ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 767 ล้อมไว้ทั้งหมด

บทที่ 767 ล้อมไว้ทั้งหมด
โดย
Ink Stone_Fantasy
หอยทากประเภทนี้ขนาดค่อนข้างเล็ก ตัวที่ใหญ่หน่อยมีขนาดประมาณหัวแม่มือ ส่วนตัวเล็กมีขนาดเท่าถั่วเหลือง
อีกอย่าง ร่างกายของพวกมันโปร่งแสงจนแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำทะเล นี่เป็นเพราะว่าปกติแล้วหอยทากทะเลจะอาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึก มันจึงไม่ได้เจอแสงแดดมากนัก
และเพราะว่าอาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึก หอยทากทะเลจึงต้องรับมือกับกระแสน้ำเชี่ยว และต้องแน่ใจว่าจะมีแรงลอยตัวที่เพียงพอ เพราะเช่นนั้นพวกมันเลยถอดเปลือกที่หนักออกไปทั้งหมด
เท้าของพวกหอยทากทะเลถึงขนาดวิวัฒนาการกลายมาเป็นกล้ามเนื้อครีบเพื่อปรับให้เข้ากับการว่ายน้ำ พวกมันเคลื่อนที่ไปในทะเลอย่างเชื่องช้า แต่พอจะว่ายน้ำขึ้นมาก็เร็วไม่ใช่น้อย
สิ่งที่แตกต่างกับหอยทากบนบกมากที่สุดก็คือตา เพราะหอยทากทะเลอาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึกและไม่ได้เจอแสงแดด ดวงตาของมันจึงพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ มันโผล่ออกมานอกร่างกาย ดูแล้วน่ากลัวราวกับมนุษย์ต่างดาว ET
หอยทากทะเลจำนวนนับไม่ถ้วนล่องลอยอยู่ในทะเล ถ้ามองด้วยตาเปล่า หรือแม้แต่มองอย่างละเอียดก็ยังยากที่จะดูให้ชัดเจน แม้ฉินสือโอวจะมีจิตสำนึกแห่งโพไซดอน แต่การจะตรวจดูพวกมันก็ไม่ได้ง่ายเลย หลบซ่อนกันเก่งเกินไปจริงๆ
ที่เขาสามารถค้นพบหอยทากทะเลพวกนี้ได้ ต้องขอบคุณปลาปักเป้า เพราะเจ้าพวกนี้ชอบกินสิ่งนี้
พอฉินสือโอวเห็นว่าในน้ำมีหอยทากทะเลเยอะขนาดนี้ก็ร้อนใจ เขารีบกระจายพวกมันให้ไปที่อื่น และเรื่องที่น่าตะลึงก็เกิดขึ้น ทั่วทั้งฟาร์มปลาในขอบเขตพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรล้วนมีร่องรอยของหอยทากทะเลอยู่ไม่มากก็น้อย!
หอยทากทะเลจอมบรรลัย ฉินสือโอวนึกออกแค่คำนี้เท่านั้น
เห็นว่าเจ้าหอยทากทะเลตัวเล็กๆ แต่ความสามารถในการกินอาหารของมันยอดเยี่ยมมาก มันสามารถกินไปขับถ่ายไปได้ ในหนึ่งวันสามารถกินอาหารได้มากกว่าน้ำหนักตัวถึงสิบสองเท่า
อย่างนั้นพวกมันกินอะไรล่ะ? ง่ายมาก สาหร่าย พืชน้ำ พืชที่อยู่ในทะเลทั้งหมด!
ถ้ามีหอยทากทะเลปริมาณไม่มากก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ พวกมันตัวเล็กเกินไป ถึงกินเก่งก็จะกินได้เท่าไรกันเชียว?
แต่ปัญหาอยู่ที่พวกมันมีจำนวนมาก! เจ้าตัวนี้ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เกินจนโตเต็มที่ใช้เวลาเพียงสองสัปดาห์ก็ขยายพันธุ์รุ่นต่อไปได้แล้ว วางไข่หนึ่งครั้งมากกว่าสองล้านฟอง!
และเจ้าหอยทากทะเลน้อยก็มีทักษะการหาอาหารเองที่เก่งมาก พอพวกมันลืมตาดูโลกออกมาก็สามารถปีนป่ายหาอาหารเองได้เลย ไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ดูแล และมีสัญชาตญาณที่รู้ว่าสาหร่ายอันไหนอร่อย พืชน้ำอันไหนที่ต้องกินเยอะๆ
ถ้ามีภัยมาถึงตัว หัวและเท้าของมันก็จะสามารถหดเข้ากระดองเองได้ แล้วปล่อยเมือกออกมาปิดปากกระดอง ที่ร้ายกาจกว่านั้นคือเมื่อเปลือกด้านนอกเกิดความเสียหาย มันสามารถปล่อยสารอาหารออกมาเพื่อซ่อมแซมเนื้อตัวและกระดองด้านนอกได้ด้วย
ที่ยอดเยี่ยมไปกว่านั้นคือหอยทากทะเลมีความอดทนที่สุดยอด และความสามารถในการดำรงอยู่ที่ทำให้คนตะลึง ใช่แล้ว จะหนาว ร้อน อดอยาก สภาวะเป็นกรดหรือแม้กระทั่งน้ำทะเลที่มีมลพิษมันก็สามารถอดทนอยู่ได้เป็นอย่างดี
สรุปแล้วเจ้าตัวนี้กินเก่ง ขยายพันธุ์เก่ง ดำรงชีวิตอยู่เก่ง และเป็นอันตรายต่อพวกสาหร่ายอย่างยิ่ง
ที่ดีหน่อยก็คือปกติแล้วหอยทากทะเลจะอยู่ในทะเลน้ำลึก ที่นั่นขาดแคลนสาหร่ายจึงจำกัดการดำรงอยู่ของพวกมันได้ อย่างไรเสียอาหารก็มีอยู่เพียงเท่านั้น และความกดดันก็เยอะขนาดนี้ หากขยายพันธุ์ออกมามากแต่ไม่มีอะไรกินต้องอดตาย
ถ้าเกิดมันขึ้นมาลอยอยู่บนผิวน้ำก็อาจจะเกิดความวิบัติ เพราะเมื่อพวกมันอยู่ในน้ำอุ่นอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสขึ้นไป ความสามารถการออกไข่ของมันจะยิ่งดีขึ้นเป็นพิเศษ ดำรงชีวิตได้ดีขึ้น และเติบโตได้เร็วขึ้น
และตอนนี้ก็เป็นช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่อากาศกำลังร้อนพอดี พวกหอยทากทะเลขึ้นจากทะเลน้ำลึกมาที่ทะเลน้ำตื้นในเวลานี้ ช่างเหมือนกับเป็นการขึ้นสวรรค์จริงๆ
ไม่ต้องพูดแล้ว เจ้าสิ่งนี้ถูกกระแสลมร้อนพาขึ้นมาจากทะเลน้ำลึก…
กระแสลมร้อนพัดไปได้ไม่นาน เมื่อเห็นว่าในฟาร์มปลามีหอยทากทะเลเยอะขนาดนี้ก็ชัดเจนเลยว่านี่มันไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ ฉินสือโอววิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง เหตุผลมีสองอย่าง หนึ่งคือหอยทากทะเลถูกเอาขึ้นมาตั้งแต่ก่อนกระแสลมร้อนพัดมาแล้ว พวกมันขึ้นมาตามลมแล้วเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
สองคือหลังจากที่หอยทากทะเลมาถึงฟาร์มปลา พวกมันกินพืชน้ำและสาหร่ายที่มีพลังโพไซดอนเข้าไปแล้วร่างกายดีขึ้นมาก กินเก่งขึ้น เติบโตได้ดีขึ้น ขยายพันธุ์ได้มากขึ้น นี่ทำให้เขาต้องเหน็ดเหนื่อยมากจริงๆ
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนแผ่ซ่านไปตามทาง ฉินสือโอวเห็นว่าบนพืชน้ำและสาหร่ายแทบจะมีหอยทากทะเลอยู่ทุกที่ ปากเล็กๆ อันนั้นกินเสียงดังแจ๊บๆ
หอยทากทะเลกินได้อย่างเอร็ดอร่อยมากเท่าไร ฉินสือโอวก็เจ็บปวดใจมากเท่านั้น!
แม่งเอ๊ย! พี่น้องทั้งหลายออกมาจัดการหอยทากทะเลให้ฉันที!
ฉินสือโอวออกคำสั่งลงไป ไม่ว่าจะเป็นตัวอะไร ขอแค่กินเปลือกหอยได้ก็ต้องมาร่วมกันกินทุกตัว
แบบนี้ฟาร์มปลาก็คึกคักขึ้นมาล่ะ เหล่าปลากุ้งปูต่างก็โผล่ออกมา เริ่มล้อมหอยทากทะเลตามคำสั่งของฉินสือโอว
สิ่งที่เชี่ยวชาญในการรับมือเจ้าสิ่งนี้ที่สุดน่าจะเป็นกั้งตั๊กแตนเจ็ดสี แค่ฟาดก้ามลงไปหนึ่งครั้งแม้จะทุบหอยทากทะเลไม่ตายแต่ก็สามารถทำให้พวกมันเดือดดาลได้ แต่จำนวนของพวกมันมีน้อยเกินไป หลักๆ มีแค่ห้าร้อยตัว รวมทั้งหมดแล้วก็มีแค่ไม่กี่พันตัว ใช้รับมือกับหอยทากทะเลจำนวนหลักสิบล้าน ดูท่าจะโจมตีได้ไม่มาก
หอยทากทะเลขี้เกียจหนีจากเงื้อมมือของกั้งตั๊กแตนเจ็ดสี พวกแกจะทุบก็ทุบเถอะ ถึงอย่างไรฉันก็มีชีวิตเดียว มาดูกันว่าแกจะฆ่าเร็วกว่าหรือพวกฉันจะขยายพันธุ์ได้เร็วกว่ากัน
ถึงเวลาที่เมนล็อบสเตอร์ออกโรงแล้ว มันชูก้ามขนาดใหญ่ยัดใส่เข้าปาก เจ้าพวกนี้เกียจคร้านกันเหลือเกิน พอกินอิ่มแล้วก็หาที่หลบไปเพิ่มกล้ามเนื้อ ไม่ไปทำงานที่เหลือแล้ว
พวกปูราชินีและปูสีน้ำตาลขยันขันแข็งกันจริงๆ แต่พวกมันเคลื่อนไหวเชื่องช้าเกินไป นานแล้วก็ยังเก็บกวาดไม่เสร็จสักที่ รอพวกมันจัดการตรงหน้าจนเสร็จ ด้านหลังก็มีหอยทากทะเลมาอีกกองแล้ว
ฉินสือโอวเห็นว่าแบบนี้ไม่ได้การแล้ว ออกมากันให้หมดเถอะ ไม่ว่าจะกินพืชหรือกินเนื้อ จะกินปลาหรือกินสัตว์มีกระดองก็อ้าปากกินมันเข้าไป ถึงไม่กินก็ต้องทำลายพวกมัน!
ดีที่กระดองของหอยทากทะเลถอดออกไปเกือบจะหมดแล้ว มีแต่พวกตัวอ่อนที่ยังมีไว้ปกป้องตัวเองอยู่บ้าง ส่วนพวกที่โตเต็มไว้แล้วล้วนเป็นเหมือนก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง ซึ่งเป็นเหยื่อให้พวกปลาทะเลก็ได้
พวกปลาทะเลไม่ใช่ว่าเห็นอะไรก็กินอันนั้น พวกมันมีหลักการ ถ้าไม่เคยกินมาก่อนปกติแล้วมันก็จะไม่เสี่ยง เพราะการเสี่ยงในทะเลนั้นมักจะได้ผลลัพธ์เป็นความตาย
แบบนี้ฉินสือโอวออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดไปแล้ว พวกปลาทะเลจะลังเลอะไรได้อีก? กินๆ ไปเถอะ
ดังนั้นพวกปลาขนาดใหญ่อย่างปลาแฮลิบัต ปลาตัวเป่า ปลาทะเลตัวแบนยุโรป ปลามาร์ลิน ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน และปลาทูน่าครีบเหลืองเหล่านี้จึงเริ่มออกโจมตี
ตามด้วยปลาแฟงค์ทูธ ปลาขี้ตังเบ็ด ปลาตาเหลือก ปลาจวด ปลาแอนโชวี่แอตแลนติก ปลาแบสดำ ปลากระโทง ปลาคาซาโกะ ปลาอมไข่ครีบยาว ปลากระโทงดาบ หอยหวาน ปลาโอขาว ปลาโอหลอด ปลากระโทงขาว ปลาไหลอเมริกัน ปลาหางเหลือง ปลาทูน่าครีบเหลือง ปลาตาหวานจุด ปลาดาบ ปลาโอขาว ปลาทูน่าพันธุ์ท้องแถบ ปลาโอลาย…
และอื่นๆ อีกมากมาย ปลาที่มีอยู่ในฟาร์มปลาออกมาทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงปลาที่มีจำนวนมากอย่างพวกปลาค็อด ปลาแฮร์ริ่ง และปลาซาบะ
ภายหลังแม้กระทั่งปลิงทะเลขั้วโลกเหนือและปลิงทะเลกรีนแลนด์ก็มาร่วมด้วย เดิมทีหอยเป๋าฮื้อบริติชลายสลับสี ก็จะออกมาด้วย แต่ฉินสือโอวคิดดูแล้วเห็นว่าความสามารถในการย่อยอาหารของเป๋าฮื้อที่ทรงคุณค่าเหล่านี้อาจจะธรรมดาๆ สุดท้ายเลยให้พวกมันอยู่ที่เดิม
แต่ความสัมพันธ์ของปลาและกุ้งพวกนี้ซับซ้อนมาก เดิมทีความสัมพันธ์ของพวกมันเป็นแบบเป็นอาหารซึ่งกันและกัน แบบนี้พอมาเจอกันก็ยิ่งวุ่นวายเป็นธรรมดา
ปลาแฮร์ริ่งตัวหนึ่งกำลังกินหอยทากทะเลด้วยความโมโห ผลสุดท้ายปลาค็อดที่อยู่ข้างๆ ตัวหนึ่งก็อ้าปากกว้างแล้วกินมันเข้าไปในคำเดียว…
…………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset