ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 748 อวดเก่ง

ฉินสือโอวถูกผลักออกมาเขาลูบจมูกด้วยความเก้อเขิน เพราะในการเข้าร่วมการประท้วงเมื่อสองครั้งก่อนเขาเป็นเพียงผู้เข้าร่วม ครั้งที่แล้วยังหนีไปกลางคัน แต่ครั้งนี้กลับต้องเป็นผู้นำ จะโดนลุงตำรวจพาไปดื่มชาไหมเนี่ย?
มีตำรวจม้าแห่งแคนาดามารักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยที่งานจริงๆ แต่ไม่มีใครกล้าลงมือทำอะไรป่าเถื่อน ไม่กล้าแม้แต่จะผลักด้วยซ้ำ ล้อเล่น นั่นเพราะด้านข้างมีนักข่าวกลุ่มหนึ่งถือกล้องบันทึกภาพอยู่ต่างหาก
อีกอย่างตำรวจพวกนี้ก็เป็นผู้ประสบภัยของระบบการรักษานี้เช่นกัน พวกเขาเองแทบอยากจะถอดเครื่องแบบลงมาร่วมขบวนประท้วงด้วยอยู่แล้ว
เมื่อรับหน้าที่เป็นผู้นำ ฉินสือโอวก็ได้รับการสัมภาษณ์ และพอดีว่าคนที่สัมภาษณ์เขาก็คือนักข่าวสาวน่ารักที่เขาหยอกเล่นไปก่อนหน้านี้นั่นเอง
นักข่าวสาวเข้าไปอยู่ข้างๆฉินสือโอวด้วยสีหน้าไม่สู้ดีแล้วหดหัวไปด้านหลังตามสัญชาตญาณราวกับกลัวจะถูกฉินสือโอวบีบหน้า พอรู้สึกว่าระยะห่างปลอดภัยพอแล้วถึงยกไมโครโฟนขึ้นมาถาม “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าหัวข้อของการเดินขบวนครั้งนี้คืออะไรคะ?”
ฉินสือโอวฝืนยิ้มพลางพูด “คุณอยู่ห่างจากผมเกินไปแล้ว ไมโครโฟนของคุณอาจจะบันทึกสิ่งที่ผมพูดได้ไม่ชัดเจนนะ”
นักข่าวตัวน้อยยืนหยัดพูดต่อไป “คุณพูดเถอะค่ะ ไมโครโฟนของฉันใช้เทคนิคการรวมเสียงหลายด้าน…”
“แพรีส ขอร้องล่ะ คุณเข้าไปข้างหน้าหน่อยเถอะ กล้องบันทึกภาพของผมถ่ายไม่เห็นคุณสองคน” ลุงช่างภาพทนพูดตัดบทนักข่าวตัวน้อยอย่างจนใจ
นักข่าวตัวน้อยใช้เท้าเตะก้อนหินอย่างไม่ชอบใจแล้วถึงขยับมาข้างหน้ายืดแขนถามอีกครั้ง “ขอถามหน่อยค่ะว่าหัวข้อการเดินขบวนในครั้งนี้คืออะไร?”
“เพื่อสันติสุขของโลกครับ…” ฉินสือโอวพูดอย่างสงบ
นักข่าวสาวเบิกตาโตครู่หนึ่ง นี่ไม่ใช่ตามในสคริปต์นี่นา
ฉินสือโอวหัวเราะใหญ่ เขาตัดสินใจเลิกแกล้งเธอแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “คือแบบนี้ครับ เพื่อนบ้านของเราท่านหนึ่งป่วยและต้องรีบเข้าโรงพยาบาลไปหาหมอ…”
เข้าอธิบายเรื่องราวของโอมาร์รอบหนึ่งอย่างกินใจราวกับพูดบทกวี สุดท้ายยังตะโกนออกไปว่า “ล้มเลิกระบบการรักษาที่ย่ำแย่! ล้มเลิกรัฐบาลเผด็จการที่ไม่ให้ความสำคัญ! ล้มเลิกระบบอยุติธรรมที่กดขี่ประชาชน!”
คนแคนาดาไม่ตะโกนเวลาประท้วงเพราะเปลืองคอเปล่าๆ พวกเขาขี้เกียจขนาดนี้ แน่นอนว่ายังมีอีกหนึ่งสาเหตุด้วย ประเทศมีผู้อพยพปะปนกันไปหมด ตะโกนออกมาทีอาจจะมีหลายสิบภาษา แบบนั้นวุ่นวายเกินไป
ตอนนี้ฉินสือโอวโบกไม้โบกมือตะโกนแบบนี้ ผู้เดินขบวนและกลุ่มคนที่อยู่รอบๆก็รู้สึกแปลกใหม่และปรบมือกันเซ็งแซ่ และยังมีวัยรุ่นคนหนึ่งผิวปากให้ฉินสือโอวด้วย แน่นอนว่ามีคนตะโกนไปด้วยมากขึ้นเช่นกัน
“ล้มเลิกระบบการรักษาที่ย่ำแย่! ล้มเลิกรัฐบาลเผด็จการที่ไม่ให้ความสำคัญ! ล้มเลิกระบบอยุติธรรมที่กดขี่ประชาชน!”
ฮิวส์ยกนิ้วโป้งให้กำลังใจฉินสือโอวแล้วตะโกนสโลแกนอย่างเบิกบานใจมากขึ้น ฉินสือโอวรู้สึกมีชีวิตชีวาในชั่วพริบตาและยังโบกมือให้คนที่อยู่รอบๆจนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นผู้ลงสมัครนายกเทศมนตรีขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด
น่าเสียดายที่ไม่มีใครตะโกนว่าอยากมีลูกให้เขา เขาดูในเวยป๋อ ตอนนี้ที่ประเทศจีนพวกสาวๆจะตะโกนประโยคนี้ให้กับชายที่ชอบ
นี่ทำให้เขารู้สึกไม่สนุกไปชั่วครู่ เพราะบนเวยป๋อมีสาวซื่อบื้อกลุ่มหนึ่งอยากจะมีลูกให้นิโคลัสกูส และยังมีบางพวกที่อยากมีลูกให้หู่จือและเป้าจือด้วย
นักข่าวตัวน้อยถามต่อ “อย่างนั้นขอถามหน่อยค่ะว่าคุณมีความคิดเห็นต่อระบบการรักษาก่อนหน้านี้ไหมคะ?”
ฉินสือโอวอารมณ์ขึ้น เขาสะบัดผมอย่างกระฉับกระเฉงพลางพูดออกมา “แน่นอนครับ ผมมีความคิดอยู่บ้าง อย่างแรกรัฐบาลควรเปลี่ยนจากการจัดสรรงบประมาณโดยอิงสถาบันการรักษาพยาบาลเป็นหลัก เป็นการจัดสรรงบประมาณโดยอิงตามสถานการณ์การรักษาคนไข้ ส่งเสริมโรงพยาบาลในการรับคนไข้ที่มากขึ้น”
“ในขณะเดียวกันต้องอนุญาตให้สถาบันการรักษาพยาบาลส่วนบุคคลเข้าร่วมด้วย เพื่อเพิ่มการแข่งขันและยกระดับการบริการรักษาพยาบาลทั้งหมด”
“นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมให้ประชาชนซื้อประกันด้วยการรักษาพยาบาล และอนุญาตให้แพทย์ให้บริการทั้งสถาบันการรักษาพยาบาลสาธารณะและส่วนบุคคล เพื่อขยายขอบเขตบริการการรักษาพยาบาลให้ครอบคลุม”
“สุดท้าย ดำเนินการจัดสรรค่าใช้จ่ายประกันการรักษาพยาบาลของประชาชนในขอบเขตของการอนุมัติงบประมาณรายปี ให้ผู้ป่วยใช้ทรัพยากรอย่างสมเหตุสมผลและมีประสิทธิภาพ นี่คือกลยุทธ์การรับมือที่ผมคิดไว้ ผมคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
“หล่อมาก สุดยอด หล่อเกินไปแล้ว!” ฮิวส์นำคนตะโกนอยู่ด้านหลังอย่างเบิกบาน การตอบครั้งสุดท้ายของฉินสือโอวมีระดับจริงๆ อย่างน้อยพวกเขาเองก็ทำไม่ได้
ฉินสือโอวทำปากยื่นอย่างเงียบๆ ไร้สาระ ฉันหล่อบ้าอะไร ถ้ารัฐบาลกล้าทำแบบนี้จริงๆ ไม่ถึงปีโรงพยาบาลทั้งประเทศจะต้องระเบิดคนไข้ เหวี่ยงหมอกระจุยกระจายแน่ นี่ถือเป็นการแนะนำอะไรกัน? ก็แค่เอาระบบการรักษาพยาบาลของประเทศจีนที่แก้ไขนิดหน่อยมาพูดเท่านั้นเอง
แม้ว่าระบบการรักษาพยาบาลของแคนาดาจะมากจริงๆ แต่ในด้านความยุติธรรมและโปร่งใสนั้นถือว่าเป็นอันดับต้นๆของโลก
คำแนะนำพวกนั้นก็แค่ฉินสือโอวพูดไปเรื่อย รัฐบาลของแคนาดาไม่สามารถทำแบบนั้นได้จริงๆหรอก เพราะนี่ขัดต่อรากฐานประเทศของแคนาดา ปกป้องผู้อ่อนแอไม่ให้ถูกสังคมตัดออก รักษาศักดิ์ศรีของผู้อ่อนแอไม่ให้ถูกเหยียบย่ำ
แต่เวลาเดินขบวนประท้วงจะพูดอะไรก็ได้ เพราะกิจกรรมแบบนี้เป็นการให้โอกาสกลุ่มผู้ประท้วงพูดความคิดของตัวเองออกมา แน่นอนว่ารัฐบาลจะรับความคิดของผู้ชุมนุมหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่อง
ครั้งนี้ฉินสือโอวไม่มีทางแอบหนีไปได้ เขาเป็นผู้นำและก่อนหน้านี้ก็ทำอวดดีไว้ขนาดนั้น มีคนไม่น้อยจ้องมองเขาอยู่ ถ้าหนีไปดื่มสักแก้วที่ร้านเครื่องดื่มเย็นกลางคันคงถูกคนหิ้วออกมาแน่
ตอนกินข้าวเที่ยงทุกคนต่างเอาอาหารมา เจ้าบื้อฉินสือโอวไม่ได้เอาอะไรมาเลย เขามาโดยไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ
อีกอย่างเขาก็ไม่สามารถไปกินข้าวที่ร้านอาหารได้ จึงได้แต่ทนตากแดดอยู่ที่นั่น ใครใช้ให้เขาเป็นผู้นำล่ะ?
ผลสุดท้ายนักข่าวตัวน้อยก็ใจดีให้แฮมเบอร์เกอร์กับเขาหนึ่งชิ้นและยังให้น้ำอีกหนึ่งขวด
ฉินสือโอวตื้นตันใจขึ้นมาในชั่วพริบตาและรีบพูดขอบคุณทันที “ขอบคุณนะครับ คุณผู้หญิงที่น่ารัก ที่บ้านเกิดผมมีสุภาษิตประโยคหนึ่งว่าผู้หญิงที่ดีงามจะไม่อาภัพ คุณจะต้องได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการจากนั้นก็บรรณาธิการใหญ่ในเร็ววันแน่”
นักข่าวตัวน้อยได้ฟังที่ฉินสือโอวพูดก็รู้สึกไม่ดีพลางพูดออกมา “ไม่ใช่ค่ะ แฮมเบอร์เกอร์กับน้ำนี่พี่ชายฉันโทรมาบอกให้ซื้อให้คุณ”
“พี่ชายคุณ?” ฉินสือโอวถามอย่างประหลาดใจ
“วิลเลียม แฮมเล็ต ฉันชื่อแพรีส แฮมเล็ตค่ะ สวัสดีนะคะ ก่อนหน้านี้ฉันจำไม่ได้ว่าคุณคือเพื่อนชาวจีนที่พี่ชายฉันพูดถึง ขอโทษทีค่ะ” นักข่าวตัวน้อยยื่นมือเล็กขาวราวหยกสลักและยังแลบลิ้นสีชมพูออกมาด้วย
ฉินสือโอวมองนักข่าวตัวน้อยอย่างสงสัยจนลืมเคี้ยวแฮมเบอร์เกอร์ในปาก นี่คือน้องสาวของตาเฒ่าไม้เท้าแฮมเล็ต? แน่ใจนะว่าไม่ใช่ลูกสาว? อายุห่างกันไปหน่อยหรือเปล่า?
แพรีสอธิบายนิดหน่อย เธอเป็นน้องสาวของแฮมเล็ตจริงๆ และทั้งสองคนก็อายุห่างกันไปหน่อยจริงๆ ตั้งยี่สิบปีแหนะ! ฉินสือโอวถอนใจเฮือกใหญ่ พ่อของแฮมเล็ตพละกำลังแข็งแกร่งจริงๆ
ก่อนหน้านี้แพรีสเรียนเอกการสื่อสารมวลชนที่มหาวิทยาลัยโตรอนโต จากนั้นก็เข้าทำงานที่ ‘หนังสือพิมพ์นิวฟันด์แลนด์’ ครั้งนี้จึงตั้งใจจะมาช่วยพี่ชายของเธอหาเสียงเลือกตั้ง
เมื่อแนะนำตัวอย่างง่ายๆแล้วแพรีสก็จากไป เธอเป็นนักข่าว มีคนต้องสัมภาษณ์มากมาย
ทนมาจนถึงบ่ายสามโมงในการประท้วงห้าชั่วโมงเต็มฉินสือโอวถึงหลุดพ้น ตอนนี้เสื้อผ้าบนตัวเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ในที่สุดก็กลับบ้านได้แล้ว
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset