ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 786 เกาะล่องแก่งบนท้องทะเล

อันดับแรกต้องซ่อมแซมบาร์เครื่องดื่มก่อน ฉินสือโอวคิดว่าแค่เอาหลังคามาต่อเติมก็คงใช้ได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงคือไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะเมื่อมีลมพายุพัดมาก็จะทำให้กำแพงบ้านเอียงและต้องทำการซ่อมแซมเพิ่มอีก
ซึ่งก่อนหน้านั้นพวกซีมอนสเตอร์ได้ทำการสร้างหลังคาขึ้นมาเอง ผลที่ได้คือไม่ตรงตามแบบฉบับบ้านการ์ตูน จึงทำให้ฉินสือโอวเลิกใช้มันไป ตอนนี้จึงเลือกฟังคำแนะนำของแบล็คไนฟ์ บอกว่าที่ไม่ตรงแบบไม่ใช่เพราะสไตล์ของหลังคาที่ไม่เหมาะสม แต่เป็นเพราะปัญหาระหว่างพื้นล่างและผนังต่างหาก ดังนั้นมันจึงดูขัดตา
แบล็คไนฟ์พาน้องชายทั้งสี่คนมาปรึกษาพูดคุยกัน พวกเขามาหาฉินสือโอวเพื่อต้องการไม้ฉากสามเหลี่ยมและไม้บรรทัดตรงมาเริ่มร่างแบบลงกระดาษ และไม่นานพวกเขาก็วางแผนการซ่อมแซมออกมาอย่างเสร็จสมบูรณ์
พวกเขาเริ่มถอดส่วนประกอบของบาร์เครื่องดื่มก่อน จึงทำให้ฉินสือโอวมองเห็นชิ้นส่วนตรงขอบมุมที่มีรอยร้าวจนบางที่แตกแล้วก็มี จึงจำเป็นต้องทำการซ่อมแซม
เหล่าทหารมีทักษะฝีมือที่ยอดเยี่ยมมาก บีบีซวงจะชำนาญในการทำงานเหล่านี้มากเป็นพิเศษ พวกเขาสามารถซ่อมแซมมุมประตู หน้าต่างและกำแพงที่มีปัญหาได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันนำมาประกอบตามภาพแล้ววางหลังคาไว้ข้างบน ทำให้บาร์เครื่องดื่มที่ทรุดโทรมกลับมาสดใสอีกครั้ง
บาร์เหล้าค่อนข้างมีความน่าสนใจ มันไม่ใช่แค่ไม้กระดานหรือแผ่นเหล็กธรรมดาๆ อุปกรณ์มากมายล้วนทำมาจากขวดเบียร์และกระป๋องเบียร์ ที่นั่งในห้องก็เป็นถังเบียร์ทั้งหมด เคาน์เตอร์บาร์และเสาก็ทำมาจากขวดเบียร์เล็กๆ ที่เอามามัดรวมกัน
การติดตั้งไฟในห้องก็มีความโดดเด่น นอกจากไฟหลอดใหญ่ตรงกลางนั่นแล้ว ไฟหลอดอื่นจะเอามาติดในขวดเบียร์ขนาดใหญ่และเล็กทั้งหมด
ขวดเบียร์เหล่านี้มีสีสันแตกต่างกัน แม้ว่าข้างในจะเป็นแค่หลอดไฟแอลอีดีธรรมดา แต่พอมันสว่างแล้ว แสงที่ส่องออกมากลับมีหลากหลายสีสัน
นอกจากนี้ฉินสือโอวยังสั่งซื้อบ้านพักทั่วไปมาอีกด้วย ซึ่งนี่คือสิ่งที่เขาเตรียมไว้สำหรับเกาะล่องแก่ง
เกาะล่องแก่งเป็นเกาะพลาสติกที่การ์เซียและเซลียากำลังสร้างอยู่บนทะเลด้วยกัน จากนั้นฉินสือโอวจึงตั้งชื่อให้เขา ซึ่งเป็นชื่อที่ไม่เลวเลยทีเดียว
เหล่าทหารมักจะตั้งเต็นท์ประจำการ นอกจากนี้เมื่อพวกเขาตั้งค่ายอยู่ต่างประเทศก็มักจะใช้ทักษะการประกอบบ้านนี้ในการตั้งค่าย ซึ่งทำให้สะดวกต่อการรื้อถอนและก่อสร้าง ดังนั้นพวกเขาจึงชำนาญในการประกอบบ้านมาก บ้านหลังหนึ่งพวกเขาใช้เวลาแค่สามสิบนาทีก็สามารถสร้างขึ้นมาได้แล้ว
ซึ่งจุดนี้ฉินสือโอวสามารถพูดได้แค่ว่าความชำนาญทำให้เกิดการพลิกแพลงได้จริงๆ ครั้งก่อนที่เขาและเด็กๆ ประกอบบาร์เครื่องดื่มก็เสียเวลาไปทั้งวัน จนวิลและซีมอนสเตอร์ต้องมาช่วย
ชิ้นส่วนต่างๆ ของบ้านอยู่ในมือของเหล่าทหารราวกับว่าพวกเขากำลังถืออาวุธปืน พวกเขาดูภาพร่างและวิดีโอการก่อสร้างทำให้พวกเขาสร้างมันขึ้นมาได้อย่างราบรื่น และเป็นไปตามแบบร่าง
แม้ว่าปัญหาด้านวงจรไฟฟ้าจะเป็นสิ่งที่ยุ่งยากที่สุด แต่ถ้าอยู่ในมือของพวกเขาแล้วก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายในทันที ด้วยความร่วมมือกันอย่างสุดฝีมือ บ้านที่ละเอียดประณีตแต่ละหลังจึงค่อยๆ ปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ต้นชูการ์เมเปิล
หลังจากฉินสือโอวเห็นก็รู้สึกว่ามันยอดเยี่ยมมาก เขาจึงวางใจให้เหล่าทหารจัดการ ส่วนเขาก็จะไปดูแผนการสร้างเกาะของการ์เซียและซีเลีย
การ์เซียและซีเลียเอาท่าเรือบล็อกคอนกรีตเป็นศูนย์กลาง และเอาแผ่นพีวีซีและขวดพลาสติกวางซ้อนกันใต้อุโมงค์สะพานในท่าเรือ และเหล่าชาวประมงจะใช้แหที่ชำรุดแล้วคลุมแผ่นพีวีซีและขวดพลาสติกเอาไว้ สามารถหยิบใช้ได้ตามต้องการ
หลังจากยุ่งกับการทำงานมาหลายวัน การ์เซียและซีเลียทำงานยุ่งจนแทบจะหมดแรง
พวกเขาใช้แผ่นพีวีซีขนาดใหญ่จับคู่กับแผ่นแบบ ใช้สายเบ็ดและกาวกันน้ำทำให้มันยึดติดกัน แต่ไม่ได้เอามารวมกันทั้งหมด แค่เอาแต่ละอันมาเชื่อมเข้าด้วยกันจึงจะสามารถขยับและกระเพื่อมตามคลื่นของน้ำทะเลได้ และเป็นกันชนแรงกระแทกบนเกาะได้
ฐานรองของเกาะเล็กๆ มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตรและมีรูปร่างเป็นทรงกลมทั้งหมด ซึ่งรูปร่างแบบนี้ถ้าอยู่ในน้ำทะเลจะสามารถปล่อยแรงได้ดีที่สุด เมื่อคลื่นซัดขึ้นมาก็จะแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเฉลี่ยเท่ากับแรงรับ
เพื่อที่จะหาทุนนี้ การ์เซียและซีเลียต้องทำงานอย่างหนัก ซึ่งแค่แบบการสร้างเกาะก็มีเป็นร้อยแผ่นแล้ว ดังนั้นจึงต้องแบ่งกันไปศึกษาการออกแบบ
ช่วงท้ายของฐานรองต้องใช้เชือกผูกติดกับท่าเรือ จากการเคลื่อนไหวของกระแสน้ำ ฉินสือโอวจึงลองไปยืนดูความแข็งแกร่งของแรงรับก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะรู้สึกโคลงเคลงอยู่บ้าง คาดว่าถ้าคนเมาเรือขึ้นมาจะต้องรู้สึกวิงเวียนจนรู้สึกอยากอาเจียนแน่นอน
เขาจึงเอาปัญหานี้ไปปรึกษากับการ์เซีย การ์เซียจึงยิ้มพร้อมพูดว่า “ไม่ครับ บอส นี่ยังไม่ใช่เวอร์ชันสุดท้าย ผมยังต้องการให้ฐานรองหนาขึ้นอีก โดยจะใช้ขวดพลาสติกที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมซ้อนเพิ่มเข้าไปในแต่ละชั้น และสุดท้ายจะใช้เชือกและโซ่เหล็กยึดเอาไว้ใต้ก้นทะเล ถึงจะมีความมั่นคงมากพอ”
ซีเลียเอาแบบร่างให้ฉินสือโอวดู ฐานรองของเกาะเล็กๆ มีการวางแผนให้มีความหนาถึงแปดสิบเซนติเมตร ประกอบด้วยแผ่นพีวีซี ซึ่งมีทั้งหมดห้าชั้นและแผ่นไม้
ระหว่างแผ่นพีวีซีและแผ่นไม้จะมีขวดพลาสติกวางเรียงกันในแต่ละชั้น จึงจะทำให้แรงลอยตัวในการรับน้ำหนักในรอบสุดท้ายมีมากกว่า 100,000 นิวตัน ซึ่งหมายความว่าแรงรับน้ำหนักมีมากถึงสิบตัน
ดังนั้นดูเหมือนว่า หลังจากประกอบพลาสติกเหล่านี้แล้ว จะเรียกมันว่า ‘เกาะเล็กๆ’ ก็คงไม่ผิด
ในส่วนอื่นๆ ฉินสือโอวพอใจมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่พอใจคือวิธีการซ่อมแซมในขั้นตอนสุดท้าย เขาจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ พวกนายอยู่ซ่อมแซมที่นี่ก็พอ ฉันซ่อมไม่ได้ หลังจากเตรียมพร้อมแล้วจะให้เรือสำราญมาลากไป ดังนั้นพวกนายต้องทำให้มันแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม”
หลังจากที่ได้เห็นความรุนแรงของการปะทุของภูเขาไฟและความโหดร้ายของลมพายุ ฉินสือโอวจึงไม่กล้าโยนสิ่งนี้ลงทะเล เขาควรจะสร้างเกาะลอยน้ำ ไม่อย่างนั้นจะเรียกมันว่า ‘เกาะล่องแก่ง’ ทำไม?
หลังจากรอให้เกาะล่องแก่งสร้างเสร็จ ก็จะเอาบ้านประกอบไปลง โดยจะใช้เรือสำราญลากลงทะเลลึกและค้างคืนที่นั่นคงจะดีมากแน่ๆ แต่ถ้าต้องพบกับสภาพอากาศที่ผิดปกติ ก็จะใช้เรือสำราญลากขึ้นฝั่ง ฉินสือโอวรู้สึกว่าทำแบบนี้น่าจะปลอดภัยมากกว่า
แม้ว่างานนี้จะทำสัญญาโดยการ์เซียและซีเลีย แต่ฉินสือโอวและเหล่าชาวประมงก็ยินดีที่จะช่วยเหลือเมื่อพวกเขามีเวลาว่าง และเจ้าสิ่งนี้ก็เป็นการประกอบแบบแยกส่วนด้วย
ก่อนอื่นเลือกแผ่นพีวีซีและขวดพลาสติกมาเชื่อมต่อกันให้มีความยาวประมาณสี่เมตร ฐานรองเล็กรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีความกว้างสองเมตร หลังจากผ่านการทดสอบความแข็งแรงแล้ว ก็จะประกอบเข้ากับฐานรองใหญ่ ซึ่งทำเช่นนี้จะทำให้แต่ละชิ้นส่วนขยายออกและสุดท้ายจะกลายเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่
ตอนนี้เค้าโครงโดยรวมของฐานรองเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ซึ่งการ์เซียกำลังยุ่งอยู่กับการขัดเงาเคลือบแผ่นพีวีซีและต้องต่อเข้ากับส่วนด้านนอกของฐานรอง จึงจะสามารถประกอบแบบร่างของต้นแบบขั้นสุดท้ายได้
บ่ายวันหนึ่ง ฉินสือโอวจึงเอาแผ่นพีวีซีสองแผ่นซึ่งมีความยาวและความกว้างสี่เมตรประกอบรวมเข้าด้วยกัน เขาใช้ลูกเล่นหลอกพาฉงต้ามาที่ท่าเรือ พอถึงที่หยุดตรงแผ่นพลาสติก ก็ผลักมันลงไปอย่างรวดเร็ว
ฉงต้าที่ตัวอ้วนขึ้นเรื่อยๆ และปริมาณน้ำหนักตัวของมันก็เกือบจะมากถึงหนึ่งร้อยห้าสิบกิโลกรัม การตกลงไปบนแผ่นพีวีซี ด้วยน้ำหนักขนาดนี้ แต่แผ่นพีวีซีกลับไม่มีรอยแตกเลย!
โชคดีที่ฉินสือโอวใช้เบ็ดตกปลาและกาวกันน้ำในปริมาณที่มากพอจึงทำให้สามารถรับน้ำหนักและแรงกระแทกของฉงต้าได้
เป็นครั้งแรกที่ฉงต้าได้ใกล้ชิดกับทะเลขนาดนี้ คลื่นที่กระทบกับแผ่นพีวีซี ทำให้มันตกใจจนร้องคำรามออกมาอย่างน่าเหลือเชื่อ และร่างใหญ่ของเจ้าเด็กอ้วนก็ฟุบลงไปนอนอยู่บนแผ่นพีวีซี มันกลัวจนแทบจะฉี่ราดออกมา
ฉินสือโอวกระโดดลงไปในน้ำ แล้วใช้มือปัดน้ำที่อยู่บนตัวฉงต้าพร้อมกับพูดอย่างไม่พอใจว่า “อย่าร้อง อย่าร้อง จะกลัวอะไร? จมน้ำก็ไม่ตายหรอก! มา พ่อจะผลักแกให้ดู”
เมื่อเห็นฉินสือโอวกระโดดลงน้ำ หลัวปอที่กำลังวิ่งไปมาอยู่บนชายหาดก็ชะโงกหัวออกไปมองดูฉงต้า แล้วส่งเสียงร้องบรู้วๆ อย่างกับกำลังหัวเราะใส่
หู่จือและเป้าจือก็แอบวิ่งเข้ามาและยืนอยู่ข้างหลังหลัวปออย่างเงียบๆ
หลัวปอที่รู้สึกถึงความผิดปกติจึงหันกลับไปมอง มันหวาดกลัวเมื่อเห็นทั้งสองตัวนี้กำลังเข้ามา…
‘ตู้ม’ คราวนี้กลับไม่มีแผ่นพีวีซีมารองรับ!
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset