ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 726 สอนปีศาจยักษ์ล่าเหยื่อ

เหล่าแมวน้ำตัวผู้ลงไปในน้ำ ฉินสือโอวก็ส่งพลังโพไซดอนไปยังตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับฉลามกรีนแลนด์ รอชมศึกใหญ่ครั้งนี้
ความเร็วในการว่ายน้ำของฉลามกรีนแลนด์ยังคงช้าเหมือนเดิม ไม่มีท่าทีดุดันและไร้พ่ายของเผ่าพันธุ์ฉลามเลยสักนิด นั่นก็เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยของน้ำทะเลในมหาสมุทรเหนือเส้นศูนย์สูตรนั้นมีเพียงแค่หนึ่งถึงสององศาเท่านั้น ฉลามกรีนแลนด์ที่ต้องทำการปรับอุณหภูมิร่างกาย จำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมาก พอเป็นแบบนี้พลังงานที่ใช้จะค่อนข้างน้อย ดังนั้นจึงเคลื่อนตัวช้าแบบนี้
ผิดกลับแมวน้ำที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าตัวหน่อมแน้มแห่งท้องทะเล แม้ว่าตอนบนเกาะพวกมันจะมีท่าทีเงอะงะ แต่หลังจากลงน้ำแล้วนั้นแค่พุ่งตัวออกไปทีก็สามารถพุ่งไปได้ไกลเลย ขาทั้งสี่ของพวกมันได้แปรเปลี่ยนไปเป็นไม้พายเรือเหมือนกับเต่ามะเฟือง ที่ขยับทีก็พุ่งออกไปได้อย่างรวดเร็ว
ฉลามกรีนแลนด์ที่คาบแมวน้ำอ้วนที่โชคร้ายตัวนั้นไว้ในปาก ได้ว่ายไปพลางเคี้ยวไปพลาง ท่าทางสบายใจเป็นที่สุด
แมวน้ำเคราที่มีหนวดเล็กๆ ขึ้นอยู่รอบปากได้พุ่งเข้าไปที่หลังของมันเป็นตัวแรก หัวอันกลมมนของมันหดกลับเข้ามา ราวกับทุ่นระเบิด ที่พอระเบิดน้ำทะเลที่เป็นอุปสรรคออกแล้วก็พุ่งชนไปที่ท้องด้านข้างของฉลามกรีนแลนด์
แมวน้ำตัวอื่นก็ตามมาด้วย พากันอ้าปากเผยฟันที่แหลมคมนั้นไล่งับฉลามกรีนแลนด์ ไล่งับเหมือนกับงับกระดูกแท่งใหญ่อย่างไรอย่างนั้น ไม่นานก็กัดผิวหนังที่ด้านหนาของฉลามหลุดออกมาได้
เส้นประสาทรับความรู้สึกของฉลามกรีนแลนด์นั้นไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นปกติเวลาที่เห็นพวกมัน จะพบว่าตัวของพวกมันเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย
แม้ว่ากำลังเจอกับการโจมตีของพวกแมวน้ำ แต่ฉลามกรีนแลนด์ตัวนี้กลับวางมาด ‘อยากทำอะไรก็ทำฉันยังคงกินของฉันต่อ’ ในปากยังคงเคี้ยว ‘หมับๆ ’ ต่อไป ไม่นานก็กัดจนแมวน้ำในปากขาดออกเป็นสองท่อน
เมื่อเห็นแบบนี้ พวกแมวน้ำก็ยิ่งโกรธ เจ้าพวกตัวที่ลงน้ำทีหลังสุดก็พุ่งเข้าไปบ้าง พวกมันพากันล้อมรอบฉลามกรีนแลนด์ไว้แล้วโจมตีพร้อมกัน
เมื่อเป็นแบบนี้ฉลามกรีนแลนด์ไม่สามารถอยู่นิ่งได้แล้ว การที่ร่างกายถูกโจมตีพร้อมกันหลายจุดแบบนี้ แม้ว่าประสาทรับความรู้สึกจะแย่แค่ไหน ก็คงรู้สึกเจ็บสุดจะทนแล้ว มันจึงหันตัวกลับมาอย่างช้าๆ อ้าปากที่ใหญ่ของมันแล้วออกแรงดูด มีแมวน้ำตัวหนึ่งที่ถูกดูดเข้าไปในปากของมันพร้อมกับน้ำทะเลด้วย
ดูเหมือนจะช้าแต่กลับเร็วกว่าที่คิด แมวน้ำเคราที่ดูเหมือนจะต้องจบชีวิตลงในปากของฉลามเป็นแน่แล้วนั้น กลับมีแมวน้ำที่อยู่ข้างๆ ว่ายเข้ามา ชนไปที่ท้องของเพื่อนร่วมฝูงราวกับเดาะบอล มันชนไปที่ข้างลำตัวของเพื่อนจนสามารถหลุดออกไปได้
ฉินสือโอวอดไม่ได้อยากจะปรบมือให้ ช่างเป็นเจ้าตัวเล็กที่ฉลาดเสียจริง
ฉลามกรีนแลนด์ยังไม่รู้ตัว เพราะว่าพวกมันเคลื่อนไหวช้า ทำให้เกิดปรสิตบนตัวได้ง่าย ส่วนตาก็เป็นส่วนที่ปรสิตโจมตีเป็นส่วนหลัก ในส่วนนี้จะมีปรสิตจำพวกโคพีพอดอย่างเช่นหมัดน้ำประเภทต่างๆ อาศัยอยู่เต็มไปหมด
การอาศัยอยู่ของหมัดน้ำจะทำให้ฉลามกรีนแลนด์สูญเสียการมองเห็น ฉลามกรีนแลนด์ตัวนี้มองไม่เห็นรูปร่างของพวกแมวน้ำได้ชัดเจน ส่วนแมวน้ำรอบตัวก็มีเยอะเกินไป จึงทำให้การดมกลิ่นและการสัมผัสที่เป็นเลิศที่พวกมันพึ่งพามาตลอดไม่มีประโยชน์ ทำให้เสียเปรียบในการสู้รบกับแมวน้ำอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอนแรกพวกแมวน้ำได้โจมตีจนฉลามกรีนแลนด์หมดท่าแล้ว แต่ว่าไม่นาน ได้มีเงาใหญ่ออกมาจากทั้งสี่ทิศ ฝูงฉลามกรีนแลนด์ปรากฏตัวแล้ว!
ที่ฉลามกรีนแลนด์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจระเข้แห่งมหาสมุทร ไม่ใช่เพียงเพราะพวกมันชอบลากอาหารไปกินในน้ำเท่านั้น แต่เพราะพวกมันชอบอยู่กันเป็นฝูงด้วย และชอบส่งตัวแทนออกไปล่อเหยื่อ รอจนเหยื่อเข้ามาในกับดักแล้ว ค่อยเข้าไปล่าเหยื่อกันทั้งฝูงเหมือนกับจระเข้
เหล่าแมวน้ำรับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล จึงรีบขยับขาทั้งสี่อย่างรวดเร็วเพื่อหนี พวกมันช่างฉลาดมากนัก
ฝูงฉลามกรีนแลนด์เคลื่อนตัวช้าเกินไป จึงยากที่ล้อมพวกแมวน้ำไว้ได้ แต่ว่าพวกมันถนัดในการวางกับดักที่ค่อนข้างรอบคอบ ก็คือทำการปิดทางกลับไปยังเกาะฮิลล์ของพวกแมวน้ำทะเลไว้ เพื่อเป็นการปิดกั้นทางหนีของอาหารบางส่วนไว้
ตำแหน่งของเกาะฮิลล์ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ มันก็เหมือนกับยอดเขาที่โผล่ขึ้นมาจากใต้ท้องทะเล น้ำทะเลรอบๆ ถือว่าลึกพอสมควร จะมีก็เพียงโขดหินแค่ชิ้นเดียวที่โผล่ออกมาจากผิวน้ำ
สภาพภูมิประเทศของมหาสมุทรแบบนี้นั้นหาได้ยากจากที่อื่น แต่รอบๆ เกาะกรีนแลนด์นั้นกลับเต็มไปด้วยเกาะแบบนี้ เพราะว่านี่เป็นเกาะโขดหินที่ถูกสร้างขึ้นโดยภูเขาไฟที่ดับแล้ว และเขตพื้นที่ของมหาสมุทรเขตเหนือที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรนั้น ก็เต็มไปด้วยภูเขาไฟ!
ดังนั้น ที่ที่พวกแมวน้ำและฉลามกรีนแลนด์สู้รบกันนั้น น้ำทะเลลึกมากพอดู
ฉินสือโอวสะกิดใจขึ้นมา จึงเรียกปีศาจยักษ์ที่หิวมาหลายวันแล้วออกมา
เมื่อได้รับคำสั่ง ปีศาจยักษ์ได้เคลื่อนตัวลุกออกมาจากที่ซ่อนตัวอย่างช้าๆ ปลาที่อยู่รอบๆ ต่างก็ตกใจจนพากันหนีเอาชีวิตรอด น้ำทะเลสั่นไหว หินทรายใต้ท้องทะเลพากันปลิวว่อน ในตอนนี้หมึกยักษ์ได้เผยความยิ่งใหญ่ของมันออกมาแล้ว
ฉินสือโอวถ่ายทอดพลังโพไซดอนไปให้บางส่วน ปีศาจยักษ์เหมือนกับลูกขีปนาวุธที่ถูกยิงออกไป หนวดของมันขยับไปมาพร้อมกับพ่นน้ำออกมาจากท่อพ่นน้ำ แล้วตามมาอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าจะห่างกันไกล แต่ฝูงแมวน้ำและฉลามกรีนแลนด์ได้เริ่มตื่นกลัวกันขึ้นมา นี่ก็คือสัมผัสที่หกของสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทร พวกมันมีน้ำทะเลเป็นตัวส่งสัญญาณให้ จึงอ่อนไหวมากกว่าสัตว์บนผืนดินมาก
ฝูงแมวน้ำไม่สนใจการแก้แค้น ฝูงฉลามกรีนแลนด์ก็ไม่สนเรื่องล่าอาหารแล้ว พวกมันต่างก็เลือกทิศทางหนีของตัวเอง แล้วหนีไปทางนั้นอย่างหัวซุกหัวซุน
ปีศาจยักษ์ที่ตามมาทีหลัง ยื่นมือที่ราวกับงูเหลือมทะเลนั้นออกไป ไม่นานก็รัดเข้าไปที่ตัวของฉลามกรีนแลนด์ที่เริ่มการโจมตีตัวนั้น
ฉลามกรีนแลนด์ออกแรงต่อต้านสุดฤทธิ์ แต่ว่าไม่มีผลเลยสักนิด ท่อดูดบนหนวดของปีศาจยักษ์ได้ดูดตัวของฉลามไว้ ตามด้วยขยับหนวดไปมาเพื่อรัดมันเอาไว้
หมึกยักษ์มีฟันก็จริง แต่ว่าได้เสื่อมไปหมดแล้ว เหลือไว้ก็เพียงแต่กระดูกที่แข็งแรงในปากเท่านั้น หมึกยักษ์ล่าอาหาร ปกติจะใช้หนวดอุดไปที่ส่วนจมูกและกรามของปลา เพื่อให้พวกมันขาดอากาศตาย หรือไม่ก็ใช้หนวดที่เต็มไปด้วยพลังนั้นรัดจนกระดูกสันหลังของปลาจนแหลก
แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ก็ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นหมึกยักษ์ที่ถึงแม้จะมีร่างกายที่สามารถครองใต้ทะเลลึกได้นั้น กลับไม่เคยครองทะเลได้เลย กลับกันกลับมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ
ฉินสือโอวมองดูปีศาจยักษ์ที่กำลังต่อสู้อยู่กับฉลามกรีนแลนด์อย่างกินแรงก็ถอนหายใจออกมา แล้วตามไปสอนวิธีการสู้รบให้กับปีศาจยักษ์ด้วยตัวเอง ใช้หนวดแค่สี่เส้นรัดไปที่ตัวของฉลาม เหลือให้ส่วนหัวออกมา จากนั้นก็ทุบไปที่โขดหินใต้ท้องทะเลเต็มแรง ทุบแค่ไม่กี่ที ก็ทำให้หัวของฉลามก็แตกจนตายแล้ว
เหล่าชาวประมงบนเรือมองไม่เห็นสถานการณ์ใต้ท้องทะเล เห็นเพียงแค่มีเลือดโผล่ขึ้นมาไม่หยุด พวกเขาเต็มไปด้วยสีหน้าสงสัย เดาไม่ออกว่าใต้ทะเลนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
แต่ว่าบนเรือพวกเขามีเครื่องโซนาร์สำหรับหาปลาอยู่ ตอนที่พวกฉลามว่ายขึ้นมาจากใต้ทะเลนั้น เครื่องโซนาร์ก็หาตัวพวกมันเจอแล้ว
 “อ้อ เชอะ ฉลามกรีนแลนด์เยอะขนาดนี้เลยเหรอ?! ทำไมปลาค็อดถึงสูญพันธุ์ แต่เจ้าตัวประหลาดพวกนี้กลับมีมากแบบนี้เสมอเลยนะ?” วิลเลียมส์ชาวประมงสูงวัยบ่น**ออกมา
ฉลามกรีนแลนด์เหมือนกับปลาทูน่าขาว ต่างก็เป็นปลาทะเลที่พวกชาวประมงเกลียดที่สุด ในตัวปลาทูน่าขาวนั้นมีสารประกอบอินทรีธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าสคอมโบรท็อกซิน เจ้าสารนี้มนุษย์ไม่สามารถย่อยได้ ทำให้ไม่สามารถนำมากินได้
ส่วนฉลามกรีนแลนด์นั้นยิ่งแย่กว่า ในเนื้อของพวกมันมีสารพิษอยู่ มนุษย์ไม่สามารถกินได้ แถมยังมีกลิ่นเหม็นเหมือนฉี่อีกด้วย แม้ว่าจะอยากกินก็กินไม่ลง แน่นอนว่าหมึกยักษ์ไม่สนใจเรื่องนี้ แม้ว่ามันจะกินก้อนหินเข้าไปก็คงย่อยได้อยู่แล้ว
ฉลามกรีนแลนด์ความยาวห้าเมตรกว่านั้นถือได้ว่าเป็นอาหารมื้อใหญ่เลย หมึกยักษ์กินไปได้ไม่ถึงครึ่งก็อิ่มแล้ว มันโยนหัวปลาทิ้งไป แล้วว่ายเลียบใต้ทะเลจากไป
เหล่าชาวประมงเตรียมจะจากไป แต่หัวปลาได้โผล่ออกมาบนผิวน้ำอย่างรวดเร็ว สีหน้าของไลเทคดีใจขึ้นมา แล้วใช้ให้คนใช้ตะขอปลาลากมันขึ้นมา
ฉินสือโอวถามว่านี่จะเอาไปทำอะไรได้ ไลเทคหัวเราะฮ่าๆ ออกมา แล้วพูดว่า “รอวันที่พวกคุณกลับ จะให้ของขวัญชิ้นเล็กกับพวกคุณแล้วกันนะ”
ไปฟาร์มปลาต้องแล่นไปทางตะวันออกเฉียงใต้อีก พวกเหล่าชาวประมงเริ่มพากันหว่านแห ฉินสือโอวเองก็เขาไปช่วยด้วยอย่างขะมักเขม้น เหล่าชาวประมงไม่มีแรงกันแล้ว แรงของเขาคนเดียวทำงานมากกว่าพวกเขาสี่คนรวมกันเสียอีก และยังไม่บ่นอีกด้วย ทำให้ได้ใจพวกเหล่าประมงสูงอายุมามากโข
………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset