ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 809 เดินเรือกลับ

ต่อมาก็มีเสียงกรีดร้องน่ากลัวดังขึ้น โรนัลด์ที่อยู่ในห้องขับเรือเงยหน้าขึ้นอย่างสิ้นหวัง ไม่ใช่เพราะเขารู้สึกหลอน ไม่ใช่เพราะภาพลวงตา แต่มันมีเรือลำหนึ่งที่น่าจะจมลงที่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกได้ปรากฏขึ้นที่ท้ายเรือของเขาจริงๆ!
ด้วยสัญชาตญาณ เขาจึงปิดประตูเรือ ใช้หลังดันประตูเรือไว้แล้วใช้มือจับผมที่ยุ่งเหยิง ผมเขายุ่งจนแม้แต่ปรมาจารย์อิมเพรสชันนิสยังดูไม่ออกว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร
วอลเตอร์และไบรอันกระแทกประตูอยู่ข้างนอกอย่างแรงและโรนัลด์ก็ดันไว้จนสุดแรง จากนั้นภาวนาให้พระเจ้าคุ้มครองอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วพึมพำพูดว่า “โมเสสบอกกับประชาชนว่า ‘ไม่ต้องกลัว ขอแค่หยุดอยู่ตรงนั้น! แล้วดูความช่วยเหลือที่พระยะโฮวาจะมอบให้กับพวกคุณในวันนี้ เพราะชาวอียิปต์ที่พวกคุณเห็นในวันนี้จะไม่มีวันได้เห็นอีกต่อไป’…”
“โมเสสบอกกับประชาชนว่า ‘ไม่ต้องกลัว เพราะว่าพระเจ้ากำลังมาเพื่อทดสอบพวกคุณ ให้พวกคุณเคารพเขาเสมอและไม่ทำบาป’… โอ้ ไม่เลยพระเจ้า ฉันกลัวมาก สิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่!”
โรนัลด์ที่กำลังสวดอ้อนวอนด้วยความกลัวอยู่นั้น จู่ๆ เสียงวิทยุก็ดังขึ้น ‘ซือซือซือ’ เขารีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว แล้วเสียงเย็นชาก็ดังขึ้น “…ต้องการความช่วยเหลือ ซือซือ ซือซือ…พวกเราตายแล้ว…”
ประโยคสุดท้ายทำให้คุณกัปตันตกใจจนเข่าแทบทรุดลงกับพื้น เขาจึงรีบเปิดประตูเรือเพื่อต้องการจะไปอยู่กับผู้ช่วยกัปตัน
แต่วอลเตอร์และไบรอันที่อยู่ข้างนอกเห็นว่าก่อนหน้านี้กระแทกประตูยังไงก็ไม่เปิด จึงวิ่งหนีแล้วรีบเข้าไปในห้องโดยสารเรือ
ด้วยเสียงกรีดร้องอันน่ากลัวของพวกเขา เรือไก่ฟ้ามิกาโดก็สว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวประมงสิบกว่าคนตื่นขึ้นมาจากฝันพร้อมกับบ่นพึมพำแล้วเดินออกมา
“พวกนายจะให้พวกเรานอนพักหน่อยได้ไหม? พระเจ้า พระเจ้า!” ขณะเดียวกันดาร์เรนแพทย์ประจำเรือซึ่งเป็นชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดของเรือไก่ฟ้ามิกาโดก็เดินออกมาอย่างไม่พอใจเช่นกัน สุดท้ายเขาจึงถูกวอลเตอร์ดึงเอาไว้
วอลเตอร์ดึงแขนของดาร์เรนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เวลานี้เขาแทบจะไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย เขาเพียงแต่ร้องฮือฮือ แล้วใช้มืออีกข้างชี้ไปที่ท้ายเรือ
ดาร์เรนจึงออกไปดู เสียงกรีดร้องก็ดังกังวานขึ้น
จากนั้นไม่ช้า ชาวประมงทั้งหมดก็เห็นเรือชำรุดที่อยู่ท้ายเรือและมีคนพบว่าเรือลำนั้นไม่มีกัปตันเรือ ต่าพากันกรีดร้องขึ้น “โรนัลด์ล่ะ? โอ้ พระเจ้า โอ้ พระเยซูคริสต์! โอะ โรนัลด์ โรนัลด์ผู้โชคร้าย! เขาตายแล้วเหรอ? เขาถูกเรือผีพาไปแล้วใช่ไหม?”
“บ้าเอ๊ย หุบปากไปเลย! เบวิส นายให้ฉันหุบปากเหรอ! นั่นมันไม่ใช่เรือผี! ไม่มีหรอกเรือผีอะไรนั่น! มันก็แค่เรือลำหนึ่ง…”
“งั้นนายบอกพวกเราได้ไหม ฮิล ว่าที่อยู่ท้ายเรือนั่นมันคือเรืออะไร? พวกนายไม่ได้ยินเสียงอะไรเหรอ? เสียงเพลง! เสียงเพลงของผู้หญิง!”
“ใช่ๆ ฮิล ถ้านั่นไม่ใช่เรือผี ถ้าอย่างนั้นโรนัลด์ไปอยู่ที่ไหนล่ะ?”
ชาวประมงต่างคนต่างแย่งกันพูดด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว ในขณะเดียวกันผู้ช่วยกัปตันเรือไบรอันก็มีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา เขาร้องตะโกนว่า “โรนัลด์ ไอ้คนขี้ขลาดนั่นก็หลบอยู่ในห้องขับเรือไงล่ะ! ไอ้คนหัวดื้อนั่นน่ะ ขอให้พระเจ้าลงโทษเขาทีเถอะ! เขาปิดประตูใส่เราเหมือนกับเต่าที่เอาแต่มุดหัวอยู่ในกระดอง!”
หลายคนมีความกล้าหาญมากและมีคนกล้าไปเปิดประตู พวกเขาจึงเห็นสีหน้าของโรนัลด์ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เดิมทีโรนัลด์กลัวมาก แต่ตอนนี้เขาได้ยินเสียงอึกทึกวุ่นวายของลูกน้องและเห็นคนมากมาย จึงทำให้มีความกล้าขึ้นมา หรือจะพูดได้ว่าเขาไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าลูกน้อง เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แล้วตะโกนว่า “ทุกคนอย่าไปกลัว…”
“กัปตัน คุณควรยืนให้มั่นคงก่อนค่อยพูด ขาทั้งสองข้างของคุณสั่นอะไรขนาดนั้น? แล้วทำไมคุณต้องกัดฟันด้วย?” ไบรอันพูดด้วยอารมณ์ที่แค้นเคือง วอลเตอร์ก็เห็นด้วยกับเขา ทั้งสองไม่สามารถลืมสภาพที่น่าเวทนาตอนที่ถูกทอดทิ้งไว้อยู่ข้างนอกได้
โรนัลด์จ้องมองไปที่ไบรอันด้วยสายตาโหดร้าย แล้วด่าว่า “พระเจ้า ไบรอัน นายนี่มันเลวจริง! ฉันถามนายหน่อย คืนนี้นายและวอลเตอร์เป็นคนเข้าเวรไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้? เรือลำนี้ออกมาตั้งแต่เมื่อไร?”
ไบรอันและวอลเตอร์พูดอะไรไม่ออกทันที ใครมันจะไปรู้ว่าเรือลำนี้โผล่มาตั้งแต่เมื่อไร? พวกเขาทั้งสองนอนหลับไม่รู้เรื่อง จะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งนี้คืออะไร?
ในที่สุดดาร์เรนผู้อาวุโสที่มีนิสัยมั่นคงและใจเย็น ก็ขมวดคิ้วพร้อมตะโกนว่า “หยุดทะเลาะกันได้แล้ว ตามฉันมาดู ใครว่าเป็นก็เป็น ใครว่าไม่เป็นก็มาดูกันเองว่ามันเป็นเรืออะไรกันแน่? เราต้องไปดูให้เห็นกับตาก่อนแล้วค่อยพูด!”
พูดจบ ดาร์เรนเดินออกไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว จากนั้นก็เห็นไม่มีใครตามเขามาเลยสักคน พวกเขารวมอยู่ด้วยกันและมองเขาด้วยความกลัวจนหัวหด
ดาร์เรนโมโหมาก จึงตำหนิพวกชาวประมง แล้วให้ทุกคนไปที่ท้ายเรือด้วยกัน
ซึ่งตอนนี้ เรือลำนั้นที่จอดอยู่ท้ายเรือเริ่มห่างไกลออกไป อีกทั้งยังมีหมอกจางๆ ปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวเรือ จึงทำให้มันดูเลือนรางเป็นอย่างมาก แต่ทุกคนก็สามารถยืนยันได้ว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา มันมีเรือลำนี้จริงๆ!
มีคนยกไฟฉายในมือขึ้นมาส่องดู ลำแสงสีขาวอ่อนๆ ที่เหมือนกับดาบอันแหลมคมได้ทะลุผ่านความมืดและส่องเข้าไปบนเรือ จากนั้นโรนัลด์ตะโกนว่า “ทุกคนยกไฟฉายขึ้น ตัวเรือมีชื่อเรืออยู่ ให้เราตั้งใจดูให้ดี ว่ามันชื่อว่าอะไร…”
“มันคือเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์” เสียงของวอลเตอร์ดังขึ้น
“สายตานายดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” โรนัลด์หันกลับไปดูอย่างแปลกใจและเห็นวอลเตอร์กำลังยกกล้องส่องทางไกลขนาดเล็กในมือส่องดู
ฮิลตบไหล่วอลเตอร์เบาๆ แล้วพูดชื่นชมเขาว่า “วอลเตอร์ นายนี่แน่มาก คิดไม่ถึงว่าจะกล้าใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูเรือลำนั้น แต่พูดถึงเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เอ๊ะ ดาร์เรน ทำไมสีหน้าคุณดูไม่ดีเลยล่ะ?”
ดาร์เรนมองที่วอลเตอร์อย่างตกตะลึง และถามด้วยน้ำเสียงสิ้นหวังว่า “ตายแล้ว นายเห็นจริงๆ ใช่ไหม เห็นชื่อที่เขียนลงไปจริงๆ ใช่ไหม มันเขียนว่าฟะ ฟะ ฟะ ฟลาว…”
“เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ มันคือเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ ไม่ผิดแน่นอน” วอลเตอร์ยืนยันอีกรอบ “ทำไมเหรอ?”
คนอื่นๆ จึงพากันหันไปมองที่ดาร์เรน และคนที่นั่งอยู่บนดาดฟ้าของเรือจึงพูดพึมพำว่า “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์เหรอ จะเป็นเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ได้อย่างไร? มันเป็นเรือที่จมอยู่ในน้ำมาร้อยกว่าปีแล้วนะ!”
“อะไรนะ?!” ทุกคนต่างตัวสั่นด้วยความกลัว แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเรือผีมาอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆ พวกเขาก็ยังรู้สึกว่ามันยากที่จะยอมรับ
ไบรอันแทบจะกลืนน้ำลายไม่ลง สีหน้าของเขาที่ยิ้มออกมาเหมือนจะร้องไห้แถมยังดูไม่ได้อีกด้วย “อย่าขู่ให้พวกเรากลัวนะดาร์เรน…”
“ใครจะไปทำอย่างนั้นกับพวกนายกันล่ะ?!” ดาร์เรนกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาทั้งข้างของเขาจ้องมองด้วยความโมโหพร้อมกับตะโกนว่า “หนึ่งปีก่อนที่เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์และเรือไททานิคจะจมลง ได้รับผู้โดยสารที่เพิ่งแต่งงานกันสองคู่และจมลงที่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก อีกทั้งตอนนั้นที่เรือออกไปช่วย วิทยุได้รับข้อความข้อความหนึ่ง…”
“พวกเรา พวกเราตายแล้ว?!” โรนัลด์ยังพูดต่ออย่างหวาดกลัว
ดาร์เรนมองไปที่โรนัลด์แล้วพูดว่า “นายรู้ข่าวลือนี้ด้วยเหรอ?”
โรนัลด์ส่ายหัวด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แล้วชี้ไปที่ห้องขับเรือและพูดว่า “วิทยุของเราก็ดะ ดะ ดะ ดะ ได้ ฮือฮือ ได้รับข้อความบ้าๆ นั่น!”
พูดๆ อยู่ ชายสูงอายุก็ร้องไห้โฮออกมา
และตอนนี้ฮิลชี้ไปที่เรือแล้วตะโกนว่า “ดูนั่นเร็ว มันเข้ามาใกล้อีกแล้ว…”
เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์กำลังลอยไปมาอยู่ในน้ำ หมอกรอบๆ ตัวเรือก็เริ่มหนามากขึ้น มันค่อยๆ เข้ามาใกล้จริงๆ ด้วย ในขณะเดียวกันเสียงร้องเพลงรางๆ ของผู้หญิงบนเรือก็ลอยเข้ามาในหูของพวกเขา
โรนัลด์กรีดร้องอย่างหวาดกลัวและตะโกนต่อว่า “ดูที่เจแปด! แล้วรีบขับเรือ เดินเรือกลับ!”
………………………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset