ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 677 เค้กภูเขา

หลังใส่หูกระต่ายแล้ว หู่จือเป้าจือก็พยายามถอดออก วินนี่ถ่ายรูปเสร็จพวกมันก็เริ่มวิ่งกันอีก คราวนี้ไม่ตะลุมบอนแล้ว แต่วิ่งไปเชิดหน้าตั้งไปแทน
เห็นดังนั้นฉินสือโอวก็หลุดหัวเราะ “เจ้าสองตัวนี้ขี้อวดจริง”
“เรียกว่าถูกใจต่างหาก” วินนี่ครวญ
อีวิลสันหันมายิ้มแหยๆ ให้ วินนี่จึงถาม “คุณก็อยากได้เหรอ?”
อีวิลสันเกาหลังหัวที่ยุ่งเหยิงไม่ได้พูดอะไร เพียงยิ้มซื่อบื้ออย่างนั้น
วินนี่เปิดกระเป๋าหาของจนเจอโบสีทอง เธอช่วยใส่ให้อีวิลสัน จากนั้นก็มองแล้วหัวเราะ “เล็กไปหน่อยแฮะ แต่ไม่เป็นไร กลับบ้านไปเดี๋ยวทำอันที่ใหญ่กว่านี้ให้คุณดีไหม?”
อีวิลสันหัวเราะพลางกุมอก ตอบว่า “นี่มันดีมากเลย อีวิลสันชอบ”
ฉินสือโอวชะโงกหน้ามาถามบ้าง “แล้วของผมล่ะ?”
วินนี่กระซิบตอบ “นั่นเป็นของสำหรับเด็กต่างหาก คุณอยากเป็นลูกฉันเหรอ?”
สองวันก่อนวินนี่เตรียมฉลองวันเกิดให้หู่จือเป้าจือ นอกจากหูกระต่ายแล้วเธอยังเตรียมแว่นกันแดดหมาไว้ให้ด้วย
แต่พอเจ้าสองตัวใส่กลับไม่ชอบ พวกมันไม่ชินกับสภาพแวดล้อมมืดๆ แล้วบุ่มบ่ามวิ่ง จนชนต้นไม้เข้า!
บนต้นไม้ เพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์เสี่ยวหง กระรอกแดงอเมริกาเหนือสองตัวที่กำลังกินเบอร์รีอยู่ ต่างสะดุ้งโยนเบอร์รีในมือทิ้งแล้วกระโดดหนีไป คิดว่ามีคนบ้ามาฆ่าตัวตาย
ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงยิ่งไม่ชอบแว่นกันแดด พากันมาให้วินนี่ถอดออก พอทัศนวิสัยเดิมกลับมาก็วิ่งไปมาด้วยความดีใจ
สุนัขแลบราดอร์รักการเล่นมาก ตะลุมบอนอย่างสนุกสนานไม่นานก็เริ่มมีความคิดอวดดี วิ่งแข่งบนเขากันอีกครั้ง
ฉินสือโอวเดินหัวเราะตามหลัง เห็นทั้งสองตัวร่าเริงขนาดนี้ เขาพลันตระหนักว่าปกติตัวเองนั้นติดบ้านเกินไป เอาแต่อยู่ในฟาร์มปลา ไม่สนใจงานอดิเรกของพวกมัน
ทิวทัศน์บนภูเขาช่วงต้นฤดูร้อนช่างสวยงาม นอกจากสีเขียวเข้มของใบไม้ต้นหญ้าแล้ว ยังมีดอกไม้หลากสีอีกมากมาย ฉินสือโอวยังเจอพุ่มดอกรักเร่ข้างเนินด้วย มันคือดอกไม้ประจำชาติของเม็กซิโก ชอบขึ้นตามสภาพแวดล้อมที่เย็นร่มรื่นแต่มีแสงสว่าง เลยสามารถเจริญเติบโตอยู่บนเขาเคอร์บัลได้
ดอกรักเร่นั้นสูงใหญ่มากเกือบจะสูงเท่าฉินสือโอวเลย ตัวเป็นดอกสีแดงขอบขาวสีสันสวยงาม ยามลมพัดโบกไหวก็ดูคล้ายกับลูกไฟ
ฉินสือโอวเด็ดมาทัดผมสวยๆ ของวินนี่ วินนี่ฉีกยิ้มปฏิเสธว่า “ดอกไม้ใหญ่ไปนะ ฉันใส่แล้วจะดูประหลาดเปล่าๆ เอาไปให้หู่จือเถอะ”
พอเห็นดอกไม้ภูเขา จู่ๆ วินนี่ก็อารมณ์ไม่ดีขึ้นมา ฉินสือโอวถามว่าเธอเป็นอะไร เธอตอบ “แล้วสวนดอกไม้ของพวกเราล่ะ?  คุณบอกว่าปีนี้จะช่วยฉันถางหญ้าทำสวนดอกไม้กันไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวตบหน้าผากตัวเอง เขาลืมสนิทเลย หลายวันก่อนเขายังบอกชาร์คให้ออกแบบสวนดอกไม้ให้ ปรากฏว่ากลายเป็นสวนองุ่นแล้วเขาก็ลืมไป
“งั้นกลับไปผมจะรีบช่วยคุณปลูกดอกไม้ โอเคไหม?” ฉินสือโอวเกลี้ยกล่อมวินนี่
วินนี่รู้ดีว่าฉินสือโอวนั้นยุ่งทั้งวัน จึงไม่ได้ใส่ใจเท่าไร เธอทำหน้ามุ่ยตอบ “นี่มันหน้าร้อนแล้วนะ ถ้ามาปลูกตอนนี้เมื่อไรมันจะบานล่ะ? เดี๋ยวมันก็แข็งตายตอนหน้าหนาวหรอก ไว้ปีหน้าดีกว่า ค่อยมาช่วยฉันถางหญ้าทำสวนดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าแทนนะ”
ฉินสือโอวมีพลังโพไซดอน จะกังวลอะไรถ้าดอกไม้ไม่บาน? เขาตบอกตัวเองเหมือนจะบอกว่าเชื่อมือผมได้เลย วินนี่จึงล้อว่าเขาช่างไม่รู้เรื่องดอกไม้ตามฤดูกาล ฉินสือโอวเกือบจะพูดว่าเขามีเวทมนตร์อยู่แต่ก็เงียบไว้ เพราะตระหนักว่าแบบนี้มันค่อนข้างเหนือธรรมชาติเกินไป ควรเก็บจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไว้เป็นความลับดีกว่า
นกร้องเพลงอยู่เหนือหัว แมลงส่งเสียงอยู่รอบข้าง ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มตลอดทางที่เดินผ่าน ฉินสือโอวยืนมองด้านล่างจากบนเขา ทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เรือสินค้าเรือโดยสารดูเหมือนกล่องไม้ขีดบนน้ำไปเลย ชวนให้รู้สึกว่าตัวเองช่างยิ่งใหญ่
ลมทะเลแอตแลนติกเหนือพัดผ่านเทือกเขาเคอร์บัล ต้นหญ้าสั่นไหว ‘แซ่กแซ่ก’ เมื่อมองจากเขาลงมา ใบไม้เขียวสดมากมายที่พลิ้วไหวเสียดสีตามลมช่างราวกับเสียงคลื่นซัดสาด
เขาพบพื้นที่ราบตรงไหล่เขาซึ่งอยู่ห่างจากลำธารค่อนข้างไกล แต่ดูจากสีขาวที่ปกคลุมพื้นที่บางส่วนแล้วนี่น่าจะเป็นจุดสูงสุดของเขาเคอร์บัล ด้านล่างก็มองเห็นป่าเขียวหนาทึบ แถมยังรับลมเขาอ่อนๆ ได้ เหมาะที่จะเป็นทำเลทองมาก
เนื่องจากอยู่ไกลจากลำธารเลยทำอาหารไม่สะดวกเท่าไร แถมยังมีนักท่องเที่ยวอยู่ด้วย ฉินสือโอวแค่อยากเล่นกับหู่จือเป้าจือเงียบๆ ไม่อยากยุ่งกับนักท่องเที่ยว
อีวิลสันไปตักน้ำที่ลำธาร ฉินสือโอวล่าสัตว์เตรียมทำอาหารจีน นี่ก็เป็นหนึ่งในโปรแกรมท่องเที่ยวที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยมีไกด์คอยนำ ไม่อนุญาตให้ล่าสัตว์ใหญ่อย่างหมูป่าและกวางป่า ฆ่าได้เฉพาะไก่ป่ากับกระต่ายป่าเท่านั้น
เพราะตอนต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองแฟร์เวลได้ล่าไก่ป่ากับเป็ดป่าไปสองพันตัว และทำการเพาะพันธุ์กระต่ายป่าสโนว์ชูอีกหนึ่งพันกว่าตัว
กระต่ายป่าสามารถฆ่าได้ตามสบาย เพราะพวกมันขยายพันธุ์ได้เร็วมาก เพราะบนเขาเคอร์บัลมีอาหารอยู่มากมาย แถมมีศัตรูตามธรรมชาติอย่างหมาป่าเทาหรือเหยี่ยวน้อย กระต่ายป่าสโนว์ชูรังหนึ่งสามารถมีลูกได้เจ็ดแปดตัว สองเดือนก็เพิ่มมาอีกรัง ซึ่งถือว่าจำนวนไม่น้อยเลย
ฉินสือโอวหยิบธนูทดออกมา ยังไม่ทันได้ขึ้นลูกธนู หู่จือเป้าจือก็วิ่งไล่กระต่ายกันอุตลุดแล้ว เพียงครึ่งชั่วโมง กระสอบของฉินสือโอวก็เต็มไปด้วยกระต่ายป่าเนื้อแน่นห้าตัวแล้ว
เมื่อกลับมาถึงแคมป์ กลิ่นหอมหวานของครีมก็ลอยเข้าจมูกเป็นอย่างแรก วินนี่ตั้งเตาอบเล็กบนเตาแก๊สอบเค้กเนย
ในแก๊สมีพวกโพรเพน บิวเทน และไอโซบิวเทนอยู่ ครั้งนี้ฉินสือโอวเลือกใช้แบบผสม ทำให้การเผาไหม้คงที่และคุมง่าย ความปลอดภัยสูง และยังสามารถใช้ในสภาพแวดล้อมที่ความสูงอยู่เหนือระดับน้ำทะเลได้อีกด้วย
ไฟโหมแรงมาก วินนี่คอยมองไฟแสดงสถานะเล็กๆ บนเตาอบ เมื่อไฟคงที่แล้วก็ปิดตัวจ่ายแก๊สของถังแก๊ส และเตรียมเปิดเตา
พอได้กลิ่นหอมของเค้ก หู่จือเป้าจือก็วิ่งเข้ามาด้วยความดีใจ นั่งเป็นเด็กดีอยู่ข้างวินนี่เลียปากไม่หยุด เป้าจือหูลู่ไปด้านหลัง เงยหน้าส่งเสียง ตาเล็กๆ จ้องเตาอบเขม็ง
เมื่ออุณหภูมิลดลงจนได้ที่ วินนี่ก็สวมถุงมือเปิดเตา ด้านในมีเค้กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสามสิบเซนติเมตรโดยประมาณกำลังส่งกลิ่นหอมฉุย
วินนี่หยิบออกมาโดยยังไม่ยอมให้พวกมันแตะ แล้วโรยเนื้อแห้งที่เตรียมไว้ลงไป พร้อมใช้ครีมบีบตรงกลางเขียนเป็นคำว่า ‘สุขสันต์วันเกิด’
ฉินสือโอวยิ้ม “ต้องใส่เทียนด้วยไหม? หู่จือเป้าจือเราอายุหนึ่งขวบแล้ว”
วินนี่ตบหน้าผากตัวเอง พูดอย่างอารมณ์เสีย “ฉันลืมเอามา”
ช่างเป็นช่วงเวลาแสนสุข แม้ไม่มีเทียน วินนี่ตัดเค้กแบ่งให้อีวิลสันก่อน
อีวิลสันที่หิวมานานแล้ว เคี้ยวบิสกิตแห้ง ‘กรุบกรุบ’ พอได้เค้กมาเขาก็หัวเราะกินอย่างตะกละตะกลามทันที
เค้กที่เหลือวินนี่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ป้อนหู่จือเป้าจือ ฉินสือโอวก็แบ่งมากินส่วนหนึ่ง รสชาติอร่อยจนยากจะต้านทาน ทั้งเนื้อเค้ก ไข่ นม น้ำตาลล้วนผ่านการทำมาอย่างดี
หู่จือเป้าจือได้กินก็ยิ่งร่าเริง ตาเล็กหรี่ลงแทบเป็นขีดด้วยความสุขใจ
วินนี่ตั้งกล้องถ่ายรูปอัตโนมัติและดึงฉินสือโอว หู่จือ เป้าจือ อีวิลสันมายืนด้วยกัน เสียงกล้องดัง ‘แชะ’ พร้อมภาพถ่ายครอบครัวใบหนึ่งที่ออกมา…
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset