ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 777 อันตรายเกินไปหน่อย

บทที่ 777 อันตรายเกินไปหน่อย
โดย
Ink Stone_Fantasy
พวกกั้งตั๊กแตนจะขึ้นฝั่งตอนกลางคืนเพื่อความปลอดภัย
สำหรับสัตว์จำพวกกุ้งแล้ว ในช่วงเวลานี้บนฝั่งปลอดภัยกว่าในน้ำ เพราะสัตว์นักล่าในทะเลส่วนมากเป็นพวกหากินตอนกลางคืน สัตว์ป่าที่อยู่บนฝั่งก็เป็นแบบนี้ แต่พวกสัตว์ป่าไม่สนใจพวกกุ้งเปลือกแข็ง
คลื่นทะเลซัดสาดเข้ามาหาชายฝั่ง กั้งตั๊กแตนส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ที่บริเวณแบบนี้ ปลอดภัยและสามารถกลับลงทะเลได้ตลอดเวลา
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนยังคงมีอิทธิพลต่อพวกกั้งตั๊กแตน ตอนที่คลื่นซัดขึ้นมา ฉินสือโอวออกคำสั่งให้กั้งตั๊กแตนซุ่มรออยู่ ถ้าพวกมันเจอใครก็ตามก็อย่าปล่อยไป ทุบเท้าพวกเขาแรงๆ
เรื่องที่น่าสังเวชจึงเกิดขึ้น
เบิร์ดใช้กล้องส่องทางไกลตอนกลางคืนตรวจดู เขาพูดกับพวกชาวประมง “มีทั้งหมดแปดคน โอเค ฟังคำสั่งฉัน พวกเราเรียบง่ายกันหน่อย ชาร์คพาพวกไปซุ่มดูสองคน คนอื่นๆ ทำตาม…”
“โอ๊ยๆ! เวรเอ๊ย!!!” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นที่ชายหาด ขัดจังหวะสิ่งที่เบิร์ดพูด
เสียงร้องที่เจ็บปวดยิ่งกว่าดังตามขึ้นมาอีกเรื่อยๆ เบิร์ดตกใจไปครู่หนึ่งแล้วยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมาดู เห็นคนแปดคนที่ขึ้นฝั่งมาเกือบจะล้มอยู่บนพื้นทั้งหมด ขดตัวกลมราวกับกุ้งและร้องอย่างน่าอนาถ
“พวกเขาเป็นบ้าอะไร?!” เบิร์ดอดด่าไม่ได้
ชาร์คถามอย่างตระหนก “อาจจะ อาจ อาจจะเป็นไอ้ตัวบ้านั่นหรือเปล่า?”
บลูถามเสียงแผ่ว “ชาร์ค ปกตินายไม่ได้ใจเซาะนี่ ทำไมถึงตกใจอย่างนั้น?”
ชาร์คด่า “เวร ฉัน ที่ฉันกลัวคือเสียงโหยหวนของคนพวกนั้น! พวกเขาร้องโหยหวนขนาดนั้น มันเกิดอะไรขึ้น?! นายยังมีหน้ามาหัวเราะว่าฉันใจเซาะอีกเหรอ? แล้วใครที่กลัวเรือผีสิงจนกระโดดลงน้ำกัน?
พอพูดเรื่องนี้ บลูก็โกรธขึ้นมาทันที เขาอยากจะโต้แย้ง เบิร์ดเตะทั้งสองคนไปทีหนึ่งแล้วพูดอย่างหงุดหงิด “เวรเอ๊ย มันใช่เวลาไหม พวกนายยังจะมาต่อปากต่อคำกันอีก? กลับไปจะหักเงินคนละหนึ่งพัน!”
เมื่อเป็นแบบนี้ทั้งสองคนจึงสงบปาก แซ็กและชาวประมงไม่กี่คนที่หมอบอยู่ด้านหลังหัวเราะคิกคัก
เบิร์ดจ้องคนพวกนั้นอีกที ด่าคนพวกนี้ในใจว่าใช้ไม่ได้เลย แล้วพูดเสียงต่ำ “ไปเปิดไฟ! ล้อมพวกเขาไว้!”
ทั้งสองฝั่งเปิดไฟสว่างจ้าขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน หลอดไอโอดีนทังสเตนแรงสูงส่องไปยังตำแหน่งของเรือสปีดโบ๊ท พวกชาวประมงยกปืนขึ้นแล้วตะคอก “หมอบลงกับพื้น! ถ้าไม่อยากตายก็หมอบลงกับพื้น!”
เบิร์ดชี้ปลายกระบอกปืนขึ้นฟ้าแล้วยิง เสียงปืนที่คมชัดดังไปไกลในคืนที่เงียบสงบ
พอทางนีลเซ็นเปิดไฟ คนบนเรือก็คิดที่จะหนีไป นีลเซ็นใส่กระสุนลงในปืน AWP อย่างใจเย็น ในขณะที่เรือสปีดโบ๊ทกำลังจะหันหัวเรือกลับ เขาก็เล็งไปที่เครื่องยนต์นอกตัวเรือที่อยู่ตรงท้ายเรือ
ประกายไฟสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง จากนั้นเครื่องยนต์นอกตัวเรือที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ทก็ถูกยิงจนระเบิด
คนบนเรือตกใจจนกระโดดลงมาบนหาดทรายอย่างลนลาน มีบางคนร้องด้วยความตื่นตกใจ “ถูกยิงถังน้ำมันใช่ไหม? จะระเบิดหรือเปล่า?!”
แลนซ์ตะคอกเสียงดัง “ไอ้บัดซบ! ไอ้บัดซบ! ไอ้บัดซบ! หมอบอยู่รอบเรือกันให้หมด! ใครโผล่หัวออกมา ฉันจะยิงให้หัวระเบิดด้วยปืนสไนเปอร์ในมือนี่!”
“ระเบิดหัวมัน! ระเบิดหัวมัน! ระเบิดหัวมัน!” ชาวประมงคนอื่นๆ ก็ตะโกนออกไปด้วย แลนซ์ยกปืนเรมิงตันของเขายิงขึ้นฟ้า เสียงปังดังกว่าปืนสไนเปอร์เสียอีก
ฉินสือโอวมองไปที่กลุ่มคนฝั่งนี้ที่นิ่งสงบ แล้วยกวิทยุถามเบิร์ด “ทางนายเกิดอะไรขึ้น?”
เบิร์ดพูดอย่างจนใจ “เวร! ไม่รู้ว่าเจ้าพวกนี้จะชักหรือเปล่า! แม่ง ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย พวกมันก็ล้มลงไปเอง! แล้วยังร้องโหยหวนอยู่ตรงนั้น ผมก็ไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรกัน!”
แบบนี้ฉินสือโอวก็เข้าใจแล้ว กั้งตั๊กแตนจัดการคนพวกนั้นแล้ว
ผลสรุปเป็นแบบนี้ฉินสือโอวก็โล่งใจ แต่ในขณะเดียวกันก็กังวลใจ เขาถามนีลเซ็น “เจ้าพวกนั้นเป็นไง? กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อแบบนี้ไหม?”
นีลเซ็นพูดตามเหตุผล “ไม่ครับบอส ไม่ใช่แบบที่คุณเข้าใจ ตอนนี้พวกเรากำลังซุ่มโจมตีอยู่อีกด้าน แม้ในช่วงปฏิบัติการพิเศษ ถ้าเราพบว่าตัวเองอยู่ในการซุ่มโจมตีที่อีกฝ่ายพร้อมรับมือเป็นอย่างดี เราก็แทบจะยอมแพ้แล้ว!”
“การซุ่มโจมตีได้รับการเตรียมการมาอย่างดีแล้ว ถ้าไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ยังไงก็ต้องตายแน่ๆ! การต่อสู้ก็โหดร้ายแบบนี้แหละบอส การต่อสู้มันไม่สนุกสักนิดเลย!” ไม่รู้ว่านีลเซ็นคิดอะไรอยู่ ตอนที่พูดคำพูดพวกนี้ออกมา น้ำเสียงของเขาฟังดูเศร้ามาก
ฉินสือโอวตบไหล่ปลอบเขา โทรไปถามโรเบิร์ตว่าพวกเขาถึงไหนกันแล้ว
ตำรวจของเมืองพึ่งพาอะไรไม่ได้ โรเบิร์ตที่พุงใหญ่ๆ ปกติแล้วเขาดูเก่งกาจมาก พอได้ฟังฉินสือโอวบอกว่ามีคนร้ายพร้อมอาวุธแอบเข้ามาในวิลล่าของพวกเขา เจ้านี่กลับไม่ขยับเขยื้อนอะไรเลย ได้แค่รับโทรศัพท์แล้วยังบอกว่ารอคำสั่งจากเบื้องบน
ฉินสือโอวด่าเขาไปหนึ่งคำ ‘ไอ้บัดซบ’ แล้ววางสาย เขาโทรไปหาตำรวจทางทะเลอีก ทางนี้ไว้ใจได้ พวกเขาส่งเฮลิคอปเตอร์ออกมาแล้ว ตำรวจทางทะเลทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
เพื่อป้องกันความผิดพลาด ฉินสือโอวสั่งให้ชาวประมงยิงปืนออกไปไกลๆ เพื่อขู่อีกฝ่ายไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ถึงจะขู่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร กำลังสนับสนุนอื่นๆ มาถึงฟาร์มปลาแล้ว เฮยป้าหวัง กองกำลังทหารงูทะเล และปลาหมึกยักษ์พวกเขาสามารถขึ้นฝั่งมาร่วมต่อสู้ได้ ถ้าเจ้าพวกนี้ออกมาคนพวกนี้คงกลัวจนฉี่ราด
ค่ำคืนที่มืดมิด แม้จะมีหลอดไฟทังสเตนกำลังสูงส่องอยู่ ก็ยังมีความเสี่ยง
นีลเซ็นอยากเอาคนพวกนี้กลับไปมัดไว้ แต่ฉินสือโอวไม่วางใจ ถ้าคนพวกนี้จนตรอกแล้วทำบ้าอะไรขึ้นมาจะทำยังไง? ตอนนี้มีแสงไฟส่องสามารถเห็นปืนในมือของคนพวกนี้ได้ ปืนอาก้า AK47 เหมือนกับของพวกผู้ก่อการร้าย
ไม่ถึงยี่สิบนาที เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจทางทะเลก็มา คนที่สวมเครื่องแบบทหารสีดำกลุ่มหนึ่งกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ คุ้มกันให้กันแล้วมุ่งมาที่ด้านข้างคนพวกนี้ เอาพวกเขาทั้งหมดกดลงไปบนชายหาด แบบนี้พวกฉินสือโอวถึงกล้าเข้าไปใกล้
พวกคนที่อยู่ฝั่งของนีลเซ็นเมื่อเห็นเฮลิคอปเตอร์มาก็อยากจะวิ่งหนีไป ผลสุดท้ายเสียงปืนสไนเปอร์เคาะดัง ‘ปึ้งๆ’ ที่ห้องคนขับสองครั้ง กระจกด้านหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ นี่ช่วยทำให้เจ้านี่สงบลงได้ หมอบอยู่ที่ฝั่งไม่กล้าขยับราวกับเป็นเต่า
คนพวกนี้แต่งกายราวกับผู้ก่อการร้าย ใส่หมวกโม่ง ถุงมือ เสื้อยืดทหาร ผิวที่เผยให้เห็นล้วนมีแต่รอยสัก ดูร้ายกาจ
ตำรวจทางทะเลถอดหมวกโม่งของคนพวกนี้ออก เผยให้เห็นลักษณะที่เกือบจะเป็นคนอายุน้อยทั้งหมด หลายคนดูแล้วเพิ่งจะโต
หัวหน้าตำรวจทางทะเลเป็นคนเดียวกับที่มาเอาเรือนาร์วาลครั้งที่แล้ว เขาจับมือกับฉินสือโอวแล้วยิ้ม “ฉิน ผมแนะนำให้คุณเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของฟาร์มปลาให้แข็งแรงขึ้นนะ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ อันตรายไปหน่อย”
ฉินสือโอวถอนหายใจแล้วพูด “ผมก็หวังให้เป็นอย่างนั้น…”
คราวนี้มีตำรวจทางทะเลคนหนึ่งเดินสับเท้าเข้ามาหาผู้พันแล้วกระซิบ ท่าทางของผู้พันตึงเครียดขึ้นมา เขามองไปที่ฉินสือโอวแล้วพูด “ไม่ใช่แค่ปัญหาของคุณแล้วล่ะ คนพวกนี้มาจากแก๊งม้ามังกร คุณคงต้องวุ่นวายหน่อยแล้ว”
“แก๊งม้ามังกร?” ฉินสือโอวงุนงง เขาถาม “ไม่ใช่คนที่ตระกูลมอร์รี่ส่งมาหรอกเหรอ?”
……………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset