ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 727 ยิ้มเดียวสยบทั้งบุญคุณและแรงแค้น

จากระเบียบการ เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาต้องหยุดพักที่เกาะน้ำแข็งอัคคีเป็นเวลาสามวัน ตอนนี้ถึงเวลาต้องเตรียมกลับกันแล้ว
ช่วงเวลาสามวันมานี้ เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาได้ลิ้มรสความลำบากกันทุกรูปแบบ เพราะในเกาะเล็กๆ แห่งนี้ของขาดแทบจะทุกอย่าง พวกเขาอยากดื่มเบียร์เย็นๆ ยังต้องขับเรือออกไปซื้อถึงเกาะฝั่งตรงข้าม
จุดนี้ก็เป็นสิ่งลำบากอีกอย่างที่เกาะเล็กๆ นี้กำลังเผชิญอยู่เช่นกัน พวกเขาเพียงแค่อยากจะซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้นยังต้องนั่งเรือข้ามฟากออกไปนอกเกาะ ทุกอย่างยุ่งยากเกินไป แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นอยู่ที่ตัวรัฐบาล เพื่อที่จะรักษาให้ชาวเมืองสามารถใช้ชีวิตที่ปกติต่อไปได้ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องจัดแจงเรือข้ามฟากให้วันละสองรอบ
สิ่งที่เรือผลาญไปก็คือน้ำมัน!
สำหรับคุณลุงคุณป้าในเมืองเล็กแห่งนี้แล้ว สามวันนี้นับว่าไม่เลวเลย พวกเขาชอบความครึกครื้น การมาถึงของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลากับพวกนักข่าวได้ทำให้เมืองเล็กที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง
เหล่าชาวเมืองดูจะต้อนรับพวกนักข่าวมากกว่า ไม่กี่วันมานี้พวกเขามักจะพูดคุยกับพวกนักข่าวไม่หยุด เพื่อเล่าเกี่ยวกับความยากลำบากของพวกเขาให้ฟัง หวังว่านักข่าวจะช่วยพวกเขาได้บ้าง
สุดท้ายตอนจากกัน ไลเทคยังดึงตัวนักข่าวจาก ‘หนังสือพิมพ์ใบเมเปิลออตตาวา’ ไว้แล้วพูดว่า “ความจริงพวกเขาต่างก็ไม่อยากจากที่นี่ไป ในสายตาพวกคุณ ที่นี่แย่มาก แต่ว่าสำหรับคนแก่อย่างพวกเราแล้ว ที่นี่ก็คือบ้านนะครับ! เพราะน้ำและปลาจากเกาะพังๆ นี่แหละที่เลี้ยงชีวิตพวกเรามา!”
 “พวกเราไม่ต้องการอะไรมากมาย ดูสิ แค่พวกเรายกส้นเท้าขึ้นมาก็สามารถสัมผัสกับบันไดสวรรค์แล้ว จะให้คนแก่อายุเจ็ดแปดสิบปีหวังอะไรอีกล่ะ? ขอแค่มีของใช้ในชีวิตประจำวัน มีขนมปัง มีน้ำดื่ม มีไฟฟ้า พวกเราก็พร้อมจะใช้ชีวิตที่นี่ต่อไปแล้ว”
หลังจากได้ฟังคำพูดที่เศร้าและหมดหนทางของเหล่าคนแก่แล้ว พวกเจ้าของฟาร์มปลาก็พากันก้มหน้าลงอย่างเงียบๆ จุดนี้พวกเขาให้ความช่วยเหลือคนสูงอายุพวกนี้ไม่ได้
สิ่งที่ฉินสือโอวทำได้ ก็คือเชิญท่านนายกสภาพาลีไปเป็นแขกที่เกาะแฟร์เวล เพื่อดูว่าจะสามารถหาไอเดียที่จะมาพัฒนาเมืองเล็กๆ นี้ได้หรือเปล่า
ตอนที่พวกเขาเตรียมจะขึ้นเรือ คุณลุงวิลเลียมส์วิ่งมา เขาสะพายกระเป๋าสำหรับปีนเขามาด้วยใบหนึ่ง โบกมือแล้วตะโกนว่า “เฮ้ เพื่อน อย่าเพิ่งรีบไป ดูสิ พวกเราได้เตรียมของขวัญเล็กๆ ไว้ให้กับพวกคุณด้วย ไม่รู้ว่าพวกคุณจะชอบหรือเปล่า”
พอเปิดกระเป๋าเป้ออก ข้างในเต็มไปด้วยมีดพกที่สวยงามประณีต
มีดพกพวกนี้ด้ามที่ยาวที่สุดยาวถึงยี่สิบห้าถึงยี่สิบหกเซนติเมตร สั้นที่สุดคือห้าถึงหกเซนติเมตร ด้ามมีดใช้ด้ายไนลอนสีเขียวอ่อนกับเอ็นตกปลาใสพันเอาไว้ ส่วนฝักมีดนั้นทำมาจากหนังฉลาม นิ่มแต่ดูเฉียบคม
มีดพกที่ฉินสือโอวได้เป็นมีดที่มีความยาวสิบห้าเซนติเมตร หลังจากเขาดึงมีดออกจากฝัก พบว่าใบมีดคมกริบ มีร่องเลือดสวยเหมือนดอกไม้บาน แต่วัสดุที่ทำแปลกมาก เหมือนจะเป็นแผ่นกระดูก
 “นี่คือ?” ฉินสือโอวเดาออกไปว่า “นี่ทำมาจากฟันของฉลามกรีนแลนด์ใช่ไหมครับ?”
 “ใช่แล้ว” คุณลุงวิลเลียมส์พูดพร้อมหัวเราะออกมาอย่างตื่นเต้น “ยังจำหัวฉลามกรีนแลนด์ที่พวกเราเก็บได้บนทะเลได้ไหมครับ? พวกเราจับได้มาอีกตัว จากนั้นก็เลาะฟันของพวกมันออก เอามาทำเป็นมีดพก”
คุณลุงไลเทคก็หัวเราะด้วยแล้วพูดว่า “วัสดุที่ทำอาจไม่ดีเท่าไร แต่ว่าเป็นของขึ้นชื่อในเมืองของพวกเรา เป็นทักษะที่เรียนมาจากชาวอินูเปียต ในการตีมีดนั้นจะใช้น้ำมันเดือดเผา ดังนั้นความคมจึงไม่เลวเลย”
เซอร์จิโอได้รับมีดพกเล่มที่ยาวที่สุด คนอินเดียนแดงชอบอะไรแบบนี้ ดังนั้นพวกชาวประมงจึงให้ด้ามที่ดีที่สุดให้กับเขา
ระหว่างลูบมีดเล่มนี้อยู่ ใบหน้าของเซอร์จิโอได้เผยความตื่นเต้นดีใจออกมา จากนั้นก็ขบฟันไปมาแล้วพูดว่า “เพื่อนผู้สูงอายุทั้งหลาย พวกเรารู้ถึงความลำบากของพวกคุณบนเกาะดี ถ้าหากพวกคุณไม่คาดหวังอะไรสูงแล้วล่ะก็ งั้นผมจะกลับไปเตรียมการ แล้วมาลงทุนเปิดบ่อนพนันที่เมืองของพวกคุณ! ผมคิดว่าถึงตอนนั้นให้พวกคุณทำมาหากินกับนักพนัน คงจะหาเงินได้บ้าง!”
ที่แคนาดากับอเมริกาการพนันไม่ผิดกฎหมาย แต่ว่ารัฐบาลรู้ถึงความเสียหายที่การพนันจะนำมาให้ จึงได้ออกกฎห้ามพื้นที่ที่มีคนมากกว่าจำนวนหนึ่งจะไม่สามารถเปิดบ่อนได้ บ่อนใหญ่ๆ จึงมักจะตั้งอยู่พื้นที่ไกลปืนเที่ยงเสียมากกว่า
ยกตัวอย่างเช่นลาสเวกัสที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั้น ก็ได้ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่อ้างว้างไกลผู้คนเช่นกัน แต่ว่าเหล่านักพนันไม่ได้สนใจจุดนี้ สิ่งที่พวกเขาต้องการก็แค่สถานที่สำหรับเล่นพนัน แม้ว่าระยะทางจะยากลำบากราวกับไปหาพระไตรปิฎกที่ชมพูทวีป แต่พวกนักพนันก็สามารถไปได้
ฉินสือโอวมองดูเซอร์จิโอ ในใจรู้สึกดีกับเขาขึ้นมา ความจริงแล้วพวกเจ้าของฟาร์มปลาพวกนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด พวกเขาก็เป็นคนเหมือนกัน แค่ว่ามีความขัดแย้งสะสมกับพวกเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมไว้มากเกินไป จึงทำให้มีความอคติกับเขาเต็มไปหมด
บัคเคอร์ถอดแว่นกันแดดออกพูดด้วยว่า “ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร เดี๋ยวผมจะเปิดร้านขนมปังเล็กๆ ไว้บนเกาะ แบบนี้ตอนทุกคนอยากกินขนมปังอบใหม่ ก็ไม่ต้องไปไกลขนาดนั้นแล้ว”
เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาล้วนก็มีธุรกิจหลักกันทั้งนั้น การจะช่วยเหลือเมืองเล็กเมืองนี้นั้นง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ อย่างเช่นบัคเคอร์เปิดร้านขนมปัง ก็แค่ส่งช่างทำขนมปังกับอุปกรณ์การอบมา ที่นี่มีบ้านเรือนเต็มไปหมด อย่างมากก็แค่ขาดทุนปีละไม่กี่หมื่นดอลลาร์ สำหรับเขาแล้วไม่ถือว่าได้รับผลกระทบอะไรเลย
แต่พวกเขาได้ทำเรื่องดีๆ นี่สิถึงจะควรค่าแก่การนับถือ
แต่กลับเป็นพวกของเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมแทนที่ไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออะไรได้เลย เพราะความจริงพวกเขาเองก็เป็นชาวประมงเช่นกัน
สุดท้ายแล้ว เพราะพวกของเซอร์จิโอให้ความช่วยเหลือเมืองเล็กแห่งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของเจ้าของฟาร์มปลาทั้งสองฝ่ายมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก่อนหน้านี้ที่พวกของแอนดรูว์แค้นเคืองพวกเจ้าของฟาร์มปลาพักร้อนพวกนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะพวกเขาไม่ยอมพัฒนาฟาร์มปลา แต่เพราะมีความแค้นเศรษฐีอยู่ในใจด้วย
ทำไมถึงแค้นใจเศรษฐี? เพราะว่าเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมคิดว่า เศรษฐีพวกนี้มีเงินแต่ขาดคุณธรรม เป็นไอ้สารเลวที่เลวตั้งแต่หัวจรดเท้า!
แต่เรื่องราวหลังจากนั้นได้พิสูจน์แล้วว่าความจริงไม่ใช่อย่างนั้น พวกเขาทั้งสองฝ่ายก็เพียงแค่เข้าใจผิดกันเท่านั้น
ออกจากเกาะน้ำแข็งอัคคี ก็เท่ากับจบกิจกรรมการเยี่ยมชม ความจริงยังต้องไปที่คาบสมุทรแลบราดอร์เพื่อเยี่ยมชมฟาร์มปลาอีก แต่ทางกรมอุตุทางทะเลบอกว่าพายุหมุนเขตร้อนกำลังมุ่งหน้าไปทางเหนือ และได้เข้าใกล้ทะเลเขตนิวฟันด์แลนด์แล้ว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน พวกเขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับ
สิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนได้เกิดขึ้น นั่นก็คือความสัมพันธ์ของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลานั้นดีขึ้นมา ถึงขั้นว่าแอนดรูว์ยอมไปเล่นไฟฟ์การ์ดสตัดกับพวกบัคเคอร์ แล้วก็ชาร์ลส
ภาพนี้เอาทำคนมองรู้สึกอุ่นใจ แต่คนที่จัดกิจกรรมเยี่ยมชมนี้อย่างแมทธิวไม่ได้จัดขึ้นเพื่อสานความสัมพันธ์พวกเขา
สุดท้ายตอนที่ใกล้จะถึงเซนต์จอห์น เขาได้เรียกให้เจ้าของฟาร์มปลาทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องอาหารด้านบนสุดของเรือยอชต์ แล้วพูดว่า “พวกคุณเห็นแล้วใช่ไหม เพื่อน? ดูสิว่าถ้าฟาร์มปลาล่มสลาย เศรษฐกิจของพื้นที่นั้นจะกลายเป็นอย่างไร หลังจากพวกคุณได้รู้ถึงจุดนี้แล้ว คงเข้าใจถึงความตั้งใจของทางสภาการประมงแล้วใช่ไหม? ถ้าหากมีใครปล่อยปละละเลยฟาร์มปลาของตัวเอง งั้นเชื่อผมได้เลย เขาต้องเสียใจแน่นอน!”
เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาเงียบไม่ส่งเสียง ครั้งที่แล้วที่แมทธิวพูดคำพูดพวกนี้ ยังมีพวกเขาบางคนที่ไม่สนใจ แต่ตอนนี้ต่างก็พาทำตัวอยู่เรียบร้อยขึ้นมา เพราะว่าสำหรับพื้นที่ที่ต้องพึ่งพาอาศัยทะเลนั้น การที่ฟาร์มปลาล่มสลายเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ
เมื่อได้เห็นว่าทั้งเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมหรือเจ้าของฟาร์มปลาพักร้อนต่างก็พากันทำตัวเรียบร้อยอยู่ในความสงบ แมทธิว จินก็ยิ้มอย่างพอใจออกมา การเยี่ยมชมครั้งนี้น่าจะถือว่าจบได้อย่างสวยงาม
ตอนที่เรือยอชต์จอดเทียบท่าเซนต์จอห์นแล้ว ที่ท่าเรือนั้นเต็มไปด้วยเรือนับไม่ถ้วนเทียบท่าอยู่ ตอนนี้บนทะเลเริ่มมีลมแรงพัดมาแล้ว หลังพายุหมุนเขตร้อนมาถึงน่านน้ำเขตนิวฟันด์แลนด์แล้วเจอเข้ากับอากาศเย็นก็เริ่มออกอาการขึ้นมา เฮอร์ริเคนกำลังจะมาแล้ว
ฉินสือโอวพาแมทธิวกับพาลีขึ้นไปบนเรือลาดตระเวนนางนวล เรือเล็กขับไปได้ครึ่งทาง ลมทะเลได้พัดแรงขึ้น น้ำฝนเม็ดโตได้เท ‘ซู่ๆ ’ ลงมาที่หน้าต่างกระจก แรงราวกับเป็นลูกเห็บตกลงมา แรงจนน่าตกใจ
…………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset