ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 788 ค่ำคืนที่นี่ไม่มีความเงียบสงบ

เด็กๆ กลับจากเลิกเรียนแล้วก็เห็นบ้านหลายหลังที่กำลังสร้าง จึงกรีดร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็วางกระเป๋านักเรียนแล้วรีบวิ่งเข้าไปปีนเล่นทันที
พวกเขาเล่นกันจนถึงเวลาทานข้าว ฉินสือโอวตะโกนเรียกหลายครั้งก็ไม่มีใครสนใจ ดังนั้นเขาจึงแบมือออกแล้วตะโกนว่า “พวกเธอโตๆ กันแล้วนะ อย่าพูดไม่รู้เรื่องได้ไหม?”
เชอร์ลี่ย์จึงพูดอย่างไม่พอใจ “เดิมทีนี่เป็นสิ่งที่เตรียมไว้ให้พวกเราไม่ใช่เหรอคะ หรือคุณคิดว่าเด็กหกเจ็ดขวบจะใช้เครื่องปั่นน้ำและเครื่องทำน้ำแข็งเป็น?”
ฉินสือโอวยักไหล่ใส่พร้อมพูดอย่างไม่แยแส “ดี ถ้าพวกเธอชอบที่นั่นมากก็นอนอยู่นั่นไปเลยแล้วกัน ต่อไปก็ไม่ต้องมาที่นี่ ไม่ต้องกลับมากินข้าวแล้ว”
“จะให้พวกหนูนอนที่นี่จริงๆ ใช่ไหมคะ?” เชอร์ลี่ย์มองฉินสือโอวพร้อมกับถาม ที่บาร์เครื่องดื่มก็มีเตียง แถมยังมีห้องให้อยู่ แม้แต่ห้องน้ำก็ยังมี
ฉินสือโอวยักไหล่ใส่อีกแล้วพูดว่าพวกเธออยากทำอะไรก็ทำ คืนนี้ยุงหามพวกเธอแน่ๆ
เด็กๆ ดีใจที่ได้นอนบ้านทุ่ง คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะวิ่งไปเอาผ้าปูที่นอนของตัวเองเข้ามานอนจริงๆ แต่ไม่นานก็วิ่งกลับออกไป
ฉินสือโอวที่กำลังคุยกับมาริโอ้เรื่องฟาร์มอยู่ จึงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเด็กๆ วิ่งกลับมาด้วยสีหน้าผิดหวัง “เป็นอย่างไร ยุงเยอะใช่ไหมล่ะ?”
วินนี่ลุกขี้นยืนพร้อมพูดว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปหายากันยุงไฟฟ้ามาให้”
เชอร์ลี่ย์พูดพร้อมทำหน้ายู่ยี่ “ไม่ ไม่ใช่ยุง แต่มันคือแมลง มันส่งเสียงจิ๊ดๆ ไม่หยุด เสียงของมันหนวกหูมากจนนอนไม่ได้เลยค่ะ”
“แมลงเหรอ?” ฉินสือโอวตกตะลึงและรีบตอบโต้กลับทันที “แมลงที่พวกเธอว่าคือจักจั่นใช่ไหม?”
ถ้าเป็นจักจั่นก็ต้องรู้จักสิ แต่ปกติแล้วในอเมริกาเหนือไม่มีชื่อเรียกแบบนี้
เชอร์ลี่ย์และคนอื่นๆ พยักหน้า กอร์ดอนจึงพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “ใช่ๆ มันเป็นแมลงชนิดนั้น ผมล่ะไม่ชอบจริงๆ พูดแล้วยาว พวกมันยังเรียกแมลงตัวอื่นๆ เข้ามาบริเวณรอบๆ ด้วย หลังคาบ้านเรามีแต่อุจจาระแมลงทั้งนั้น!”
ฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจ เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าฤดูร้อนนี้มันจะมีเยอะ
เชอร์ลี่ย์และเด็กคนอื่นๆ เรียกจักจั่นว่าแมลง ไม่ใช่ว่าพวกเขาเอ็นดู แต่เป็นเพราะเด็กชาวแคนาดาจะเรียกแมลงชนิดนี้แบบนี้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก และตลอดช่วงวัยเด็กของพวกเขาจะพบบ่อยที่สุดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
จักจั่นของแคนาดาและจักจั่นของจีนไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน จักจั่นเป็นแมลงที่เติบโตเป็นวัฏจักร ตัวอ่อนของพวกมันอาศัยอยู่ใต้ดิน และเมื่อถึงระยะโตเต็มวัยมันก็จะอยู่บนพื้นดินได้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น โดยปกติจะอยู่ในช่วงเดือนที่สองของฤดูร้อนและต้นฤดูใบไม้ร่วง จากนั้นมันก็จะตายไป
จักจั่นของจีนส่วนใหญ่เป็นจักจั่นระยะสามปีหรือห้าปี แต่จักจั่นของแคนาดาเป็นชนิดเดียวกับจักจั่นของอเมริกาเหนือ และชื่อของมันก็คือจักจั่นระยะสิบเจ็ดปี!
ถ้าดูจากชื่อก็สามารถเข้าใจได้ว่าจักจั่นชนิดนี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสิบเจ็ดปี แต่พวกมันจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดินนานกว่าสิบหกปี จากนั้นไม่กี่เดือนมันก็จะบินขึ้นสู่พื้นดินเพื่อหาคู่วางไข่แล้วมันก็จะตายไป
ซึ่งปัจจุบันชาวอินเดียแดงในบางพื้นที่ ยังคงใช้จักจั่นในการคำนวณชีวิตของตัวเอง เมื่อจักจั่นปรากฏตัวขึ้นครั้งแรก อาจจะแสดงถึงช่วงเวลาที่เขายังเป็นเด็ก เมื่อจักจั่นปรากฏตัวเป็นกลุ่มใหญ่ จะแสดงถึงช่วงเวลาที่ลูกๆ ของพวกเขาแต่งงาน พอถึงช่วงบั่นปลายชีวิตของเขาและช่วงเวลาที่ใกล้จะปลดเกษียณ จักจั่นถึงจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
หากโชคดี ชาวอินเดียแดงเหล่านี้อาจจะได้สัมผัสกับช่วงระบาดของฝูงจักจั่นอีกครั้ง จากนั้นก็จะตาย
จักจั่นเป็นสัตว์ที่มีอยู่ทั่วโลกและมีอยู่ทุกปี เมื่อปีที่แล้วฉินสือโอวอยู่เกาะแฟร์เวลก็เคยได้ยินเสียงร้องของมันแต่มีน้อยมากจึงไม่ได้สนใจ
แต่ปีนี้ ดูเหมือนว่าจักจั่นจะร้องเสียงดังจนวุ่นวายไปหมด และยังเสียงดังกว่าปีที่แล้วมาก
ฉินสือโอวพูดแค่สั้นๆ มาริโอ้จึงหัวเราะพร้อมพูดว่า “คุณจะไม่เตรียมการป้องกันหน่อยเหรอ? ปีนี้เป็นระยะระบาดของจักจั่นระยะสิบเจ็ดปีด้วย ที่ราบแพร์รีแคนาดาเองก็ได้เตรียมการป้องกันเอาไว้แล้ว”
ตอนนั้นฉินสือโอวไม่ได้เตรียมการป้องกันอะไร เพราะจักจั่นมันแค่ดูดสารอาหารและของเหลวในต้นไม้เท่านั้น มันไม่ได้ทำร้ายคนหรือกัดคนเลย และยังไม่กินธัญพืชอีกด้วย แล้วทำไมจะต้องไปทำร้ายมันด้วย? เขาคิดว่ามาริโอ้ล้อเล่น แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาถึงพบว่า นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!
ฝูงจักจั่นระบาดรวดเร็วมาก วันก่อนฉินสือโอวยังไม่รู้สึกอะไรเลย พอวันต่อมาเขาไปวิ่งตอนเช้า ทันใดนั้นเขาก็เห็นฝูงจักจั่นบินออกมาจากป่าอย่างหนาแน่น หลังจากเขาวนมาดูอีกรอบพวกมันก็บินกลับไปแล้ว หลังจากนั้นก็มีเสียง ‘จิ๊ดจิ๊ด’ ดังขึ้นมาจากต้นไม้
“ตายล่ะ มันคงจะไม่ใช่จักจั่นนะ?” ฉินสือโอวถามด้วยความประหลาดใจ
เหล่าทหารที่วิ่งตามหลังฉินสือโอวมาก็ได้ยินเสียงพึมพำของฉินสือโอว แบล็คไนฟ์หัวเราะแล้วพูดว่า “แน่นอนว่า มันคือจักจั่น เป็นจักจั่นระยะสิบเจ็ดปี ผมเคยมีความทรงจำกับพวกมันเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนตอนที่ยังเป็นยามอยู่วอชิงตัน ผมเคยต้องทนทุกข์ทรมานเพราะพวกมันมาก่อน!”
แบล็คไนฟ์ที่กำลังพูดอยู่ก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันที “พระเจ้า ช่วยทำให้เวลาเดินช้าลงบ้างได้ไหม? กะพริบตาแป๊บเดียวก็ผ่านมาสิบเจ็ดปีแล้ว ตอนนั้นผมยังเป็นหนุ่มอยู่เลย เฮ้อ”
ฉินสือโอวจึงพูดด้วยความแปลกใจ “จักจั่นนี่นะ จะทำให้พวกนายต้องทนทุกข์ทรมานได้อย่างไร? พวกมันไม่กัดคน ไม่กินธัญพืชและยังเป็นอาหารรสชาติดีอีก”
กลุ่มทหารจึงจ้องมาทางเขาด้วยสายตาประหลาดใจ บีบีซวงจึงคุยโวอวดว่า “อาหารเหรอ? ไม่นะ ผมไม่สามารถกินของสกปรกแบบนี้ได้หรอก พวกมันก็เหมือน เอ่อ เหมือนกับสิ่งแปลกประหลาด ใช่ มันแปลกประหลาด น่ากลัวมาก!”
แอร์แบ็คยังพูดเสริมอีกว่า “พวกมันไม่กัดคนก็จริง แต่มันเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมาก ขอแค่มีที่บนต้นไม้ก็จะมีพวกมันอาศัยอยู่ คุณต้องไล่มันออกไปอยู่เรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นพวกมันจะส่งเสียงหึ่งๆ เสียงกัดใบไม้เอี๊ยดๆ บนหัวคุณทั้งวันทั้งคืน… พระเจ้า! มันคือหายนะชัดๆ!”
“จักจั่นไม่กินใบไม้ โอเค?” ฉืนสือโอวพูด
ทริกเกอร์แก้ต่างช่วยแอร์แบ็ค “ไม่ พวกมันกิน สนามที่บ้านผมมีต้นหยางเล็กๆ อยู่ต้นหนึ่ง ซึ่งประมาณสิบเจ็ดปีก่อน กลุ่มของจักจั่นบุกรุกเข้ามา ผ่านไปได้ไม่นานใบไม้บนต้นก็หายไปหมดและต้นไม้เล็กๆ ที่น่าสงสารก็ตายลงไปตามธรรมชาติ”
ฉินสือโอวหัวเราะเสียงดังขึ้น เขารู้สึกว่าชาวอเมริกันกลุ่มนี้น่าสนใจจริงๆ ในบางที่พวกเขาถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ และในบางที่พวกเขาก็ยังเป็นพวกน่ารักสมองทึ่ม
และเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรให้ถกเถียงกันอีก เพราะฉินสือโอวก็เห็นด้วยกับคำพูดของพวกเขา พอวิ่งมาถึงข้างๆ ต้นไม้จึงยืนฟังเสียงอยู่สักพัก
เสียงร้องของจักจั่นที่น่ารำคาญก็ดังกังวานขึ้น มันไม่มีความไพเราะเลยสักนิดและยังค่อนข้างแสบหูอีกด้วย พอจะเดาได้ว่าบนต้นไม้ต้องมีจักจั่นเยอะมากแน่ๆ
หลังจากกลับมาถึงวิลล่า เขาเช็กในอินเทอร์เน็ตดูว่ามาริโอไม่ได้ล้อเล่นจริงๆ ที่ราบแพร์รีแคนาดามีประกาศเตือนเรื่องการระบาดของจักจั่นระยะสิบเจ็ดปีออกมาจริงๆ
เนื่องจากเดือนที่หนอนจะโตเต็มที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจักจั่นระยะสิบเจ็ดปีจึงมีทั้งหมดสองสายพันธุ์ โดยแบ่งเป็นอยู่ที่อเมริกาและแคนาดา นอกจากนี้ ทวีปอเมริกาเหนือและที่อื่นๆ ในโลกก็ยังไม่พบการดำรงอยู่ของพวกมัน
ในความเป็นจริงแล้ว ในช่วงที่มีคนเริ่มสร้างรากฐานในทวีปอเมริกาเหนือ ผู้คนเคยมีบันทึกเกี่ยวกับจักจั่นมาก่อน แม้จนทุกวันนี้ นักกีฏวิทยายังคงไม่สามารถเข้าใจสิ่งนี้ที่ถูกเรียกเป็นแมลงที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก
จักจั่นระยะสิบเจ็ดปีในประเทศอเมริกา มันครอบครองพื้นที่มากกว่าสิบห้ารัฐและยึดบริเวณกลางมหาสมุทรแอตแลนติกทั้งหมด เช่นบริเวณส่วนใหญ่ของรัฐเวอร์จิเนีย นิวยอร์ก รัฐโอไฮโอ รัฐอินดีแอนา รัฐเทนเนสซี ทางตอนเหนือของจอร์เจียและอื่นๆ
จักจั่นระยะสิบเจ็ดปีในประเทศแคนาดา ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ที่ราบแพร์รีแคนาดา รัฐออนแทรีโอ รัฐคิวเบกและบริเวณทางตอนเหนือของรัฐนิวฟันด์แลนด์ เช่นเกาะแฟร์เวล
สาเหตุที่แมลงชนิดนี้ถูกมองว่าเป็นภัยพิบัติ นั้นเป็นเพราะการระบาดที่เกิดขึ้นฉับพลัน ในเขตพื้นที่ป่ามีการปรับตัวตามสภาพภูมิอากาศ จำนวนจักจั่นต่อเอเคอร์จะเฉลี่ยถึง 1.5 ล้านตัว!
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset