ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 752 สร้างเกาะให้คุณหนึ่งแห่ง

นีลเซ็นมองแพรีสที่นุ่มนวลราวกับกระต่ายขาวอย่างตกตะลึง
แฮมเล็ตฝืนยิ้มพลางพูด “ผมลืมแนะนำไป น้องสาวผมเรียนมหาวิทยาลัยวิชาเอกสื่อสารมวลชนวิชาโทประวัติศาสตร์ยุโรป ปกติต้องจำชื่อยาวๆ อยู่แล้ว อีกอย่างความสามารถในการจำของนักข่าวไม่เลว พวกคุณก็เข้าใจพวกที่ขึ้นหนังสือพิมพ์อะไรพวกนั้น”
แพรีสรินเบียร์ใส่แก้วเบียร์ตรงหน้าการ์เซียและเซลียาช้าๆ จนเต็มแล้วพูดพลางอมยิ้ม “คนต่อไปคือใครคะ? ข้ามพี่วินนี่ เซโรวาไปแล้วกัน ได้ยินว่าเธอท้องอยู่ อย่างนั้นก็พี่ฟอกส์ เซโรวาไหมคะ?”
ฟอกส์มองแรงใส่นีลเซ็น นายก่อเรื่องไว้เองก็ต้องเล่นให้จบแม้ว่าจะร้องไห้ก็ตาม!
แพรีสโบกมือพลางพูด “คุณนั่งลงเถอะพี่เรจจี้ ดีเจ นีลเซ็นคุณไม่ต้องแนะนำแล้ว เมื่อครู่คุณฉินสือโอวและพี่ชายฉันแนะนำชื่อของทุกคนให้กับฉันแล้ว ฉันทวนซ้ำอีกครั้งก็พอแล้ว พวกคุณจะดื่มกันอย่างไร?”
“นีลเซ็น นายดื่มเอง!” เบิร์ดพูดอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
คนในงานปาร์ตี้ครั้งนี้มีเกินยี่สิบคน วนครบรอบวงหนึ่งรอบ นีลเซ็นก็ถูกอีวิลสันแบกกลับบ้านไป…
การ์เซียและเซลียาย้ายเข้าไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ในฟาร์มปลา เนื่องจากพวกเขาเดินทางรอบโลกอย่างยากจน ฉินสือโอวรู้เรื่องนี้เลยให้ที่พักกับพวกเขาฟรีๆ จะให้เขาทำอาหารให้กินเปล่าๆ ไม่ได้
อย่างไรเสียห้องพวกนั้นปล่อยว่างไว้ก็เปล่าประโยชน์ มีเตียง ผ้าห่มและที่นอนที่ทั้งสองคนเตรียมมาเอง
ตื่นเช้ามาฉินสือโอวก็ออกไปวิ่ง เห็นว่าการ์เซียตื่นนอนแล้วกำลังเก็บกวาดเรือใบที่รักของเขาโดยไม่ได้สวมเสื้อ
ฉินสือโอวไม่เคยเห็นการดูแลรักษาเรือใบมาก่อนเลยวิ่งไปนั่งย่องๆ ที่ท่าเรือมองการ์เซียทำงาน
เซลียาถือเสาเล็กๆ เดินออกมาจากตัวเรือ พอเห็นฉินสือโอวก็ยิ้มพร้อมพูด “คุณตื่นเช้าเหมือนกันนะคะคุณฉิน”
ฉินสือโอวยักไหล่พลางพูด “เทียบกับพวกคุณแล้วผมยังสายอยู่ไม่น้อยเลย”
เขาเห็นแล้วว่าเรือใบถูกเช็ดถูจนสะอาดหมดจด นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำเสร็จได้ในไม่กี่นาที
เซลียาอธิบาย “พวกเราไม่มีทางเลือกเพราะต้องมาทาสี หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้เรือของเราชนเข้ากับท่าเรือเพราะพายุโซนร้อนลูกนั้น สีเลยหลุดไปนิดหน่อย งานนี้ต้องทำก่อนพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ”
การซ่อมสีเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซลียาก็พ่นสีสเปรย์หุ้มอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันตัวเรือเป็นคราบสกปรก
การ์เซียตรวจสอบตะขอและเสากระโดงเรือ
การ์เซียอธิบายให้ฉินสือโอวฟัง “สำหรับเรือใบแล้วนะเพื่อน ผมต้องบอกว่าการตรวจสอบใบเรือว่าเสียหายหรือไม่อย่างสม่ำเสมอนั้นสำคัญมาก นอกจากที่ว่ามันเป็นสิ่งสำคัญมากแล้ว ราคาของมันก็แพงมากด้วย พวกเราคงไม่มีเงินซื้ออันใหม่อีกแล้ว”
ตรวจสอบอุปกรณ์ด้านนอกเสร็จแล้ว การ์เซียเดินเข้าไปในเรือ ฉินสือโอวเลยถือโอกาสตามเข้าไปดู
การ์เซียบอกว่าเรือใบไม่เหมือนพวกเรือประมงหรือเรือสินค้า ตัวเรือจะค่อนข้างเปราะบาง อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงก็สามารถทำให้พวกมันเสียหายได้ ดังนั้นการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันตัวเรือเสียหายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ส่วนหลักด้านในตัวเรือของโคลัมบัสแห่งมิตรภาพเป็นไม้ที่ด้านนอกพ่นสีหุ้มไว้ การ์เซียตรวจดูอย่างละเอียดพบว่ามีรอยขีดข่วนที่ประตูเรือจึงรีบเติมสีทันที
“การเติมสีต้องทำให้ทันเวลาและต้องตั้งใจ เพราะในทะเลมีความชื้นสูง ต้องป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าไปตามรอยขีดข่วนเพราะจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง” การ์เซียอมยิ้มพูด
ตรวจสอบเสร็จแล้วการ์เซียก็ตบหางเสือเรือ เซลียากอดเขาจากทางด้านหลัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกสุขใจ ฉินสือโอวเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปให้พวกเขาแล้วหันไปให้การ์เซียดู
ดูรูปแล้วการ์เซียยิ้มพลางพูด “ซาบซึ้งมาก ถ่ายได้สวยมากครับ”
ขึ้นท่าเรือแล้วสายตาก็มองไปเห็นขวดพลาสติกเกลื่อนกลาดอยู่บนชายหาด “นี่คือมาตรการอะไรสักอย่างในการดูแลรักษาฟาร์มปลาหรือเปล่าครับ?”
ฉินสือโอวยักไหล่อย่างจนใจแล้วพูดถึงเหตุการณ์พายุก่อนหน้านี้ เขาอยากจะติดต่อบริษัททำความสะอาดทางทะเลมาจัดการขยะพลาสติกพวกนี้เร็วๆ แต่พายุครั้งนั้นทำให้เกิดความเสียหายแก่ชายหาดของเมืองเซนต์จอห์นเป็นอย่างมาก บริษัททำความสะอาดจึงถูกทางรัฐว่าจ้างไปแล้ว
การ์เซียมองขวดพลาสติกพวกนี้อย่างใจลอย เขาปรึกษากับเซลียาเบาๆ ครู่หนึ่งทั้งสองก็ไปดูขวดและเศษพลาสติกพวกนี้อย่างละเอียด
ฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจนัก หลังมื้อเช้าเขาเตรียมจะไปเก็บองุ่นกับพวกหวังเหล่ย การ์เซียมาหาเขาแล้วถาม “เพื่อน ขอถามหน่อย พวกพลาสติกที่ชายหาดคุณคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร?”
“แน่นอนว่าต้องหาบริษัททำความสะอาดมาจัดการ” ฉินสือโอวยิ้มพลางพูด
การ์เซียถาม “มีค่าใช้จ่ายเท่าไรเหรอครับ”
ฉินสือโอวสงสัยในใจหรือว่าเจ้านี่จะมีวิธีดีๆ ในการกำจัดขยะพวกนี้? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ดีเลย “ประมาณสี่ถึงห้าหมื่น เพื่อน คุณก็เห็นแล้วว่าขยะพวกนั้นมันน่ารังเกียจมาก”
การ์เซียมีท่าทางตื่นเต้นแล้วพูด “แบบนี้ดีไหมครับ พวกคุณยกเรื่องจัดการพวกพลาสติกนี่ให้เรา ผมขอแค่สี่หมื่น เพื่อน เราไม่สามารถส่งพวกมันไปที่อื่นได้ แต่เราสามารถช่วยคุณสร้างเกาะเล็กๆ ได้”
“สร้างเกาะเล็กๆ?! หมายความว่าอย่างไร?” ฉินสือโอวถามอย่างประหลาดใจ
การ์เซียหยิบกระดาษสีขาวใบหนึ่งออกมา บนนั้นมีลายเส้นร่างไว้และตัวเลขเล็กน้อย “ดูสิ นี่คือภาพร่างของเกาะนั้น พวกเราต้องการแค่คีมตัด สลิงตกปลา และกาวกันน้ำก็จะสามารถร้อยพลาสติกพวกนี้ต่อกันเป็นเกาะเล็กๆ ในทะเล”
ฉินสือโอวมองการ์เซียอย่างประหลาดใจ แล้วคนที่อยู่ด้านหลังก็อมยิ้มพูด “ขอให้คุณเชื่อใจพวกเราเถอะค่ะ แนวความคิดนี้เชื่อถือได้อย่างแน่นอน ความคิดนี้เริ่มต้นมาจากชาวประมงในโมซัมบิก”
“อเมริกาใช้ประเทศโมซัมบิกเป็นที่จัดการขยะ ที่นั่นมีขยะพลาสติกอยู่มากมาย ชาวประมงที่นั่นใช้ไม้และขยะพลาสติกมาทำเป็นเกาะขนาดเล็กลอยอยู่บนทะเล พวกเขาเชื่อมอวนจับปลาระหว่างเกาะเล็กๆ มันได้ผลดีมาก”
“โอ้โห แบบนี้ก็ได้?” ฉินสือโอวตะลึง
การ์เซียยักไหล่พลางพูด “ถ้าใช้ลวดที่ได้จากกองขยะและตาข่ายดักปลาคุณภาพต่ำ เกาะเล็กๆ ที่พวกเขาทำขึ้นก็อยู่ได้อย่างน้อยห้าปี แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นลวดและตาข่ายคุณภาพดีและยังมีกาวกันน้ำผสมอีก ผมกล้าพนันเลยว่าเกาะเล็กๆ นี้จะอยู่ได้ยาวนานเกินสิบปี! เพียงแค่ตั้งใจดูแลรักษายี่สิบปีก็คงไม่มีปัญหา”
ฉินสือโอวพิจารณาสักครู่ อย่างไรเสียเดือนนี้บริษัททำความสะอาดก็คงไม่มีเวลา อย่างนั้นทำไมไม่ลองเชื่อพวกการ์เซียแล้วลองทำดูล่ะ? ถ้าสำเร็จจริงนั่นก็คือเขาจะมีเกาะเล็กๆ ลอยอยู่บนทะเล
“โอเคตกลง ถ้าสำเร็จผมจะให้คุณห้าหมื่นไม่ใช่สี่หมื่น แต่ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่ได้เงินนะ” ฉินสือโอวพูด
ใบหน้าของการ์เซียมีรอยยิ้มบางๆ ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจพร้อมถาม “อย่างนั้นการกินอยู่ของพวกเราในช่วงนี้?”
“ผมจัดการเอง!” ห้องหับมีแล้ว อาหารทะเลก็มีกินได้จนพุงแตก แถมบนเขาก็ยังมีอาหารป่าอีก
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset