ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 817 การพบกัน

หลังจากตรวจสอบ ฉินสือโอวดีใจอย่างมาก ช่วงนี้พวกหอยนางรมลอยดูสนุกสนานกับการเติบโตแบบเดิมและการแยกไข่มุกจริงๆ หอยตัวใหญ่กว่าหนึ่งร้อยตัวปล่อยให้เขาเก็บและเข้าใกล้ไข่มุกสีดำหนึ่งพันเม็ดได้อย่างไม่คาดคิด!
ตอนนี้ฉินสือโอวทำความสะอาดคร่าวๆ อิทธิพลของพลังโพไซดอนต่อสิ่งมีชีวิตคือกระบวนการการสะสม พวกหอยนางรมลอยปะทุออกมาในครั้งนี้
ไข่มุกสีดำที่เก็บมาจนเต็มกล่อง ฉินสือโอวนำขึ้นไปบนเรือและปล่อยให้แสงอาทิตย์ส่องลงมา ไข่มุกส่องประกายแวววาว ราวกับภูตตัวน้อยจำนวนมากยามค่ำคืนกำลังส่องแสงเรืองรอง
หลังจากกลับมาถึงวิลล่า ฉินสือโอวก็โทรหาเบลคและบอกเขาว่าเก็บไข่มุกสีดำมาได้จำนวนหนึ่ง ในวันนั้นเบลคก็รีบมาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงความตื่นเต้น
ไข่มุกสีดำพวกนี้เล็กใหญ่แตกต่างกัน เม็ดใหญ่เกือบจะเท่ากับขนาดปกติ ส่วนเม็ดเล็กดูคล้ายกับกระดุมเสื้อที่เป็นวงกลม แต่เล็กใหญ่ไม่สำคัญ เพราะขนาดสม่ำเสมอกัน สีและความมันวาวก็สมมาตรและนุ่มนวล เบลคใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้หยิบขึ้นมาเม็ดหนึ่งและวางไว้ภายใต้แสงแดด ช่างกลมและแพรวพราว!
“นี่เป็นสินค้าคุณภาพสูงทั้งนั้น พระเจ้า นายเอาไข่มุกพวกนี้มาจากที่ไหน?” เบลคถามด้วยความตกใจ
ฉินสือโอวรินกาแฟเย็นให้เขา หลังจากนั้นก็พูดว่า “เมื่อปีที่แล้วฉันเลี้ยงหอยนางรมลอยไว้จำนวนหนึ่ง ฉันวางแผนจะผลิตไข่มุกสีดำไว้ทำเป็นของขวัญให้วินนี่โดยเฉพาะ แต่ผลที่ได้มันเกินคาด เพื่อน ไม่คาดคิดว่าปีนี้ฉันจะเก็บได้มากขนาดนี้!”
เบลคเงียบไปชั่วขณะก่อนจะพูดว่า “นายคิดจะทำเครื่องประดับจากไข่มุกให้วินนี่ นายถึงเลี้ยงหอยนางรมลอยจำนวนมากไว้เป็นพิเศษงั้นเหรอ?”
ฉินสือโอวยักไหล่และพูดอย่างไม่ต้องสงสัยว่า “ไม่ควรเหรอ?”
เบลคจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองในทันทีว่า “ฟัค นายมันพวกบูชาความรัก! ถ้าฉันสามารถเอาใจใส่แบบนี้ได้เหมือนนาย แม้แต่พวกเจ้าหญิงในตะวันออกกลางก็อยู่ในกำมือฉัน!”
ฉินสือโอวขอให้เบลคประเมินมูลค่าของไข่มุกสีดำพวกนี้ เขาลูบหนวดที่คางและพูดว่า “ฉันก็ไม่แน่ใจ เพื่อน ฉันแนะนำให้นายเลือกแบ่งขายสองแบบ แบบแรกคือนำไปขายตามงานประมูลที่มีชื่อเสียง ส่วนอีกแบบเมื่อถึงเวลานายต้องติดต่อพนักงานขายของคนรวยและผู้มีอำนาจพวกนั้นด้วยตัวเอง แบบนี้ก็สามารถทำกำไรที่สูงที่สุดได้แล้ว”
ไข่มุกพวกนี้เป็นไข่มุกที่ฉินสือโอวเลี้ยงมาด้วยตัวเอง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อตกลงของพวกเขา ตอนนั้นข้อตกลงที่พวกเขาเซ็นสัญญากันมีเป้าหมายแค่กู้สมบัติที่ซ่อนอยู่ที่ก้นทะเลเท่านั้น ดังนั้นการจัดการกับไข่มุกสีดำพวกนี้ เบลคจะช่วยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อรู้ว่าเบลคมา บิลลี่ที่สอนการดำน้ำให้แก่พิพิธภัณฑ์ฟอสซิลแห่งชาติก็วิ่งตรงเข้ามาด้วยความตื่นเต้น หลังจากโอบกอดเขาก็พูดอย่างกระตือรือร้นว่า “คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ พวกเราไปดื่มกันสักรอบเถอะ!”
เบลคมองบิลลี่ที่มีความสุขด้วยความสงสัยและพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าเมื่อเร็วๆ นี้นายกำลังไล่ตามสาวน้อยน่ารักคนหนึ่ง? ดูเหมือนสถานการณ์ของนายจะไม่เลว ไม่งั้นนายคงจะไม่มีความสุขขนาดนี้ ใช่ไหม?”
ฉินสือโอวคือคนที่เข้าใจสถานการณ์จริงๆ สถานการณ์ของบิลลี่ดีกับผีน่ะสิ ผู้ชายคนนี้เสียใจที่อกหัก ครั้งก่อนที่กลับมาจากประเทศจีน เขาก็ดื่มจนเมาไปแล้วรอบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ไปยุ่งอยู่กับการทำงาน พูดได้ว่าเขาใช้ความยุ่งในการทำงานมาเป็นยารักษาจิตใจที่ได้รับบาดเจ็บ
ปัญหาเรื่องความรู้สึกของบิลลี่ ตอนนี้กลายมาเป็นจุดอ่อนของเขา อย่างไรก็ตามฉินสือโอวไม่กล้าเสนอต่อหน้าเขา ไม่อย่างนั้นรอตอนที่เขาดื่มก็คงน่าสนุกดี
ดังนั้นเมื่อเบลคพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ฉินสือโอวก็กังวลและรีบขยิบตาให้เขา
เบลคเป็นคนช่ำชองโลก เมื่อเห็นการขยิบตาของฉินสือโอวให้ก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตามที่คาดไว้ ความตื่นเต้นที่แสดงอยู่บนใบหน้าของบิลลี่ค่อยๆ หายไป สุดท้ายก็ถูกแทนที่ด้วยความโดดเดี่ยวและความขมขื่น เหมือนกับลูกสะใภ้ที่อยู่ในห้องส่วนตัว
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้ๆ ฮ่าๆ งั้นพวกเราไปหาปลากับกุ้งกันเถอะ ตอนกลางคืนจะได้ดื่มกันสักรอบ!” ฉินสือโอวพูดพร้อมกับหัวเราะฮ่าๆ
แต่บิลลี่ไม่อยากทิ้งปัญหานี้ไว้อย่างนี้ เขามองเบลคด้วยความสงสัยและถามว่า “รอเดี๋ยวก่อน ปัญหาเรื่องความรักของฉัน นายรู้มาจากใคร?”
เมื่อพูดจบ สายตาที่ดูสงสัยของเขาก็มองไปทางฉินสือโอว ฉินสือโอวตกใจรีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็วและพูดว่า “มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันก็ปิดปากสนิท ไม่เอาเรื่องของนายไปบอกกับใครหรอก!”
บิลลี่ไม่ได้ซักไซ้ต่อ เขาโบกมือด้วยความรู้สึกอ้างว้างทันทีและพูดว่า “มันไม่สำคัญหรอกเพื่อน ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็อกหักไปแล้ว คืนนี้พวกเรามาดื่มกันสักรอบเถอะ เพื่อระลึกถึงความรักของฉันที่จากไป!”
ฉินสือโอวถอนหายใจออกมา ดีแล้ว คืนนี้คงมีเรื่องสนุกแล้วล่ะนะ
บิลลี่ถามเบลคมาว่ากำลังทำอะไรอยู่ ฉินสือโอวจึงยื่นไข่มุกสีดำพวกนี้ให้เขาดู บิลลี่ก็พูดว่านี่เป็นของดีและแนะนำเขาว่า “ถ้านายอยากขายในราคาสูง งั้นอย่าขายไข่มุกสีดำออกไปโดยตรง แต่ทำเหมือนครั้งที่แล้ว นายก็ให้ทิฟฟานี่ทำเครื่องประดับอันล้ำค่าขึ้นมาอีกชิ้น ฉันกล้าพนันเลยว่า หลังจากที่ทำเสร็จและนายส่งให้ทิฟฟานี่นำไปขายแล้ว มูลค่าของสิ่งนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!”
ฉินสือโอวคิดว่านี่เป็นความคิดที่ดีและพูดอย่างมีความสุขว่า “ถ้าทำได้จริงๆ งั้นฉันจะให้ค่าแนะนำกับนายจำนวนหนึ่ง”
บิลลี่พูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ว่า “ถือว่าชดเชยให้ฉันที่ถูกความรักสร้างความเจ็บปวดให้ได้ไหมนะ?”
ฉินสือโอวพูดไม่ออก บ้าเอ๊ยนี่ยังไม่จบอีกเหรอ
กลุ่มคนสี่คนตอนนี้รวมตัวกันแล้วสามคน เบลคเพียงแค่โทรหาแบรนดอน เขาอยู่ที่นครเซนต์จอห์นและสะดวกมากที่จะมา
แบรนดอนเพิ่งจะเลิกงาน หลังจากที่เขาได้รับโทรศัพท์ก็ขับเฮลิคอปเตอร์เชิงพาณิชย์ของบริษัทมาทันที ครึ่งชั่วโมงที่ไร้ประโยชน์ ประสิทธิภาพสูงจนทำให้ฉินสือโอวโกรธอย่างไม่รู้จบ “นายสะดวกมากขนาดนี้ ปกติไม่เห็นมาเที่ยวที่นี่กับฉัน?”
แบรนดอนถอนหายใจ “ตอนนี้ฉันยุ่งมาก พระเจ้า วิกฤตเศรษฐกิจจะจบลงเมื่อไร? ธนาคารของพวกเราอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก ปีนี้โบนัสของฉันก็ถูกหักไปเรียบร้อยแล้ว ฉิน เพื่อนที่แสนดีของฉัน นายต้องคิดวิธีค้นหาซากเรืออับปางซักลำ ไม่งั้นฉันเลี้ยงดูครอบครัวไม่ได้แน่!”
เดิมทีตอนเซ็นสัญญาก็กำหนดไว้ว่าฉินสือโอวต้องหาสมบัติที่ซ่อนไว้ในซากเรืออับปางมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ความจริงนี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เขียนไว้ ตอนนั้นก็เป็นแค่การแสดงวิสัยทัศน์ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น
พวกเขาไม่สามารถไปฟ้องร้องฉินสือโอวได้เพียงเพราะเขาหาสมบัติได้ไม่ถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี สัญญาฉบับนี้ไม่ได้เขียนขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ต้องรู้ก่อนว่า บริษัทโอดิสซีย์ของครอบครัวบิลลี่นั้นเป็นบริษัทกู้สมบัติทางทะเลมืออาชีพ ยังไม่สามารถทำมูลค่าของที่กู้ถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีได้ นอกจากพระเจ้ากับโพไซดอนก็คงไม่มีใครทำได้แล้ว
ตอนมื้อค่ำ ฉินสือโอวกับชายหนุ่มอีกสามคนกินอาหารอยู่บนชายหาด พ่อของฉินและคนอื่นๆ รู้ว่านี่เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของเขาจึงทำการต้อนรับอย่างเป็นมิตร
ตอนที่กำลังดื่มเหล้า ฉินสือโอวพูดขึ้นมาอย่างจนปัญญาว่า “อันที่จริงวาฬเบลูกากับโลมาตัวน้อยของฉันพบซากเรืออับปางหลายลำ แต่ภายในเรือบ้าพวกนี้ไม่มีอะไรเลย ฉันก็หมดหนทางแล้ว”
เขาแนะนำทั้งสามคนว่าเขาสามารถทำงานร่วมกับปลาวาฬเบลูกาตัวหนึ่งและปลาโลมาตัวหนึ่งได้ ทั้งสองฝ่ายสามารถสื่อสารกันได้อย่างง่ายดาย เขาจะนำเจ้าตัวน้อยสองตัวนี้ไปค้นหาซากเรืออับปาง
จุดนี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะยอมรับ ไอคิวของปลาวาฬเบลูกากับปลาโลมาเพียงพอที่จะทำการปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ แค่ต้องให้พวกมันไปค้นหาในทะเลและรอการตอบกลับมาซึ่งยากมาก แน่นอนว่าก็แค่ยาก แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
บิลลี่แค่ต้องการดื่มเบียร์ แต่เมื่อฟังคำพูดของฉินสือโอวแล้วเขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจและพูดว่า “นายกำลังค้นหาอะไรบางอย่างในทะเลอยู่ใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพยักหน้ารับ บิลลี่โยนกระป๋องเบียร์ทิ้งทันทีและคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับตะโกนว่า “พระเจ้า แผนที่ซากเรืออับปางที่ฉันให้นายไปล่ะ? นายไม่ได้ไปค้นหาเลยใช่ไหม? ซากเรืออับปางไม่ใช่จะหาได้ง่ายขนาดนั้นนะ!”
พ่อของฉินเพิ่งจะมาส่งอาหาร เห็นบิลลี่กำลังคุกเข่าอยู่บนชายหาดพอดี จึงก้าวเข้าไปสองก้าวอย่างรวดเร็วและปลอบประโลมว่า “รีบลุกขึ้นมาๆ นี่ตะโกนเสียงดังแถมยังคุกเข่าบนพื้นทำไม? เสี่ยวโอว เด็กคนนี้ขอให้นายทำอะไร?”
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset