ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 653 ไม่ร่วมมือด้วย

เมื่อได้ยินที่บัตเลอร์บอกและมองดูสีหน้าท่าทางที่ดูกล้ำกลืนเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมของเขา ฉินสือโอวก็เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ แก้ไขความเข้าใจผิดอะไรกัน? เขาได้รับความไม่เป็นธรรมอะไรจากที่นี่?
ที่จริงแล้วบัตเลอร์เป็นคนเฉลียวฉลาดและเจนโลกมาก ถึงได้ตั้งตัวเป็นใหญ่ในตลาดปลาฟูลตันของนิวยอร์กได้ พอเห็นสีหน้าของฉินสือโอว เขาก็รู้แล้วว่าเจ้าหมอนี่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ไปแล้ว จึงรีบเตือนความจำเขา “ชาลส์ มอลลี่ไงเพื่อน ไอ้มอลลี่ที่หน้าเหมือนกองขี้หมานั่นไง!”
ฉินสือโอวชะงักงันไปทันที ชาลส์ มอลลี่ ลูกชายคนที่สามของตระกูลมอลลี่ที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมการประมงรัฐนิวยอร์ก ก่อนหน้านี้เจ้าหมอนั่นมาหาเขาเพื่อจะร่วมมือกันจับปลาทูน่า แต่โดนเขาปฏิเสธไป อีกทั้งในตอนนั้นเขายังคิดว่าคนที่ปล่อยข่าวเรื่องปลาทูน่าในฟาร์มปลาของเขาคือบัตเลอร์
ได้ยินชื่อ ‘ชาลส์ มอลลี่’ ท่าทางลุกลี้ลุกลนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนิชิมุระ เร็นอยู่แวบหนึ่ง ส่วนเทซึกะ โกดะก็ดึงหน้าตึง เส้นเลือดดำบนหน้าผากของเขาเริ่มเต้น ‘ตุบๆๆ’
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฉินสือโอว เทซึกะ โกดะก็ลุกขึ้นยืนแล้วโค้งคำนับให้เขาอีกครั้งพร้อมพูดเสียงดัง “ขอโทษจริงๆ ครับ ฉินซัง! เป็นที่น่าละอายจริงๆ ที่เรากลับมีคนทรยศแบบนี้อยู่เสียได้ สำหรับเรื่องที่เขาทำความลับทางการค้าของเรารั่วไหล ผมรู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด ผมจะต้องให้คำอธิบายกับคุณได้แน่ๆ ครับ!”
พอพูดจบเทซึกะ โกดะก็หันกลับไปจ้องนิชิมุระ เร็นเขม็งก่อนโบกมือฟาดลงไปบนหน้าของนิชิมุระ เร็นอย่างรุนแรงจนเขาถึงกับเซ ทว่านิชิมุระ เร็นก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา หลังจากถูกตบเขาก็ยังก้มหน้าตะโกนว่า ‘ไฮ่’ อยู่
“บากะ! (ไอ้โง่) นิชิมุระคุง! ชาลส์ มอลลี่รู้เรื่องที่ปลาทูน่าในฟาร์มปลาของฉินซังได้ยังไงกัน?!” เทซึกะ โกดะตบนิชิมุระ เร็นอย่างแรงจนหมุนเป็นลูกข่าง ปากก็แผดเสียงคำรามไม่หยุด “นี่เป็นเรื่องที่บัตเลอร์บอกแค่ฉัน แล้วฉันก็เคยพูดถึงมันครั้งเดียวตอนงานเลี้ยงที่บ้าน ตอนนั้นมีแค่นายคนเดียวที่อยู่ข้างๆ …บากะ!”
“เพี๊ยะๆๆ!”
ฉินสือโอวอดแสยะปากไม่ได้ ว้าว ตอนเป็นเด็กเทซึกะ โกดะคงจะเป็นนักตีลูกข่างมือดีแน่ๆ สะบัดฝ่ามือแบบนี้ คงจะปั่นแบบพายุทอร์นาโดเลยใช่หรือเปล่านะ?
ทว่าเขาไม่อยากเห็นเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงนิชิมุระ เร็น แต่เทซึกะ โกดะนี่หมายความว่ายังไง? ใช้ความรุนแรงต่อหน้าเขาเนี่ยนะ? ขอโทษนะ แต่ตอนนี้เขารบกันทางเครื่องบินแล้ว ยุคของการต่อสู้แบบตัวต่อตัวมันสิ้นสุดไปแล้ว
ฉินสือโอวกระแอมไอ เขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกล่าวออกมา “ผมเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มิสเตอร์เทซึกะ รบกวนคุณหยุดทำเถอะครับ”
เซอร์ไอแซก นิวตันกล่าวว่าแอคชั่นเท่ากับรีแอคชั่น เทซึกะ โกดะสะบัดฝ่ามือแบบนี้ นิชิมุระ เร็นจึงถูกตบจนน่าเวทนามากจริงๆ ทว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้หนีไปไหน ฉินสือโอวคิดว่าพอกลับไปเขาคงต้องทายาขาวยุูนนานแล้วล่ะ
พอฉินสือโอวเอ่ยปาก เทซึกะ โกดะจึงอาศัยจังหวะนี้หยุดมือของเขาแล้วลงจากเวที เขามองไปที่ฉินสือโอวแล้วพูดออกมา “ขอโทษจริงๆ ครับ ฉินซัง หลังจากที่ผมรู้จากบัตเลอร์ซังว่าตระกูลมอลลี่รู้ข่าวว่าฟาร์มปลาของคุณมีปลาทูน่าครีบน้ำเงินอยู่ ผมก็ตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ตลอด สุดท้ายจึงตรวจเจอว่าไอ้คนชั่วนิชิมุระ เร็นเป็นฝ่ายทรยศพวกเรา…”
ฉินสือโอวโบกมือขัดคำพูดของเทซึกะ โกดะ ทำแบบนี้ไม่มีมารยาทมากๆ แต่เขารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องเลยนี่หว่า คำว่า ‘พวกเรา’ ของเทซึกะ โกดะหมายถึงใครกับใครที่เป็น ‘พวกเรา’ เหรอ?
เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ควรพูดออกมาอย่างชัดแจ้ง ฉินสือโอวจึงทำได้แค่พูดเรื่องอื่นแทน “มิสเตอร์เทซึกะ ที่จริงคุณคิดมากไปแล้วล่ะครับ ข้อมูลนี้มันไม่มีอะไรเลย ปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้เป็นของฟาร์มปลาที่ใดที่หนึ่ง พวกมันเป็นปลาที่ว่ายน้ำท่องไปทั่วโลก ผมยอมรับว่าบางทีก่อนหน้านี้พวกมันอาจจะเคยปรากฏตัวขึ้นในฟาร์มปลาของผม แต่จากที่ผมค้นหาในฟาร์มปลาตอนนี้ ก็หาพวกมันไม่เจอแล้วล่ะครับ”
“บางทีอาจจะไปที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ หรืออาจจะไปที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จ?” บัตเลอร์ช่วยพูดเสริม
เทซึกะ โกดะยิ้มแหยๆ ถึงจะไม่ได้พูดว่าไม่เชื่อ ทว่าสีหน้าบนใบหน้าชราก็เขียนไว้อย่างชัดแจ้งว่า ‘ข้าไม่ได้หลอกได้ง่ายๆ หรอกนะ’
ฉินสือโอวขี้เกียจพูดอะไรมาก จึงพูดออกไปอย่างเรียบๆ “ถ้าไม่เชื่อ มิสเตอร์เทซึกะจะเอาโซนาร์ตรวจหาปลาพลังสูงมาลองค้นฟาร์มปลาผมดูก็ได้”
เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ถูกเรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์ค้นพบร่องรอย ฉินสือโอวจึงออกคำสั่งปลาฝูงนี้ไปตั้งนานแล้ว นอกจากตอนล่าอาหาร เวลาอื่นต้องดำน้ำลงไปอยู่ติดกับใต้ท้องท้องทะเล ไม่อนุญาตให้ว่ายน้ำขึ้นไปที่ชั้นน้ำระดับกลางกับระดับบน
เทซึกะ โกดะพูดยิ้มๆ “ฉินซังพูดหนักไปแล้ว ผมจะไม่เชื่อคุณได้ยังไงกันล่ะ? อีกอย่าง ที่ผมมาครั้งนี้ก็ไม่ใช่เพราะปลาทูน่า แต่เป็นเพราะผมอยากจะร่วมมือกับคุณบุกเบิกตลาดอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉิน!”
ฉินสือโอวกัดฟันขบเหงือกมองไปที่บัตเลอร์ เพื่อนเอ้ย ทำไมปากนายถึงได้กว้างขนาดนี้กันนะ?
พอบัตเลอร์เห็นสีหน้าของเขาก็เอามือถูเป้ากางเกงต่อไม่ได้แล้ว เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้หูของฉินสือโอวแล้วพูดเสียงเบา “เพื่อน พวกเราเริ่มงานโฆษณาไปตั้งนานแล้วโอเคไหม? อาหารทะเลต้าฉินแพร่ขยายไปสู่ตลาดอาหารทะเลขนาดใหญ่หลายแห่งแล้ว เรื่องนี้จะโทษฉันได้เหรอ?”
ฉินสือโอวลองคิดดูแล้วก็เห็นว่าจริง นี่เขาสงสัยบัตเลอร์จนติดเป็นนิสัยแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่กำลังรอคอยอย่างคาดหวังของเทซึกะ โกดะ ฉินสือโอวก็หัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมา “ไม่มีปัญหาครับ มิสเตอร์เทซึกะ ถ้าหากอาหารทะเลของเราจะขึ้นฝั่งตลาดประเทศญี่ปุ่น ผมจะติดต่อคุณไปแน่ๆ สำหรับตอนนี้ ฮ่าๆ อาจจะยังไม่เหมาะสักเท่าไร ฟาร์มปลาของผมมีผลการเก็บเกี่ยวอยู่อย่างจำกัด ยังห่างไกลกับการส่งขายให้ทั่วพื้นที่อเมริกาเหนืออยู่เลย ดังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเอเชียตะวันออกเลยครับ”
นี่ไม่ใช่คำพูดเหลวไหล บัตเลอร์เองก็ผงกหัวเห็นด้วยเหมือนกับลูกไก่ เขาเข้าใจความน่ากลัวของปริมาณการบริโภคของตลาดอาหารทะเลในอเมริกาเหนือดียิ่งกว่าฉินสือโอวเสียอีก
เทซึกะ โกดะไม่ยอมแพ้ เขาเคยชิมอาหารทะเลของฟาร์มปลาต้าฉินมาก่อนถึงได้มาที่นี่ ในฐานะที่เป็นผู้ค้าอาหารทะเลที่มีคุณวุฒิ เขารู้มูลค่าที่ซ่อนอยู่ด้านในฟาร์มปลาของฉินสือโอวดีกว่าเจ้าตัวเสียอีก!
เพื่อที่จะคว้าสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายของฟาร์มปลาต้าฉินในญี่ปุ่น เทซึกะ โกดะจึงพยายามอย่างสุดกำลัง เขาเสนอเงื่อนไขสารพัดอย่าง คาดว่าถ้ามีลูกสาวก็คงเสนอให้มาเป็นเมียน้อยของฉินสือโอวไปแล้ว แน่นอนว่าพอมองหน้ารูปช้อนใส่รองเท้าของเขา คุณท่านฉินก็คงไม่ค่อยจะพอใจนัก
สรุปแล้ว สุดท้ายทั้งการพูดคุยของทั้งสองฝั่งก็ล่มไม่เป็นท่า
เทซึกะ โกดะนึกว่าที่ฉินสือโอวไม่อยากร่วมมือกันเป็นเพราะเชื้อชาติของเขา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฉินสือโอวแค่รู้สึกว่าตอนนี้เขายังไม่ได้วางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดเอเชีย ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาจะต้องรีบหาหุ้นส่วนไว้เร็วขนาดนี้ด้วยล่ะ? การรักษาความสัมพันธ์กับการแบ่งกำไรมันวุ่นวายมากเข้าใจไหม?
มารยาทของคนญี่ปุ่นต่อหน้าคนอื่นไม่ใช่เรื่องคุยโว ถึงแม้จะมาเสียเที่ยวแล้วหนึ่งรอบ ทว่าตอนที่เทซึกะ โกดะกำลังจะกลับใบหน้าของเขาก็ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แถมยังบอกฉินสือโอวอย่างนอบน้อมและจริงใจว่าถ้ามีเวลาว่างก็ให้เขาไปเป็นแขกที่โตเกียวอีก
ฉินสือโอวยิ้มและตอบรับเขาไป หลังจากนั้นก็พาพวกเทซึกะ โกดะไปส่ง แต่เขากลับเห็นนิชิมุระ เร็นยืนอยู่ในห้องรับแขกคนเดียวจึงพูดขึ้นมา “มิสเตอร์เทซึกะ ทำไมคุณถึงไม่พามิสเตอร์นิชิมุระไปด้วยล่ะครับ?”
เทซึกะ โกดะพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ผมไล่เขาออกแล้ว! บริษัทร่วมทุนคิโยมุระจะไม่จ้างขยะสังคมและคนคุณภาพย่ำแย่ขนาดนี้มาเป็นพนักงานเด็ดขาด!”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ใบหน้าของนิชิมุระ เร็นก็เหมือนถูกตอกหน้าอย่างจัง เรียกได้ว่าขาวซีดอย่างสิ้นหวังเลยทีเดียว
ในแวดวงอาชีพของญี่ปุ่น ถ้ามีคนถูกจำกัดความว่าเป็นคนคุณภาพย่ำแย่ ถ้าอย่างนั้นก็นับว่าเขาถูกทำลายจากแวดวงอาชีพนั้นไปแล้ว ต่อจากนี้จะไม่มีใครจ้างงานเขาอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งสำคัญเลย
พวกเขาไม่ใส่ใจนิชิมุระ เร็น เทซึกะ โกดะกับคนอื่นๆ จากไปอย่างไม่ลังเล รอจนพวกเขาไปแล้ว ฉินสือโอวก็รินชาร้อนๆ ให้เขาด้วยความสงสาร ไม่ว่าจะพูดยังไงในตอนนั้นเด็กหนุ่มก็เคยต้อนรับเขากับวินนี่อย่างมีไมตรี
สองมือถือชาร้อนที่ฉินสือโอวยื่นให้เอาไว้ แต่ทันใดนั้นลูกผู้ชายอย่างนิชิมุระ เร็นก็ร้องไห้จ้าออกมา “ฉินซัง! ขอให้คุณเชื่อผมเถอะครับ! เรื่องที่เกี่ยวข้องกับฟาร์มปลาของคุณ! ผมไม่เคยพูดให้ใครฟังมาก่อนเลย! พี่สาวคนเดียวของผมก็ไม่รู้เรื่องนี้! ผมไม่เคยพูดแม้กระทั่งเรื่องของคุณกับวินนี่ซังเลยด้วยซ้ำ!”
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset