ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 124 รสชาติที่แตกต่างกัน

บทที่ 124 รสชาติที่แตกต่างกัน
โดย
Ink Stone_Fantasy

หอยหวานเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ถูกนำมาใช้ประกอบอาหารบ่อยที่สุดของทวีปอเมริกาเหนือ ที่ยุโรปก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ฉินสือโอวคุ้นกับหอยชนิดนี้มาก เนื่องจากทุกครั้งที่ไปตลาด ก็จะเห็นหอยชนิดนี้จัดโปรโมชั่นอยู่
ที่ฟาร์มปลาต้าฉินก็มีหอยสังข์อยู่หลายชนิด หอยทากละติน หอยทะเลจิ๋ว หอยสังข์ Busycon carica หอยทากมินดาเนาสังข์ หอยมวนพลูและอื่นๆ แน่นอนว่าหอยแบบที่มีเยอะที่สุดก็คือหอยหวาน
แหล่งเพาะเลี้ยงหอยหวานที่สำคัญที่สุดคือที่รัฐฟลอริด้า รัฐเวอร์จิเนีย ไปจนถึงเขตทะเลของรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้แล้ว ที่เขตทะเลของรัฐนอร์ทแคโรไลนาและรัฐอะแลสกาก็สามารถจับหอยสังข์พวกนี้ได้เช่นกัน ร่องรอยของพวกมันแตกกระจายไปทั่วชายฝั่งทะเลตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก จึงมักจะพบได้บ่อยในฟาร์มปลาของนิวฟันด์แลนด์
ฉินสือโอวเคยเห็นพวกมันที่ใต้ทะเลมาก่อน แต่ก็ไม่มากเท่าไรนัก จุดของการรวมตัวกันของพวกมันก็ค่อนข้างจะอยู่แยกกันออกไป นี่อาจจะเป็นเพราะเมื่อก่อนฟาร์มปลาต้าฉินขาดแคลนอาหารสำหรับพวกมัน
หอยหวานกินสาหร่ายทะเลและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเป็นอาหาร ที่อยู่อาศัยของพวกมันอยู่ตรงบริเวณทะเลน้ำตื้น พวกมันติดนิสัยการกินสัตว์ที่มีผิวหนังเป็นหนามเป็นอาหาร ก่อนที่คนงานของฉินสือโอวจะปลูกสาหร่ายทะเล บริเวณรอบๆทะเลน้ำตื้นตรงนี้ มีสาหร่ายทะเลและสัตว์ที่มีผิวหนังเป็นหนามอยู่น้อยมาก การขยายพันธุ์ของหอยหวานจึงมีปัญหามาโดยตลอด
ดังนั้น ถึงแม้ว่าฉินสือโอวจะรู้ว่าที่ฟาร์มปลามีหอยสังข์พวกนี้อยู่ แต่เขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะงมมันขึ้นมา
ตอนนี้ชาร์คได้พูดขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็นึกขึ้นมาได้ทันที จึงเร่งรีบใช้จิตสำนึกโพไซดอนเพื่อลงไปสอดส่องดู
สาหร่ายทะเลเป็นปัจจัยพื้นฐานของฟาร์มปลา ตามสภาพความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์สาหร่าย และการแพร่พันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่ลอยอยู่บนผืนน้ำจำนวนมาก เมื่อเป็นเช่นนี้จึงสามารถดึงดูดปลาเล็กให้มาอาศัยอยู่ที่นี่ได้มากขึ้น ปลาเล็กก็จะดึงดูดปลาใหญ่มาอีกทอดหนึ่ง ห่วงโซ่อาหารแต่ละเส้นจึงเริ่มสมบูรณ์ขึ้นมา
ผ่านการล่าอาหารมาได้หนึ่งเดือนกว่า จำนวนของหอยหวานก็เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก พวกมันมีความสามารถในการสืบพันธุ์ที่ดีมาก แค่ครั้งเดียวก็สามารถผลิตไข่ได้มากกว่าสองพันใบ
หลังจากที่ไข่ของพวกมันได้รับการผสมพันธุ์แล้ว ไข่ของมันก็จะปลิวกระจัดกระจายไปตามน้ำ ท้ายที่สุดก็จะอาศัยอยู่กับพืชประเภทสาหร่ายหรือไม่ก็การติดอยู่บนตามโขดหินเพื่อการเจริญเติบโต
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีหอยหวานอยู่ไม่น้อย แต่ฉินสือโอวก็ไม่ได้ไปงมหอยด้วยกันกับชาร์ค เนื่องจากการงมหอยหวานค่อนข้างยุ่งยาก ปกติแล้วจะใช้กล่องล่อจับหรือไม่ก็ใช้อวนจับปลาเพื่องมขึ้นมา
สำหรับการใช้กล่องล่อจับนั้น เนื่องจากการเคลื่อนที่ที่เชื่องช้าของหอยหวาน ดังนั้นจึงต้องรออยู่หลายวันกว่าจะสามารถยกกล่องขึ้นมาได้ แต่ถ้าใช้อวนจับปลางมขึ้นมา โดยทั่วไปแล้วจะเป็นหอยหวานที่ติดขึ้นมาจากการจับปลา แต่ว่าไม่มีใครเจาะจงที่จะไปงมหอยพวกนี้ขึ้นมา
หอยเชอร์รีเยอะขนาดนี้ก็เพียงพอกับการรับประทานแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันจะอร่อยหรือไม่อร่อยก็เท่านั้น ฉินสือโอวแยกหอยตามชนิดใส่ลงไปในกะละมังสองอัน จากนั้นเขาก็เทน้ำจากทะเลสาบเฉินเป่าและน้ำมันงาอีกนิดหน่อยลงไปข้างในเพื่อล้างให้หอยคายตะกอนดินทรายออกมา
พอเห็นฉินสือโอวเทน้ำมันงาลงไป อีวิลสันก็เตรียมจะยื่นมือลงไปหยิบขึ้นมากินด้วยความรู้สึกสนอกสนใจ ชาร์คจะหัวเราะก็ไม่ได้จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก เขาลากอีวิลสันมาแล้วอธิบายให้ฟังว่า “ยังกินไม่ได้”
“แต่เทน้ำมันลงไปแล้วนะ”อีวิลสันมองไปที่ชาร์คแล้วพูดกับเขาอย่างจริงจัง
ชาร์คถึงกับพูดไม่ออก เขาจึงหันไปพูดกับฉินสือโอวว่า “ใช่แล้ว บอส คุณเทน้ำมันลงไปทำไมเหรอ?”
ฉินสือโอวอธิบายว่า “เทน้ำมันงาลงไปจะช่วยทำให้หอยพวกนี้คายโคลนที่อยู่ในท้องออกมาได้เร็วยิ่งขึ้น ถ้านายจะถามหลักการของฉัน งั้นฉันก็บอกได้แค่ว่าปีที่แล้วฉันซื้อนาฬิกามาเรือนหนึ่ง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
หอยเชอร์รีงมขึ้นมาได้ง่ายแต่ทำทานได้ยาก ฉินสือโอวลองค้นดูในอินเทอร์เน็ต เขาจึงกลัดกลุ้มใจเมื่อพบว่า เนื่องจากหอยชนิดนี้มีขนาดใหญ่ จึงทำให้ถูกพยาธิใบไม้ในตับ พยาธิหอยโข่งและพยาธิชนิดอื่นๆเข้าไปมาวางไข่ได้ง่าย
ไข่ของพยาธิบางชนิดก็ฆ่าให้ตายได้ยากมาก พวกมันจะไม่เติบโตในตัวของหอยเชอร์รี เมื่อเข้าไปสู่ร่างกายของคนหรือสัตว์เลี้ยงแล้วจึงจะกลายเป็นตัวอ่อนจากนั้นก็จะเข้าไปรุกรานทำลายร่างกายของคนหรือสัตว์ที่มันเข้าไปอาศัย ชาวแคนาดากลัวเรื่องนี้ ดังนั้นจึงไม่กินหอยชนิดนี้
คายโคลนออกมาได้หนึ่งชั่วโมงแล้ว ระหว่างนั้นก็เปลี่ยนน้ำไปสี่ห้าครั้ง ฉินสือโอวจึงได้พาเด็กๆทั้งสี่คนและนีลเซ็นเพื่อมาจัดการกับหอยพวกนี้
เขาให้นีลเซ็นล้างพวกหอยตัวเล็กให้สะอาดแล้วค่อยใช้คีมปากนกตัดส่วนก้นหอยทิ้ง แล้วนำมาผัด ส่วนหอยตัวใหญ่ก็ใช้มีดแคะเอาเนื้อออกมา เพื่อเตรียมทำเนื้อหอยคลุกซอสแบบเย็น
ไม่ควรนำหอยโข่งตัวใหญ่มาผัด ปกติเปลือกหอยก็หนาอยู่แล้ว เนื้อหอยก็ยิ่งหนาขึ้นไปอีก ดังนั้นน้ำมัน เกลือ ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชูและเครื่องปรุงต่างๆก็จะไม่ซึมเข้าไปในเนื้อ
หอยเชอร์รีแต่ละอันไม่มีอันไหนที่เล็กเกินไป อย่างหอยโข่งของจีนพวกนั้น ล้วนแต่เป็นหอยโง่ๆ ที่มีแต่เปลือกไม่มีเนื้อ กินไม่ได้
เขาเลือกเอาแต่หอยที่มีขนาดเท่ากันกับท้องนิ้วโป้งมาบิดเอาก้นหอยออก ฉินสือโอวใช้เหล้าขาว เกลือ น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาวหมักเพื่อให้เกิดรสชาติ นำเนื้อหอยตัวใหญ่ใส่ลงไปต้มในน้ำที่กำลังเดือด พยายามฆ่าไข่พยาธิที่อาจจะยังไม่ตายให้หมด
ต่อมาเป็นเมนูผัดหอยโข่ง เทน้ำมันมะกอกเทลงไปรอจนน้ำมันร้อน ใส่หอม กระเทียม ขิง และพริกลงไปผัด จากนั้นจึงเทหอยโข่งตัวเล็กลงไปแรงๆ ผัดคนกับน้ำมันเรื่อยๆ ให้นานกว่าสี่ห้านาที เพื่อรับรองว่าเนื้อหอยจะสะอาดอย่างเต็มที่
สุดท้ายจึงเริ่มใสเครื่องปรุง ใส่เหล้าขาวลงไป แล้วผัดให้ทั่ว ใส่ซีอิ๊วขาว แล้วผัดอีกครั้ง จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูแล้วผัดต่อ ใส่น้ำตาล ผัดให้เข้ากัน เติมซอสหอยนางรม แล้วผัดต่อไป เพิ่มเกลือ แล้วผัดอีกครั้ง สุดท้ายจึงเติมซุปไก่ลงไป ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันจากนั้นก็นำออกจากกระทะได้
กลิ่นผัดพริกและเครื่องปรุงที่ใส่ตามลงไปทีหลังผสมกันเป็นกลิ่นซอสหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้องครัว นีลเซ็นดมๆดู แล้วพูดว่า “กลิ่นหอมไม่เลวเลย แต่ไม่รู้ว่าเนื้อมันจะอร่อยไหม”
เชอร์ลี่ย์ตาโตด้วยความตะลึง “ทำไมทำเมนูนี้ ถึงต้องใช้เครื่องปรุง กับขั้นตอนเยอะขนาดนี้ล่ะคะ?”
ฉินสือโอวยักไหล่ แล้วตอบไปว่า “น่าเสียดายที่มีแค่ซีอิ๊วขาวไม่มีน้ำมันถั่วลิสงกับซีอิ๊วดำ ถ้าหากมีซอสพวกนั้น ก็ยิ่งต้องใส่เครื่องปรุงเพิ่มมากกว่าเดิม”
เนื้อหอยคลุกซอสแบบเย็นทำได้ง่ายกว่ามาก เนื้อหอยสีขาวที่ต้มสุกแล้วจากนั้นก็ใช้มีดหั่นออกเป็นแผ่น พอดีที่ว่ามันเป็นหอยตัวใหญ่ทั้งหมด จึงทำให้หั่นเป็นแผ่นได้ง่ายมาก
เมื่อหั่นจนได้เป็นแผ่นแล้ว จึงมาทำในส่วนของซอสคลุก ฉินสือโอวทำเป็นสองแบบ แบบแรกคือเนื้อหอยผัดน้ำมัน ส่วนอีกแบบคือเนื้อหอยคลุกน้ำมันสด
วิธีทำเนื้อหอยผัดน้ำมัน เทซีอิ๊วขาว ซุปไก่ น้ำส้มสายชูน้ำมันหอยลงไปในเนื้อหอย แล้วนำไปผัดกับน้ำมันที่กำลังเดือดโดยตรง เนื้อหอยคลุกน้ำมันสด คือการนำต้นหอมที่ถูกหั่นเป็นเส้น ขิงซอย กระเทียมหั่นบาง เครื่องปรุงพร้อมทั้งเนื้อหอยมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน หนึ่งในนั้นต้องใส่ผงวาซาบิลงไปเนื้อหอยจึงจะมีรสชาติที่สดใหม่
ทำจนเต็มทั้งสี่จาน ฉินสือโอวจึงนำพวกมันขึ้นโต๊ะอาหาร อีวิลสันวางลูกบาสในมือแล้วจึงมายืนอยู่ที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เริ่มน้ำลายสอ
ฉินสือโอวลองชิมดู รสชาติไม่เลวเลย กลิ่นของเนื้อหอยผัดน้ำมันหอมมาก รสชาติของเนื้อหอยคลุกน้ำมันสดก็อร่อยมากๆ เพียงแต่ว่าเนื้อเหนียวไปหน่อย พอเคี้ยวไปท้ายๆก็ไม่มีรสชาติแล้ว
เขานึกว่าชาร์คและซีมอนสเตอร์และคนอื่นๆจะทานอย่างเอร็ดอร่อย แต่ปรากฏว่าเมื่อทั้งสามคนทานไปได้สองคำก็วางมีดกับส้อม แล้วขับรถเข้าเมืองไปดื่มเหล้าเสียอย่างนั้น
ฉินสือโอวโมโหมาก เขาจับนีลเซ็นไว้แล้วถามว่า “รสชาติไม่อร่อยเหรอ?”
นีลเซ็นตอบอย่างจนปัญญา “บอส พอดมดูแล้วกลิ่นหอมน่ากินมาก แต่พอกินเข้าไปแล้วรสชาติในตอนแรกหนักมาก ตอนสุดท้ายกลับไม่เหลือรสชาติอะไรเลย อีกทั้งเปลือกหอยของผัดหอยยังเผ็ดเกินไป ส่วนเนื้อหอยกลับจืดมาก พวกเราไม่ชินเลย”
อาหารของคนแคนาดา มักจะคุ้นชินกับอาหารที่มีรสชาติเสมอกันทั้งคำ อีกทั้งยังชอบอาหารที่มีรสอ่อน ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสนใจกับเนื้อปลาทะเลที่นุ่มและสดอร่อยเท่านั้น
ทว่าเด็กๆทั้งสี่คนกลับทานได้อย่างมีความสุข เชอร์ลี่ย์ปลอบเขาว่า “ฉิน นี่อร่อยมากเลยค่ะ อร่อยกว่าที่พวกเราต้มกินตั้งเยอะ!”
พาวเวลล์อีกสามคนก็พยักหน้าไม่หยุด ฉินสือโอวก็ได้รับคำปลอบใจในที่สุด ทว่าต่อมาเขาก็คิดว่ามันน่าจะไม่ถูกต้องนะ หอยที่พวกเธอใช้น้ำเปล่าต้มจะเทียบกันกับผัดหอยกับเนื้อหอยคลุกน้ำมันที่ฉันลงแรงตั้งใจทำออกมาได้ยังไงกัน?
อีวิลสันก็เป็นอีกคนที่กำลังทานอย่างมีความสุข เขาไม่เลือกทาน ใช้ช้อนตักเอาข้าวเข้าปากกินเข้าไป ในหนึ่งช้อนก็มีเนื้อหอยแผ่นใหญ่ที่หายไปหนึ่งแผ่น เขายัดทั้งหมดเข้าไปในปาก แล้วเคี้ยว ‘จ๊อบแจ๊บจ๊อบแจ๊บ’ ใบหน้าของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
ฉินสือโอวไม่คิดจะไปประณามความไร้รสนิยมของชาร์คและอีกสองคนที่เหลือ เขารีบแย่งทานเนื้อหอยคลุกน้ำมันสด เด็กๆทั้งสี่คนมือเล็กแขนสั้น จะแย่งก็แย่งไม่ถึง
ช่วยไม่ได้พอเขาเห็นอีวิลสันเตรียมจะยกเอาอาหารทั้งจานเทเข้าปาก ฉินสือโอวก็ทำได้แค่ยกเอามาแบ่งให้ชามทั้งห้าใบก่อน ส่วนที่เหลือก็ยกให้อีวิลสันไป
อีวิลสันไม่สนใจหอยผัดเลยแม้แต่น้อย ฉินสือโอวสอนให้เขาดูดกินมัน แต่เขากลับรู้สึกว่าวิธีแบบนี้ไม่สนุก กินเนื้อหอยลงไปหนึ่งอันค่อยดูดเนื้อหอยลงไปอีกอัน เปลืองเวลาจนของที่กินเข้าไปก่อนหน้าย่อยลงไปหมดแล้ว
ทว่าเด็กๆทั้งสี่คนกลับชอบดูดกินหอย พวกเขากินไปด้วยเป่าเปลือกหอยเล่นไปด้วย เป่าหวูดหวูดจิ๊ดจิ๊ดทำให้บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความเบิกบานใจ
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset