ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 758 แต่ละขวดมีค่าหนึ่งล้าน

ฉินสือโอวเชิญทั้งสองคนเข้าไปที่ห้องรับแขก หู่จือเป้าจือฉงต้าหลัวปอมาสเตอร์และเจ้าตัวแสบตัวอื่นๆ พอเห็นพ่อเดินไปก็แยกย้ายกันสับขาเตรียมจะวิ่ง
เห็นแบบนั้นฉินสือโอวก็มีสีหน้าไม่พอใจ เขากระแอมหนึ่งครั้งแล้วหันไปทำหน้าบึ้ง “ลืมไปแล้วเหรอว่าฝึกทหารต้องทำยังไง? สองตัวตั้งแถวแนวตั้ง อีกสามตัวตั้งแถวหน้ากระดาน อยากไปยืนแถวกลางแจ้งกันหรือไง?”
จากนั้นคาเมรอนและเคอร์ก็ยังคงตะลึงอ้าปากค้างต่อไป พวกตัวแสบวิ่งกลับมากันอย่างหมดอาลัยตายอยาก เสี่ยวหมิงและเจ้ากระรอกดินอยู่หน้าสุด หลัวปออยู่ถัดไป ด้านหลังยังมีหู่จือและเป้าจือ ส่วนท้ายสุดคือมาสเตอร์ฉงต้าและปอหลัว
พวกตัวแสบตั้งแถวหน้ากระดานเดินไปทางด้านนอกจริงๆ คาเมรอนถือว่าเป็นคนที่รู้เห็นอะไรกว้างไกลแล้วแต่ก็ยังตะลึงงันจนหุบขาไม่เข้าและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแชะๆ
เคอร์ถูกความแสนรู้ของหู่จือและเป้าจือล่อใจ หลังจากเข้าบ้านไปเขาก็ถาม “เพื่อน เจ้าหมาน้อยของคุณถึงช่วงอายุที่จะผสมพันธุ์ได้แล้วใช่ไหม? ถ้าคุณไม่รังเกียจ ให้พวกมันไปผสมพันธุ์กับหมาที่บ้านของผมได้ไหม?”
ฉินสือโอวยักไหล่แล้วพูด “พวกมันเพิ่งจะขวบเดียวยังเป็นเด็กอยู่เลย เอาไว้โตอีกหน่อยเถอะนะ รอให้พวกมันมีความต้องการแล้วผมจะพาไปหาคุณเอง”
“ต้องมาหาผมนะ” เคอร์ย้ำแล้วย้ำอีก
หลังจากมานั่งกันแล้ว ฉินสือโอวก็ถามคาเมรอนถึงเป้าหมายในการมาครั้งนี้ ผลที่ได้คือเสียงถอนหายใจหนึ่งเฮือกของเคอร์พร้อมชี้ไปที่ขวดไวน์เล็กๆ สี่ขวดที่วางประดับอยู่บนโต๊ะแล้วถาม “ผมขอดูพวกมันหน่อยได้ไหม?”
พอฉินสือโอวเห็นว่าที่เขาพูดถึงคือขวดไวน์เล็กๆ สีทองและสีเงินสี่ขวดที่ตัวเองได้มาจากเรือไททานิกก็พยักหน้าพลางพูด “ได้สิ นี่เป็นของที่ผมได้มาเพราะโชคช่วย ว่ากันว่าผลิตโดยชาโต เปตรุส แต่ไม่รู้ว่าของจริงหรือปลอม ”
เคอร์มีความรู้เรื่องไวน์และไร่องุ่นอย่างกว้างขวาง เขามองดูอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ลูบด้านนอกของขวดที่เป็นสีทองและเงินแวววาวอย่างเบามือแล้วพูดขึ้นช้าๆ “ไวน์ชาโต เปตรุสที่ผลิตล็อตแรกของปี 1895 กลั่นจากดอกลินเดน นี่เป็นของแท้!”
ฉินสือโอวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แน่นอนว่าของแท้อยู่แล้ว ที่ตัวเองพูดไปว่าไม่รู้ว่าของแท้หรือปลอมก็แค่ถ่อมตัวเท่านั้นเอง เศรษฐีบนเรือไททานิกคงไม่เอาไวน์ปลอมขึ้นเรือหรอกใช่ไหม? ตอนนั้นเจ้าสิ่งนี้ก็ไม่ได้มีราคาแพงอะไร
ดูขวดไวน์พวกนี้เสร็จเคอร์ก็วางลงแล้วถาม “คุณอย่าบอกผมนะว่าไวน์ที่อยู่ด้านในก็เป็นของปี 1895 จริงๆ!”
ฉินสือโอวตอบ “ก็น่าจะใช่? คุณดูที่ขี้ผึ้งที่ใช้ปิดผนึกขวดไวน์เอาไว้สิ เห็นได้ชัดว่ายังไม่เคยถูกเปิดออกมาเลยใช่ไหม?”
คาเมรอนหัวเราะพลางพูด “คุณพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะฉิน เทียบกับครั้งแรกที่เจอกันแล้วยิ่งนานวันคุณก็ยิ่งมีราศีของเศรษฐี ผมนึกว่าคุณจะเลือกใช้พวกงานศิลปะมาเป็นของประดับ นึกไม่ถึงเลยว่าคุณกลับใช้ไวน์โบราณเหล่านี้แทน”
ฉินสือโอวตั้งใจทำหน้าเศร้า “ไม่หรอกคาเมรอน ที่ผมไม่ใช้งานศิลปะมาเป็นของประดับเป็นเพราะว่าผมไม่มีเงิน”
มาตรฐานการใช้ชีวิตของเขายังอยู่ในระดับเกษตรกร สำหรับเขาแล้วการเสียเงินมากขนาดนั้นเพื่อซื้อรูปที่ไม่รู้ว่าวาดอะไรนั้นมันจะมีค่าอะไร? สู้ภาพวาดตอนงานตรุษจีนยังไม่ได้เลย ทั้งสวยกว่าทั้งถูกกว่า นีลเซ็นเองก็ชอบมาก
เพราะพื้นเพและนิสัยการทำงานของเคอร์ที่ชอบเถียงเพื่อเอาชนะ เขาเลยพูดขึ้นมา “นี่คุณเหน็บพวกเรานี่ ขวดไวน์ทั้งสี่ของคุณนี่แพงกว่างานศิลปะที่บ้านผมมีเสียอีก! พวกมันแต่ละขวดมีค่าตั้งหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐ!”
ครั้งนี้ฉินสือโอวตะลึงจริงๆ เขาชี้ไปที่ขวดไวน์ทั้งสี่แล้วถาม “พวกมัน ราคาหนึ่งล้านเหรียญ?”
“ตอนนั้นคุณซื้อมาเท่าไร?” ในใจของเคอร์เกิดความสงสัย เจ้าหนุ่มนี่คงไม่ได้โชคดีขนาดนั้นหรอกนะ?
แน่นอนว่าฉินสือโอวไม่ได้บอกว่าได้เจ้าสิ่งนี้มาจากเรือไททานิกโดยไม่ได้จ่ายสักเหรียญ เขาใช้ไหวพริบนึกถึงสร้อยข้อมืออำพันที่เจ้าของเรือขยะให้ตัวเองขึ้นมาได้ก็เลยแต่งเรื่องขึ้นใหม่
“หลังจากนั้นผมก็ขึ้นไปบนเรือของพวกเขา ทีแรกคิดว่าไปบอกพวกเขาว่าไม่เป็นไร ผมไม่เรียกค่าชดเชยจากพวกเขา แต่ไปเห็นเจ้าขวดไวน์ทั้งสี่ขวดนี้ในเรือ ผมรู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้ดูสวยดีเจ้าของเรือก็เลยเอาให้ผม บอกว่านี่เป็นสิ่งที่พวกเขาเก็บได้จากทะเลไม่ได้มีราคาอะไร…”
“แบบนี้ คุณก็ได้ขวดไวน์แดงของชาโต เปตรุสที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์มาโดยไม่ได้จ่ายสักเหรียญเลยเหรอ? แถมในขวดยังมีไวน์อายุร้อยกว่าปีอีกต่างหาก?” เคอร์พูดด้วยความตกใจ “คุณนี่ดวงดีเกินไปแล้ว!”
คาเมรอนพูด “ไม่หรอกเคอร์ คุณบอกว่าทั้งหมดนี้คือความโชคดี แต่ผมว่ามันคือของขวัญที่พระเจ้ามอบให้ฉินสือโอวมากกว่า คนดีก็มักจะได้รับความเมตตาและพรจากพระเจ้า”
ฉินสือโอวก็พูดขอบคุณพระเจ้า ฮาเลลูยาตามน้ำไป ที่อเมริกาเหนือก็เป็นแบบนี้ มีเรื่องอะไรที่อธิบายไม่ได้ก็จะโยนให้พระเจ้า
ขณะที่เคอร์พิจารณาไวน์ทั้งสี่ขวดนี้ ฉินสือโอวก็ถามถึงเป้าหมายในการมาของคาเมรอน คาเมรอนตอบว่า “คุณก็รู้ว่าผมหลงใหลท้องทะเลมากขนาดไหน ช่วงหนึ่งก่อนหน้านี้ผมไปสำรวจร่องลึกบาดาลมาเรียนาแล้วถ่ายสารคดีเรื่องหนึ่งมา…”
“ผมรู้ ทะเลลึกที่ท้าทาย ผมและคนที่บ้านก็ชอบกันมาก” ฉินสือโอวพูดพลางยิ้ม
ต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน สารคดีเรื่องนี้ด้านเทคนิคเนื้อหาไม่ได้มีเทคโนโลยีพิเศษอะไร ก็แค่ดูคาเมรอนใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงดำลงไปในร่องลึกบาดาลมาเรียนา ทั้งหมดก็คือการได้ดูเขาเที่ยวเล่น
จิตสำนึกด้านกรรมสิทธิ์ของแคนาดาเข้มงวดมาก พวกภาพยนตร์ ละครและสารคดีจะต้องจ่ายเงินถึงจะดูได้ การออกอากาศสารคดีเรื่องนี้ที่อเมริกาเหนือมีการเก็บค่าบริการและก็ได้รายได้สูงซะด้วย เห็นได้ชัดเลยว่าสาวกของคาเมรอนนั้นมีอยู่มาก
“ขอบคุณครับ” คาเมรอนพูดขอบคุณด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ แล้วพูดต่อ “ประสบการณ์ที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ของพวกคุณเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วยังดึงดูดความสนใจของผมอยู่ตลอด ช่วงนี้ผมไม่มีบทภาพยนตร์ดีๆ เลย เลยอยากถ่ายทำประสบการณ์ช่วงนั้นของคุณ”
ฉินสือโอวรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “ได้แน่นอน ผมไม่มีปัญหาเลยเพื่อน ผมอนุญาตให้คุณถ่ายทุกอย่างเลย แต่คุณต่อราคาผมไม่ได้นะ”
ที่อเมริกาเหนือภาพยนตร์ที่มีเค้าโคลงมาจากเรื่องจริงถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่อง แม้จะถ่ายทำออกมาแล้วก็ไม่สามารถออกอากาศได้ และเจ้าของเรื่องก็ยังสามารถเก็บค่าลิขสิทธิ์ได้ด้วย ถ้าดวงดีก็ได้เงินก้อนโตเลย
คาเมรอนโบกมืออย่างจนใจพลางพูดว่า “ดูสิเจ้าหนุ่ม คุณทำให้ผมมองคุณได้ทะลุปรุโปร่งแล้ว ในบ้านคุณมีไวน์โบราณราคาหนึ่งล้านสี่ขวดนี้วางอยู่ สุดท้ายคุณยังต้องการค่าลิขสิทธิ์จากผมอีกเหรอ? อันที่จริงนี่ผมประชาสัมพันธ์ให้คุณเลยนะ เผยแพร่เรื่องราวของพวกคุณไปทั่วโลก”
ฉินสือโอวหัวเราะยกใหญ่พร้อมชี้ไปยังพวกตัวแสบที่นอนหมอบพลางมองเข้ามาข้างในอยู่ที่หน้าประตู แล้วพูด “ช่วยไม่ได้ ลูกผมเยอะและวินนี่ก็ท้องแล้วด้วย ผมต้องการค่านม คุณรู้ใช่ไหม นมผงนี่ราคาไม่ถูกเลยนะ”
คาเมรอนได้ยินว่าวินนี่ท้องก็แสดงความยินดีตามมารยาทพร้อมกับเคอร์ แล้วบอกกับเขาว่า “ภายหลังจะมีฝ่ายลิขสิทธิ์มาคุยเรื่องนี้กับคุณ ผมบอกคุณคร่าวๆ ได้ว่าทีมของพวกเราคิดว่าจะให้คุณสักห้าแสน คิดคุณว่าไง?”
“ธุรกิจก็คือธุรกิจเอาไว้ฝ่ายลิขสิทธิ์มาค่อยคุยกันเถอะ พวกเราชาวจีนพูดกันว่า การคุยเรื่องเงินกับเพื่อนฝูงเป็นการทำร้ายความรู้สึก ดังนั้นเมื่อพวกคุณมาหา ก็ให้ผมได้รับรองพวกคุณ ให้พวกคุณได้ลองของพิเศษของฟาร์มปลาผมเถอะ เรื่องเงินไม่ต้องพูดแล้ว” ฉินสือโอวพูด
เคอร์ขยับตาให้เขาอย่างมีเลศนัยพลางพูด “ผมเคยศึกษาวัฒนธรรมการทำธุรกิจของพวกคุณชาวจีน แต่ไม่เคยได้ยินว่าการคุยเรื่องเงินกับเพื่อนฝูงเป็นการทำร้ายความรู้สึก เคยได้ยินแต่ว่าแม้แต่กับพี่น้องแท้ๆ ก็ต้องคิดบัญชีให้ชัดเจน”
“กินเนื้อกินปลากินผัก ดื่มเหล้าดื่มเบียร์ดื่มไวน์กันเถอะ ไม่ต้องพูดเรื่องเงิน โอเคไหม?” ฉินสือโอวหัวเราะพร้อมยืนขึ้น
………………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset