ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 697 อเมริกันบูลลี่เฝ้าบ้านตัวน้อย

“นี่คือที่จะให้เหมาเหว่ยหลงเหรอ” ฉินสือโอวนั่งยองบนพื้นแล้วชี้ไปทางอเมริกันบูลลี่ตัวน้อยก่อนจะเอ่ยปาก
อเมริกันบูลลี่ตัวน้อยทั้งห้ามองฉินสือโอวอย่างใสซื่อ พอเห็นเขายื่นนิ้วออกไป พวกมันที่เพิ่งจะหย่านมก็นึกว่าเป็นหัวนมของแม่ รีบเบียดกันเข้ามาอ้าปากกว้างแย่งกันอมนิ้วของเขา
อเมริกันบูลลี่เป็นแม่แบบสำหรับสุนัขผสมพันธุ์เทียมที่รวบรวมข้อดีของอเมริกันพิทบูล เทอร์เรียกับสแตฟเฟอร์ดไชร์ บูล เทอร์เรียร์ แต่ไม่ได้รับเอาอารมณ์รุนแรงและนิสัยดุร้ายของพวกมันมา นอกจากนั้นยังถ่ายทอดความใสซื่อในวัยเด็กของทั้งสองพันธุ์ด้วย
เหล่าอเมริกันบูลลี่ตัวน้อยหัวอ้วนกลม ฉีกยิ้มทีหนึ่ง ปากแทบจะยาวไปถึงท้ายทอย มุมปากชอบยักขึ้น พอเป็นแบบนั้นกิริยาตอนที่แลบลิ้นจึงเหมือนกำลังยิ้มอยู่ เจ้าขาสั้นอีกสี่ตัวอ้วนกลมจ้ำม่ำ ขนสั้นบนตัวนุ่มลื่นมือ น่ารักน่าชัง
อเมริกันบูลลี่ตัวน้อยที่อมนิ้วของฉินสือโอวไว้ไม่ได้ออกแรงกัด มันดูดอย่างตั้งใจ ส่วนลูกหมาตัวอื่นๆ ก็ล้อมรอบอยู่แต่ก็ไม่ได้เข้าไปยื้อแย่ง ต่างรออย่างใจเย็น ทำเอาวินนี่เอ็นดูสุดๆ
ฉินสือโอวเองก็เอ็นดูใจละลาย วินนี่ดึงแขนเขาจะเลี้ยงสักตัวหนึ่งให้ได้ แต่ฉินสือโอวมองดูเจ้าตัวน้อยข้างๆ ตัวแล้วพูดอย่างจนใจ “ผมกลัวว่าจะเลี้ยงไม่รอด”
พวกหู่เป้าฉงหลัวนั่งมองอเมริกันบูลลี่ตัวน้อยอยู่รอบๆ อย่างไม่สบอารมณ์ ในแววตาไร้ซึ่งความเป็นมิตร
ปกติหู่จือกับเป้าจือจะชอบพวกเดียวกันมาก ในเมืองเวลาที่เจอแลบราดอร์จรจัดก็จะเข้าไปทักทาย แน่นอนว่าหลังจากนั้นก็มักจะมีเรื่องกัน แต่ว่านั่นก็ไม่น่าห่วง อย่างไรเสียพวกมันก็ชอบเล่นกับพวกเดียวกันมากๆ
แต่ตอนนี้ที่อยู่ต่อหน้าอเมริกันบูลลี่ตัวน้อย ทั้งสองตัวอยากจะกระโจนเข้าไปเล่นงานพวกมันให้ได้ ส่วนฉงต้าจอมตะกละเริ่มคิดแล้วว่าจะกินแบบไหนดี กินดิบไม่สะอาดแถมรสชาติแย่อีก งั้นย่างกิน?
มองดูอเมริกันบูลลี่จ้ำม่ำ ฉงต้าก็แทบจะน้ำลายหก หมาน้อยที่เนื้อเด้งแบบนั้น ถ้าย่างคงจะอร่อยยิ่งกว่าไก่ย่างเสียอีก?
วินนี่รีบไล่พวกมันออกไป ฉินสือโอวพาอเมริกันบูลลี่ตัวน้อยไปที่บ่อน้ำพุร้อนแล้วอาบน้ำให้พวกมัน
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญศูนย์ธรณีวิทยาทางทะเลสำรวจ ใต้บ่อน้ำพุร้อนนี้เชื่อมกับภูเขาไฟใต้น้ำ เพียงแต่มีลาวาแค่เล็กน้อยที่พ่นออกมาจากที่ตรงนั้น ดังนั้นจึงเกิดเป็นบ่อน้ำพุร้อนแต่ไม่พ่นออกมา
แน่นอนว่าหลายพันหลายหมื่นปีต่อมา ตรงนี้จะกลายเป็นภูเขาไฟอีกที่หรือเปล่าก็พูดยาก
หลังจากที่อาบน้ำให้อเมริกันบูลลี่ ฉินสือโอวถือโอกาสถ่ายพลังโพไซดอนเข้าไปในร่างของหมาน้อย พวกลูกหมาเหมือนจะรู้สึกสบายมาก นอนหยีตาร้องครางหงิงๆ อาบแดดอยู่ตรงจุดน้ำตื้นของบ่อ ดูท่าเหมือนจะหลับแล้ว
อาบน้ำจนสะอาดสะอ้าน ฉินสือโอวตัดสินใจให้เบิร์ดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไปแฮมิลตันแล้วเอาเหล่าหมาอเมริกันบูลลี่ไปส่งให้เหมาเหว่ยหลง ถ้าอยู่ที่บ้านต่อ เขาคาดว่าคงจะไม่ได้ส่งไปแล้วล่ะ วินนี่เริ่มคิดชื่อให้พวกมันแล้ว
สัตว์เลี้ยงในบ้านเยอะเกินไปแล้ว ฉินสือโอวดูแลไม่ไหว
อเมริกันบูลลี่ตัวน้อยต่างกับเต่าอัลลิเกเตอร์มาสเตอร์ พวกมันต้องการการดูแล ต้องการการอบรม มาสเตอร์เป็นเต่าอัลลิเกเตอร์โตเต็มวัยแล้ว เอาไปไว้ข้างนอกก็อยู่ได้ด้วยตัวเอง ฉินสือโอวแค่ให้อาหารมันก็พอ นอกนั้นไม่จำเป็นต้องดู
ฉินสือโอวบอกเหมาเหว่ยหลงแล้วว่าวันนี้จะเข้าไป ตอนที่เฮลิคอปเตอร์บินไปอยู่น่านฟ้าเหนือฟาร์มก็เห็นทุ่งบาร์เลย์สีทองและเหมาเหว่ยหลงที่ใส่ชุดทำงานสีแดง
“ฉันเอาของขวัญมาให้ ทายสิว่าคืออะไร?” พอฉินสือโอวลงมาจากเครื่องก็ไม่ได้ไปพบเหมาเหว่ยหลงในทันที แต่ย่อเข่าลงไปคุยกับตั๋วตั่ว มีทั้งพูดและภาษามือแบบง่ายๆ ตั๋วตั่วก็พอจะเข้าใจ
ตั๋วตั่วยิ้มพลางส่ายหน้าเขินๆ พลางคิดว่า ลุงฉินนี่ก็ มาทีไรก็จูบแก้มคนอื่นก่อนทุกที
ฉินสือโอวโบกมือให้เบิร์ด อีกฝ่ายอุ้มเหล่าลูกหมาอเมริกันบูลลี่ที่กำลังนอนหลับอยู่ในกล่องลงมา
อเมริกันบูลลี่น้อยโดนปลุกจนตื่นเลยลืมตาสะลึมสะลือขึ้นมามองไปรอบข้าง พวกมันไม่เข้าใจว่าทำไมนอนไปตื่นหนึ่งสภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไป แต่ก็ไม่เป็นไร ยังไม่ได้พัฒนาความเป็นเจ้าของถิ่น พวกมันอยู่ที่ไหนก็ได้
เห็นอเมริกันบูลลี่จ้ำม่ำตัวน้อย ตั๋วตั่วก็มีสีหน้าแปลกใจ เธอดึงมือแม่พลางชี้ไปทางหมาน้อย ดวงตาโตยิ้มจนตาหยีเป็นเส้นตรง
หลิวซูเหยียนยิ้มพลางพยักหน้าให้ตั๋วตั่วไปเล่นกับเหล่าอเมริกันบูลลี่
หมาส่วนมากมักจะชอบเด็ก ความใสซื่อของเด็กๆ สามารถนำพาความรู้สึกปลอดภัยมาให้มันได้ และอเมริกันบูลลี่ก็ถือว่าเด่นกว่าเพื่อน พวกมันชอบเด็กมากกว่า ช่วงแรกที่ฝึกก็คือเล่นกับเด็ก
เดิมทีพวกอเมริกันบูลลี่น้อยง่วงกันจะตาย นอนหมอบกรนอยู่บนพื้นหญ้า พอตั๋วตั่วเข้ามาใกล้แล้วนั่งยองลง พวกอเมริกันบูลลี่ก็ตาสว่างทันใด พวกมันล้อมเธอซ้ายขวาแล้วใช้ลิ้นสีชมพูเลียมือของตั๋วตั่ว
แน่นอนว่าจุดประสงค์ของเหล่าอเมริกันบูลลี่ตัวน้อยก็ยังคงเป็นการดูดนิ้วของตั๋วตั่ว
ตั๋วตั่วไม่เข้าใจว่าเหล่าอเมริกันบูลลี่กำลังทำอะไรจึงหันกลับมามองพ่อแม่อย่างสงสัย เหมาเหว่ยหลงหัวเราะร่าพลางโอบหลิวซูเหยียนและพูดขึ้น “แกไปอธิบายให้ลูกสาวฉันเข้าใจหน่อยสิว่าเจ้าพวกนี้ทำอะไรอยู่?”
หลิวซูเหยียนตีเขาไปทีหนึ่งแล้วว่าเขาว่าเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง แต่ก็เข้าไปเล่นเป็นเพื่อนตั๋วตั่วกับเหล่าอเมริกันบูลลี่ตัวน้อย
เหมาเหว่ยหลงกลับเข้าไปในบ้านหาขวดนมแล้วพูดขึ้น “หลายวันก่อนเก็บบ้านแล้วเจอไอ้นี่เข้า ตอนแรกกะจะโยนทิ้งแต่ก็ไม่มีเวลาสักที ปรากฏว่าวันนี้ได้ใช้พอดีเลย”
ฉินสือโอวพูด “ลูกหมาหย่านมแล้ว แกให้พวกมันกินพวกโจ๊กเนื้ออะไรแบบนี้ได้ ผสมกับอาหารเม็ดโปรตีนสูง ไม่ต้องป้อนนมหรอก”
เหมาเหว่ยหลงพูดยิ้มๆ “ไม่มีอะไร ฉันเลี้ยงโคนมขาวดำอเมริกันพอดี ตอนที่ซื้อมาเพิ่งจะคลอดลูกได้ไม่นาน ตอนนี้มีนม จะว่าไป แกกินนมไหม? ธรรมชาติล้วนๆ ไม่ใส่สารปรุงแต่ง แกไปกอดนมแม่วัวดูดก็พอ”
“ไปไหนก็ไปเลยไป!”
ฉินสือโอวออกไปดูที่ฟาร์ม ไม่ค่อยเปลี่ยนไปเท่าไร แต่สะอาดขึ้นมาก โคนมตัวหนึ่งอยู่ในคอกตัวเดียวโดดเดี่ยว เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นแม่วัวที่เหมาเหว่ยหลงเพิ่งจะซื้อมาแน่ๆ
หลังจากนั้นรถขยะคันหนึ่งก็ขับเข้าฟาร์มมาช้าๆ แล้วบีบแตรที่หน้าประตู มีคนคนหนึ่งยื่นหน้าออกมาจากฝั่งที่นั่งคนขับ
เหล่าอเมริกันบูลลี่ตัวน้อยได้ยินเสียงรถดังก็พากันมองไปทางประตูหน้า จากนั้นก็วิ่งไปที่ประตูภายใต้การนำของลูกหมาที่มีจุดขาวบนหัว วิ่งไปก็ส่งเสียงเล็กแหลมไปด้วย “โฮ่งๆๆๆ!”
เหมาเหว่ยหลงเห็นแบบนั้นก็พูดยิ้มๆ “เจ้าพวกนี้ก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย เล็กขนาดนี้ก็เฝ้าบ้านเป็นแล้วเหรอ?”
พวกมันพุ่งไปที่ด้านหน้ารถขยะอย่างรวดเร็ว เหล่าอเมริกันบูลลี่เงยหน้ามองเจ้าตัวโตแล้วเลียริมฝีปากเหมือนเริ่มลังเล ความสูงต่างกันจังเลย ปรากฏว่าพอรถขยะขับไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย เหล่าหมาน้อยก็ไม่ชอบใจ เรียงแถวเป็นครึ่งวงกลมมาล้อมรถขยะไว้ก่อนจะแหกปากเห่า
ฉินสือโอวรู้สึกว่าพวกหมาน้อยช่างเชิดหน้าชูตาให้เขาจริงๆ จึงกระแอมพูด “เหลวไหล แกก็ไม่ดูเสียบ้างว่านี่เป็นหมาที่ใครเลือกให้ จะต้องเป็นสายเลือดที่เลิศที่สุดแน่อยู่แล้ว พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ก็เหลือแค่ไม่ได้รางวัลระดับนานาชาติแล้ว”
ถ้าตอนแรกฉินสือโอวพูดแบบนี้ เหมาเหว่ยหลงต้องเชิดแน่ๆ ต่อให้เป็นเรื่องจริงเขาก็เชิดอยู่ดี แต่ตอนนี้เห็นพฤติกรรมที่ยอดเยี่ยมของพวกหมาน้อยเขาก็เลยไม่มีอะไรจะพูด ได้แต่อุทานว่า “เป็นเจ้าตัวน้อยที่เก่งจริงๆ!”
…………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset