ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 686 เลือกตั้งนายกเซนต์จอห์น

ฉินสือโอวถามราคารถยิงจรวดคันนี้ เป็นสองแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา หลักๆคือตัวรถที่แพง ส่วนเครื่องส่งจรวดระบบวิทยุราคาไม่ได้สูงมาก แถมตัวจรวดยังแค่ครึ่งหนึ่งของราคาไม่ถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นด้วยซ้ำ
ถึงจะเป็นจรวดดับเพลิงสำหรับพลเรือน แต่ตามกฎหมายก็ไม่ใช่ของที่ขายให้แบบส่วนตัวได้ ฉินสือโอวจึงโทรหาแฮมเล็ต ให้เขาช่วยเซ็นสัญญารับรองจากจีนในนามของเมืองแฟร์เวลห้าชุด
ห้าชุดนั้นคือข้อกำหนดมาตรการการต่อต้านการทุ่มตลาดระหว่างแคนาดากับจีน ในการติดตั้งเครื่องจักร ทำให้ส่งขายเครื่องจักรหนักทั้งห้าชุดทีเดียวได้
ใจจริงแฮมเล็ตไม่อยากทำเรื่องนี้นัก มันเสี่ยงเกินไป เขามาหาฉินสือโอวทั้งสีหน้ากล้ำกลืน หวังอย่าให้อีกฝ่ายเล่นกับไฟเลย แค่จะป้องกันฟาร์มปลาต้องทำเหมือนจะทำสงครามขนาดนี้เชียวเหรอ?
ฉินสือโอวยกเหตุการณ์การปะทะของฟาร์มปลาให้เขาดูอย่างใจเย็น “ใครๆ ก็รู้ว่าฟาร์มปลาของเกาะแฟร์เวลอยู่ในกำมือของชาวจีนคนหนึ่ง ซึ่งทุกคนต่างก็เข้าใจว่าคนจีนเป็นพวกหัวอ่อน ใครๆ เลยอยากมากอบโกยผลประโยชน์จากฟาร์มปลาของผมกัน งั้นคุณบอกหน่อยสิว่าผมต้องทำยังไง?”
แฮมเล็ตสบถด่า ‘เวรเอ๊ย’ แสดงว่าพวกชาวประมงคนขาวไปหาเรื่องตายกันดีๆ นี่เอง
ฉินสือโอวกล่าวอีกว่า “ถ้าทำได้ ผมก็อยากอยู่ร่วมกันแบบสงบสุขเหมือนกัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันทำไม่ได้ แต่ผมสัญญา แฮมเล็ตเพื่อนยาก ตราบใดที่ชาวประมงหัวขโมยพวกนั้นไม่ล้ำเส้น ผมก็จะไม่ใช้ของพวกนี้”
ตลอดเวลานั้น ฉินสือโอวเอาแต่เรียกพวกอุปกรณ์ดับเพลิงว่า ‘สิ่งของ’ ไม่ได้ใช้คำว่า ‘อาวุธ’ เลย
แฮมเล็ตไม่รู้จะพูดอย่างไร ชะตากรรมของเกาะแฟร์เวลและฟาร์มปลาฉินสือโอวล้วนเชื่อมโยงกัน ถ้าเกิดฟาร์มปลาล้มละลายลงอีกครั้ง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ก็คงไปไม่รอดเช่นกัน หมายความว่า เขากับฉินสือโอวต่างอยู่ในสมรภูมิเดียวกันแล้วนั่นเอง
หลังคุยธุระเสร็จ แฮมเล็ตกลับยังไม่ไปไหน เขาลังเลเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “ฉิน ไม่รู้ว่านายจะสนใจเรื่องการเมืองของแคนาดาไหม แต่เดี๋ยวจะเริ่มมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองเซนต์จอห์นแล้ว นายสนใจเรื่องนี้หรือเปล่า?”
แคนาดาและอเมริกานั้นเหมือนกันตรงที่ตำแหน่งของนายกเทศมนตรีไม่ได้เกี่ยวกับประธานาธิบดี ผู้สำเร็จราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าการรัฐ แค่ได้รับการโหวตจากคนในเมืองเท่านั้น
ฉินสือโอวรู้ว่าปีนี้เป็นปีที่แต่ละเมืองในแคนาดาจะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ แต่เขาค่อนข้างงุนงงเรื่องระบบการปกครองของประเทศนี้มาก เทียบกับระบบการเมืองทั่วโลกแล้วยังไม่ยุ่งยากเท่าแคนาดาเลย
ระบบการเมืองของแคนาดาสามารถสรุปได้ว่ามีทั้งราชาธิปไตย ระบอบสหพันธรัฐ และระบบรัฐสภา พูดง่ายๆคือรับเอาระบบการเมืองของทั้งยุโรปและอเมริกามาปรับใช้ และสุดท้ายก็กลายเป็นแบบหัวมังกุท้ายมังกร (ไม่เข้ากัน) ไป
ฉินสือโอวยังจำที่เรียนประวัติศาสตร์ตอนมัธยมปลายได้จนถึงทุกวันนี้ อาจารย์ประวัติศาสตร์พูดถึงระบบการเมืองยุโรปและอเมริกาว่า อังกฤษเป็นประเทศแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ อเมริกาเป็นระบอบสหพันธรัฐ ส่วนเยอรมนีดำเนินการระบบรัฐสภาแบบประชาธิปไตย แต่แคนาดาเป็นประเทศสหพันธรัฐแบบราชาธิปไตยและดำเนินด้วยระบบรัฐสภาแบบประชาธิปไตย ตามระบบสามอำนาจ…
ถ้าจะให้อธิบายอย่างละเอียดก็คงจะยุ่งยากเกินไป เพราะต้องเริ่มพูดไปถึงความเป็นมาของตัวระบบเลย
แต่ถ้าจะให้พูดคร่าวๆ ก็ไม่ยาก ผู้ปกครองเพียงในนามของแคนาดาคือสมเด็จพระราชินีนาถแห่งสหราชอาณาจักร ถึงพระนางจะปกครองประเทศแต่ก็ไม่ได้เป็นคนบริหาร แต่เป็นนายกรัฐมนตรีแคนาดากับคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศแทน รวมถึงวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรด้วย แต่ฝ่ายที่บริหารพื้นที่จริงๆ คือนายกเทศมนตรีของแต่ละเมือง
พูดง่ายๆ คือระบบการปกครองส่วนกลางของแคนาดานั้นเหมือนอังกฤษ เพียงแต่แบ่งเป็นเขตเทศบาลตามแบบของอเมริกานั่นเอง
ดังนั้นนายกเทศมนตรีจึงได้รับการเลือกมาโดยคนในเมืองแบบเดียวกับอเมริกา พวกเขาจึงกำหนดนโยบายเศรษฐกิจได้โดยไม่ต้องใส่ใจส่วนกลางกับรัฐอื่นๆ แค่ทำการเลือกตั้งภายในขอบเขตของกฎหมายก็พอ
เมื่อพูดถึงตรงนี้ นายกเทศมนตรีเซนต์จอห์นคนปัจจุบันเดนนิส อ็อกเฟอร์นั้นได้ทำเรื่องไร้เหตุผลอย่างการเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งดูได้จากสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อฉินสือโอว
ช่วงปีที่ผ่านมา ฉินสือโอวประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลจากฟาร์มปลาและบริจาครายได้ให้เซนต์จอห์นมากมาย อ็อกเฟอร์กลับเพียงเป็นเจ้าภาพให้ฉินสือโอวในงานแถลงข่าวมอบรางวัลฟื้นฟูเศรษฐกิจดีเด่น แต่ในเวลาอื่นแทบจะไม่ทักทายกันด้วยซ้ำ
ซึ่งเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อสำหรับที่อเมริกา ขนาดเมืองทรงอิทธิพลชั้นหนึ่งอย่างลอสแอนเจลิสกับชิคาโก ตัวนายกยังให้ความสำคัญกับอำนาจบารมีของฉินสือโอว เพราะเงินของเขานั้นไม่ได้อยู่ที่ธนาคารแต่มาจากการลงทุนนอก เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่ดีๆ นั่นเอง
ฉินสือโอวเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี ถ้าท่านนายกไม่สนใจตัวเอง งั้นตัวเขาก็ไม่จำเป็นต้องแยแส พวกเราต่างคนต่างอยู่กันเถอะ
หลังได้ยินคำถามของแฮมเล็ต ฉินสือโอวตอบว่า “ไม่ได้สนใจเท่าไร มีอะไรเหรอ?”
แฮมเล็ตมองเขาก่อนเอ่ยขึ้นช้าๆ “ฉันเดาว่านายคงไม่ค่อยรู้เรื่องระบบการเมืองของประเทศเรานัก งั้นฉันจะไม่พูดมากแล้วกัน ถึงยังไงก็เป็นพรรคการเมืองของฉันที่วางแผนจะช่วยสนับสนุนฉันในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเซนต์จอห์นอยู่ดี”
นี่ถือเป็นข่าวสำคัญทีเดียว ฉินสือโอวกระพริบตาปริบๆมองแฮมเล็ต ทำหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม ท่านผู้ว่าอยากจะเข้าร่วมการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีด้วย? แบบนั้นไม่ทึกทักเอาเองไปหน่อยเหรอ?
แฮมเล็ตพอโดนฉินสือโอวมองแปลกๆ เขาก็ยักไหล่พลางยิ้มขมตอบ “ดูท่านายจะไม่รู้เรื่องการเมืองของเมืองเซนต์จอห์นเลยจริงๆ แบบนี้ไม่ได้นะฉิน นายเป็นถึงเจ้าของฟาร์มปลารายใหญ่ ควรใส่ใจเรื่องพวกนี้ด้วย”
ฉินสือโอวตอบ “เข้าใจแล้ว ทีหลังผมจะใส่ใจกว่านี้ แต่แฮมเล็ต ผมอยากรู้ว่าโอกาสที่คุณจะเลือกตั้งสำเร็จมีแค่ไหนกัน?”
เมื่อพูดถึงอนาคต ท่าทีแฮมเล็ตก็เคร่งขรึมขึ้น “คู่แข่งในการเลือกตั้งของฉันยังคงเป็นอ็อกเฟอร์ เขากำลังพยายามทำให้ได้รับเลือกต่ออีกสมัย ถ้าดูจากอัตราการสนับสนุน ตัวฉันในตอนนี้ค่อนข้างเสียเปรียบ เพราะพวกผู้ลงคะแนนไม่ได้รู้จักฉันกันเท่าไร”
“แต่ฉันก็ยังมีข้อได้เปรียบอยู่คือช่วงที่ฉันบริหาร เศรษฐกิจเมืองแฟร์เวลเราเติบโตจนนำลิ่ว แต่รัฐบาลเซนต์จอห์นที่อ็อกเฟอร์บริหารนั้น เศรษฐกิจตกต่ำตลอดปี และผู้ลงคะแนนบางส่วนโดยเฉพาะคนที่เพิ่งย้ายถิ่นมาก็ไม่พอใจเขาเท่าไร”
“ตามสถิติปัจจุบัน ผู้ลงคะแนนสนับสนุนที่ฉันนับได้มีประมาณ 28%”
แฮมเล็ตพูดรวดเดียวจบก่อนจะหดหู่ไม่น้อย อ็อกเฟอร์ยังคงได้เปรียบโดยสิ้นเชิง
ฉินสือโอวถาม “แล้วคุณยังพอมีโอกาสอยู่หรือเปล่า?”
แฮมเล็ตตอบ “มีสิ แค่ทำให้พวกเขารู้จักฉันก็พอ ฉันเชื่อว่าผลจากการทำงานในอดีตของฉันย่อมชนะแรงสนับสนุนผู้ลงคะแนนจำนวนมากได้แน่ ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาขาดไปคือความเข้าใจในตัวเรา”
คนฉลาดไม่จำเป็นต้องพูดมาก ฉินสือโอวไม่ใช่คนฉลาดแต่เขาก็ไม่ได้โง่ เมื่อแฮมเล็ตพูดถึงตรงนี้ เขาก็เข้าใจแล้วว่าต้องการสื่อถึงอะไร ผู้ลงคะแนนรู้จักแฮมเล็ตน้อย งั้นต้องทำอย่างไร? ก็โฆษณาไงล่ะ! แล้วจะโฆษณาจำเป็นต้องมีอะไร? เงินนั่นเอง!
“คุณขาดเงินเท่าไร?” ฉินสือโอวถาม
แฮมเล็ตเข้าประเด็น “พวกเราเริ่มโฆษณากันตอนเดือนมิถุนายน จนถึงตอนนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณสิบห้าล้านดอลลาร์”
ค่าโฆษณาสิบห้าล้านดอลลาร์ไม่ถือว่าเยอะแต่ก็ไม่น้อย เพราะที่นี่คือแคนาดาไม่ใช่อเมริกา คือเซนต์จอห์นไม่ใช่โทรอนโต หรือออตตาวา และยิ่งไม่ใช่ลอสแอนเจลิสหรือนิวยอร์ก
…………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset