ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 772 หอยทากอบ

บทที่ 772 หอยทากอบ
โดย
Ink Stone_Fantasy
การ์เซียหัวเราะพลางยักไหล่แล้วขอให้ฉินสือโอวหลีกทางให้ด้วย “คอยดูผมเถอะ”
หอยทากทะเลถอดกระดองออกไปเกือบหมดแล้ว เหลือแค่กระดองเล็กๆ กึ่งโปร่งแสง
การ์เซียใส่หอยทากลงในหม้อแล้วต้มด้วยน้ำเดือด จากนั้นเขาขอให้ชาร์คและคนอื่นๆ ช่วยหาหอยทากจำนวนมากกลับมา เขาโบกมือแล้วพูด “ดูสิ พวกมันมีกระดองแล้วไม่ใช่เหรอ?”
การ์เซียต้มหอยทากทะเลพร้อมกับล้างกระดองหอยไปด้วย เสร็จแล้วแยกหอยตามขนาด
ล้างเปลือกหอยเสร็จ หอยทากทะเลก็ต้มเสร็จพอดี ฉินสือโอวถาม “ต้มนานไปหรือเปล่า? จะทำให้เนื้อสุกเกินไปหรือเปล่า?”
การ์เซียตอบ “เพราะแบบนั้นก่อนที่ผมต้มหอยทากทะเลเลยใช้เทคนิคนิดหน่อย นั่นคือใช้เกลืออบก่อน แบบนี้จะเป็นการเอาน้ำเลี้ยงที่อยู่ด้านในออกมา ทำให้ตอนที่น้ำเดือดก็จะไม่มีน้ำเลี้ยง เนื้อก็จะไม่สุกจนเกินไป”
“การกินหอยทากต้องต้มนานๆ ด้านในของมันมีปรสิตได้ง่าย เพราะนี่ไม่ใช่ของดีที่จับขึ้นมาจากทะเลน้ำลึก พวกมันจะเป็นอันตรายหากมันอยู่บนผิวน้ำเป็นเวลานาน”
ขณะอธิบายการ์เซียก็ขยับมีดอย่างรวดเร็ว เอาหัวหอม ขึ้นฉ่าย เห็ดหอมและแฮมหั่นเป็นชิ้นๆ เติมเกลือและพริกไทยดำแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นเอามันฝรั่งที่ต้มสุกแล้วไปปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นๆ เล็กๆ แล้วบดให้ละเอียด ใส่เกลือ ไข่แดงและครีมสดแล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน
หลังจากคนมันฝรั่งบดและครีมสดจนเข้ากันดีแล้วก็จะมีรสชาติหอมหวาน ฉงต้าถูกอาหารดึงดูดมา ปากของมันกัดอุ้งเท้าอ้วนๆ พลางเงยหน้าขึ้นมามอง ที่มุมปากมีน้ำลายไหลยืดลงมา
การ์เซียยิ้มพลางหยิบจานเล็กๆ ตักอาหารใส่จานแล้วส่งให้ฉงต้าพร้อมพูด “ดูสิ ฉันเตรียมไว้ให้อีกชุดหนึ่ง ฉันรู้ว่าแกจะต้องชอบ”
ฉินสือโอวใส่น้ำผึ้งและน้ำเชื่อมลงไปในมันฝรั่งบดจำนวนหนึ่ง ฉงต้ายืดคอคำรามออกมาด้วยความตื่นเต้น
ผลสุดท้ายหู่จือและเป้าจือก็ได้กลิ่นแล้ววิ่งเข้ามาหา พวกมันจ้องมันฝรั่งบดที่อยู่ในจานครู่หนึ่ง
ฉงต้ามีนิสัยหรือจะพูดว่าหมีสีน้ำตาลทุกตัวมีนิสัยแบบนี้ก็ได้ ตอนเงยหน้าคำราม พวกมันจะหลับตา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลืมตาตอนเงยหน้าแล้วโดนขี้นกเข้าตาหรือเปล่า
สรุปครั้งนี้นิสัยของมันทำให้มันซวยแล้ว มันเงยหน้าหลับตา หลังจากระบายความตื่นเต้นออกมา แล้วก้มหน้าลืมตาขึ้น จานก็ว่างเปล่าแล้ว!
ใช่ ไม่มีมันฝรั่งบดอยู่ในจานแล้ว!
หู่จือและเป้าจือนั่งเลียริมฝีปากอยู่ข้างๆ อย่างใสซื่อ ต้าป๋ายยื่นอุ้งเท้าชี้ไปที่เจ้าสองแสบแล้วแผดเสียง ‘โฮ่วๆๆ’ ด้วยความโมโห เหมือนว่าจะร้องทุกข์ให้ฉงต้า
ฉงต้าโศกเศร้าเสียใจ ชูอุ้งเท้าขึ้นมาจะตบหู่จือและเป้าจือ
ฉินสือโอวเห็นว่าห้องครัวกำลังเกิดความวุ่นวาย เขารีบดึงมันไว้แล้วตักมันฝรั่งบดให้ฉงต้าอีกรอบ ฉงต้าไม่ยอมกิน มันชี้ไปที่น้ำเชื่อมแล้วร้องโฮ่วๆ
ฉินสือโอวถึงนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองลืมใส่น้ำเชื่อม ได้แต่ราดลงไปให้มันเยอะๆ การ์เซียหยิบเนยมาอุ่นจนละลาย แล้วราดลงไปบนมันฝรั่งบด แบบนี้ฉงต้าถึงได้พอใจ
การ์เซียยิ้มพลางใส่เนื้อหอยทากลงไปในหม้อแล้วใช้เนยผัด “ชีวิตของคุณนี่ดีจริงๆ เลยฉิน ดูเจ้าพวกนี้สิ พวกมันน่ารักเหมือนเจ้าแมวพันธุ์แร็กดอลล์ของพวกเราเลย”
“พูดเล่นอะไรเนี่ย ลูกของผมน่ารักที่สุดในโลก น่ารักกว่าแมวตัวนั้นของคุณเยอะเลย”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ เจ้าแมวพันธุ์แร็กดอลล์ของพวกเราน่ารักที่สุด”
“ฮ่าๆ นี่คือมุกตลกที่ตลกที่สุดที่ผมเคยฟังเลย หู่จือเป้าจือกลิ้งตัว ดีมาก ยืนขึ้น นั่งลง ทำท่าเคารพแบบทหาร เห่าสองครั้ง ดีมาก ทำได้สวยงามมาก! มา ให้เจ้าแมวพันธุ์แร็กดอลล์ของคุณทำแบบนี้บ้าง”
การ์เซียพูด “ถ้าคุณรังแกผมแบบนี้อีกละก็ ผมจะไม่ทำหอยทากอบแล้วนะ”
ฉินสือโอว “…”
การ์เซียพูดคุยพลางเทบรั่นดีฝรั่งเศสลงไปในหม้อพร้อมใส่เกลือ พริกไทยดำและกระเทียม ผัดทุกอย่างให้เข้ากันแล้วเอาออกมาตั้งไว้ให้เย็น แล้วจึงนำมารวมกับอาหารที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว นำทุกอย่างยัดใส่กระดองหอย สุดท้ายทาเนยที่ปากกระดองแล้วใส่เข้าเตาอบไปก็เสร็จแล้ว
“รอจนเนยเดือดก็เอาออกจากเตาได้ มา ถึงตาคุณแล้ว” การ์เซียพูดหลังจากที่ล้างมือเสร็จแล้ว
ฉินสือโอวยักไหล่พลางพูด “ผมไม่ทำอะไรซับซ้อนอย่างคุณหรอก คุณรู้ไหมว่าแก่นจริงๆ ของอาหารจีนอยู่ที่ไหน? อยู่ที่ความง่ายดายและรวดเร็วไง!”
ฉินสือโอวคุยโวโอ้อวดระหว่างรอให้กระทะน้ำมันร้อน แล้วใส่ต้นหอมหั่น ขิงหั่นแว่นลงไป เทน้ำสต๊อกกุ้งมังกรลงไปนิดหน่อย แล้วใส่เกลือ ผงชูรส เหล้า น้ำมันพริก ซีอิ๊วดำ น้ำมันพริกแดง จากนั้นก็ใส่หอยทากลงไปเคี่ยวแล้วจัดใส่จาน
การ์เซียตะลึง “ไม่ใช่น่า ฉิน แค่นี้ก็เสร็จแล้วเหรอ?”
“แน่นอนว่ายัง” ฉินสือโอวหัวเราะ
การ์เซียดูเขาอย่างเฝ้ารอ “ผมรู้ว่ามันไม่ง่ายขนาดนี้ได้หรอก ยังต้อง…โอ้ว สุดยอด ผมนับถือคุณจริงๆ เลยเพื่อน!”
ฉินสือโอวโรยเครื่องเทศและงาลงไปบนจาน ล้างมือแล้วเช็ดให้สะอาด เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เปลืองแรงขนาดนี้ไปทำไม? ผู้เชี่ยวชาญบอกแล้ว เจ้าสิ่งนี้ก็เหมือนกับเนื้อ ใช้วิธีเดียวกับการทำเนื้อก็พอแล้ว
ตอนมื้อเที่ยง หอยทากอบสำหรับหนึ่งคนต่อหนึ่งจาน และยังมีหอยทากผัดพริกจานโตหนึ่งจาน
ทุกคนรวมถึงวินนี่ตั้งใจจัดการกับหอยทากอบ ส่วนหอยทากผัดพริกก็กินไปงั้นๆ
ฉินสือโอวไม่พอใจมาก เขากระแอมหนึ่งครั้ง ใช้สายตาส่งสัญญาณว่าเขาเป็นคนทำหอยทากผัดพริกเอง
วินนี่ได้แต่พูดอวยเขาอย่างน่าขำ ฉินสือโอวรีบจับข้อมือของเธออย่างอ่อนโยน หัวเราะแล้วพูด “คุณภรรยาครับ อันนี้มันเผ็ด ตอนนี้คุณกินเผ็ดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเป็นร้อนใน ให้คนอื่นชิมเถอะ”
พวกนีลเซ็นกำลังก้มหน้าก้มตาจัดการหอยทากอบในจาน ฉินสือโอวกระแอมกระไอหลายครั้งแต่ก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา เพราะพวกเขามีความเชื่อฝังหัวว่าหอยทากจะต้องอบถึงจะกินได้เท่านั้น ผัดกินอะไรกัน?
วินนี่ได้แต่ใช้แววตาที่อ่อนโยนมองไปที่พ่อกับแม่ มาริโอ้ถอนหายใจ เขาตักหอยทากขึ้นมาตัวหนึ่งแล้วใส่เข้าปากไปอย่างสลด เคี้ยวอยู่ครู่หนึ่ง เบิกตาโพลงแล้วพูด “รสชาติเยี่ยมมาก ทุกคนลองชิมดูสิ”
มิแรนดากินแล้วก็พยักหน้าพูด “ใช่ ฉิน ฝีมือไม่เลวเลยนะ”
ฉินสือโอวชิมหอยทากผัดที่ตัวเองทำแล้ว รสชาติดีจริงๆ เนื้อของหอยทากทะเลชนิดนี้อ่อนนุ่มมาก ตัวที่ค่อนข้างเล็กมีเนื้อนุ่มไปถึงกระดูก เหมือนกับเป็นไข่ขาวชิ้นหนึ่งที่พอทำให้มีรสเผ็ดแล้วมันก็จะมีรสชาติที่ดีมาก กลิ่นและรสของเครื่องปรุงเองก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน
หอยทากอบของการ์เซียเป็นความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ฉินสือโอวแยกมันออกเพราะมันเย็นแล้วเริ่มจับตัวเป็นก้อน เขาใช้ส้อมจิ้มหอยทากทะเลออกมาหนึ่งตัวกับผักเครื่องเคียง และตามด้วยมันฝรั่งบดแล้วเอาเข้าปาก เคี้ยวอยู่ครู่หนึ่ง รสชาติความสดและความหอมจางๆ ของหอยหวานระเบิดอยู่บนต่อมรับรสของเขา
“ผมรู้สึกว่าใช้กระดองหอยหวานอบหอยทากแล้วรสชาติดีกว่า” ฉินสือโอวชม
บลูเลิกคิ้วพลางยิ้มแล้วพูด “ใช่ไหมล่ะครับ? ผมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันกัปตัน แม้ว่าผมจะไม่อยากยอมรับ แต่เมื่อคุณยอมรับแล้ว อย่างนั้นผมก็ยอมรับด้วยแล้วกัน หอยทากอบที่การ์เซียทำอร่อยกว่าหอยทากผัดของคุณอีก”
ฉินสือโอว “ไอ้ที่ฉันพูดคือการใช้กระดองหอยหวานมาทำหอยทากอบมันอร่อยกว่าหอยทากอบแบบเดิมของฝรั่งเศส! ใครบ้าเอามาเทียบกับหอยทากผัดของฉันกัน?”
“ใช่ ใครพูดบ้าอะไรกัน?!” กอร์ดอนตบโต๊ะร่วมด้วย
วินนี่หน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วถามอย่างเย็นชา “เพื่อน พูดคำหยาบสนุกกันมากเหรอ?”
ฉินสือโอวหัวเราะ “ใครพูดคำหยาบอีก ต้องกินหอยทากผัดที่ฉันทำให้หมด”
แค่พริบตาเดียวก็ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย
ฉินสือโอว “…”
…………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset