ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 738 ทุกอย่างขึ้นอยู่กับแม่

หลังจากที่ฉินสือโอวกลับมาที่บ้านเขาก็เรียกทุกคนในบ้านมาประชุม ประเด็นแรกที่เขาเน้นคือ ไม่อนุญาตให้นีลเซ็นและเบิร์ดขับรถพาวินนี่ออกไปข้างนอก!
“คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ บอส?” เบิร์ดถามออกมาอย่างอดไม่อยู่
ฉินสือโอวตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “นายกับนีลเซ็นเคยมีประสบการณ์ทำงานที่ต่างประเทศหรือเปล่า?”
“แน่นอนว่ามีครับ พวกเราเคยปฏิบัติหน้าที่ที่อิรักและอัฟกานิสถานมาก่อน นอกจากนี้ยังเคยไปจัดการกับคนลักลอบนำเข้ายาเสพติดที่เม็กซิโกและบราซิล” นีลเซ็นพูดขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ
ดังนั้น ฉินสือโอวหยิบโทรศัพท์ออกมาหารายงานฉบับหนึ่งแล้วส่งให้เบิร์ดอ่าน มันคือรายงานจากสำนักข่าวอเมริกันที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ถูกทำขึ้นในปี 2013 ในเอกสารเป็นการรายงานถึงคุณภาพการจราจรของทหารที่ปลดประจำการแล้ว
จากการตรวจสอบพบว่า ครึ่งปีแรกหลังจากที่กลับมาจากปลดประจำการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เฉลี่ยร้อยละสิบสาม แต่ว่าทหารผ่านศึกที่ปฏิบัติการต่างประเทศมานานมากกว่าสามเดือน โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากที่ปลดประจำการมีสูงขึ้นถึงร้อยละสามสิบหก!
“ดูนี่สิ สมาคมกองกำลังติดอาวุธได้อธิบายเรื่องนี้แทนพวกนายหมดแล้ว เขาบอกว่าพวกนายที่ไปปฏิบัติการที่ต่างประเทศ ยานพาหนะที่ใช้ในการขับขี่จะต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อันตรายต่อการระเบิดและการโจมตีอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อกับการขับรถได้ตลอด ดังนั้นการจะที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น การชนท้ายและการชนรถคันอื่นจะเกิดขึ้นได้ง่ายมาก”
“แต่ว่าพวกเรากลับประเทศมาสองปีแล้วนะครับ” นีลเซ็นพูดอธิบาย
เบิร์ดถอนหายใจออกมาพลางโบกมือปัดให้นีลเซ็น บอสเป็นบ้าไปแล้ว นายคิดว่าอธิบายให้คนบ้าฟังจะได้อะไรขึ้นมาเหรอ?
ชาร์ค ซีมอนสเตอร์ แลนซ์ทุกคนต่างมองไปยังเบิร์ดและนีลเซ็นอย่างสนุกสนาน หลังจากที่ปล่อยพวกนายคุยโวความเก่งกาจของตัวเองตอนที่ปฏิบัติงานนอกประเทศมานาน ตอนนี้ยังจะโม้ได้อีกไหมล่ะ?
แต่ว่าไม่นานพวกเขาทั้งสามก็หมดสนุกลง นั่นก็เพราะว่ากฎข้อต่อมา “บริเวณภายในฟาร์มปลา ไม่ว่าใครก็ห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด!”
บุหรี่ที่อยู่ในมือของแลนซ์ร่วงลงพื้นทันที เขาถามออกมาด้วยสีหน้าตกอกตกใจว่า “ภายในฟาร์มปลางั้นเหรอ? บอส พื้นที่ฟาร์มปลาเป็นที่ดินกว้างร้อยกว่าตารางกิโลเมตรเลยนะ”
ฉินสือโอวตอบกลับด้วยความเศร้าว่า “ไม่ได้ ฉันไม่ได้หมายถึงเพียงพื้นที่ดินในฟาร์มปลาเท่านั้น รวมถึงน่านน้ำของฟาร์มปลาด้วย”
คนที่ไม่สูบบุหรี่อย่างนีลเซ็นและเบิร์ดใจชื้นขึ้นมา นักแม่นปืนถูกห้ามไม่ให้สูบบุหรี่ ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงเริ่มเลิกบุหรี่ตั้งแต่ที่เข้ารับราชการในกองทัพ
ชาวประมงทุกคนในฟาร์มต่างสูบบุหรี่ การทำงานในทะเลค่อนข้างน่าเบื่อ การสูบบุหรี่และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานทั้งสองกิจกรรมนี้สามารถทำให้พวกเขาหายเบื่อได้ แม้ว่าชาวประมงจำนวนไม่น้อยจะบอกว่าการสูบบุหรี่ทำให้เกิดอาการแพ้ แต่พวกเขาก็เปลี่ยนมาสูบกัญชา อีกอย่างพอออกทะเลไปก็ไม่มีใครสนใจพวกเขาแล้ว
“ถ้ามีคนสูบบุหรี่ แล้วฉันจับได้ฉันจะทำให้มันเจ็บเจียนตาย! ทุกคนต้องรายงานเรื่องพวกนี้เข้าใจไหม? ถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริง คนที่มารายงานจะได้รับเงินรางวัลหนึ่งหมื่นดอลลาร์”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าชาวประมงก็ตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิม ฉินสือโอวเอาจริงแล้ว!
แลนซ์มองบุหรี่ในมืออย่างสิ้นหวัง บูลเสียสติไปแล้ว เขาวิ่งไปบอกเรื่องนี้ให้วินนี่ฟัง
วินนี่มาหาฉินสือโอวด้วยท่าทีโมโห เธอตะโกนออกมาว่า “คุณฉิน ขอร้องล่ะคุณทำทุกอย่างให้เป็นปกติได้ไหม? ฉันตั้งท้อง แต่ว่าฉันก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ได้เป็นหมีแพนด้า ไม่ต้องทำเรื่องบ้าขนาดนี้หรอก!”
“ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อแม่เป็นสำคัญนะ!” ฉินสือโอวตอบกลับเสียงแข็ง
“ถ้าหากว่าคุณไม่อยากให้ฉันโมโห เช่นนั้นก็อย่าทำอะไรแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นฉันจะโกรธคุณไปจนตายเลย นอกจากนี้ถ้าฉันโมโหก็จะส่งผลไม่ดีต่อลูกในท้องอีกด้วย” วินนี่พูดพลางยิ้มออกมาเบาๆ
ฉินสือโอวรีบทำตัวดีทันที เขาพูดออกมาว่า “ถ้าอย่างนั้นรอบตัววินนี่ในระยะหนึ่งตารางกิโลเมตร ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่!”
เหล่าชาวประมงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก มีที่ให้สูบบุหรี่ก็ยังดี
เพราะว่าวินนี่ยืนมือเข้ามา การประชุมบ้าบอนี้ก็ได้สิ้นสุดลงเสียที แต่ว่าเรื่องที่ทำให้วินนี่กลัวก็คือ ฉินสือโอวที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาที่บ้านของเธอและครอบครัวของเขาแล้วบอกว่า “วินนี่ท้องแล้ว!”
วินนี่แทบจะเป็นบ้าขึ้นมา “คุณบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของฉันทำไมกัน? เอาล่ะ บอกพ่อแม่ของคุณนั้นเป็นเรื่องที่สมควร แต่บอกพ่อแม่ของฉันทำไม? คุณยังให้พวกเขามาที่ฟาร์มปลาอีกเหรอ?! ไม่รู้หรือว่าเวลาที่ฉันเห็นฟอกส์แล้วฉันจะโมโห!”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ “พี่สาวของคุณไม่มีลูกนี่ ที่รัก เธออาจจะอิจฉาคุณ แต่คุณสามารถที่จะแชร์เรื่องลูกเพื่อให้คุณรู้สึกเหนือกว่าได้นะ”
วินนี่กะพริบตา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มออกมาว่า “ฟอกส์จะมาเมื่อไรงั้นเหรอ? ฉันรอแทบไม่ไหวแล้วล่ะ”
อันที่จริงแล้วฉินสือโอวไม่ได้บ้าขนาดนั้น การประชุมต่อกับเหล่าชาวประมงเป็นเพียงเรื่องสนุกเท่านั้น เรียกได้ว่าเรื่องนี้เป็นเพียงการระบายความตื่นเต้นในใจของเขาเท่านั้น
การบอกเรื่องนี้ให้แก่พ่อแม่ของวินนี่เป็นการเชื้อเชิญให้พวกเขามาที่ฟาร์มปลา ทันใดนั้นฉินสือโอวก็คิดขึ้นมาได้ว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของวินนี่และครอบครัวของเธอดีขึ้น
ฉินสือโอวได้ให้สัญญากับพ่อตาแม่ยายไว้แล้ว ว่าเขาจะช่วยสานสัมพันธ์คนในครอบครัว ตอนนี้โอกาสนั้นได้มาถึงแล้ว
เมื่อพ่อแม่ของฉินสือโอวรู้ว่าวินนี่ท้องก็รู้สึกดีใจจนออกนอกหน้านอกตา ให้ไปทำนา ให้ไปเก็บผัก ให้ไปจับปลาในคลอง พวกเขาก็ไม่สนใจแล้ว สู้ไปดูแลลูกสะใภ้ที่กำลังตั้งท้องดีกว่า
แต่เมื่อรู้ว่าพ่อแม่ของวินนี่จะไปที่ฟาร์มปลาด้วย พ่อแม่ของฉินสือโอวปรึกษากันอยู่หนึ่งคืน สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ตอบกลับไปว่า ช่วงนี้พวกเขาจะยังไม่ไปหา ให้อยู่กับพ่อแม่ของวินนี่ไปก่อน
ความคิดของคนแก่ทั้งสองนั้นซื่อตรงและเรียบง่ายมาก ลูกสะใภ้จะต้องสนิทกับครอบครัวของเธอให้มากขึ้น หากพวกเขาไปฟาร์มปลาล่ะก็ เกรงว่าวิถีการใช้ชีวิตของพวกเขาหรือวิธีการต่างๆ อาจจะทำให้ขัดแย้งกันได้ เรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ได้เป็นคนประเทศเดียวกัน
พวกเขาไม่ได้ต้องการให้วินนี่ลำบากใจ ดังนั้นต้องให้ครอบครัวของวินนี่ดูแลลูกสะใภ้เสียก่อน เมื่อครอบครัวของวินนี่กลับไปพวกเขาค่อยไปหา
นี่เป็นการแสดงความรักต่อลูกแบบฉบับพ่อแม่คนจีน อาจไม่ได้บอกรักมากมาย แต่พวกเขาก็คิดการเพื่อลูกอย่างรอบคอบ ตราบใดที่ลูกของพวกเขาประสบความสำเร็จ ไม่ว่าตัวเองจะทุกข์แค่ไหนก็ยอม!
ฉินสือโอวยิ้มแหยออกมา เขาอธิบายความขัดแย้งระหว่างวินนี่และครอบครัวของเธอ แม่ของฉินสือโอวที่รับโทรศัพท์ถอนหายใจออกมา “เสี่ยวโอว แกจะเป็นพ่อคนอยู่แล้วยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เลือดข้นกว่าน้ำ แม้ว่าจะทะเลาะกัน แต่นั่นเป็นเพียงการหยอกล้อของพ่อแม่กับลูกเท่านั้น ความรู้สึกของวินนี่ที่มีต่อพ่อแม่ของเธอไม่ต่างอะไรกับที่แกรู้สึกกับพ่อแม่หรอก หากเธอได้อยู่กับพ่อแม่ของเธอ เธออาจจะมีความสุขมากก็ได้”
วินนี่เกือบจะร้องไห้เมื่อรู้เรื่องนี้ พลางบอกว่าถ้าพ่อแม่ของเธอดีให้ได้ครึ่งหนึ่งของพ่อแม่ฉินสือโอว เธอก็คงไม่ต้องหนีออกมาจากบ้านและไม่ยอมกลับบ้านไปเป็นปีๆ แบบนี้
ฉินสือโอวปรึกษากับวินนี่ เขาไม่สามารถที่จะบินไปรับพ่อแม่ของวินนี่มาได้ทันที เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากที่พ่อแม่ของวินนี่รู้ว่าเธอตั้งท้องพวกเขาจะรีบมาหากันด้วยความดีใจ แต่ปรากฏว่าระหว่างพวกเขากลับยังมีความกังวลใจกันอยู่ค่อนข้างมาก
แต่ว่า พวกเขาไม่สามารถมายังฟาร์มปลาได้ในเวลาอันใกล้นี้ เพราะว่าพายุหมุนเขตร้อนพัดเข้ามาถึงนิวฟันแลนด์แล้วตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศไว้ เมื่อพายุหมุนเขตร้อนพัดเข้ามาปะทะกับพายุไซโคลนจากทางเหนือ พายุทั้งสองลูกก็รวมกันจนเกิดเป็นพายุเฮอร์ริเคน!
พึ่งจะเข้ากลางเดือนกรกฎาคม พายุจากทะเลอันบ้าคลั่งก็เข้าปกคลุมนิวฟันแลนด์เสียแล้ว
ตกเย็นในขณะที่ฉินสือโอวกำลังจะหลับ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหู่จือ เป้าจือ ฉงต้า หลัวปอทั้งสี่ตัวส่งเสียงเห่าหอนออกมา
วินนี่ตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือพลางถามว่า “ที่รัก เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”
ฉินสือโอวที่กำลังฝันหวาน ถูกเสียงเห่าหอนอันเสียงดังของเจ้าพวกนั้นทำให้ตกใจตื่น วินนี่ถามออกมาเบาๆ เขาจึงรีบลุกขึ้นมา พลางถามกับว่า “เกิดอะไรงั้นเหรอ?”
“พวกเด็กๆ กำลังเห่าน่ะ” วินนี่ลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้า
ฉินสือโอวที่สวมชุดนอนอยู่ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วพูดว่า “คุณไม่ต้องลงไป เดี๋ยวผมไปดูเอง”
…………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset