนถึงจะสามารถเข้าเรียนในเทอมการศึกษาต่อไปได้
ถ้าเรียนซ้ำช่วงปิดเทอมฤดูร้อนยังไม่ได้มาตรฐาน แบบนั้นก็ยังต้องเรียนซ้ำชั้นต่อไป
ดังนั้นนักศึกษาบางส่วนที่เห็นว่าตัวเองสอบตกหลายวิชาเกินไปหรือรู้สึกว่าถึงเรียนซ้ำก็คงสอบไม่ผ่านอยู่ดีจึงอาจจะเลือกลาออก ทว่าครอบครัวที่ส่งลูกมาเรียนต่างประเทศมักจะเป็นคนมีอิทธิพลมีหน้ามีตา คนที่บ้านอดทนต่อความลำบากเพื่อส่งลูกเรียน ดังนั้นการถูกคัดออกจนไม่ได้ใบปริญญากลับบ้านจึงน่าอับอายเกินไป จากสถานการณ์แบบนี้นักศึกษาต่างชาติซ้ำชั้นจึงเริ่มปรากฏขึ้น
เดือนพฤษภาคมของทุกๆ ปีหลังจากนักศึกษาประเภทนี้สอบเสร็จแล้วแต่เห็นว่าตัวเองไม่มีหวังจะได้เลื่อนชั้น พวกเขาก็จะพากันโอนย้ายไปที่มหาวิทยาลัยทั่วไปหรือวิทยาลัยวิชาชีพที่ค่อนข้างจบง่ายกว่า ถึงยังไงก็ได้ใบปริญญาบัตรกลับบ้านเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
เมื่อเป็นเช่นนี้หวังเหล่ยกับเหยาลี่ลี่จึงน่าจะโอนย้ายมาเรียนที่วิทยาลัยวิชาชีพ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องไปเข้าเรียนตามหลักสูตรการศึกษาของวิทยาลัยวิชาชีพในเดือนมิถุนายน แค่เตรียมตัวรอเข้าเรียนอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนก็พอ
แล้วก็เป็นเช่นนั้น พอพูดคุยกันฉินสือโอวก็ถามถึงสถานการณ์การศึกษาของพวกเขา ทั้งสองคนยอมรับอย่างไม่ค่อยสู้ดีนักว่าพวกเขามาเรียนที่มหาวิทยาลัยอนุสรณ์นิวฟันด์แลนด์แล้วหนึ่งปี แต่ปรากฏว่าสอบตกวิชาเอกอีกทั้งยังสอบผ่านได้ยาก จึงปิดบังครอบครัวและทำเรื่องโอนย้ายไปที่วิทยาลัยเพลสตันเองเสียเลย
เพราะรู้สึกผิดกับที่บ้าน ดังนั้นทั้งสองคนจึงรู้สึกไม่ดีที่จะขอเงินจากครอบครัวอีก ดังนั้นพวกเขาจึงคิดที่จะใช้เวลาช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเพื่อทำงานหาเงิน
ตัวเลือกอันดับหนึ่งของการทำงานในนครเซนต์จอห์นก็คือฟาร์มปลา พวกเขาได้ยินมาว่าที่เกาะแฟร์เวลมีเจ้าของฟาร์มปลาคนจีนที่เก่งมากๆ จึงอยากมาขอความช่วยเหลือจากเขา
ฉินสือโอวลองคิดๆ ดู ฤดูร้อนฟาร์มปลามีกิจกรรมอยู่หลายอย่าง สองคนนี้คงจะทำงานหนักในทะเลไม่ไหวแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นให้พวกเขาดูแลสนามหญ้าของฟาร์มปลาก็ได้ ช่วยเขาตัดเล็มสนามหญ้า จัดการสวนผักกับสวนผลไม้ เดิมทีเขาต้องหาคนมาทำงานพวกนี้อยู่แล้ว ก็ให้สองคนนี้ทำไปเลยแล้วกัน
ทว่าฉินสือโอวกลับเลือกที่จะใช้คำพูดไม่น่าฟังออกไปก่อน “ทำงานฟาร์มปลามันไม่ง่าย ฉันจะให้เงินคนละแปดร้อยดอลลาร์แคนาดาต่อสัปดาห์ แต่ถ้าพวกเธอสองคนทำไม่ไหว ฉันก็คงทำได้แค่เลิกจ้าง”
พอได้รับคำสัญญาจากฉินสือโอว หวังเหล่ยก็พยักหน้าอย่างแรงแล้วพูดกับเขา “ว่ามาเลยครับ พี่ฉิน พวกเราทั้งสองคนมาจากครอบครัวคนงาน พวกเราทนความลำบากได้ ถ้ามีงานอะไรให้ทำพี่ก็สามารถสั่งพวกเราได้หมดเลยครับ พวกเราจะทำงานให้พี่อย่างขยันขันแข็งเลยครับ”
ฉินสือโอวเห็นทั้งสองคนถือกระเป๋ามาจึงบอกให้ชาร์คไปจัดการอพาร์ตเมนต์ชาวประมงให้สองห้อง แต่หวังเหล่ยบอกว่าขอแค่ห้องเดียวก็พอแล้ว พวกเขาสองคนเป็นแฟนกัน
ฉินสือโอวลองจัดหางานให้ทั้งสองคนทำ เขาให้เวลาพักเพื่อให้พวกนั้นได้ปรับตัวเป็นเวลาสั้นๆ วันนี้กับพรุ่งนี้ไม่ต้องทำงานแต่ยังได้ค่าแรงอยู่ ให้พวกเขาลองเดินดูรอบฟาร์มปลาสักหน่อย ทำความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมในบริเวณรอบๆ แบบนี้ต่อไปจะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากจัดการเรื่องหวังเหล่ยกับเหยาลี่ลี่แล้ว ฉินสือโอวก็ลากเก้าอี้นอนออกไปตากอากาศใต้ร่มไม้ ดื่มด่ำความสุขจากลมทะเลฤดูร้อน
แต่ปรากฏว่าวันนี้มีธุระเยอะเกินไป ซึ่งกำหนดไว้แล้วว่าวันนี้เขาไม่มีทางได้ตากลมทะเลอย่างสบายใจเฉิบแน่นอน
หลังจากเขานั่งลงได้ไม่นาน โทรศัพท์สายหนึ่งก็โทรเข้ามา มันเป็นเบอร์แปลกที่โทรมาจากออตตาวา
ฉินสือโอวรับโทรศัพท์ด้วยความมึนงง เขาถาม “ฉินสือโอวฟาร์มปลาต้าฉิน สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าใครโทรมาเหรอครับ? ถ้าหากคุณอยากจะแนะนำการขายอะไร ผมว่าคุณวางสายไปน่าจะดีกว่า ที่บ้านผมไม่มีอะไรขาดเหลือแล้ว”
เสียงนุ่มนวลของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “มิสเตอร์ฉิน สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะ เดือนที่แล้วคุณได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมการประท้วงฟาร์มปลานครเซนต์จอห์นหรือเปล่าคะ?”
ได้ยินคำนี้ในใจของฉินสือโอวก็เกิดความระแวงขึ้น ให้ตาย คงจะไม่ซวยขนาดนั้นหรอกใช่ไหม? รัฐบาลแคนาดาเล่นวิธีรอจังหวะเพื่อแก้แค้นหรือยังไง? ทว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีอะไรน่ากลัว เขาจึงยอมรับไปแบบเท่ๆ
รอจนเขายืนยันอย่างแน่ชัด ในสายโทรศัพท์จึงพูดขึ้นมา “ฉันจูเลียต โจแอนท์ผู้รับผิดชอบการติดต่อประสานงานภายนอกของกระทรวงการประมงและมหาสมุทรแคนาดาค่ะ มิสเตอร์ฉินคืออย่างนี้นะคะ ตั้งแต่พวกคุณจัดกิจกรรมการประท้วง พวกเราก็คิดหาวิธีเพื่อแก้ปัญหาความสับสนของพวกคุณมาโดยตลอด เพื่อคลี่คลายความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของฟาร์มปลา ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงตัดสินใจจัดการทัศนศึกษาระยะสั้นขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเวลามาเข้าร่วมไหมคะ?”
ฉินสือโอวเข้าใจแล้ว นี่คือผลลัพธ์ที่เกิดจากกิจกรรมการประท้วง คาดว่ากรมประมงคงอยากจะจัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธไมตรีอะไรประมาณนั้นให้บรรดาเจ้าของฟาร์มปลาแบบดั้งเดิมกับเจ้าของรีสอร์ตฟาร์มปลามารวมตัวแล้วให้ทุกคนกินดื่มทักทายปราศรัยกัน
พอคิดได้อย่างนี้ ฉินสือโอวกลับรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา ไม่มีอีกาตัวไหนขาวไปกว่ากันหรอกนะ รัฐบาลแคนาดาได้รับทักษะยอดวิชามาจากชนชั้นผู้นำของประเทศเขามากเกินไป ความสามารถในการไกล่เกลี่ยจึงไม่เลวเลย
เขาไม่อยากยอมรับผลลัพธ์แบบนี้จึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาดตรงไปตรงมา โดยการบอกไปว่าเขาไม่มีเวลา
หลังจากวางสายโทรศัพท์เขาก็นอนเอนหลังอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ขณะที่กำลังงัวเงียเพราะความง่วง เสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินสือโอวขมวดคิ้วมองเลขโทรศัพท์ ยังคงเป็นเบอร์ที่โทรมาจากออตตาวา เขาจึงรับโทรศัพท์ด้วยความฉุนเฉียวแล้วพูดออกไปว่า “ผมบอกว่าผมไม่ไป โอเค? ผมมีธุระด่วน ยุ่งมากๆ ที่ฟาร์มปลาของผมงานเยอะมาก!”
………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset