ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 651 ทัศนียภาพฟาร์มเกษตร

หลังจากที่ฉินสือโอวตื่นแล้ว พอดูโทรศัพท์ก็เห็นว่าเป็นเวลาหกโมงตรงพอดี เขาอดที่จะหัวเราะเจื่อนๆ ออกมาไม่ได้ ให้ตาย นาฬิกาชีวภาพนี่มันสุดยอดไปเลยจริงๆ!
มองไปรอบๆ อีกครั้ง เขาก็พบว่านี่เป็นห้องนอนธรรมดาๆ เตียงไม้ต่อเอง พื้นบ้านทำมาจากไม้ซุง ผ้าม่านปักลายดอกไม้กับตู้ข้างเตียงสไตล์เก่าๆ อีกทั้งข้างบนตู้ข้างเตียงยังมีน้ำแร่อยู่หนึ่งขวด กลิ่นอายความเป็นครอบครัวเด่นชัดมาก
เมื่อตื่นขึ้นมาหลังจากเมาเหล้าหนัก ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าปากตัวเองขมฝาดมาก เขาจึงคว้าน้ำแร่มาดื่มลองดื่มไปสองอึก หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปอาบน้ำร้อนในห้องน้ำเพื่อล้างเอากลิ่นแอลกอฮอล์ที่ยังติดอยู่ออกไปจากตัว เช่นนี้หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็เดินออกไปแล้วกลับมารู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง
ฉินสือโอวดึงประตูออก เงาของคนที่ยืนอยู่นอกประตูทำให้เขาตกใจจนตัวโยน พอสังเกตดูดีๆ ก็เห็นว่าเป็นเบิร์ดนั่นเอง เขาจึงถามออกไปด้วยความเก้อเขิน “เพื่อน นายมายืนอยู่หน้าประตูทำไม?”
เบิร์ดยักไหล่ เขากล่าวว่า “ผมคิดว่าคุณเมาแล้ว และอาจจะต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย ดังนั้นผมก็เลยรออยู่ด้านนอกรอดูว่าคุณจะมีคำสั่งอะไรไหม”
สำหรับคนที่ละเอียดรอบคอบและมีความอดทนแบบเบิร์ด นอกจากคำชมเชยฉินสือโอวก็ไม่มีอะไรที่จะเอามาวิจารณ์ได้แล้วจริงๆ เขาตบไหล่เบิร์ดแล้วพูดกับอีกฝ่าย “นายเป็นคนดี ขอบคุณนายมาก แต่ต่อไปไม่ต้องทำแบบนี้แล้วนะ เวลาทำงานฉันเป็นบอสของนาย แต่พอเสร็จงานแล้วพวกเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน นายไม่ต้องบริการฉันหรอก”
บนใบหน้าของเบิร์ดปรากฏรอยยิ้มที่พบเห็นได้น้อยครั้ง เขาพูดออกมา “ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพื่อนกัน ผมจะมาดูแลคุณทำไมกันล่ะ?”
เขาหยุดไปพักหนึ่งแล้วพูดขึ้นมาอีก “ที่สำคัญคือเมื่อคืนผมค่อนข้างรู้สึกกลัว บอส คุณบ้าไปแล้วจริงๆ พระเจ้าช่วย ผมนึกว่าคุณเล่นยาซะอีก! ระหว่างทางกลับคุณถึงกับชักขึ้นมาเลยนะ ผมกลัวคุณจะเป็นอะไรไปจริงๆ ถ้าเป็นแบบนั้นผมจะไปหาบอสแบบคุณได้จากที่ไหนอีกล่ะ?”
ฉินสือโอวกะพริบตาปริบๆ อย่างทึ่มๆ เขากำลังคิดว่าคำพูดพวกนี้ของเบิร์ดมันไม่ถูกต้องตรงไหน ถึงแม้ว่าจะห่วงใยเขาจนเขารู้สึกซึ้งใจมาก แต่เขารู้สึกว่าที่เบิร์ดพูดมามันไม่ถูกต้องเท่าไรนัก…
พอออกมาพ้นประตู ฉินสือโอวก็รู้แล้วว่าตัวเองอยู่ที่ไหน นี่คือตึกหลังเล็กในฟาร์มของเหมาเหว่ยหลง แน่นอนว่าจะเรียกว่าวิลล่าก็ได้ ถึงยังไงบ้านในชานเมืองที่แคนาดาก็เป็นแบบเดียวกันทั้งนั้น พื้นที่กว้างใหญ่ มีวัสดุไม้มาก เรียบง่ายคลาสสิค
ครอบครัวของเหมาเหว่ยหลงยังไม่พากันตื่นขึ้นมา ฉินสือโอวเดินออกมาจากตึกเล็ก ครั้งที่แล้วเขาเคยเข้ามาดูแล้ว เขาค่อนข้างประทับใจกับการจัดวางของฟาร์มเกษตรจึงเดินไปดูรอบๆ ตามอัธยาศัย
ตึกหลังเล็กเป็นอาคารเดี่ยว บริเวณรอบๆ คือสนามหญ้าสีเขียวสด ในจุดที่ไกลออกไปหน่อยก็ปลูกต้นบีชอเมริกาเหนือสูงใหญ่เอาไว้หนึ่งต้น มันเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยในลานบ้านที่อเมริกาเหนือ
ต้นบีชต้นนี้สูงประมาณสิบกว่าเมตร กิ่งไม้แผ่ออกกว้าง แมกไม้ผลิบานออกรอบด้าน จนดูเหมือนกำลังกางร่มคันใหญ่ไว้ในสวน ดูก็รู้ว่าเจ้าของฟาร์มเกษตรคนก่อนค่อนข้างจะดูแลทะนุถนอมต้นไม้ต้นนี้ เปลือกไม้สีเทาอมเหลืองทั้งเรียบเกลี้ยงและแข็ง ใบไม้เป็นสีเขียวสว่างมันวาว ในช่วงนี้บนต้นไม้ก็มีดอกไม้ดอกเล็กๆ บานอยู่บางส่วน สีเหลืองอ่อนออกขาวเล็กน้อย ลู่ไปตามลมที่พัดมาบางเบาพร้อมส่งกลิ่นหอมสดชื่น
ฉินสือโอวก้าวเท้าอย่างสบายๆ เดินไปที่ใต้ต้นบีช เขาลูบคลำลำต้นขณะที่ในใจก็กำลังคิดว่าหรือเขาจะกลับไปปลูกต้นไม้ชนิดนี้ไว้ในสวนบ้าง
ต้นบีชมีทัศนียภาพที่ไม่เลวเลย อีกทั้งยังมีประโยชน์ใช้สอยอยู่มาก ท่อนไม้สามารถจมอยู่ในน้ำได้นานโดยที่ไม่ผุเปื่อย สามารถนำมาทำเป็นเครื่องใช้ เครื่องประดับตกแต่งภายในและด้ามจับของอุปกรณ์ รวมไปถึงเคาน์เตอร์วางของด้วย นอกจากนี้แล้วต้นไม้ชนิดนี้ยังออกผลเป็นเมล็ดถั่วที่สัตว์หลากหลายชนิดต่างก็ชอบกินกันทั้งนั้น
ด้านหลังตึกเล็กมีห้องแถวเรียงต่อกันอยู่ หลักๆ คือห้องเก็บเครื่องจักรยนต์ ห้องเก็บของกระจุกกระจิก กับโรงจอดรถ นอกจากนี้ทั้งสองฝั่งของตัวอาคารก็ยังมีฉางข้าวทรงกระบอกธนูขนาดใหญ่สองอันที่ตั้งแยกกันอยู่ทั้งสองฝั่ง ต่อไปถ้าเก็บเกี่ยวธัญญาหารแล้วก็เอามาใส่ไว้ข้างในก็พอ
บริเวณรอบๆ ฟาร์มเกษตรเป็นป่าไม้ผืนเล็กหนึ่งผืน บริเวณรอบๆ ฟาร์มเกษตรในแฮมิลตันไม่สามารถใช้ลวดเหล็กหรือรั้วไม้มาล้อมฟาร์มไว้ได้ เจ้าของฟาร์มจึงต่างพากันปลูกต้นไม้ขนาดเล็กไว้รอบๆ พอมันโตขึ้นแล้วก็จะสามารถตัดไปขายได้ โดยทั่วไปจะช่วยสร้างสภาวะแวดล้อมสีเขียวได้ด้วย
ฉินสือโอวเดินไปอีกไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นกระต่ายป่าสีเทาสองตัวก็กระโดดออกมาจากพื้นที่เพาะปลูก ตัวหนึ่งอยู่หน้าส่วนอีกตัวอยู่หลังและกำลังวิ่งเข้ามาถึงด้านหน้าฉินสือโอว หลังจากเงยหน้าพินิจพิเคราะห์เขาอยู่สักครู่ พวกมันก็ไม่ได้รู้สึกกลัวเขา พวกมันกระดิกหูใบใหญ่ไปมา จากนั้นก็วิ่งออกไปอย่างช้าๆ
ภาพแบบนี้ทำให้ฉินสือโอวถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ชีวิตในฟาร์มเกษตรก็ไม่เลวเหมือนกันนะ
เหมาเหว่ยหลงนอนจนตะวันโด่งฟ้าถึงเพิ่งจะลุกขึ้นมา พอมองเห็นฉินสือโอวที่ดูกระปรี้กระเปร่าเขาก็หาวแล้วพูดออกมา “สุดยอด สุขภาพของนายตอนนี้ดีกว่าตอนเรียนมหา’ลัยอีกอะ ส่วนฉันน่ะไม่ไหวแล้ว”
ฉินสือโอวกลอกตาใส่แล้วพูดกับเขา “นายก็ดูสิว่าแต่ละวันฉันทำอะไรบ้าง? ทั้งวิ่ง เล่นบาส วิ่งถ่วงน้ำหนัก ว่ายน้ำ โต้คลื่น ร่างกายของฉันจะไม่สุดยอดได้ยังไง? ส่วนนายน่ะเหรอ? ตอนอยู่ที่จีนก็เที่ยวกลางคืนทุกวัน ใช้ชีวิตสำมะเลเทเมา ร่างกายยังไม่ทรุดโทรมก็ดีแค่ไหนแล้ว”
เหมาเหว่ยหลงรู้ข้อบกพร่องของตัวเองดี เขาจึงพยักหน้าแล้วพูดออกมา “ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้ฉันคงต้องตื่นมาออกกำลังกายแต่เช้าแล้วล่ะ สภาพแวดล้อมของฟาร์มนี้ดีสุดๆ เลย ไม่ได้ด้อยไปกว่าฟาร์มปลาของแกเท่าไร ออกกำลังกายตอนเช้าน่าจะมีกำลังดีเหมือนกัน”
ทั้งคู่พากันนั่งลง ต่อจากนั้นโอวหยางไห่ก็เดินตามเข้ามา หลังจากตื่นนอนเขาก็ออกไปเดินเล่นมาก่อนแล้วรอบหนึ่ง
หลิวซูเหยียนไปชงกาแฟมาหนึ่งกาแล้วนำมารินให้กับพวกเขา ชาวแคนาดาชอบดื่มกาแฟตอนเช้า มันทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากนี้แคนาดายังมีอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการดื่มกาแฟร้อนๆ จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาได้
โอวหยางไห่ดื่มกาแฟเข้าไปหนึ่งอึก เขาพิงเก้าอี้อย่างสบายใจแล้วพูดขึ้นมา “เมื่อกี้ฉันเห็นกระต่ายจากข้างนอกอยู่หลายตัวเลย ถ้ามีเวลานายก็จัดการหน่อยแล้วกัน ดูท่าว่าช่วงนี้เจ้าของฟาร์มคนก่อนจะไม่ได้จัดการอะไรไว้เลย”
“มีกระต่ายสิถึงจะดี แปลว่าสภาพแวดล้อมดีใช่ไหมล่ะ แถมยังเอามากินได้ด้วย” ฉินสือโอวพูดอย่างหยอกเย้า ที่จริงแล้วเขารู้ว่าฟาร์มเกษตรกับฟาร์มปลาแตกต่างกัน ที่นี่ต้องป้องกันสัตว์ป่าจำพวกกระต่ายป่า กวางป่า หนูกับหมูป่าไว้ให้ดี พวกมันไม่เพียงแต่จะทำลายธัญพืชให้เกิดความเสียหาย แต่ยังมีการแพร่พันธุ์ที่ดีมากด้วย ถ้าพวกมันตั้งรกราก หลังจากนั้นคงเกิดวุ่นวายขึ้นแน่
ภารกิจหลักของเหมาเหว่ยหลงในปีนี้ไม่ใช่การเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่เป็นการสืบเสาะศึกษาว่าจะทำยังไงถึงจะกลายเป็นเจ้าของฟาร์มเกษตรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม นอกจากนี้ทางตอนเหนือของฟาร์มมาเธอร์เอิร์ธยังมีที่ดินรกร้างอยู่อีกหนึ่งผืน พวกสัตว์ป่าจึงพากันมุดเข้ามาจากตรงนั้น เขาต้องคิดหาวิธีจัดการกับพวกมันด้วย
ที่ดินรกร้างผืนนั้นไม่ได้อยู่ในฟาร์มเกษตรของเหมาเหว่ยหลง ดังนั้นเขาจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปขุดมัน แคนาดาไม่เหมือนกับจีน ที่นี่มีการควบคุมสิทธิ์การใช้ที่ดินที่เคร่งครัดมาก พื้นที่เพาะปลูกของจีนสามารถยึดครองพื้นที่ดินรัฐทั้งหัวท้าย ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของคันนาได้ แต่ที่แคนาดาทำแบบนั้นไม่ได้ หลังจากร่างโครงการออกมาแล้ว จะไม่สามารถรุกล้ำออกไปได้อีก
นอกจากนี้โอวหยางไห่ยังได้วิเคราะห์ให้เหมาเหว่ยหลงฟังด้วยว่า ฟาร์มเกษตรของเขาผืนนี้ถ้าพูดโดยรวมก็ถือว่าไม่เลว แต่ยังมีข้อเสียอยู่หนึ่งอย่าง นั่นก็คือฟาร์มเกษตรของเขาไม่มีสระน้ำ มีแค่เครื่องปั๊มน้ำ
ผลิตผลทางการเกษตรต้องการการทดน้ำจากใต้ดินปริมาณมาก เครื่องปั๊มน้ำสามารถรับภาระข้อนี้ได้ แต่ถ้าใช้สระน้ำหรือทะเลสาบเล็กๆ ก็จะดียิ่งกว่า ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น เอาแค่เลี้ยงปลาน้ำจืดไว้ข้างในก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว
แต่ถึงอย่างไรฟาร์มมาเธอร์เอิร์ธก็มีพื้นที่น้อยอยู่แล้ว ไม่มีสระน้ำก็เป็นเรื่องปกติ โอวหยางไห่จึงแนะนำให้เหมาเหว่ยหลงลองศึกษาผลิตผลทางการเกษตรบางส่วนดูว่าอันไหนที่เขาปลูกได้ อันไหนที่เขาปลูกไม่ได้ ถ้าปลูกไม่ไหวก็ค่อยเลือกพื้นที่มาขุดเป็นสระน้ำ นำมาใช้สำหรับรดน้ำจะเหมาะสมยิ่งกว่า แล้วหลังจากนี้จะได้เลี้ยงปลาเลี้ยงกุ้งกับเป็ดไก่อะไรพวกนั้นด้วย
ตอนที่โอวหยางไห่ให้คำแนะนำกับเหมาเหว่ยหลง ฉินสือโอวก็นั่งฟังอยู่ด้วย เขายังมีเงินสดสำรองอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่ได้บุกเบิกฟาร์มปลาแห่งใหม่แล้ว ก็คงซื้อฟาร์มเกษตรมาลงทุนสักที่ พอได้เห็นฟาร์มเกษตรของเหมาเหว่ยหลง เขารู้สึกว่ามันไม่เลวเลยเหมือนกัน
ถ้าไม่ได้มีงานอะไร ฉินสือโอวคงพักอยู่ที่นี่อีกหลายๆ วัน แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นวินนี่ก็โทรศัพท์มาหา บอกว่ามีคนญี่ปุ่นมาเยี่ยมเขา ให้เขากลับไปหาหน่อย
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset