ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 728 ความน้อยใจของบุช

หากว่าเป็นตอนที่เพิ่งมาถึงแคนาดา ฉินสือโอวคงกลัวกับสภาพอากาศแบบนี้ แต่หลังจากได้ผ่านประสบการณ์ลมพัดคลื่นซัดมาแล้ว ทำให้เขาในตอนนี้มีหัวใจที่ใหญ่มากดวงหนึ่งแล้ว
ข้างนอกมีคลื่นลมแรงซัดสาดอยู่ แต่ฉินสือโอวที่อยู่ในห้องบังคับการกลับสงบนิ่งเกินใคร เขาดื่มกาแฟร้อนแล้วถามว่า “ช่วงที่ฉันไม่อยู่ ในบ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง?”
 “ไม่มีอะไรครับ ก็แค่จำนวนเรือที่มาขโมยปลานั้นนับวันยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไอ้เลวพวกนั้น พวกมันไม่กลัวตายกันจริงๆ นะครับ พวกเราได้ทำการออกคำเตือนออกไปแล้ว ว่าฟาร์มปลาของพวกเรามีอาวุธจำพวกจรวดดับเพลิงด้วย แต่ว่าไอ้พวกสารเลวพวกนั้นก็ยังไม่กลัว!”
สีหน้าของนีลเซ็นเต็มไปด้วยหมดหนทาง การปกป้องฟาร์มปลาทำให้พวกเขาปวดหัวหนักมาก แต่ว่าผลลัพธ์กลับไม่ใช่อย่างที่คิด
เหตุผลที่ฉินสือโอวเชิญแมทธิวไปเป็นแขกที่ฟาร์มปลาก็เพราะเรื่องนี้ หลังได้ยินคำพูดของนีลเซ็นฉินสือโอวไม่ได้ออกท่าทีอะไร ยังคงดื่มกาแฟไปพลางมองไปที่ท่านประธานไปพลาง
คนแก่ม้าเก่งมักเจ้าเล่ห์ กระต่ายแก่มักหนีเหยี่ยวได้
แมทธิวแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เขายืนอยู่ที่หน้าต่างมองดูคลื่นน้ำที่ถูกพายุเฮอร์ริเคนทำให้ปั่นป่วน เขามองออกไปอย่างตั้งใจ แถมยังทำสีหน้าและทำเสียงตกใจเป็นครั้งคราวอีกด้วย ทำเอาฉินสือโอวรู้สึกคารวะจากใจ นี่แหละคือนักการเมืองของแท้เลย
แต่ว่าฉินสือโอวมีวิธีจัดการกับแมทธิว เขาถามออกไปตรงๆ เลยว่า “ดูสิ รัฐบาลมักกระตุ้นให้เจ้าของฟาร์มปลาทำการพัฒนาฟาร์มปลา แต่ถึงพวกเราพัฒนาไปจะมีประโยชน์อะไร? เพื่อทำงานให้กับพวกโจรขโมยปลาเหรอ? ถ้าเป็นแบบนี้ ใครที่ยังพัฒนาอีกคนนั้นก็เป็นคนโง่แล้ว!”
จุดนี้เป็นปมของแมทธิว เขาหันตัวกลับมาพูดว่า “ผมเข้าใจสถานการณ์ของคุณ ฉิน แต่ไม่ใช่ว่าทุกฟาร์มปลาจะพบกับปัญหาขโมยปลาที่หนักแบบนี้ มีแต่ที่คุณเท่านั้นที่แจ้งตำรวจบ่อยที่สุด เพราะจากที่ตำรวจไต่สวนพวกโจรขโมยฟาร์มปลาแล้ว พวกเขาบอกว่าที่คุณมีปลาเยอะที่สุด ทำเงินได้ดีที่สุด!”
 “แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ?” ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนออกมา “นี่มันเป็นหลักการโจรแบบไหนกัน? เพราะว่าบ้านผมมีเงิน ดังนั้นผมจึงสมควรโดนขโมยปล้นเหรอครับ?!”
แมทธิวตบบ่าฉินสือโอว พูดว่า “ได้ข่าวว่าฟาร์มปลาของคุณกำลังทำเรื่องขออนุญาตให้ที่พักอาศัยกับเต่ามะเฟืองใช่ไหมครับ? ผมช่วยคุณแน่นอน สภาการประมงไม่ใช่ศาล สิ่งที่ทำได้จึงมีเพียงเท่านี้”
การคุยกับคนฉลาดช่างง่ายอะไรอย่างนี้ ฉินสือโอวได้รับการยืนยันแบบนี้ก็พอใจแล้ว นี่ก็เป็นจุดประสงค์ของเขาด้วยเช่นกัน เพราะว่าเขารู้ว่าแมทธิวไม่สามารถไปจัดการเรื่องที่ฟาร์มปลาถูกขโมยปลาได้จริงๆ
หลังจากกลับถึงท่าเรือแล้ว วินนี่ได้ยืนกางร่มรออยู่ที่ท่าเรือ ลมทะเลที่บ้าคลั่งกำลังฉีกกัดไปที่ร่มคันนั้น วินนี่กำลังต้านแรงลมด้วยความยากลำบาก สายฝนที่ไหล ‘ซู่ๆ ’ ลงมาได้ทำให้เสื้อผ้าของแอร์โฮสเตสสาวเปียกชุ่มไปทั้งตัว
พวกเจ้าตัวเล็กอย่างหู่เป้าฉงหลัวก็รออยู่ที่นั่นเหมือนกัน บนตัวพวกมันได้ใส่เสื้อกันฝนที่ทำพิเศษไว้อย่างบิดๆ เบี้ยวๆ ฉงต้าอ้วนเกินไป เสื้อกันฝนจึงเล็กเกินไปสำหรับมัน สุดท้ายจึงกันได้แค่ครึ่งเดียว ปล่อยให้ก้นที่อ้วนท้วมนั้นเปียกโชกอยู่กลางสายฝน
ฉินสือโอวเดินต้านแรงลมลงเรือ หู่จือกับเป้าจือลากเสื้อกันฝนแล้ววิ่งเข้ามาอย่างดีใจ พวกมันได้เปล่งเสียงที่ชัดแจ๋วออกมา หางก็สะบัดไปมาจนเสื้อกันฝนถูกเหวี่ยงไปมา หลังจากเข้าใกล้ฉินสือโอวแล้วก็แลบลิ้นออกมาเลียเขา
 “เด็กดี เป็นเด็กดีจริงๆ !” ฉินสือโอวนั่งลงเกาเบาๆ ไปที่คอของหู่จือกับเป้าจือ จากนั้นก็พาพวกมันเดินกลับไป ตอนเดินผ่านวินนี่เขากอดเธอไว้ ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “ดูสิ ผมกลับบ้านแล้ว”
วินนี่ยิ้มเบาๆ เช็ดน้ำฝนบนเสื้อของเขาออกด้วยท่าทีอ่อนโยนแล้วพูดว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ ที่รัก”
 “ช่างน่าอิจฉาจริงๆ ใช่ไหมครับ” แมทธิวพูดกับพาลี
พาลียิ้มแล้วพูดว่า “แน่นอนครับ คนหนุ่มสาวก็แบบนี้ ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด นอกจากขนมปังกับเงินดอลลาร์แล้วอะนะ”
เมื่อกลับถึงบ้านพัก ฉินสือโอวจัดแจงห้องพักให้กับแมทธิวกับพาลี จากนั้นก็นั่งอยู่ใต้หลังคาดูฝนตกพร้อมกันกับเจ้าตัวเล็กทั้งหลาย
บุชกับเชสเตอร์ วิลเลี่ยม นิมิตส์พอเห็นฉินสือโอวก็ตื่นเต้นมากมาย พากันยืนอยู่บนไหล่ฉินสือโอวซ้ายตัวขวาตัว พาลีเห็นนกอินทรีหัวขาวกับนกโจรสลัดปรากฏตัวพร้อมกันก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก จึงยื่นมือออกไปอยากจะจับ บุชจึงจิกออกไปทันที ฉินสือโอวรีบตะโกนออกไปว่า “ทำตัวดีๆ !”
ตอนนี้ ปากของบุชได้แตะโดนไปที่มือของพาลีพอดี มันใช้ปากที่เย็นชืดนั้นแตะๆ ไปบนมือ จากนั้นก็หดหัวกลับเข้ามา ใช้หางตาที่ดุดันมองไปทางพาลีทีหนึ่ง เป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์อย่างมาก
พาลีหัวเราะออกมาสุดเสียง มองไปที่บุชอย่างระมัดระวังแล้วถามว่า “นี่คือนกอินทรีหัวขาวหรือเปล่าครับ?”
ฉินสือโอวอุ้มบุชไว้ในอ้อมกอด ใช้มือสางเอาขนสีน้ำตาลเทาที่ร่วงลงมา แล้วพูดว่า “ใช่ครับ มันชื่อว่าบุช เป็นเด็กที่น่ารักคนหนึ่ง แต่ว่านิสัยค่อนข้างรุนแรง”
บางทีอาจเป็นเพราะพลังโพไซดอน ทำให้บุชเติบโตได้อย่างรวดเร็ว มันอายุยังไม่ถึงขวบ แต่ว่าตา นัยน์ตา ปากกับขาล้วนกลายเป็นสีเหลืองอ่อนแล้ว ขนตรงส่วนหัว คอกับส่วนหางก็เริ่มผลัดขนจนเป็นสีขาว มองดูแล้วสวยงามตระการตามาก
สำหรับนกอินทรีหัวขาวโดยทั่วไปแล้ว การจะโตให้ได้แบบบุชนั้น อย่างน้อยต้องใช้เวลาสี่ถึงหกปี การที่นกอินทรีหัวขาวจะโตเต็มวัยนั้นต้องใช้เวลานานมาก แน่นอนว่า เมื่อพวกมันโตเต็มวัยแล้ว พวกมันก็จะกลายเป็นเจ้าแห่งท้องฟ้าเหนือมหาสมุทร!
ราวกับเข้าใจว่าฉินสือโอวกำลังชมตัวเองอยู่ บุชจึงส่ายหัวไปมาอย่างได้ใจ ร้องกาๆ ออกมาสองที กางปีกทั้งสองออกแล้วใช้ปากจัดการขนของตัวเอง
ตอนที่บุชกำลังจัดการขนของตัวเองอยู่นั้น ก้นของมันจะโด่งไปมา มองไปแล้วน่าหัวเราะมาก ราวกับว่าเจ้าหมอนี่กำลังแสดงโชว์ให้ดูอยู่
ฉินสือโอวสังเกตเห็นแล้ว จึงตบมันไปหนึ่งที ด่าว่า “อายุแค่นี้กลับไม่รู้จักเรียนเรื่องดีๆ ?”
เขานึกว่าการที่บุชทำแบบนี้เพราะอยากจะดึงดูดความสนใจของนกอินทรีหัวขาวเพศเมีย สัตว์ประเภทนกก็อย่างนี้ ท่าทางการหาคู่ของพวกมันนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด
บุชงุนงงเล็กน้อย มันร้องกาๆ สองที กระโดดไปมาบนไหล่ฉินสือโอว หมุนหางออก แล้วเริ่มกระดกก้นขึ้นลงไปมา ก้นน้อยๆ นั้นกระดิกไปมาจนน่าหมั่นไส้
ฉินสือโอวจับบุชไว้ให้มันยืนดีๆ บุชมองไปที่ฉินสือโอวอย่างน้อยใจ ยืดคอออกร้องกาๆ สุดเสียง อย่างกับกำลังฟ้องอยู่อย่างไรอย่างนั้น
วินนี่รีบเดินเข้ามา ถามว่า “อะไรกันๆ ทำไมบุชถึงน้อยใจแบบนี้ละคะ?”
ฉินสือโอวชี้ไปที่มันแล้วพูดว่า “ไม่รู้ว่าใครสอนมัน เจ้าสารเลวนี่ทำท่าอวดตัวเองไม่หยุด ส่ายก้นไปมา ช่างน่าโมโหจริงๆ ”
วินนี่มองไปที่ฉินสือโอวด้วยสีหน้าอึ้ง แล้วถามว่า “แค่เพราะเรื่องนี้เหรอคะ?”
ฉินสือโอวทำท่าทางแทบคลั่งออกมา “นี่ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกเหรอ? คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอ ว่าควรจะตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ควรให้เด็กๆ ติดนิสัยแย่ๆ …”
 “แต่นี่เป็นวิถีของนกอินทรีหัวขาวนะ! ส่วนหางของพวกมันมีต่อมพิเศษอยู่ ต่อมตัวนี้ตอนได้รับแรงกดดันจะปล่อยของเหลวเหมือนน้ำมันออกมา บุชจำเป็นต้องพึ่งน้ำมันพวกนี้ในการทาไปบนขนของมัน แบบนี้ถึงจะช่วยให้ขนกันน้ำแล้วก็รักษาความเป็นระเบียบของขนได้!” วินนี่จ้องมองฉินสือโอวอย่างเอาเรื่องเช่นกัน
 “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?” ตอนนี้ถึงตาฉินสือโอวอึ้งบ้างแล้ว
วินนี่อุ้มบุชที่กำลังร้องกาๆ อยู่บนพื้นขึ้นมาอย่างปวดใจ ใช้มือกดเบาๆ ไปที่ก้นของเจ้าตัวน้อยนี้ หลังจากเธอปล่อยเจ้าตัวน้อยลงแล้ว บุชก็เริ่มส่ายก้นไปมาอีก จากนั้นก็หันหัวใช้ปากเลียน้ำมันที่กำลังไหลลงไปตามแนวเส้นขน เลียไปทุกที่ที่ปากสามารถสัมผัสถึงได้
ฉินสือโอวรีบใช้มือถือหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต มีเรื่องแบบนี้จริงๆ ด้วย เป็นเขาที่ไม่รู้เรื่องเองจริงๆ ด้วย…
หลังบุชจัดการกับขนเรียบร้อยแล้ว มันกางปีกทั้งสองข้างสะบัดไปมาอย่างแรง จากนั้นก็สะบัดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ขนทั่วตัวส่งเสียง ‘พรึ่บๆ’ ออกมา มันรีบกลับไปที่เดิม พอเป็นแบบนี้แล้วทำให้ดูเหมือนว่ามันกำลังใส่เสื้อเกราะขนสัตว์สีดำอย่างไรอย่างนั้น
สง่างาม! มีอำนาจ! วางมาด!
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset