ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 793 น้ำผลไม้จากน้ำเลี้ยงต้นไม้

เชอร์ลี่ย์และคนอื่นๆ ถึงจะไร้เดียงสาแต่ก็ไม่ได้โง่ โลลิต้าจึงจ้องเขม็งแล้วถามว่า “จะเป็นน้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้ได้อย่างไร? ทำไมพวกเราจับตัวอ่อนแล้วถึงมีน้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้ไหลออกมาด้วยล่ะ? นี่ต้องเป็น…ของมันแน่ๆ”
ฉินสือโอวขัดจังหวะเธอพอดีแล้วทำท่าทางอย่างมั่นใจแล้วพูดว่า “เป็นน้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้แน่นอน คุณครูของพวกเธอไม่ได้สอนเกี่ยวกับจักจั่นเหรอไง?”
เด็กๆ ส่ายหัวอย่างไร้เดียงสา โชคดีที่ฉินสือโอวเก็บไว้ไม่พูดและโชคดีที่ปกติในฤดูร้อนจะไม่มีจักจั่นมุดดินขึ้นมา ไม่อย่างนั้นวันนี้เขาต้องขายหน้าแน่ๆ
เขาอยู่ข้างหน้าเด็กๆ จึงถูกปัสสาวะของจักจั่นเข้าเต็มๆ ฉินสือโอวรู้สึกว่ามันเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของเขาเป็นอย่างมาก
“โอเค ฉันจะให้ความรู้ทั่วไปกับพวกเธอ เกี่ยวกับวัวและแกะ คุณครูของพวกเธอเคยสอนหรือยัง? พวกมันเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง” ฉินสือโอวว่า
มิเชลล์ชิงพูดก่อนว่า “ผมรู้แล้ว พวกเราเคยเรียนแล้ว วัวและแกะเมื่อกินอะไรเข้าไปแล้วจะไม่สามารถทำการย่อยอาหารได้โดยตรง พวกมันมีสี่กระเพาะ อันดับแรกจะเก็บไว้ในกระเพาะส่วนที่หนึ่งก่อน จากนั้นไม่นานก็จะทำการเคี้ยวเอื้อง”
ฉินสือโอวยกนิ้วโป้งให้กำลังใจ เด็กๆ พวกนี้ดีมาก เก่งมากๆ ฉินสือโอวพูดประจบเอาใจ
“จักจั่นก็เหมือนกัน พวกมันไม่เหมือนกับแมลงอื่นๆ ทั่วไป หลังจากที่มันดูดน้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้เข้าไปแล้วก็จะถูกเก็บไว้ที่ไหนสักที่ ซึ่งมันจะเก็บไว้ในนั้นก่อน จากนั้นพอมันขาดอาหารก็จะเอาส่วนนี้มาทำการย่อยอีกครั้ง เข้าใจไหม?” ฉินสือโอวกล่าว
หลังจากอธิบายแบบลวกๆ ไปหนึ่งรอบ ฉินสือโอวอยากจะชื่นชมตัวเองที่ตัวเองมีความสามารถในการเล่าเรื่องโกหกได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ ขนาดนี้
“เหมือนกับอูฐที่เอาน้ำและสารอาหารไปเก็บไว้ในโหนกที่หลังของมันแบบนั้นใช่ไหมครับ?” ชาร์คน้อยถาม
ฉินสือโอวชมเขาอีกว่า “ใช่แล้ว นายนี่เรียนรู้ได้ดีจริงๆ แม้แต่อูฐยังรู้เรื่องเลย”
ชาร์คน้อยเงยหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่งแล้วพูดว่า “มันแน่นอนอยู่แล้ว…”
“จิ๊ดจิ๊ด!” ‘น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้’ พ่นลงมาอีกแล้ว ฉินสือโอวจึงรีบหลบ จากนั้นก็กระเด็นไปโดนหน้าชาร์คน้อยแทน
ฉินสือโอวเงยหน้าขึ้นมอง เสี่ยวหมิงถือตัวอ่อนตัวหนึ่งที่อยู่ในอุ้งเท้ามาทักทายเขา จากนั้นก็กระโดดไปอยู่บนไหล่ของเขา แล้วเอาตัวอ่อนนี้ให้เขาราวกับเป็นสมบัติ
“เด็กดีๆ แกนี่เป็นเด็กดีจริงๆ เลยนะ” ฉินสือโอวพูดพลางลูบขนที่หัวของเสี่ยวหมิงด้วยความเอ็นดู
หลังจากเอาตัวอ่อนให้เขา เสี่ยวหมิงรีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้ ‘ตึกตึกตึก’ และรีบวิ่งเข้าใส่ด้านหลังของตัวอ่อน แล้วใช้อุ้งเท้าทุบจนเป็นลม ทันใดนั้นตัวอ่อนก็เริ่ม ‘เปาะแปะ’ แล้วตกลงไป
“พระเจ้า นี่มันเซเบิลสายฟ้า” ฉินสือโอวมองดูความเร็วของเสี่ยวหมิงอย่างประหลาดใจ
เชอร์ลี่ย์มองดูตัวอ่อนที่กำลังตกลงมา แล้วมองดูจักจั่นที่จับได้อยู่ในมือ “ฉิน ถ้ารู้เร็วกว่านี้พวกเราคงไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายขนาดนี้ มีเสี่ยวหมิงอยู่ทำทั้งหมดนี้ก็ยิ่งง่ายขึ้น”
ฉินสือโอวกระแอมแล้วพูดว่า “พูดอะไรไร้สาระ พวกเราไม่ได้ทำเพื่อจับจักจั่น แต่ทำเพื่อความสนุกสนานตอนจับจักจั่นต่างหาก เพื่อความสนุกเข้าใจไหม? เอาล่ะ พวกเธอเล่นอยู่ที่นี่แล้วกัน ฉันต้องกลับแล้ว พระเจ้า ชาร์คน้อยนายเลียริมฝีปากทำไม?”
ชาร์คน้อยทำหน้าตามั่นใจ “ฉันกำลังชิมรสชาติของน้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้อยู่”
ฉินสือโอวพยักหน้าเล็กน้อยและรู้สึกว่าพูดความจริงออกไปไม่ได้แล้ว พอเขากำลังจะเดินกลับ เชอร์ลี่ย์ก็ดึงเขาไว้ทันทีแล้วพูดว่า “คุณต้องยืนยันกับพวกเราก่อนว่าน้ำที่กระเด็นมาเมื่อกี้ไม่ใช่ปัสสาวะของตัวอ่อน!”
พอเห็นชาร์คน้อยที่กำลังเลียริมปากรับรสชาติของน้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้แล้ว ฉินสือโอวจึงกระแอมแล้วพูดอีกว่า “ฉันยืนยันได้สาวน้อย มันไม่ใช่ปัสสาวะของตัวอ่อนหรอก!”
จริงๆ แล้วมันคืออุจจาระของตัวอ่อนต่างหากสาวน้อยผู้น่าสงสารของฉัน! ในใจของฉินสือโอวกระวนกระวายแทบจนจะระเบิดออกมา การขับถ่ายของจักจั่นแตกต่างจากแมลงอื่นๆ อุจจาระของมันจะถูกเก็บไว้ในถุงลำไส้ใหญ่ เวลาฉุกเฉินมันสามารถขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะออกมาใส่ศัตรูได้ทุกเมื่อ
เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว เด็กๆ ก็สบายใจแล้วไปจับตัวอ่อนและเพลิดเพลินกับน้ำเลี้ยงจากต้นไม้ที่สาดลงมา
จนเวลาสิบโมงกว่า อยู่ๆ แฮมเล็ตก็ขับรถเข้ามา ฉินสือโอวจึงมองที่โตโยต้าคัมรี่คันนั้น แล้วถามว่า “ยังไม่มีคนขับรถอีกเหรอ?”
แฮมเล็ตหัวเราะพร้อมพูดว่า “ฉันไม่อยากเป็นเหมือนอ็อกเฟอร์จอมซวยนั่นที่ได้รับการวิจารณ์จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหรอกนะ รอหลังจากฉันกล่าวคำปฏิญาณก่อนค่อยจ้างคนขับรถก็ไม่สาย”
ข้อกำหนดของรัฐบาลแคนาดากล่าวไว้ว่า ในระดับเทศบาลมีเพียงนายกเทศมนตรีเท่านั้นที่สามารถมีคนขับรถติดตามได้ ส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาเมืองหรืออะไรก็ตาม จะไม่ได้รับอนุญาตให้มีคนขับรถหรือจะจ้างมาเองก็ไม่ได้
หลังจากรอให้แฮมเล็ตนั่งลง ฉินสือโอวจึงตะโกนออกไปข้างนอก “มีแขกมา!”
แฮมเล็ตที่เพิ่งนั่งลงเก้าอี้ตกใจแล้วพูดว่า “นี่นายตะโกนอะไร? ประโยคนี้ทำไมฉันรู้สึกว่ามันไม่ชอบใจนัก?”
ฉินสือโอวให้เขานั่งรอสักพัก จากนั้นเชอร์ลี่ย์จึงยกเครื่องดื่มเย็นๆ มาเสิร์ฟให้สองแก้ว เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “เด็กๆ ทำบาร์เครื่องดื่มขึ้นมาเพื่อนำเครื่องดื่มมาต้อนรับแขก และเครื่องดื่มเหล่านี้ก็มาจากในบาร์ทั้งนั้น”
เมื่อเสิร์ฟเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว เชอร์ลี่ย์ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ แฮมเล็ต จากนั้นแฮมเล็ตจึงดื่มน้ำเข้าไปแล้วชมว่า “เก่งมากสาวน้อย น้ำแตงโมแก้วนี้อร่อยมาก”
“ขอบคุณสำหรับคำชม ทั้งหมดนี้สองดอลลาร์แคนาดาค่ะ” เชอร์ลี่ย์พูดออกมาตรงๆ
แฮมเล็ตแทบจะสำลักน้ำแตงโมออกมา ฉินสือโอวจึงควักเงินออกมาห้าดอลลาร์แคนาดาพร้อมพูดว่า “ฉันเลี้ยงๆ…”
แฮมเล็ตห้ามไว้ทันแล้วเอาเงินสองดอลลาร์แคนาดาให้กับเชอร์ลี่ย์ แล้วยังคุยโวต่อว่า “เก่งมากสาวน้อย เด็กที่พึ่งพาช่วยเหลือตัวเองยิ่งทำให้คนรักคนชอบ”
“ถ้าอย่างนั้นถือโอกาสให้ทิปด้วยเลยสิคะ” โลลิต้าพูดด้วยรอยยิ้ม
ฉินสือโอวมองดูแฮมเล็ตที่กำลังกลืนน้ำแตงโมอย่างทรมานใจ เขารู้สึกว่าถ้ามีแขกมาอีกคราวหน้าจะชงกาแฟให้เองน่าจะดีกว่า
โลลิต้ารับเงินมาพร้อมพูดว่า “ท่านนายก น้ำผลไม้ของเราคุ้มค่าสมกับราคา ไม่มีสารเติมแต่ง อีกทั้งในน้ำยังเพิ่มสูตรลับเฉพาะ อย่างเช่นน้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้ ที่ทำให้รสชาติแตกต่างจากที่อื่นๆ อย่างแน่นอน”
เมื่อแฮมเล็ตได้ยินโลลิต้าพูดว่า ‘ท่านนายก’ เขาก็ยิ้มร่าออกมาราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน แต่ทางฝั่งฉินสือโอวกลับหน้าซีดขึ้นมาทันที เขาจึงรีบวางเครื่องดื่มลง
“ฉิน ทำไมคุณถึงไม่ดื่มล่ะ?” โลลิต้ายิ้มถาม
ฉินสือโอวยิ้มแห้งพร้อมพูดว่า “ฉันไม่ค่อยหิวน้ำเท่าไร”
“งั้นคุณก็ลองชิมรสชาติดูสิ ท่านนายกยังบอกว่าอร่อยเลย นี่เป็นส่วนผสมใหม่ที่พวกเราผสมออกมาเลยนะ” โลลิต้ายิ้มอย่างไร้เดียงสา แต่ฉินสือโอวรู้สึกมาตลอดว่าในแววตาที่เปล่งประกายของเธอนั้นดูราวกับนางปีศาจจิ้งจอก
แฮมเล็ตยังพูดโน้มน้าวอีกว่า “ใช่แล้ว รสชาติไม่เลวเลย นายลองชิมดูสิ เร็วๆ เลย”
เนื่องจากเขามีธุระจะพูดต่อ แต่เพราะเชอร์ลี่ย์อยู่ที่นี่จึงไม่สามารถพูดได้
ฉินสือโอวยังคงปฏิเสธ แต่แฮมเล็ตไม่ได้โง่ เขาปฏิเสธที่จะดื่มน้ำผลไม้มานาน จนนึกได้อย่างรวดเร็วว่าปัญหามาจากไหน
ไม่มีวิธีแล้ว เริ่มเรื่องเองก็ต้องรับผิดชอบเอง ฉินสือโอวจึงทำได้แค่ยิ้มอย่างเขินอาย แล้วยกแก้วขึ้นดื่ม โชคดีที่รสชาติยังไม่เปลี่ยนเท่าไร
เชอร์ลี่ย์ต้องไปเรียนมารยาทกับตระกูลหญิงผู้ดีที่ราชวังอังกฤษ จากนั้นจึงรีบวิ่งออกจากวิลล่าไปอย่างมีความสุข
“ที่ฉันมาคราวนี้มีเรื่องอยากจะปรึกษา ปีนี้เป็นเป็นที่จักจั่นระยะสิบเจ็ดปีระบาด ซึ่งนายอาจจะไม่เข้าใจเรื่องนี้…” แฮมเล็ตรอให้เชอร์ลี่ย์ออกไปจึงค่อยพูดความจริง
ฉินสือโอวจึงถอนหายใจพร้อมพูดว่า “ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจเรื่องนี้ดี ไว้ค่อยคุยกันเถอะ”
แฮมเล็ตพยักหน้าแล้วพูดว่า “อย่างนั้นก็ได้ จักจั่นระยะสิบเจ็ดปีเป็นแมลงที่เป็นภัย หลังจากการระบาดของมันในปีนี้ก็ไม่น้อยไปกว่าภัยพิบัติจากตั๊กแตนเลย ดังนั้นในเมืองจึงต้องดำเนินการจัดกิจกรรมกำจัดจักจั่นโดยใช้ยาฆ่าแมลงมาฆ่าแมลงที่น่ารังเกียจเหล่านี้”
“แต่เมืองนี้ไม่มีเครื่องบินการเกษตร โชคดีที่นายมีอยู่ที่นี่หนึ่งลำพอดี พวกเราอยากจะขอเช่า ได้ไหม?”
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset