ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 779 กองทัพติดอาวุธ

บทที่ 779 กองทัพติดอาวุธ
โดย
Ink Stone_Fantasy
ฉินสือโอวคิดเรื่องปัญหาด้านความปลอดภัยของฟาร์มปลาอยู่ตลอด
ที่จริงถ้าพูดถึงความสามารถในการรักษาความปลอดภัย ฟาร์มปลาก็มีเพียงพอแล้ว แม้ว่าเกาะจะอยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่ แต่นี่ก็กลายเป็นความได้เปรียบ เพราะการที่จะเข้าใกล้เกาะได้ต้องอาศัยทางเรือเท่านั้น และฟาร์มปลาก็มีเรดาร์ที่สามารถค้นพบเรือบนทะเลได้
ถ้าเรื่องวันนี้เกิดขึ้นบนแผ่นดินใหญ่ก็คงวุ่นวายน่าดู ในเมื่อพวกฉินสือโอวสามารถเห็นคนพวกนี้ล่วงหน้าได้ และตอนที่ต้องรับมือเมื่อมีคนบุกมาที่วิลล่าก็อาศัยพวกหู่จือและเป้าจือได้
สิ่งที่ไม่สะดวกบนเกาะก็คือกำลังสนับสนุนที่มาช้าเกินไป ถ้าวันนี้พวกพ่อค้ายาขึ้นฝั่งแล้วสู้อย่างไม่กลัวตายก็คงได้วุ่นวายจริงๆ ไม่แน่พวกชาวประมงอาจถึงขั้นเลือดตกยางออก
ฉินสือโอวคิดดูแล้วก็รู้สึกว่ายังไม่สามารถวางใจได้ เขาตัดสินใจซื้อฟาร์มแบบเดียวกับเหมาเหว่ยหลง ให้วินนี่ไปอยู่ที่ฟาร์มนั่นก่อนระยะหนึ่ง
แต่วันรุ่งขึ้นพอดูข่าวเช้าแล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญขนาดนั้น เพราะทีวีทุกช่องกำลังรายงานเรื่องนี้อยู่ เมื่อคืนตำรวจ ตำรวจทางทะเล ตำรวจพิเศษและทหารเรือร่วมมือกันทำงาน รวบจับแก๊งม้ามังกรที่ฉาวโฉ่นี้ได้ทั้งหมด
ก็เหมือนกับที่ผู้พันพูด เรื่องจริงไม่ใช่ละครหรือภาพยนตร์ พวกพ่อค้ายายังอ่อนแอเมื่อเทียบกับเครื่องมือของประเทศ พวกเขาเก่งในการหลบซ่อน แต่ถ้าถูกพบเบาะแสแล้ว การที่พวกตำรวจจะร่วมมือกันจับพวกเขาก็ง่ายดาย
รองหัวหน้าของพวกแก๊งม้ามังกรไม่ใช่คนปากแข็ง พวกตำรวจสอบสวนจนได้ที่อยู่ของพวกตัวหลักๆ ในแก๊งม้ามังกรแล้วก็ออกไปโจมตีทันที คืนนั้นพวกเขาจับทุกคนมาได้พร้อมกับยาเสพติดจำนวนมากและเงินสด
ข่าวนี้ทำให้ฉินสือโอวโล่งใจขึ้นมาหน่อย ผลสุดท้ายหลังจากที่วินนี่ท้องแล้วก็ไวต่อความรู้สึกมาก พอพบว่าเขามีท่าทางสบายใจ ก็ชี้ไปที่ข่าวในทีวีแล้วชี้ไปที่ชายหาดด้านนอกอย่างสงสัย ไม่ต้องพูดก็เห็นได้ชัด
แบบนี้ก็โกหกไม่ได้แล้ว ไอคิวและอีคิวของวินนี่ไม่ต่ำเลย ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนพลางพยักหน้า สื่อความหมายว่าเธออย่าพูดออกมาเลย วินนี่ตัวแข็งพยักหน้า เดินมากอดเขาแล้วสอดหัวเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนการเล่นละครใบ้ แต่ความรู้สึกอบอุ่นไม่เปลี่ยนแปลง
ต้นเดือนสิงหาคม ฉินสือโอวกำลังโทรติดต่อบริษัทขายกระท่อมสำเร็จรูป เตรียมจะสร้างไว้รอบๆ บ้านอีกไม่กี่หลัง
กระท่อมเครื่องดื่มเย็นหลังก่อนหน้านี้สุดท้ายก็ซ่อมไม่ได้แล้ว ไม่รู้ว่าหลังคาปลิวไปที่ไหนแล้ว ซีมอนสเตอร์พาคนเอาแผ่นไม้มาใส่ไว้แทน แต่มองดูแล้วน่าเกลียดเหลือเกินและก็ดูไม่เข้ากันเลยด้วย ฉินสือโอวเลยซื้อใหม่เลยแล้วกัน
ครั้งนี้เขาต้องการห้าหลัง นอกจากกระท่อมเครื่องดื่มแล้ว ยังมีกระท่อมเบียร์และกระท่อมบาร์บีคิวด้วย เท่านี้ก็สามารถสร้างเป็นชุมชนเล็กๆ ได้เลย
เพิ่งจะรับสาย หู่จือและเป้าจือก็เห่าโฮ่งๆ ดังขึ้นมา ฉินสือโอวออกไปดู นีลเซ็นพาชายที่ลักษณะองอาจห้าวหาญเข้ามาในฟาร์มปลาห้าคน หู่จือและเป้าจือขึ้นไปเห่าขู่ นีลเซ็นโบกมือให้พวกมันไปเล่นอีกด้าน ผลสุดท้ายหู่จือและเป้าจือไม่ฟัง พวกมันยังคงเห่าต่อไป
ตั้งแต่ที่เกิดการโจมตีตอนกลางคืน หู่จือและเป้าจือก็มีความระวังขึ้นมาก แค่ลมพัดหญ้าไหวก็จะวิ่งไปดู พวกมันเห่าอยู่ตลอด แม้ไม่ได้มีคำสั่งจากฉินสือโอว
ฉินสือโอวเห็นห้าคนนี้แล้ว ก็รู้ว่านี่คือทหารอาสาที่นีลเซ็นหามา เขาเป่าปากหนึ่งครั้ง หู่จือและเป้าจือมองไปที่ทั้งห้าคนแล้วค่อยๆ วิ่งกลับมา
ชาวผิวสีท่าทางกำยำที่อายุมากที่สุดในห้าคนนั้นเอ่ยชมด้วยสำเนียงทางใต้ของอเมริกา “เป็นสุนัขที่ดี เป็นสุนัขที่ดีจริงๆ!”
พอถึงวิลล่า ฉินสือโอวก็ให้ทั้งห้าคนนั่งลงดื่มกาแฟบนโซฟา เขาดึงนีลเซ็นไปอีกทางหนึ่งแล้วถาม “ห้าคนนี้เป็นมายังไง? ไว้ใจได้ไหม?”
เขาไม่ได้กลัวว่าห้าคนนี้จะต่อสู้ไม่เก่ง แต่กลัวว่าจะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน ป้อมปราการที่แข็งแรงก็พังลงได้ง่ายๆ เมื่อโจมตีจากด้านใน
นีลเซ็นตบอกแล้วพูด “ไว้ใจได้แน่นอนครับบอส พวกเขาเป็นเพื่อนในสนามรบของเบิร์ด พวกเขาเป็นคนที่เบิร์ดหามาเป็นพิเศษ”
ได้ยินแบบนี้ฉินสือโอวก็โล่งใจ เบิร์ดพูดน้อย แต่ทำงานไว้ใจได้มากที่สุด
เขาถามถึงเบิร์ด นีลเซ็นบอกว่าเบิร์ดออกทะเลไปแล้ว วันนี้ก็เลยขอให้เขามารับห้าคนนี้แทน
เบิร์ดเคยเป็นครูฝึกที่กองกำลังโต้กลับความเร็วสูง ที่รู้จักกับนีลเซ็นก็เพราะแบบนี้ ที่จริงก่อนหน้านี้เขาเคยรับราชการอยู่ในกลุ่ม D-Team ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษเดลตาฟอร์ซ ภายหลังถูกย้ายไปที่กองกำลังโต้กลับความเร็วสูงของแคนาดา
ฉินสือโอวถาม “พวกเขาก็มาจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษเดลตาฟอร์ซเหมือนกันเหรอ?”
คนพวกนี้มีบุคลิกที่ดูดิบเถื่อนต่างจากทหารของแคนาดา เขาเคยเห็นบุคลิกแบบนี้จากแค่ทหารอเมริกันเท่านั้น
นีลเซ็นส่ายหน้าแล้วพูด “ไม่ครับ ความสัมพันธ์ซับซ้อนมาก ให้พวกเขาอธิบายกันเองเถอะครับ”
ฉินสือโอวนั่งอยู่ตรงหน้าทั้งห้าคน “เท่าที่ผมเข้าใจ พวกคุณกับเบิร์ดเป็นเพื่อนร่วมรบกัน? เบิร์ดเป็นมือขวาของผม คนที่เขาแนะนำมาต้องใช้ได้อย่างแน่นอน รบกวนช่วยแนะนำตัวให้ผมฟังหน่อยสิ”
คนผิวสีที่แข็งแรงน่าจะเป็นหัวหน้า อายุประมาณสี่สิบปี รูปร่างใหญ่โต เสื้อลายพรางตึงไปด้วยกล้ามเนื้อที่แน่น ตอนที่จับมือกันฉินสือโอวสังเกตได้ว่ามือของเขาด้านมาก เห็นได้ชัดว่าผ่านการใช้ปืนใช้มีดมาอย่างโชกโชน
ชายผิวสียืนขึ้นคนแรก “ผมชื่อ ฮันส์ เบิร์ค รหัส ‘แบล็คไนฟ์’ ยศนายจ่า ปี 2010 อยู่กลุ่ม D-Team ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษเดลตาฟอร์ซ เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้และซุ่มยิง ปลดประจำการจากกองทัพติดอาวุธเมื่อครึ่งปีที่แล้วครับ!”
คนผิวขาวผมทองที่อยู่ข้างๆ คนผิวสียืนขึ้นต่อ แล้วพูดเสียงดัง “ผมชื่อทอมป์สัน คาเลเดอร์ รหัส ‘บีบีซวง’ ยศนายจ่า ก่อนปี 2011 อยู่ฝ่ายสืบหาในกองทัพเรือของอเมริกา เชี่ยวชาญการซ่อมอาวุธและการขับขี่ ปลดประจำการจากกองทัพติดอาวุธเมื่อครึ่งปีที่แล้วครับ!”
อีกสามคนที่เหลือล้วนเป็นคนผิวขาว แยกเป็น คลาแลนซ์ ลีโอพอร์ด รหัส ‘ทริกเกอร์’ บิลโบ ออสวิด รหัส ‘ออสเปร’ และแพททริก ลีโอนาร์ด รหัส ‘แอร์แบ็ค’
ห้าคนนี้มีสองอย่างที่เหมือนกัน หนึ่งคืออายุค่อนข้างเยอะ แต่ละคนสี่สิบกว่าๆ ทั้งนั้น สองคือปลดประจำการมาจาก ‘กองทัพติดอาวุธ’ ทั้งหมด และปลดประจำการมาเมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้วเหมือนกัน
ฉินสือโอวทำความเข้าใจสักครู่ ที่แท้กองทัพติดอาวุธก็เรียกอีกอย่างว่ากลุ่มติดอาวุธ เป็นกองกำลังทหารรับจ้าง ก่อตั้งขึ้นโดยอลาทิส แมริสัน ทหารผู้กล้าในหน่วยรบพิเศษทางอากาศของอังกฤษในปี 1981 ตอนนั้นมีชื่อว่าบริษัทดีเฟนซ์ซิสเตม
ในปี 1997 บริษัทดีเฟนซ์ซิสเตมถูกบริษัทอาร์เมอร์โฮลดิงซื้อไป ต่อมาในปี 2004 ก็เปลี่ยนชื่อเป็นกองทัพติดอาวุธ
กลุ่มทหารรับจ้างไม่ใช่แค่พวกนักรบที่โหดเหี้ยมแบบที่แสดงในภาพยนตร์ ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างกลายเป็นธุรกิจไปหมดแล้ว อย่างเช่นในปี 2004 ก็ประสบความสำเร็จในการตีตลาดที่ลอนดอน
ทหารรับจ้างของบริษัทนี้มีความสามารถสูง ปฏิบัติการมาแล้ว 38 ประเทศทั่วโลก มีสมาชิกทั้งหมดเก้าพันคน ส่วนมากเป็นพวกเสมียนและบุคลากรด้านโลจิสติกส์ที่อยู่เบื้องหลัง พนักงานที่เป็นกำลังรบมีสองพันนาย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมาก และเป็นยักษ์ใหญ่ของโลกในหมู่ทหารรับจ้างที่ในปัจจุบันเก่งกว่าพวกน้ำดำนกดำอะไรนั่นอีก
………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset