ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 128 สงครามของนกทะเล

บทที่ 128 สงครามของนกทะเล
โดย
Ink Stone_Fantasy

นกขนาดใหญ่ตัวหนึ่งที่ปรากฏตัวอยู่บนท้องฟ้า ขนาดตัวของมันน่าจะใหญ่กว่านกบูบีเท้าแดงอยู่ยี่สิบกว่าเซนติเมตร มันมีขนสีดำทั้งตัว จะงอยปากทั้งใหญ่และแแหลมคม หางของมันคล่องแคล่ว กำลังบินว่อนอยู่บนท้องฟ้า ปีกของมันพัดกระพืออย่างมีพลัง และเกรงขาม!
นี่ก็คือนกโจรสลัด! หรือที่รู้จักกันในชื่อนกฟรีเกต ราชาแห่งท้องฟ้า!
ใช่แล้ว ที่ทวีปยุโรปและอเมริกา ราชาแห่งท้องนภาไม่ใช่นกอินทรีหัวขาวที่ชาวอเมริกาภาคภูมิใจ ไม่ใช่นกอินทรีทองที่บินเอ้อระเหยอย่างสบายใจบนฟ้าสีคราม แล้วก็ไม่ใช่นกเหยี่ยวที่กล้าหาญองอาจพวกนั้น
ทำไมนกทะเลตัวใหญ่ที่มีนิสัยอันธพาลจึงได้มีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้น่ะเหรอ? ก็เพราะว่ายามที่พวกมันอยู่บนท้องฟ้า ท่าทางของพวกมันนับได้ว่างดงามเหนือสิ่งใด
นกโจรสลัดมีกล้ามเนื้อส่วนอกที่แข็งแรง บินฉวัดเฉวียนได้ชำนาญยิ่ง เป็นนักบินที่โดดเด่นยอดเยี่ยมที่สุด อัตราความเร็วการพุ่งตัวของพวกมันรวดเร็วเหมือนดั่งสายฟ้า ความเร็วในการบินล่าอาหารของพวกมันสามารถเร็วได้มากถึง 481 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นอันดับหนึ่งบนโลกในนี้
พวกมันสามารถบินได้สูงถึง 1200เมตร ทั้งยังสามารถบินห่างจากรังไปได้ไกลถึง 1600กิโลเมตร อย่างต่อเนื่อง จุดที่บินไปไกลที่สุดอาจจะไกลได้ถึง4000กิโลเมตรโดยประมาณ นับเป็นที่หนึ่งบนโลกใบนี้
สิ่งที่ทำให้คนต้องตกตะลึงยิ่งกว่าเดิมก็คือ นกโจรสลัดสามารถบินอยู่ในลมพัดโหมกระหน่ำได้ถึงระดับที่ 12 พวกมันสามารถทำได้แม้กระทั่งบินขึ้นและร่อนลงในลมพายุได้อย่างปลอดภัย ต้องรู้ก่อนว่า พวกมันสามารถกางปีกออกได้กว้างถึงสามเมตร แต่กลับมีน้ำหนักไม่ถึง3 ปอนด์เท่านั้น!
หลังจากกลืนปลาแฮริ่งลงไปแล้ว นกโจรสลัดก็หันหัวบินกลับมาสายตาที่แฝงด้วยเจตนาไม่ดีของมันเพ่งไปที่นกบูบีอีกตัวหนึ่ง ขณะเดียวกัน ก็ปรากฏให้เห็นลักษณะเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของพวกมัน ที่มีถุงบริเวณลำคอสีแดงสดราวกับเลือด
นกบูบีไม่ได้กลืนปลาลงไปทันทีที่จับปลาได้ พวกมันจะเก็บไว้ที่ถุงในลำคอก่อน เมื่อตกอยู่ภายใต้ความชุลมุนมันก็จะคายออกมา สิ่งที่นกโจรสลัดต้องทำก็คือการทำให้พวกมันตกใจลุกลี้ลุกลน จากนั้นค่อยกินปลาที่ตกลงมาเข้าไป
“นี่คือนกโจรสลัด” นีลเซ็นบอกกับฉินสือโอว
ฉินสือโอวพยักหน้ารับ ในใจตอบกลับไปว่าฉันรู้อยู่แล้วว่านี่คือนกโจรสลัด ถึงแม้ว่านกโจรสลัดจะมีชนิดย่อยอยู่หลายชนิด แต่ที่แคนาดากลับมีแค่ชนิดนี้ชนิดเดียว
สำหรับนกที่มีชื่อเสียงไม่ดีชนิดนี้ ฉินสือโอวไม่ได้เกลียดมัน เขารู้ว่าที่นกโจรสลัดต้องปล้นอาหารก็เพราะความจำเป็น ขนของพวกมันไม่มีน้ำมันทำให้โดนน้ำไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะจมน้ำตายได้ ดังนั้นถ้าหากมันล่าอาหารด้วยตัวเอง ก็ทำได้เพียงต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อล่าปลาที่อยู่ใกล้กับผิวน้ำ
นอกจากนี้ ถึงแม้จะอยากมุดลงไปในน้ำเพื่อจับปลาและพยายามให้ขนโดนน้ำให้น้อยที่สุดเวลาจะบินขึ้น แต่ นกโจรสลัดก็ไม่สามารถทำได้ ปีกของพวกมันใหญ่มาก แต่ร่างกายค่อนข้างเล็ก ขาของมันก็ทั้งเล็กและเรียว เมื่อเป็นเช่นนี้ ขาที่อ่อนแอของพวกมันจึงไม่สามารถประคับประคองร่างกายให้บินขึ้นจากผิวน้ำได้เหมือนกับพวกนกกระทุงและนกกาน้ำ
ดังนั้น เพื่อที่นกโจรสลัดจะดำรงชีวิตอยู่ได้ หากไม่ไปแย่งเอาอาหารของคนอื่นแล้วมันจะยังทำอะไรได้อีกล่ะ?
การเอาตัวรอดในธรรมชาติก็โหดร้ายเช่นนี้ ยินยอมให้นกทะเลลงไปในน้ำเพื่อล่าเอาชีวิตปลาและพวกหมึก ถึงกระนั้นก็จะไม่ยินยอมให้นกโจรสลัดไปแย่งเอาอาหารของพวกนกทะเลต่อเชียวหรือ?
จะว่าไปแล้ว นกโจรสลัดก็ไม่ได้แย่งเอาอาหารของนกชนิดอื่นไปฟรีๆเสียทีเดียว เมื่อถึงเวลากลางคืน นกชนิดต่างๆที่ถูกปล้นอาหารในเวลากลางวันอย่างนกบูบี นกนางนวลก็มักจะมารวมตัวกันอยู่ที่บริเวณใกล้ๆกับนกโจรสลัด เนื่องจากนกชนิดนี้มีนิสัยกล้าหาญ กล้าที่จะต่อสู้กับงูพิษและสัตว์ป่า
สำหรับฉินสือโอวแล้ว นกโจรสลัดพวกนี้ก็เหมือนกับผู้มีอิทธิพลมืดในหมู่นก พวกแกจ่ายค่าคุ้มครองมา แล้วข้าจะคุ้มครองพวกแกให้ปลอดภัย
ท่ามกลางหมู่นกแต่ละชนิดนกบูบีเป็นนกที่มีสติปัญญาค่อนข้างสูง เมื่อมองเห็นสายตาที่แฝงไปด้วยเจตนาร้ายของนกโจรสลัดที่เพ่งเล็งมายังตนเอง นกบูบีเท้าแดงตัวนั้นก็รีบสะบัดปีก บินไปที่หัวเรือของเรือหัวกว้าง บินร่อนลงแล้วหดตัวเข้ามา
คราวนี้นกโจรสลัดก็ถึงกับมึนงง มันบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยความรวดเร็ว แต่กลับไม่กล้าที่จะเริ่มท้าสู้บนเรือหัวกว้าง มันบินวนอยู่หลายรอบ เมื่อเห็นว่าไม่มีโอกาส มันจึงกระพือปีก แล้วบินขึ้นบนท้องฟ้าไป
“แม่มเอ๊ย บินเร็วมากจริงๆ!” ฉินสือโอวถึงกลับสบถด่าออกมาเป็นภาษาบ้านเกิด ฝั่งนีลเซ็นก็สบถออกมาเป็นภาษาของตัวเองเช่นกัน “SHIT!”
เมื่อเห็นว่านกโจรสลัดจากไปแล้ว นกบูบีเท้าแดงก็ยืนขึ้นพร้อมขนที่สั่นสะท้าน ทว่าพวกมันก็ไม่ได้บินขึ้นไปทันที แต่กลับมองไปที่ฉินสือโอวด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หู่จือและเป้าจือแลบลิ้นเลียปาก มันสั่นหางเล็กๆของตัวเองแล้วหมอบตัวลงไป จากนั้นก็ค่อยๆขยับไปตามขอบเรือเพื่อเข้าใกล้นกบูบีเท้าแดง
ทำไมฉินสือโอวจะไม่รู้ถึงแผนการของเจ้าสองตัวนี้ พวกมันวางแผนจะงาบนกบูบีสองตัวนี้ยังไงล่ะ
นกบูบีเท้าแดงชำนาญการบินร่อน เนื้อสัมผัสก็ดีสุดๆ ด้วยเหตุผลสองข้อนี้ จึงทำให้นกที่เคยมีอยู่ทั่วทั้งฝั่งชายทะเลตะวันออกของมหาสมุทรแอตแลนติกกลายมาเป็นสัตว์คุ้มครองแห่งชาติประเภทที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ได้ง่ายอย่างทุกวันนี้
ฉินสือโอวผิวปากหนึ่งครั้ง หู่จือและเป้าจือก็ลุกขึ้นมาด้วยความเสียดาย แล้วจึงหมุนตัววิ่งกลับมา
มองดูนกบูบีเท้าแดง ฉินสือโอวก็งมเอาปลาแฮริ่งความยาวเท่าฝ่ามือจากในถังน้ำออกมาแล้วโยนไปให้มันอีกหนึ่งตัว
นกบูบีทั้งสองตัวกางปีกบินขึ้น ปากยาวๆของพวกมันเล็งอย่างแม่นยำ ครู่ต่อมาก็คาบเอาปลาแฮริ่งเอาไว้ในปากได้
ฉินสือโอวโยนปลาแฮริ่งออกไปอย่างต่อเนื่อง นกบูบีทั้งสองตัวรับได้ประมาณครึ่งหนึ่ง กินไปได้สี่ห้าตัวถึงนับว่าอิ่ม พวกมันถอยเข้าไปชิดกับหัวเรือเริ่มส่งเสียง ‘กู๊กู๊’ แล้วพักผ่อน
ค่อยๆเดินเข้าไปช้าๆ ฉินสือโอวลองยื่นมือเข้าไป นกบูบีก็ลุกขึ้นยืนด้วยความระแวดระวังทันที มันกางปีกออกทำท่าจะบินหนี
ฉินสือโอวคิดวิธีขึ้นมาได้ เขาจับเอาปลาแฮริ่งอีกหนึ่งตัว แล้วลองยื่นมือไปอีกครั้ง
คราวนี้ นกบูบีทั้งสองตัวจึงเริ่มผ่อนคลายลง และรวบปีกลงอีกครั้ง นกขนาดค่อนข้างใหญ่ตัวนั้นอ้าปากออกแล้วรับเอาปลาไป ฉินสือโอวฉวยโอกาสลูบคอของมัน มันสะบัดหัวไปมา แต่ว่าก็ไม่ได้ต่อต้าน
นีลเซ็นหัวเราะแล้วพูดกับเขาว่า “บอส คุณอยู่กับสัตว์มานานแค่ไหนแล้ว หรือว่าตัวคุณมีกลิ่นอะไรหรือเปล่า? เห็นได้ชัดว่านกตัวนี้ไม่ได้ป้องกันตัวจากคุณ ผมไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย”
ฉินสือโอวรู้ดีว่าเมื่อไรควรจะพอ ไม่ได้ใช้กำลังบังคับเพื่อลูบคลำนกทั้งสองตัวอีก เขาโบกมือแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเรากลับกันเถอะ น่าตายชะมัด แดดแรงเกินไปแล้ว”
เรือหัวกว้างฝ่าคลื่นทะเลกลับไปยังฟาร์มปลา นกบูบีทั้งสองตัวก็หมอบอยู่กับหัวเรือเพื่อพักผ่อน ไปจนใกล้ถึงท่าเรือ พวกมันถึงได้กระพือปีกแล้วบินขึ้นไป
ส่วนวันที่เหลือก็ไม่มีอะไร ฉินสือโอวเริ่มเตรียมตัวบุกเบิกปะการังใต้ทะเล
เขาไปขอคำปรึกษาจากสถาบันอนุรักษ์พืชหินปะการังออสเตรเลีย มีผู้เชี่ยวชาญบอกกับเขาว่า การสร้างปะการังเทียมนั้นมีอยู่หลายวิธี
วิธีที่กำลังได้รับความสนใจในตอนนี้คือ ที่ออสเตรเลีย มีนักชีววิทยาทางทะเลบางส่วนนำเอาชิ้นส่วนโลหะของโครงจักรยานเก่าๆที่เชื่อมดีแล้ว ไปวางไว้ที่เขตแนวปะการังที่ได้รับความเสียหาย จากนั้นจึงรวบรวมชิ้นส่วนของปะการังที่แตกออกไปวางไว้บนโครง สุดท้ายก็เชื่อมต่อแหล่งกำเนิดไฟฟ้าเข้ากับโครงเหล็ก
เนื่องจากกระแสไฟฟ้า สามารถกระตุ้นการสืบพันธุ์และการเติบโตของต้นอ่อนปะการังได้ ดังนั้นจึงสามารถเร่งความเร็วของการสร้างปะการังได้
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำมาอีกหลายวิธี ในตอนสุดท้ายเขาได้เล่าถึงแผนวิจัยเบื้องต้นของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ในช่วงเร็วๆนี้ ระบบโครงสร้างแนวปะการังเทียมแบบตัวต่อ (ระบบ MARS)
แนวความคิดสำคัญของระบบนี้ ก็คือการใช้คอนกรีตมาพันกันให้มีโครงสร้างที่แตกสาขาออกไปอย่างไร้รูปแบบ จากนั้นนำเครื่องเครือบดินเผาที่มีลวดลายมาครอบไว้ด้านนอก แบบนี้จะทำให้พืชและสัตว์ในทะเลเติบโตอยู่ด้านบนได้สะดวกยิ่งขึ้น
ฉินสือโอวไม่สนใจวิธีแรก เขาพอจะรู้จักสิ่งที่เรียกว่าวิธีการกระตุ้นด้วยไฟฟ้ามาก่อน มันทำไม่ได้โดยสิ้นเชิง เป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระเท่านั้น
เพราะหนึ่ง วิธีการกระตุ้นด้วยไฟฟ้านี้มีค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล ทั้งยังใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก สอง การกระตุ้นต้นอ่อนปะการังด้วยไฟฟ้า คือการฆ่าช้างเอางาโดยแท้ เหมือนกับให้ต้นอ่อนปะการังกินยากระตุ้น เป็นการลดขั้นตอนที่ทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ไม่คุ้มกันเลยแม้แต่น้อย
เขาสนใจวิธีสุดท้ายที่เรียกว่าระบบ MARS มากกว่า
……………………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset