ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 644 ช่องทีวีภาษาจีน

ขณะที่กำลังทานมื้อเย็น ฉินสือโอวกับวินนี่ก็พูดคุยกันถึงของเรื่องวันนี้ หลายเรื่องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นติดต่อกัน พวกหวังเหล่ยมาของานทำ แมทธิว จินให้เขาเป็นคนนำทีมรวบรวมเจ้าของฟาร์มปลาไปทำกิจกรรม ชาวประมงคนจีนมาขอความช่วยเหลือ ช่วงเวลาสั้นๆ นี้ทำให้เขารู้สึกถึงความกดดันอย่างหนัก
เออร์บักนำหนังสือพิมพ์ฉบับเย็นที่พับไว้วางไว้ข้างๆ เขาประสานนิ้วมือทั้งสิบเข้าด้วยกันตามความเคยชินแล้วมองตรงไปที่ฉินสือโอวก่อนพูดขึ้นมา “นายคิดยังไงล่ะ?”
“ผมไม่ได้คิดอะไร ผมแค่รู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร นี่ไม่ใช่ชีวิตที่ผมต้องการ ผมแค่อยากอยู่ที่ฟาร์มปลาของผมอย่างมั่นคงและปลอดภัย เลี้ยงปลา เลี้ยงหมา เลี้ยงลูก…” ฉินสือโอวกล่าว
วินนี่จับมือของเขาไว้ เธอแย้มรอยยิ้มน้อยๆ แล้วพูดกับเขา “เลี้ยงลูกตอนไหนคะ?”
ฉินสือโอวแพ้ให้เธอแล้วจริงๆ เขาตอบเธอกลับไป “ไม่ใช่ว่ากำลังพยายามอยู่เหรอครับ? คุณดูสิ ทุกคืนผมพยายามต่อสู้สุดชีวิต…”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องพวกนี้หรอกนะ?” เออร์บักกระแอมไอแล้วเอ่ยออกมา
วินนี่ทำท่าทางเหมือนเขินอายมาก แต่จริงๆ แล้วเธอกลับถอดรองเท้าออก แล้วใช้ปลายเท้ายั่วยุฉินสือโอว
ฉินสือโอวแทบจะคุกเข่าแล้ว ตอนนี้เขาปวดหัวมากๆ เลยโอเคไหม? ทว่าแอบคนคร่ำครึอย่างเออร์บักหยอกกันเล่นแบบนี้ก็ดูเหมือนจะสนุกดีอยู่เหมือนกัน
เออร์บักวิเคราะห์ให้เขาฟัง “นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก ฉิน ตั้งแต่นายตัดสินใจรวมฟาร์มปลาของเกาะแฟร์เวลเข้าด้วยกัน ฉันก็รู้แล้วว่าจะเกิดเรื่องอย่างวันนี้ นายครอบครองพื้นที่ฟาร์มปลาที่ใหญ่ที่สุดเอาไว้ พวกชาวประมงต้องตามทิศทางลมมาหานายอยู่แล้ว”
ฉินสือโอวไม่ได้คิดอย่างนั้น “ผมไม่อยากแบกรับภาระหน้าที่มากมายขนาดนี้ แล้วก็ไม่อยากเป็นผู้นำหรือบุคคลในสังคมชั้นสูงอะไรแบบนั้นด้วย”
ถ้าเขาอยากเข้าสู่วงสังคมชั้นสูง เขาคงเข้าไปนานแล้ว มีโอกาสอยู่เยอะแยะ เอี๋ยนตงเหล่ย ตระกูลสเตราส์ที่เคยเจอเมื่อก่อน จิม วอลตันที่ได้รู้จักกันตอนบริจาคเงินให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่มาของคนเหล่านี้ดีพอดูเลยทีเดียว
นอกจากนี้ถ้าเขาไม่อยากจะใช้ประโยชน์จากคนที่ไม่ได้คุ้นเคยกันมาก เขาก็ยังมีพวกบิลลี่ แบรนดอนกับเบลคอยู่ ความสามารถของคนเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะดูถูกได้เช่นกัน
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากได้ นอกจากช่วงเวลาตอนที่ค้นพบว่าฟาร์มปลาสามารถผลิตไข่มุกสีดำได้ เขาก็ไม่ได้มีความมุ่งมั่นทะเยอทะยานกับตำแหน่งทางสังคมเลย ชีวิตของคนลองคิดๆ ดูแล้วก็ไม่มีความน่าสนใจอะไรเลยจริงๆ ดิ้นรนไปดิ้นรนมาจนน่าเหน็ดเหนื่อยเกินไป แท้ที่จริงแล้วคนเราจะดิ้นรนไปเพื่ออะไรกัน? ไม่ใช่เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกพึงพอใจกับชีวิตหรอกเหรอ?
ฉินสือโอวรู้สึกว่าเขาพึงพอใจกับชีวิตในตอนนี้มากๆ แล้ว ฤดูใบไม้ผลิมีดอกไม้แดง ฤดูหนาวมีหิมะขาว ฤดูร้อนมีลมทะเล ส่วนฤดูใบไม้ร่วงมีพระจันทร์สวย มีเงินไม่ขาดสุขภาพก็แข็งแรง แถมยังมีครอบครัว มีภรรยาสาวสวยกับสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก ข้างกายมีเพื่อนที่รู้ใจอยู่หลายคน แบบนี้ยังไม่พออีกเหรอ?
ก่อนจะได้รับหัวใจโพไซดอนมา ชีวิตแบบนี้ฉินสือโอวไม่กล้าคิดฝันถึงมันเลยแม้แต่นิดเดียว!
หลังจากเออร์บักเข้าใจถึงความคิดของเขา ก็โน้มน้าวให้เขาปล่อยมันไปตามธรรมชาติ การดื่มด่ำกับความสุขของชีวิตไม่ได้หมายความว่าจะต้องหลีกหนีความเป็นไปของโลก บางเรื่องที่เป็นความรับผิดชอบของเขา เขาต้องเป็นคนแบกรับมันไว้
ฉินสือโอวได้ฟังแล้วคิดว่ามันถูกต้อง เรื่องพวกนี้คงทำได้แค่ปล่อยให้มันเป็นไป
หลังจากทานอาหารเสร็จ หวังเหล่ยกับเหยาลี่ลี่ก็เข้ามาใช้อินเทอร์เน็ตด้วยท่าทางระมัดระวัง ที่อพาร์ตเมนต์ชาวประมงก็มีอินเทอร์เน็ต ทว่าเป็นอินเทอร์เน็ตแบบใช้สายไม่มีเราท์เตอร์ไวฟายให้ ดังนั้นถ้าพวกเขาจะให้อินเทอร์เน็ตเลยต้องมาใช้ที่วิลล่า
เห็นท่าทางท่าทางหวาดกลัวของคนทั้งคู่ วินนี่ก็ยกยิ้มขึ้น เธอต้มกาแฟให้ทั้งสองคนมาหนึ่งกาแล้วพูดกับพวกเขาอย่างเป็นมิตร “พวกเธอเข้ามาเล่นที่นี่ได้ตามสบายเลยนะ บางครั้งพวกเราก็ไม่ปิดไฟห้องรับแขกตอนกลางคืน แต่ยังไงพวกเธอก็ต้องระวังเรื่องสุขภาพด้วยนะ แล้วก็ พวกเธอจะดูทีวีก็ได้ จ้องหน้าจอมือถือทำร้ายดวงตามากๆ เลยไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวยักไหล่น้อยๆ แล้วกล่าวว่า “สู้เล่นมือถือไม่ได้หรอก ทีวีมีอะไรดีตรงไหน? ไม่มีช่องทีวีภาษาจีนด้วย”
พอพูดจบเขาก็เปิดทีวีขึ้น เลือกช่องไปมามีรายการทีวีอยู่ไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่เป็นรายการทีวีของแคนาดากับอเมริกา รายการภาษาจีนไม่ว่าจะเป็นแหล่งสารสนเทศหรือการถ่ายทอดสดกลับมีอยู่น้อยนิดเท่านั้น
ตอนอยู่ที่จีน ฉินสือโอวขี้เกียจดูทีวี ถ้ามีเวลาก็เอาไปเล่นอินเทอร์เน็ตดีกว่า แต่เช่นเดียวกับที่ว่ากันว่าสูญเสียไปแล้วจึงรู้คุณค่า พอมาถึงแคนาดาเขาดันไม่อยากเล่นอินเทอร์เน็ต แต่กลับสนใจรายการทีวีภาษาจีนมากกว่า
คนจีนส่วนมากก็เป็นแบบนี้ ที่จริงการดูรายการทีวีภาษาจีนที่แคนาดาไม่ใช่เพราะอยากดูว่ารายการนั้นสนุกแค่ไหน แต่เพื่อฟังเสียงภาษาจีนกลางมากกว่า กระทั่งการฟังเสียงนี้ยังแตกต่างกับการเล่นมือถือเลย
เกาะแฟร์เวลมียอดเขาที่ยิ่งใหญ่ มีมหาสมุทรกว้างไกล มีท้องฟ้าสีคราม มีผู้คนที่สุภาพอ่อนโยน มีลมเย็นสบายผะแผ่ว มีป่าไม้สีเขียวขจี มีเสียงแมลงและนกร้อง แต่ที่ไม่มีคือเสียงเจี๊ยวจ๊าวของคนจีน
นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ฉินสือโอวพยายามผลักดันการท่องเที่ยวของเกาะแฟร์เวลกับประเทศจีน ตอนนั้นเขาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้อยากจัดการเรื่องการท่องเที่ยวขนาดนั้น ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้ว ตอนนั้นในใจลึกๆ ของเขารู้สึกไม่สบายใจนักที่มีเขาแค่คนเดียวที่เป็นคนจีนบนเกาะแฟร์เวล และตอนนี้ความรู้สึกแบบนั้นก็เริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ
ได้ยินที่ฉินสือโอวบ่น หวังเหล่ยก็มองเขาด้วยความประหลาดใจแล้วถามออกมา “พี่ฉิน พี่อยากดูรายการทีวีภาษาจีนเหรอครับ?”
ฉินสือโอวพยักหน้า ของหายากจึงมีคุณค่า แคนาดาเป็นประเทศของผู้อพยพ ถึงแม้ว่าจะมีรายการทีวีภาษาจีนแต่ก็มีอยู่น้อยเกินไป ขึ้นอยู่กับการจัดการ เนื่องจากกำลังสำคัญคือรายการภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศส ต่อจากนั้นก็มีรายการภาษาสเปน ภาษาเยอรมัน ภาษารัสเซีย ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเกาหลีให้ดู
หวังเหล่ยดีดนิ้วหนึ่งครั้ง เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้ พี่ฉิน เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเถอะ แค่รายการภาษาจีนใช่ไหมครับ? เรื่องกล้วยๆ ! ก็แค่เวลาของพวกเราต่างกับที่จีนอยู่ เลยดูรายการดีๆ ของช่วงไพร์มไทม์ไม่ได้”
เรื่องนี้ไม่สำคัญอะไร ได้ฟังเสียงภาษาจีนก็พอแล้ว ตอนนี้ฉินสือโอวชอบฟังละครสั้นตลกๆ มาก เขาไม่ค่อยสนใจศิลปะชั้นสูงอย่างภาพสีน้ำมัน รูปปั้นหรือคอนเสิร์ตอะไรพวกนั้นเท่าไรนัก เขาชอบความสนุกอย่างง่ายๆ มากกว่า
หวังเหล่ยกลับไปหยิบของที่คล้ายๆ กันกับยูเอสบีแฟลชไดรฟ์มาอันหนึ่ง เขาเสียบมันเข้าไปกับคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มติดตั้งโปรแกรมลงไป ต่อจากนั้นจึงเสียบมันเข้ากับช่องเสียบยูเอสบีของทีวีติดผนังซูเปอร์แอลซีดีที่มีขนาดใหญ่กว่าร้อยนิ้วในห้องรับแขกแล้วพูดขึ้นมา “ตอนนี้สามารถรับรายการทีวีได้บางส่วนแล้ว แต่ถ้าอยากได้ความชัดสูงต้องซื้อจานมาหนึ่งอัน เดี๋ยวผมจะช่วยพี่รวมสัญญาณเอง ถึงตอนนั้นแม้กระทั่งช่องทีวีมณฑลก็รับได้”
“จาน?” วินนี่ถามขึ้นมาด้วยความสนอกสนใจ
ฉินสือโอวเข้าใจที่หวังเหล่ยพูด จึงบอกกับเธอว่า “มันคือเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมนั่นล่ะครับ มันเหมือนกับจานเลยใช่ไหมล่ะ? นั่นเป็นชื่อเล่นของมันน่ะ”
เป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาเปิดทีวีขึ้น หวังเหล่ยช่วยเขาปรับดูแล้ว ช่องที่ได้มีช่องแมงโก้ทีวี กำลังฉายรายการบันเทิงที่ไม่ตลกเลยแม้แต่นิดเดียว ทว่าฉินสือโอวดูไปสักพักก็หัวเราะออกมา น่าสนใจจริงๆ แหละ
หลังจากนั้นฉินสือโอวก็ปรับเสียงให้พอดีแล้วหยิบไอแพดออกมาเริ่มเล่นเกม อืม ฟังภาษาจีนไปพร้อมกับเล่นเกมก็ได้อารมณ์เหมือนกัน
หวังเหล่ยรู้สึกดีใจมากที่ได้ช่วยฉินสือโอวได้ เขารู้สึกกระตือรือร้นมากๆ วันต่อมาเขากับเหยาลี่ลี่จึงไปที่นครเซนต์จอห์นเพื่อซื้อเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมมาหนึ่งอัน พอเอากลับมาแล้วก็ใช้เวลาปรับอีกครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็สามารถรับสัญญาณช่องทีวีจีนได้เยี่ยมยอดมากๆ แล้ว ภาพก็มีความชัดสูงด้วย
ชาร์คกับคนอื่นๆ ที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ต่างพากันส่ายหัวทันที “นี่ผิดกฎหมายนะ แอบเข้าถึงสถานีโทรทัศน์ต่างประเทศแถมไม่ได้จ่ายตังค์ นี่เรียกว่าละเมิดสิทธิกับผลประโยชน์ของช่องทีวีเลย”
หวังเหล่ยเกาะหัวแกรกๆ ด้วยความรู้สึกผิด ฉินสือโอวบอกเขาว่าไม่ต้องไปฟังที่หมอนี่พูดไร้สาระ เขาพอใจจะทำแบบนี้ไง? นี่คืออาการคิดถึงบ้าน ไม่เกี่ยวอะไรกับเงินทอง ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องอะไรกันกับเรื่องผลประโยชน์
หลังจากฉินสือโอวเดินออกไปแล้ว ชาร์คกับคนอื่นๆ ก็เข้ามาล้อมหวังเหล่ยไว้ นักศึกษานึกว่าการกระทำของตัวเองไปยั่วยุชาวประมงที่รู้กฎหมายพวกนี้เข้า แต่ชาวประมงพวกนี้กลับถามเขาเสียงเบาว่า “ช่องทีวีเที่ยงคืน ช่องทีวีเที่ยงคืนของอเมริกานายทำได้ไหม?”
………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset