ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 785 จุดเปลี่ยนก่อนหลัง

เบิร์ดทำงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ เขาบอกว่าห้าคนนี้ทำงานได้ดีมากและมันก็ออกมาดีจริงๆ
ตอนแรกแบล็คไนฟ์สับปลากินเพื่อแสดงถึงลักษณะของชายที่มีความแข็งแกร่งก่อน ต่อมาจึงดื่มเหล้า พวกเขาไม่ได้หวาดกลัวเลย เมื่อเหล้ารินลงแก้วก็เปรียบเสมือนว่าสนามรบได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่มีการยอมแพ้กันเลยแม้แต่น้อย ความมุ่งมั่นในการต่อสู้กำลังดุเดือดขึ้นมาแล้ว
ในฟาร์มปลามีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ซึ่งเรื่องนี้ฉินสือโอวรู้มาโดยตลอด แต่เรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับการจัดการอะไรทั้งนั้น เพราะทุกคนไม่มีความขัดแย้งกันเรื่องผลประโยชน์ มีเพียงแค่เรื่องมาก่อนมาหลังเท่านั้น และตำแหน่งของพวกเขาเองก็แตกต่างกัน จะเห็นได้จากการเรียกชื่อซึ่งชาร์คจะเรียกเขาว่า ‘บอส’ ส่วนแลนซ์จะเรียกเขาว่า ‘กัปตัน’
เจ้าพวกนี้ดื่มเหล้าเก่งมาก เมื่อก่อนทั้งสองฝ่ายมีจำนวนไม่เท่ากัน ซึ่งฝั่งชาร์คจะมี ซีมอนสเตอร์ นีลเซ็นและเบิร์ด แต่ก็ไม่ได้มีแค่สี่คนเท่านั้น ส่วนทางฝั่งแลนซ์ก็มีไม่ต่ำกว่าสิบสองคน เมื่อการดื่มเหล้าเริ่มขึ้นแล้ว ชาร์คก็ดื่มเข้าไปไม่หยุด
ฉินสือโอวกลัวว่าพวกเขาจะดื่มจนเกิดการทะเลาะวิวาทกัน ดังนั้นทุกครั้งที่ดื่มเขาก็จะเป็นศูนย์กลางคอยเฝ้าระวัง คอยจัดการเวลาพวกเขามีปากเสียงกัน
เบิร์ดพาเพื่อนร่วมทีมของเขามาเพิ่มอีกห้าคน จนในที่สุดสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป พวกเขาทั้งห้าต่างพากันเรียกฉินสือโอวว่า ‘บอส’ นอกจากนี้พวกเขาล้วนเป็นชายที่มีความแข็งแกร่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ การต่อสู้อันดุเดือดบนโต๊ะเหล้าย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งพอเริ่มต้นแลนซ์และพวกของเขาผลัดกันดื่มกับเหล่าทหาร เบิร์ดมองไปที่เพื่อนร่วมทีมที่ไม่สามารถพาเข้ามาในค่ายได้ นีลเซ็นซึ่งเป็นเพื่อนซี้ของเขา ไม่ควรจะตกมาอยู่ข้างหลังแบบนี้ ชาร์คและซีมอนสเตอร์มองดูอยู่จึงบอกว่าพวกเรากระโดดเข้าสนามกันเถอะ
ดังนั้น ค่ายของทั้งสองฝ่ายจึงแบ่งแยกออกอย่างเห็นได้ชัด และยังตั้งค่ายเพื่อสู้กันอีกด้วย
ฉินสือโอวสบายๆ มาก เพราะการต่อสู้ระหว่างเหล่าชาวประมงทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครไปก้าวก่ายเขาได้ เขาจึงทำได้เพียงดื่มกับการ์เซียและโหวจื่อเซวียน
โหวจื่อเซวียนก็ดื่มอย่างดุเดือด เขาจิบเบียร์ไปพลางพึมพำไปว่า ‘คนเราชอบดื่มเหล้าเพื่อคลายความเศร้า แต่หารู้ไม่ว่าทุกครั้งที่ดื่มกลับทำให้เศร้ายิ่งกว่าเดิม’ ซึ่งระดับภาษาจีนของการ์เซียต่ำกว่าระดับพื้นฐานอยู่สองระดับ ถ้าพูดคุยบทสนทนาพื้นฐานยังพอเข้าใจ แต่ถ้าพูดถึงบทกวีโบราณเขาจะจับใจความไม่ได้เลย
ฉินสือโอวคิดว่าโหวจื่อเซวียนสงสัยว่าเท้าของเขามีกลิ่น จึงทำให้เขารู้สึกอาย เขาก็ทำได้แค่ไปนั่งข้างๆ แต่ฉินสือโอวก็ยังไม่เข้าใจ พอหลังจากที่เขาได้ฟังการ์เซียอธิบายแล้ว จึงยุให้การ์เซียไปชวนโหวจื่อเซวียนมาดื่มเหล้า เพราะโหวจื่อเซวียนดื่มแค่ไม่กี่แก้วก็เมาแล้ว
ในที่สุดเหล่าพวกชาวประมงเองก็เละเทะเช่นกัน แต่ภรรยาของพวกเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย ภรรยาของชาวประมงล้วนเป็นสุภาพสตรีที่มีความแข็งแกร่ง เมื่อไรที่พวกผู้ชายมีการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นก็จะลากพวกเขาอย่างกับหมูกลับบ้าน
ซึ่งโดยปกติแล้วเหล่าทหารจะให้อีวิลสันเป็นคนจัดการ แต่เพราะพวกเขามีรูปร่างใหญ่ เมื่อก่อนในหนึ่งรอบอีวิลสันจะแบกได้ถึงสองคน แต่รอบนี้แบกได้แค่ครั้งละคนเท่านั้น เพราะต้องใช้ความพยายามมากที่จะแบกพวกเขากลับอพาร์ตเมนต์
ฉินสือโอวทำความสะอาดด้วยรอยยิ้มและนับถังเหล้า คิดไม่ถึงว่าจะมีเบียร์ขนาด 45 ลิตรถึง 10 ถัง ซึ่งถ้าเฉลี่ยดูก็จะประมาณสองคนต่อหนึ่งถัง ปริมาณเหล้าขนาดนี้ทำให้เขาแทบพูดไม่ออก
แต่ก็ยังดีที่เขามีถังเหล้าแบบนี้อยู่กับตัวอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อถึงตอนที่เขาแต่งงานก็ไม่ต้องกลัวการดื่มเหล้า ไม่ต้องกลัวลูกน้องมาขัดแล้ว เดาได้ว่าเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมดของตัวเองที่เพิ่มมาจะเข้ามาชนด้วยกันคนละแก้วสองแก้ว
ฉินสือโอวรู้สึกชื่นชมความมีวินัยในตนเองของทหาร เขาตื่นแต่เช้าวิ่งไปกลับหนึ่งรอบ แบล็คไนฟ์และน้องชายทั้งสี่คนเริ่มวิ่งไปบนชายหาดพร้อมกับแบกกระสอบทรายไปด้วย
ฉินสือโอวไม่เคยสร้างโรงยิมโดยเฉพาะมาก่อน เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่จำเป็น แต่เนื่องจากตอนนี้คนออกกำลังกายมีมากขึ้น ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นแล้ว เขาจึงเรียกแบล็คไนฟ์มาแล้วพูดว่า “นายไปปรึกษากับเบิร์ดเรื่องการสร้างโรงยิมมานะ ด้านหลังมีโรงเก็บของว่างอยู่ หลังทำความสะอาดคงจะไม่เลวเลยล่ะ”
แบล็คไนฟ์ตอบกลับอย่างดีใจ “โอเคครับบอส พวกเราจะไปทำความสะอาดจนบอสพอใจแน่นอน”
ด้านหลังก็มีโหวจื่อเซวียนเดินเซเข้ามา พร้อมกุมขมับด้วยมือทั้งสองข้าง ดูเหมือนว่าเขายังไม่ตื่นจากอาการเมาค้าง
“ปวดหัวไหม?” ฉินสือโองถามพลางหัวเราะไปด้วย เบียร์เหล่านี้ไม่น่าจะเป็นเบียร์คุณภาพดี ครึ่งหนึ่งเป็นเบียร์คุณภาพต่ำที่พวกลูกน้องชาวประมงชอบดื่ม เพราะพวกเขารู้รสชาติและมีเซนส์กับเบียร์ชนิดนี้เป็นอย่างดี
โหวจื่อเซวียนถอนหายใจพร้อมพูดว่า “ที่สำคัญคือเมื่อวานฉันไม่ได้เป็นหนักขนาดนี้ ขายหน้าชายแห่งตะวันออกเฉียงเหนือจริงๆ แม่เจ้า ตอนเศร้าไม่ควรดื่มเหล้าจริงๆ พอได้ดื่มก็อยากจะดื่มอีกเรื่อยๆ ครั้งหน้าต้องดื่มให้ชนะชาวประมงพวกนี้ให้ได้เลย!”
ฉินสือโอวยักไหล่และพูดความจริงออกมาอย่างเย็นชา “ไม่ นายไม่ได้โดนชาวประมงมอมเหล้าหรอก แต่เป็นการ์เซียต่างหาก นายโดนการ์เซียเล่นงานแล้วล่ะ!”
“หยาบคายมาก!”
เมื่อเห็นว่าโหวจื่อเซวียนกำลังเดินเซไปตามถนน ฉินสือโอวก็กลัวว่าเขาจะเดินตกร่องน้ำ โหวจื่อเซวียนคนนี้เป็นคนที่หลงในทรัพย์สินเงินทอง พอเมาแล้วก็จะกลายเป็นแบบนี้เสมอ แม้แต่ในมือยังถืออาหารทะเลแห้งของเขาติดมาด้วยอยู่เลย
ฉินสือโอวทำได้เพียงขับรถกลับไปส่งเขา พอถึงในเมืองก็เห็นว่าท่าทางของเขาเริ่มเป็นปกติแล้ว จึงพาเขาเข้าไปในร้านกาแฟแล้วพูดว่า  “มิลเลอร์ เพื่อนของฉันต้องการกาแฟบลูเมาท์เทนสองแก้วด่วนๆ เลย เพิ่มนม น้ำตาล แต่ไม่ต้องแต่งกลิ่นนะ!”
ร้านกาแฟของมิลเลอร์เริ่มทำการหลังจากเปิดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเมืองเล็กๆ เจ้าของร้านเป็นคู่รักหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นทำงานพาร์ทไทม์อยู่แถวๆ นอกเมือง เมื่อมองหาโอกาสทางธุรกิจที่แน่นอนได้แล้วจึงกลับมาทำงานด้วยตัวเอง
ร้านกาแฟมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีเพียงเจ็ดถึงแปดที่นั่งเท่านั้น แต่เลือกใช้สไตล์การตกแต่งแบบชาววัง ซึ่งมีความหรูหรามาก จึงทำให้ได้รับความพอใจจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม ส่งผลให้การค้าขายดิบขายดี
มิลเลอร์เดินมาเสิร์ฟกาแฟ พอกำลังจะเดินกลับก็เห็นท่าทางของโหวจื่อเซวียน เขาจึงกระซิบอะไรบางอย่างอย่างมีลับลมคมใน “นี่คุณ คุณป่วยเป็นโรคอะไร? โรคซิฟิลิส โรคโกโนเรียหรือโรคแผลริมอ่อน? ตายละ ดูท่าทางของคุณแล้วคงจะไม่ใช่ แต่อย่าบอกนะว่าเป็นหูดหงอนไก่ อย่าล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้นะ!”
ฉินสือโอวมองไปที่โหวจื่อเซวียนที่เหมือนกำลังจะร้องไห้ ก็รู้เลยว่าล้อเขาเล่นไม่ได้แล้ว ฉินสือโอวจึงผลักมิลเลอร์ให้ออกไป
มิลเลอร์หัวเราะพร้อมเดินจากไป เขายังตบไหล่ปลอบใจโหวจื่อเซวียนเบาๆ “ผมเห็นใจคุณนะ งั้นแก้วนี้ผมเลี้ยงแล้วกัน ส่วนฉินนายรวยอยู่แล้ว นายก็ควักเงินจ่ายเองนะ”
ฉินสือโอวกำลังจะพาโหวจื่อเซวียนกลับ แต่บังเอิญไปชนเข้ากับฮิวจ์
ฮิวจ์ซึ่งกำลังง่วงเหงาหาวนอนอยู่พอดีเห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจจะมาซื้อกาแฟเหมือนกัน แต่เมื่อเขาเห็นท่าทางของโหวจื่อเซวียน จากนั้นจึงตกใจดึงเขาไว้แล้วพูดว่า “ฉิน นายยืนยันได้ว่าฉันกับชาวอินเดียแดงแห่งเทือกเขาร็อกกีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน น้องชายคนนั้นน่ะ ฉันรู้จักกับพ่อหมอรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เก่งมาก…”
“ฉันบอกให้พวกนายพอได้แล้ว!” โหวจื่อเซวียนพูดขึ้นด้วยความโมโห
ฮิวจ์ยังคงพล่ามไม่หยุด “นายป่วยเป็นอะไร? ส่วนใหญ่จะเป็นหูดหงอนไก่ แต่อย่ากลัวไปเลย แม้แต่โรคเอดส์พ่อหมอคนนั้นยังสามารถรักษาได้!”
“ฉันบอกให้นายพอได้แล้วไง!” โหวจื่อเซวียนเริ่มโกรธจริงๆ แล้ว
ฮิวจ์ตอบกลับอย่างไม่พอใจ “โอเคๆ ฉันไม่พูดละ แต่นายแน่ใจนะว่าไม่อยากรักษาจริงๆ? เขาไม่เพียงแต่สามารถรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างเดียวนะ ยังสามารถเพิ่มสมรรถภาพให้กับผู้ชายได้อีกด้วย ชาวอินเดียแดงใช้เวลาหนึ่งครั้งต่อหนึ่งชั่วโมง แปดครั้งในหนึ่งวัน!”
ฉินสือโอวถึงกับขมวดคิ้ว
ฮิวจ์ยกมือขึ้นหัวเราะพร้อมพูดว่า “ก็ได้ๆ เจ้านาย ครั้งนี้ฉันไม่พูดแล้วจริงๆ…”
“ไม่ นี่นายพูดต่อเถอะ อยู่ๆ ฉันก็เริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว หนึ่งครั้งต่อหนึ่งชั่วโมง แปดครั้งต่อวันจริงเหรอ? นายแน่ใจใช่ไหม?” โหวจื่อเซวียนดึงฮิวจ์มาถาม
ฉินสือโอวแผ่มือออกไปอย่างจนปัญญา “เอาล่ะ งั้นนายก็อยู่คุยเล่นที่นี่ไปเถอะ ถ้าไม่กลับพร้อมฉันก็ให้ฮิวจ์ไปส่งนายแล้วกัน ฉันขอตัวก่อนล่ะ”
เขากลับมาถึงฟาร์มปลาได้ไม่นาน บริษัทประกอบบ้านได้ส่งของที่เขาสั่งมาให้  ซึ่งมีทั้งหมดห้าหลัง นอกจากนี้บริษัทยังส่งหลังคามาให้เขาอีกด้วย เขาจึงไม่ต้องซื้อบาร์เครื่องดื่มเพิ่มอีก
เหล่าทหารมองดูอะไหล่บ้านของเล่นเหล่านั้น จึงถามขึ้นมาว่า “ประกอบบ้านเหรอครับ?”
ฉินสือโอวพยักหน้า แอร์แบ็คหัวเราะขึ้นมาพร้อมพูดว่า “โอเค บอสให้พวกเรามาแค่นี้”
ครั้งก่อนประกอบบาร์เครื่องดื่มยังช่วยกันทำทั้งบ้าน แต่ครั้งนี้เด็กๆ ก็ไปโรงเรียนกันหมดแล้ว แถมยังเหลือบ้านอีกตั้งห้าหลังที่ต้องประกอบ จะชวนคนที่บ้านมาทำก็ไม่ได้ ถ้ามีคนมาช่วยประกอบก็คงจะดีไม่น้อย
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset