ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 805 พวกเราจะไป

ฉินสือโอวเอาวิธีแก้ไขที่พ่อของเขาแนะนำมาบอกกับพ่อเหมาและแม่เหมา ทั้งคู่ปรึกษากันเบาๆ อยู่ครู่หนึ่ง สายตาของพวกเขาก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาทันที แล้วพูดว่า “น่าสนใจจริงๆ ถ้าเสี่ยวหลงมีเหลนให้ปู่ได้คงจะดีนะ”
หลังจากหายตื่นเต้นแล้ว พ่อเหมาก็กลุ้มใจอีกครั้งแล้วพูดอย่างจนปัญญาว่า “แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรฉันสักนิดเลย”
แม่เหมาพูดด้วยสีหน้าไม่สบายใจ “งั้นคุณก็หาวิธีเองเถอะ จะเลือกลูกหรือเลือกหน้าตาล่ะ”
พ่อเหมาหยิบบุหรี่ออกมาพร้อมกับถอนหายใจแล้วออกไปสูบบุหรี่
ฉินสือโอวจึงไปทำความสะอาดห้องให้ทั้งสองคนพัก ให้พวกเขาอยู่ที่วิลล่าไปก่อน จากนั้นจึงหาเบ็ดตกปลาให้พ่อเหมา แล้วให้นีลเซ็นพาเขาออกไปตกปลาที่ทะเลโดยเฉพาะ
ในที่สุดโหวจื่อเซวียนก็กลับมาจากเที่ยวพักผ่อนอย่างเบิกบานใจ เขาตั้งใจมารายงานตัวกับฉินสือโอวและยังเอาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาให้เขาด้วย “นี่คือเห็ดที่พวกเราเก็บมาจากภูเขาครับ ตุ๋นกับไก่จะมีรสชาติอร่อยมากและมันก็ยากมากกว่าจะผ่านด่านศุลกากรมาได้…”
“โอเค ขอบใจนายมาก โหวจื่อ ดูเหมือนว่ากลับบ้านมาครั้งนี้นายจะได้เรียนรู้อะไรมากมายเลยนะ งั้นฉันก็มีเรื่องที่จะขอร้องนายเล็กน้อย สองสามวันนี้นายไม่ต้องเข้างานนะ แต่ให้พาผู้ใหญ่ของฉันไปเที่ยวก็พอ ตกปลา ล่าสัตว์อะไรพวกนี้” ฉินสือโอวกล่าว
โหจื่อเซวียนถามด้วยความรอบคอบว่า “แล้วเงินเดือนล่ะครับ?”
“ให้ตามปกติ”
“โอ้โห จัดให้เลยครับ!” โหวจื่อเซวียนถึงกับดีใจขึ้นมา “แค่ให้พาเขาไปเที่ยวใช่ไหมครับ?”
“อืม แต่นายต้องระวังเรื่องฐานะด้วย นายจะไปกันสามคน พาไปเที่ยวไปกินไปดื่ม ปลาที่เขาตกได้ สัตว์ที่ล่าได้ นายก็เอาไปทำอาหาร” ฉินสือโอวว่า
“ทำไมผมรู้สึกว่าคำพูดนี้มันทำให้รู้สึกไม่ดีเอาซะเลย?” โหวจื่อเซวียนพูดพลางขมวดคิ้วไปด้วย
“แล้วนายจะทำหรือไม่ทำ?”
“ทำสิ ทำแน่นอน! พี่ฉิน พี่คือพี่ชายคนสนิทของผม พี่บอกแล้วทำไมผมจะไม่ทำล่ะ?”
“ไป คุณอาคนนั้นน่ะ ไม่ต้องสงสัยที่พี่ชายคนสนิทของนายไม่ได้บอกนายก่อน แล้วอย่าไปแหย่เขาล่ะ แค่ประโยคเดียวของเขาก็ทำให้นายไม่สามารถทำงานที่แคนาดาได้อย่างสบายใจแล้ว”
“พระเจ้า เขาเป็นคนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเหรอครับ?”
“เขาเป็นมากกว่านั้น”
“ว้าว งั้นก็เป็นคนของสำนักงานตำรวจน่ะสิ?”
“นายนี่ฉลาดหลักแหลมมาก!”
หลังจากส่งโหวจื่อเซวียนไปแล้ว หวังเหล่ยและเหยาลี่ลี่ก็จับมือกันวิ่งเข้ามา ทั้งสองเห็นฉินสือโอวจึงโค้งคำนับให้ก่อน ฉินสือโอวตกใจและรีบพยุงทั้งสองคนขึ้นมาแล้วพูดว่า “นี่ผิดขั้นตอนอะไรกันหรือเปล่า? ต้องกราบไหว้ฟ้าดินก่อนแล้วหลังจากนั้นถึงจะมาทำความเคารพพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ใช่เหรอ?”
สีหน้าของเหยาลี่ลี่แดงก่ำ เธอจึงกระทืบเท้าแล้วพูดว่า “พี่ฉิน พี่ล้อพวกเราเล่นเหรอไง”
ฉินสือโอวหัวเราะเสียงดังลั่นแล้วถามว่า “ตกลงมาทำอะไรกันแน่?”
หวังเหล่ยพูดว่า “พี่ฉิน ใกล้จะเข้าเดือนกันยายนแล้ว โรงเรียนของพวกเราใกล้จะเปิดเรียนแล้ว ดังนั้นจึงตั้งใจจะมาบอกลาคุณ ผมกับเหยาลี่ลี่ตั้งใจจะมาขอบคุณที่คุณดูแลพวกเรามาตลอดสองเดือนที่ผ่านมานี้ คุณเป็นคนที่ดีที่สุดที่พวกเราเคยเจอในต่างประเทศ ต้องขอบคุณมากจริงๆครับ!”
ฉินสือโอวจึงนึกขึ้นได้ คิดไม่ถึงว่าจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เขาตบไหล่หวังเหล่ยเบาๆ แล้วพูดให้กำลังใจว่า “ไม่เป็นไร พวกนายทั้งสองคนทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ฉันมักจะไปดูไร่องุ่นบ่อยๆ และพวกนายก็จัดการได้เป็นอย่างดี คิดไม่ถึงว่าปีนี้องุ่นจะออกผลแล้ว พวกนายทำได้ดีมาก! ต่อจากนี้ถ้ามีวันหยุดอีก พี่ฉินยินดีต้อนรับพวกนายมาที่นี่เสมอ!”
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จริงๆ แล้วฉินสือโอวไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรกับหวังเหล่ยและเหยาลี่ลี่อยู่แล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน ก็ทำให้รู้สึกเศร้าใจอยู่บ้างเล็กน้อย
ฉินสือโอวจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพ่อเหมาและแม่เหมาพอดี และตอนเย็นจะจัดงานเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง จึงถือว่าจัดให้กับหวังเหล่ยและเหยาลี่ลี่ไปด้วย
การ์เซียและเซรีญาก็รู้สึกเศร้าใจเช่นกัน เกาะล่องแก่งใกล้จะสร้างเสร็จแล้ว เมื่อถึงวันที่เกาะสร้างเสร็จพวกเขาก็คงกลับแล้ว ครั้งนี้ที่เกาะแฟร์เวลถือเป็นช่วงเวลาหยุดพักผ่อนที่ค่อนข้างยาวนานสำหรับพวกเขา
แน่นอนว่าพวกเขาต้องหมดเงินไปจำนวนมาก
เมื่อถึงช่วงมื้อเย็น พ่อเหมาและแม่เหมารับประทานอาหารทะเลแล้วชมไม่ขาดปาก บอกว่านี่เป็นอาหารทะเลที่สดและอร่อยที่สุดตั้งแต่พวกเขาเคยกินมา
ในที่สุดฉินสือโอวก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อยที่มีคนมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าของเขา
ตอนเย็นเหมาเหว่ยหลงก็โทรศัพท์มาอีกครั้ง และถามว่าพ่อกับแม่ของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ฉินสือโอวจึงรีบบอกวิธีแก้ปัญหาให้กับเขา “พ่อกับแม่ของแกไม่ค่อยมีปัญหาอะไรหรอก แต่ปัญหาใหญ่ที่พูดกันก็คือปู่ของแก ฉันมีไอเดียจะมาเสนอให้แกนะน้องชาย รีบทำให้ซูซูท้อง ทางที่ดีต้องมีลูกชายให้ปู่แกมีความสุข…”
“อะไร ล้อเล่นหรือเปล่า?”
“แกจะสนใจเขาทำไม อย่างไรซะ แค่ทำให้ปู่แกมีความสุข ถึงตอนนั้นมันก็จะเป็นเรื่องง่ายในการแก้ปัญหาอื่นๆ ฟังฉันนะ รีบทำให้ซูซูท้อง เพราะฉันยังทำให้วินนี่ท้องได้เลย”
เหมาเหว่ยหลงวางสายโทรศัพท์ด้วยความทะเยอทะยาน ฉินสือโอวหาแส้หางแรดออกมา เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “อย่าหาว่าพี่น้องไม่ช่วยเหลือกัน นี่เป็นทางที่ดีที่สุดที่ฉันเองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะใช้มัน คราวนี้ฉันยกให้แก!”
จากนั้นพอถึงเวลาเตรียมตัวเข้านอน พ่อของฉินสือโอวก็โทรศัพท์เข้ามาอีกครั้งแล้วถามว่า “ลูกชาย เรื่องสมมติที่แกเล่าให้พ่อฟัง ผู้หญิงคนนั้นเขาทำอะไรนะ?”
“เธอเป็นแม่เล้าที่ไนต์คลับน่ะ”
“ฉันจำได้ว่าหลังจากที่ฉันไปสืบถามมา คนชนบทที่ออกมาทำงานข้างนอกพูดกันว่า แม่เล้าที่ไนต์คลับคนนี้เป็นผู้หญิงโสเภณีเหรอ?!” พ่อฉินถามอย่างร้อนอกร้อนใจ
ฉินสือโอวถึงกับปวดหัว แล้วพูดว่า “อะไรกับอะไรนะ มีแม่เล้าที่ไนต์คลับบางคนก็เป็นโสเภณี บางคนก็ไม่เป็น! ผมแค่ยกตัวอย่างว่านี่ไม่ใช่ เธอเป็นแค่คนธรรมดาที่จัดหาผู้หญิงมาเท่านั้น…”
“ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นหรือไม่เป็น แค่จัดหาผู้หญิงมาก็ถือว่าทำเรื่องไม่ดีแน่นอน ลูกชาย พ่อกับแม่ของแกปรึกษากันแล้ว รู้สึกว่าช่วงนี้แกจะคิดอะไรแปลกๆ นะ เอาอย่างนี้ แกเตรียมตัวไว้ พ่อกับแม่จะไปหาแก จะต้องให้แม่แกสอนวิชาการคิดให้แกใหม่แล้วล่ะ” พ่อฉินพูดเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด
ฉินสือโอวถึงกับยิ้มไม่ออก “เสี่ยวฮุยใกล้จะเปิดเทอมแล้ว พ่อกับแม่ยังวางแผนจะมาอีกเหรอ? ต่อไปเสี่ยวฮุยต้องบ่นแน่ๆ”
เดือนกันยายนจะมาเที่ยวเล่นน่ะได้ แต่อากาศที่บ้านในเดือนนี้จะร้อนมาก ถ้าจะมาที่นี่ก็ถือว่ามาพักร้อนแล้วกัน
พ่อฉินถอนหายใจแล้วพูดว่า “เพิ่งเปิดเทอมแค่เดือนเดียวยังไม่ได้เรียนอะไรมากหรอก เสี่ยวฮุยจะตามมาเที่ยวด้วย ช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนเขาเรียนเกือบจะครบหลักสูตรแล้ว กลับไปค่อยเรียนเสริมเพิ่มเติมก็พอ!”
ฉินสือโอวดีใจ จึงพูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “โอเค งั้นก็มากันได้เลย ครั้งนี้จะให้ฉินเผิงไปส่งที่เมืองหลวง พอถึงเวลาผมจะกำชับพี่สาวว่าให้เปลี่ยนเครื่องที่ปักกิ่งก็พอ”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ พ่อฉินจึงมองไปที่แม่ฉินที่กำลังดูท่าทางเคร่งเครียดและสงสัย แม่ฉินดึงแขนเขาแล้วพูดว่า “เป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย?”
พ่อฉินถูคางไปมาแล้วพูดว่า “สถานการณ์ของศัตรูยังไม่แน่ชัดนัก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์ก็ค่อนข้างจะชัดเจนขึ้นบ้างแล้ว…”
“พูดอะไรให้เข้าใจยาก ดูละครสายลับแค่ไม่กี่เรื่อง คุณถึงกับลากฉันเข้าไปด้วยเลยเหรอ?”
“ก็คือมันยังไม่ชัดเจนเท่าไร ดูท่ายังคงมีหวังอยู่ มันคงจะเป็นแค่เรื่องสมมติขึ้นมาเองแหละ เสี่ยวโอวคงไม่มีอะไรล่อตาล่อใจข้างนอกจริงๆ หรอก พูดอีกอย่าง ผมรู้สึกว่าถ้าเขาจะหาผู้หญิงคนอื่นๆ จริงก็คงจะไม่หาผู้หญิงโสเภณีหรอก?”
แม่ฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วพูดว่า “ถ้าไปหาผู้หญิงโสเภณีจริงก็เท่ากับว่าเอาเมียเล็กเมียน้อยทั้งหลายมาช่วยเติมเต็มให้ แบบนั้นมันจะไม่ยิ่งดีเหรอ?”
พี่สาวฉินแทะเมล็ดแตงโมและดูละครอยู่ข้างๆ เธอไม่เชื่อว่าฉินสือโอวจะมีคนอื่น เพราะความเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอย่อมเข้าใจวิธีการของวินนี่ดีที่สุด ด้วยความซื่อบื้อน้องชายตัวเอง เขาจะไม่เสี่ยงกับเล่ห์เหลี่ยมของวินนี่แน่นอน
ด้วยความรักลูกชายมาก พ่อฉินและแม่ฉินจึงมีความกังวลใจว่าลูกชายจะเดินทางผิด วันต่อมาจึงให้ฉินสือโอวช่วยจองตั๋วให้ และนั่งรถตู้ที่ฉินเผิงเช่ามาต่อเข้าไปในเมือง จากนั้นก็ตรงไปโทรอนโต
ฉินสือโอวเงยหน้ามองดูท้องฟ้าอยู่ที่เกาะแฟร์เวล อืม เมฆครึ้มกำลังเคลื่อนที่และอากาศก็กำลังจะเปลี่ยน
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset