ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 662 ดื่มเครื่องดื่มหนึ่งแก้วช่างยากเย็น

เมื่อดูซีรีส์อเมริกาก็จะรู้ว่า บ้านทางแถบอเมริกาเหนือไม่ได้สร้างเหมือนที่จีนที่เริ่มจากตอกเสาเข็มแล้วใช้อิฐค่อยๆ ก่อขึ้นมาทีละขั้น แต่เป็นการเอาผนังกับหลังคามาประกอบต่อเข้าด้วยกัน สามารถใช้รถลากลากไปได้ทุกที่
จริงๆ แล้วบ้านชนิดนี้จะมีไม่เยอะ เพราะมันก็เป็นเหมือนแบบขยายของบ้านกระท่อมเล็กที่ประกอบเข้าด้วยกันแบบนี้ คนที่เล่นบ้านประกอบขนาดใหญ่ถ้าไม่ใช่คนรวยก็เป็นคนจนไปเลย เหตุผลคิดว่าทุกคนคงจะเข้าใจ ประการแรกก็คือไว้เพื่อเล่นจริงๆ ส่วนอีกประการหนึ่งก็สำหรับการย้ายบ้านบ่อยๆ เพราะต้องเปลี่ยนที่ทำงาน
อย่ามองแค่ว่าบ้านกระท่อมเล็กพวกนี้ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนขนาดใหญ่หลายชิ้น แต่โครงสร้างของบ้านทั้งแข็งแรงและเบา ฉินสือโอวมองดูแล้วชิ้นส่วนของบ้านแต่ละชิ้นไม่ใช่ไม้ทั้งหมด แต่ยังมีที่เป็นเหล็กล้วนและโครงสร้างที่เป็นเหล็กเบาแบบปิดทึบด้วย
โครงสร้างพวกนี้ล้วนเป็นโครงสำหรับบ้านกระท่อมนี้ ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านลมต้านแผ่นดินไหวรวมไปถึงต้านแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม พอใส่ล้อเข้าไปก็กลายเป็นรถบ้านฉบับคนจนเรียบร้อย
ส่วนประกอบของบ้านกระท่อมเป็นการออกแบบแบบบูรณาการ นอกจากผนังจะเป็นโครงเหล็กเบาแบบปิดทึบแล้วยังมีผนังแบบคอมโพสิตด้วย
ผนังพวกนี้มีความประณีตละเอียดมาก ประกอบไปด้วยส่วนชั้นด้านใน ชั้นกันชื้น ฉนวนกันร้อน ชั้นโครงสร้างและชั้นผิวภายนอก ซึ่งแน่นอนว่าพวกนี้ฉินสือโอวต้องช่วยเด็กๆ ในการประกอบให้สำเร็จ
แค่ผนังคอมโพสิตก็ยุ่งยากมากแล้ว ฉินสือโอวถูไปที่ขมับตัวเองแล้วก็มองไปที่ส่วนประกอบต่างๆ อย่าง แผ่นไม้ปูพื้น กระเบื้องปูพื้น สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ โคมไฟ สายไฟ สายเคเบิล ช่องรับสายโทรศัพท์และสายอินเทอร์เน็ต เขารู้สึกได้เลยว่ายังมีความวุ่นวายยุ่งยากอีกมาก
“แม่งเอ๊ย ฉันถูกหลอกแล้ว!” ฉินสือโอวทอดถอนใจออกมา ไอ้บ้าส่งของนั่นยังจะมาพูดอีกว่าสิ่งนี้ประกอบเข้าด้วยกันง่าย ต้องเป็นคนที่มีฝีมือคล่องแคล่วถึงจะกล้าพูดได้ว่ามัน ‘ง่าย’?
วินนี่ตบปากเขาไปทีหนึ่ง พูดอย่างงอนๆ ว่า “อย่าพูดคำหยาบต่อหน้าเด็กๆ สิคะ มาค่ะ ดื่มน้ำส้มสักแก้วนะ จุ๊บๆ สู้ๆ ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ! ใช่ไหมฉงต้า?!”
ฉงต้านั่งอยู่บนฟูกอันหนึ่ง บนฟูกมีคุกกี้ที่เพิ่งอบเสร็จ ทาร์ตไข่อันเล็ก เค้กเนยจำพวกนั้นกองอยู่ กินอย่างสบายใจ
ไม่ได้พูดอะไรอีก ก็เริ่มทำงานต่อ ฉินสือโอวดูคลิปวิดีโอย้อนไปย้อนมาไม่ต่ำกว่า 10 รอบ จนเกือบจะท่องรูปภาพคู่มือการประกอบชิ้นส่วนได้ขึ้นใจ นี่ถึงค่อยรู้สึกสมเหตุสมผลขึ้นมาหน่อย
เริ่มแรกเริ่มจากติดตั้งฐานของบ้านกระท่อมก่อน ซึ่งส่วนนี้ทำจากเหล็กทั้งหมด ใช้ตัวกันชื้นที่เข้ากับอากาศแต่ละประเทศ ฉินสือโอวเลือกสนามหญ้าที่ราบเรียบ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะนำฐานของบ้านไปวางไว้บนสนามหญ้าได้เลย
พอนึกถึงสภาพอากาศที่หน้าร้อนฝนตกหนัก หน้าหนาวก็มีหิมะตกหนัก แล้วยังคำนึงถึงระบบการระบายน้ำของบ้านกระท่อมอีก ซึ่งก่อนอื่นเลย ฉินสือโอวขุดร่องระบายน้ำใต้บ้านกระท่อมนี้สักสองสามจุด ยังดีว่าบ้านนี้ไม่มีห้องน้ำ ไม่อย่างนั้นคงเจ็บใจน่าดู
พอขุดร่องเสร็จ ฉินสือโอวก็ใช้ปูนพอกเป็นชั้นหนึ่งชั้นอย่างระมัดระวัง พาวลิสหยิบเครื่องเป่าลมออกมาจากบ้าน เป่าให้ปูนแห้งสนิทและแข็งตัวอย่างรวดเร็ว
ด้วยวิธีนี้ก็จะสามารถวางฐานได้เลย หลังจากวางเรียบร้อยก็สามารถติดตั้งผนังสามด้านบนฐานต่อ ซึ่งเชื่อมผนังแต่ละด้านด้วยสลักเกลียว ดังนั้นจึงไม่ถือว่ายุ่งยากมากในการติดตั้ง วันหลังหากจะเคลื่อนย้ายบ้านกระท่อมไปที่อื่นก็แค่ถอดออกมา
จากคู่มือสินค้า อัตราการใช้ซ้ำของวัสดุอุปกรณ์ของบ้านสามารถใช้ได้สูงถึง 90% ขึ้นไป
ขาดแต่ผนังอีกหนึ่งด้านที่ยังติดตั้งไม่ได้ตอนนี้ เพราะผนังด้านนี้เสียบเข้ากับประตูและหน้าต่าง จึงต้องติดตั้งเป็นอย่างสุดท้าย
เริ่มติดตั้งผนังสามด้านก่อน จะได้ติดตั้งหลังคาบ้านได้ต่อ อันนี้ก็ไม่ยาก ฉินสือโอวไปหาชาร์คให้ช่วยกันเอาหลังคาไม้วางขึ้นไปก็เป็นอันเรียบร้อย
ที่ดูยุ่งยากก็คงจะเป็นแผ่นกันแดดที่ต้องเสียบฝังเข้าไป ซึ่งแผ่นพวกนี้มีความยาวถึง 7-8 เมตร กว้าง 20 กว่าเซนติเมตร แล้วต้องซ้อนทีละแผ่นขึ้นไป เหมือนกับเกล็ดปลาที่วางคลุมขึ้นไปจนถึงยอดของหลังคา
ฉินสือโอวไม่ได้มีความอดทนในการทำสิ่งนี้ เขาจึงให้มิเชลและลอเรนซ์ใส่เชือกนิรภัย ให้พวกเขาสองคนขึ้นไปวางเสียบทีละชั้น เพราะระหว่างแผ่นกับหลังคาจะมีช่องเสียบ แค่เสียบลงไปก็ได้แล้ว
อ่านในคู่มือ ฉินสือโอวเอาพวกเคาน์เตอร์ เครื่องทำน้ำเย็นและโต๊ะเก้าอี้ย้ายเข้าไปในบ้านกระท่อม
ซึ่งสิ่งนี้สามารถติดตั้งอย่างไรก็ได้ พอคิดว่านี่เป็นประเทศประชาธิปไตย เขาจึงให้เด็กๆ เป็นคนตัดสินใจ ดังนั้นอีกนิดเดียวพวกเด็กๆ ก็จะทะเลาะกันแล้ว
“ผมว่าเอาเคาน์เตอร์วางไว้ตรงมุมทางตะวันออกเฉียงเหนือดีที่สุด เพราะตรงนั้นจะดึงดูดสายตาคนมากที่สุด…”
“ชาร์คน้อย นายมันงี่เง่า สมองของนายเคยให้ตูดของฉงต้านั่งทับใช่ไหม ถึงมองจะพิการแต่ก็ต้องมีขีดจำกัดสิ เคาน์เตอร์ทำไมจะให้คนอื่นเห็นไม่ได้? ถ้าเป็นผม ผมคิดว่าไว้ตรงมุมทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตรงนี้ใกล้กับประตู…”
“กอร์ดอนนายหุบปากไปเลย สมองของชาร์คน้อยเคยให้ตูดฉงต้านั่งทับ สมองของนายก็คงเคยถูกหลัวปอแทะกินใช่ไหม? พวกเราไม่ได้ทำธุรกิจกันจริงๆ สักหน่อย ทำไมต้องเอาเคาน์เตอร์ไปขวางประตูด้วย? มันเห็นชัดอยู่แล้วว่าต้องเอาวางไว้ทางทิศตะวันออกไม่ก็ตก…”
“อยู่กับพวกนายที่โง่เง่าไม่มีสมอง ฉันรู้สึกกดดันจริงๆ เลย ทำไมพวกเราถึงจะมีความคิดสร้างสรรค์หน่อยไม่ได้เหรอ? แขวนมันขึ้นไปเถอะ…”
“เดี๋ยวนะ กอร์ดอนนายพูดว่าใครโง่เง่านะ? นายบอกว่าสมองใครที่เคยถูกตูดฉงต้านั่งทับนะ? ฉันจะต่อยนาย!”
“ฉันกลัวจังเลย คราเคนน้อย เมื่อกี้นายก็ว่าฉันเหมือนกันใช่ไหม? พาวลิส ต่อยเขาซะ!”
ฉินสือโอวถามฟากฟ้าอย่างไร้คำพูดใดๆ เขาจึงทำได้เพียงยึดอำนาจประชาธิปไตยกลับคืนมา เป็นเผด็จการอีกครั้ง “เงียบให้หมดทุกคน! เอาเคาน์เตอร์กับเครื่องทำน้ำเย็นวางไว้กลางบ้าน แบบนี้พอถึงเวลาทุกคนก็จะได้ยืนล้อมรอบแล้วดื่มน้ำได้!”
ถึงเนื้อที่ในบ้านจะเล็ก แต่อุปกรณ์ต่างๆ ก็ครบครัน
บ้านสูงประมาณสามเมตร สามารถแบ่งเป็นสองชั้นชั้นบนกับชั้นล่างได้ เป็นคอนโดเล็กๆ แบบดูเพล็กซ์ ชั้นที่หนึ่งเป็นห้องทำเครื่องดื่มเย็น ส่วนชั้นที่สองมีผ้าห่มปูไว้บนพื้นจึงเป็นห้องสำหรับพักผ่อนได้ ซึ่งระหว่างทั้งสองชั้นถูกเชื่อมต่อด้วยบันได นอกจากนี้ชั้นสองยังมีรั้วที่เป็นลายสลักกั้นอยู่ด้วย
ฉินสือโอวเห็นในคู่มือแนะนำว่า แรงกดรับน้ำหนักบนชั้นสองสูงถึง 2,000 นิวตัน นั่นก็หมายถึงว่าสามารถวางของที่มีน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลกรัม
สิ่งนี้ช่างน่าประทับใจมาก มิน่าบ้านกระท่อมถึงได้แพงขนาดนี้ ของภายในบ้านล้วนเป็นของที่ล้ำสมัย
สิ่งที่ล้ำสมัยยิ่งกว่าคือ ไฟในบ้านกระท่อม อันหนึ่งคือโคมแขวนในห้องโถง สามารถเปลี่ยนสีได้ห้าสี ส่วนอีกอันเป็นโคมไฟที่อยู่ด้านนอกตรงชายคา ซึ่งโคมอันนี้สามารถใช้เสียงควบคุมได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
“แม่งเอ๊ย!” พอเห็นโคมไฟฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา
วินนี่ไม่พอใจมาก “เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้คุณพูดจาหยาบคาย?”
ฉินสือโอวอยากจะร้องไห้ “คุณผู้หญิงครับ คุณสามีรู้สึกทนไม่ได้จริงๆ นี่นา เพราะว่าผมเพิ่งรู้ว่า ผมลืมวางแนวสายไฟ ผนังทั้งสามด้านจะต้องรื้อออก แนวสายไฟจริงๆ แล้วต้องติดตั้งไว้ในชั้นกันชื้น!”
วินนี่กะพริบตาดวงโตของเธอ อ้าปากค้าง “แม่ง คุณมันโง่มาก!”
เด็กๆ แต่ละคนก็อ้าปากหวอเหมือนกัน บ้ามาก พวกเขารู้สึกเจ็บปวดใจ งานที่เมื่อกี้ทำมาทั้งหมดเสียเปล่า!
ช่วยไม่ได้ ทำได้แค่รื้อหลังคาลงมาก่อน แยกผนังออกมาแล้วเตรียมใส่สายไฟเข้าไปข้างใน
ซีมอนสเตอร์เดินมาถามทุกคนว่าทำไมสภาพมันถึงดูน่าสังเวชแบบนี้ คราเคนน้อยลูกชายที่รักของเขาอธิบายเรื่องราวให้เขาฟัง ซีมอนสเตอร์หัวเราะใหญ่ “ไม่ต้องรื้อผนังออกเลย ไม่ใช่แค่ติดตั้งสายไฟหรอกเหรอ? เดินสายแบบฝังก็ได้ ผมมาทำให้เอง ง่ายมาก!”
ทันใดนั้นพวกเด็กก็มองไปที่ซีมอนสเตอร์อย่างชื่นชม ชาร์คน้อยปรบมือแล้วพูดว่า “คุณลุงซีมอนสเตอร์เก่งจังเลยครับ”
“แน่นอนอยู่แล้ว เธอคิดว่าพ่อของฉันเป็นพ่อที่โง่เง่าเหมือนพ่อของเธอเหรอ?” คราเคนน้อยพูดอย่างภาคภูมิใจ
ชาร์คน้อยไม่พูดอะไรอีก หันกลับแล้วผลักเขาล้มลงไป ขี่อยู่บนตัวของคราเคนน้อยอย่างบ้ากระหน่ำ
ซีมอนสเตอร์ไม่ได้แม้แต่หันไปมอง ถึงแม้ว่าลูกชายตัวเองจะร้องคร่ำครวญอยู่ด้านข้าง เขาหยิบไขควงเตรียมที่จะเจาะช่องวางสายบนผนังไม้นั่น
ตอนนี้ฉินสือโอวถึงเพิ่งคิดได้ จริงๆ ด้วย ไม่จำเป็นต้องเอาสายไฟติดตั้งในผนังก็ได้ ชั้นกันความชื้นมีร่องอยู่ เพียงแค่เปิดช่องสองช่องที่อยู่ด้านบนสุดกับด้านล่างสุดแค่นั้นก็สามารถสอดสายไฟเข้าไปได้แล้ว
ทักษะการเรียนรู้ย่อมมีทิศทางของมันเอง!
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset