ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 822 สมบัติของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้

ยามกลางคืนคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ ลมทะเลที่มหาสมุทรแอตแลนติกเริ่มพัดหนักขึ้นเรื่อยๆ รัฐนิวฟันด์แลนด์ตอนเดือนกันยายนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ลมทะเลยังคงอบอุ่น พวกชาวประมงหลายคนจึงปล่อยแขนโล่ง
ใกล้ภูเขากินหิน ใกล้ทะเลดื่มน้ำเกลือ สุดท้ายปลาจะละเม็ดที่จับมา ในคืนนั้นพวกชาวประมงก็กินปลาพันธุ์นี้ นอกจากนั้นยังมีปลาหางเหลืองอีกสองตัว แซ็กเคี่ยวมันในหม้อแล้ว หม้อส่งเสียงดังอย่างต่อเนื่องและมีกลิ่นหอมลอยออกมา
สำหรับปลาจะละเม็ดขาว สูตรที่ฉินสือโอวรู้ก็คือพรมน้ำมันกับทำสตู แซ็กเป็นพ่อครัวเก่า เขาเลือกสูตรที่ค่อนข้างหาดูได้ยากวิธีหนึ่ง นั่นก็คือสลัดปลาจะละเม็ดขาว
พวกชาวประมงเลือกปลาสิบกว่าตัวที่อ้วนที่สุดตามคำแนะนำของแซ็กไปตัดเหงือก ขอดเกล็ด ล้างอวัยวะภายใน หลังจากนั้นก็ตัดออกเป็นส่วนๆ แล้วใช้เกลือ ผงปรุงรส ไวน์สำหรับทำอาหาร ต้นหอม ขิง แล้วนำมาหมักเข้าด้วยกัน
ฉินสือโอวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “นี่ ปกติอาหารสไตล์ตะวันตกที่ทำจากปลาก็ต้องใช้ไวน์สำหรับทำอาหารกับต้นหอม ขิงและกระเทียมด้วยเหรอ? ถือเป็นของหายากหรือเปล่า?”
แซ็กยิ้มอย่างเขินอาย “ไม่ครับกัปตัน สิ่งสำคัญคือผมเห็นคุณชอบกินปลาที่หมักออกมาแบบนี้ ดังนั้นผมก็เลยทำแบบนี้ เพราะผมต้องดูแลเรื่องรสชาติอาหารของคุณ”
“โอ้โห เป็นคำพูดประจบประแจงที่ดังและชัดเจนดี” ชาร์คยิ้มเยาะและคนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะ
แซ็กมองชาร์คและเบ้ปากก่อนพูดว่า “เฮ้ เพื่อน อย่ามาพูดประชดประชันกันเลย ถ้านายเริ่มให้เงินเดือน 6000 ฉันทุกเดือน แน่นอนว่าทุกวันฉันก็จะทำอาหารให้นาย นายอยากกินขี้หมา ฉันก็จะทำขี้หมาทอด…”
“ไปตายซะ นายกินขี้หมาที่เอาไปทอดเองเถอะ” ชาร์คพูด
แซ็กยักไหล่และพูดว่า “โอเค งั้นก็เป็นสลัดขี้หมา แต่พูดถึงรสชาติอาหารของนายก็แปลกจริง ๆ รสชาติของน้ำสลัดที่ผสมกับขี้อร่อยเหรอ?”
พวกชาวประมงหัวเราะออกมาเสียงดังอีกครั้ง บูลผิวปากใส่ชาร์คและหัวเราะเสียงดัง “หัวหน้าชาร์ค คุณถูกเล่นแล้ว!”
ชาร์คเขวี้ยงปลาจะละเม็ดขาวชิ้นหนึ่งไปทางแซ็กและทั้งสองคนก็เริ่มต่อสู้กันที่ดาดฟ้าเรือ
แอร์แบ็คหัวเราะคิกคัก เขาเก็บชิ้นปลาที่หมักไว้เป็นอย่างดีและนำไปที่ห้องครัวก่อนจะเริ่มทำอาหาร
ฉินสือโอวยืนอยู่ที่ประตูและถามว่า “นายก็ทำเป็นเหรอ?”
แอร์แบ็คอุ่นน้ำมันให้ร้อนอย่างชำนาญและยิ้ม “แน่นอนครับบอส ทำเป็นแน่นอนครับ ผมคือแอร์แบ็ค ตอนอยู่ที่กองทัพ เรื่องของการขนส่งต้องยกให้ผมทำ เรื่องที่ทุกคนไม่ชอบก็ส่งให้ผมทำ”
ฉินสือโอวชอบทหารวัยกลางคนคนนี้มาก แม้ว่าอายุจะไม่น้อยแล้ว แต่ทัศนคติของเขายังวัยรุ่นมาก เขายิ้มอยู่ตลอดเวลา บางคนตะโกนให้เขาช่วยเหลือก็ไม่เคยพูดอะไรมากและแน่นอนว่าไปช่วยด้วย
แอร์แบ็ครอน้ำมันเริ่มเดือดและนำชิ้นปลาชุบเกล็ดขนมปังใส่เข้าไปในหม้อ หลังจากนั้นก็รอปลาทอดจนสุกและนำออกมา ผสมเครื่องปรุงรสกับน้ำสลัดและปลาเข้าด้วยกันเป็นอันเรียบร้อย
ฉินสือโอวมองดูวิธีการทำอยู่เงียบๆ กับข้าวจานนี้ทำง่ายจริงและไม่ซับซ้อนเหมือนสตูปลาจะละเม็ดขาวเลย
ทว่าหลังจากฉินสือโอวกินไปหนึ่งชิ้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ รสชาติไม่เลวเลย เนื้อปลาจะละเม็ดขาวทั้งอร่อยและชุ่มไปด้วยไขมัน ชิ้นปลาใช้น้ำมันทอดจนกรุบกรอบและใส่น้ำสลัดที่รสชาติแตกต่างกัน เมื่อกินพร้อมกันรสชาติจึงไม่เลว
สตูปลาแมคเคอเรลถูกเทออกจากหม้อ พวกชาวประมงทุกคนนำกล่องอาหารกลางวันมาใส่เนื้อปลากับชิ้นปลา ตามด้วยเนื้อวัวย่างที่นำมาจากเกาะ อีกคนก็นำเบียร์แช่เย็นขวดหนึ่งมาให้ทำให้เป็นอาหารเย็นที่น่าพอใจ
ชาร์คกินไปด้วยและคำนวณบัญชีของครั้งนี้ไปด้วย ราคาขายส่งของปลาจะละเม็ดขาวประมาณหนึ่งปอนด์ขายได้ห้าถึงหกดอลลาร์แคนาดา รัฐนิวฟันด์แลนด์สามารถขายได้แพงขึ้นอีกนิดหน่อย เพราะมหาสมุทรแอตแลนติกไม่ค่อยมีผลผลิตของปลาสายพันธุ์นี้ มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกกับมหาสมุทรอินเดียถึงจะเป็นมหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์
ดังนั้นปลาจะละเม็ดขาว 5 ตันกว่าก็สามารถทำเงินได้ 5 ถึง 6 หมื่นแล้ว
แต่พวกชาวประมงก็ยังไม่พอใจ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวหนึ่งที่จับมาสามารถขายได้แสนกว่าดอลลาร์ พวกเขารีบเดินทางไปยังน่านน้ำแห่งนี้ด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ไม่ใช่เพื่อเงิน 5 ถึง 6 หมื่น เพราะแค่ค่าน้ำมันก็ยังไม่พอ ยังไม่รวมค่าแรงอีก
ฉินสือโอวไม่มีแผนว่าจะทำอะไรกับปลาพวกนี้ ต้องนำกลับไปขายส่งที่รัฐนิวฟันด์แลนด์เหรอ? ไมอามีอยู่ไม่ไกลจากเบอร์มิวด้า เขาส่งไปให้บัตเลอร์โดยตรงก็จบแล้วไม่ใช่เหรอไง?
เนื่องจากปลาจะละเม็ดขาวทั้งตัวเป็นเนื้อ มีก้างน้อยและรสชาติของเนื้อก็อร่อย ดังนั้นไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมื่อเจอแล้วก็จับมาอย่างล้นเหลือ ตอนนี้จำนวนจึงลดลงไปมาก มูลค่าที่อยู่ในรายการของตลาดอาหารทะเลเพิ่มขึ้นอย่างมาก บางพื้นที่มันก็กลายเป็นสินค้าทางทะเลระดับสูง
ถ้าค้าปลีก ปลาจะละเม็ดขาวพวกนี้จะขายได้ตัวละ 2 แสนก็ไม่มีปัญหา นี่ก็คือพลังของช่องทาง ถ้าไม่มีช่องทางก็แค่ขายในราคาที่ถูกลง
แอร์แบ็คกินปลาทอดและดื่มเบียร์ของตัวเองพร้อมกับหัวเราะ บูลที่อยู่ข้างๆ ก็ย้ายก้นไปและพูดว่า “สหาย นายอย่าหัวเราะออกมากะทันหันแบบนี้สิ มันเหมือนกับคนบ้าเลยนะ มันน่ากลัว พระเจ้า มันน่ากลัว!”
แอร์แบ็คหัวเราะฮิฮิและพูดว่า “ถ้าฉันหัวเราะอย่างมีความสุขก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“หัวเราะอย่างมีความสุขเป็นอย่างไร?”
ทริกเกอร์ผู้เงียบขรึมวางกล่องข้าวลงและพูดว่า “สำหรับพวกนาย อาหารเย็นแบบนี้คงเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับพวกฉัน ต้องมีเงินเดือนสูงถึงจะสามารถนั่งรับลมทะเลพร้อมกับกินอาหารทะเลแล้วดื่มเบียร์ไปด้วยได้ แถมไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนออกมาแว้งกัดจากที่ลับอีก แค่นั้นก็มีความสุขแล้ว”
แอร์แบ็คยกขวดเบียร์ขึ้นและพูดเสียงดังว่า “ใช่แล้วสหาย นี่ถือเป็นชีวิตที่มีความสุขมาก มาเถอะ ดื่มให้กับความสุขของพวกเรา!”
พวกชาวประมงตะโกนเสียงเชียร์และเงยหน้าเทเบียร์ใส่ปาก
ชาร์ควางแผนให้พวกชาวประมงเฝ้าดูตลอดทั้งคืน เพราะบูลพาคนไปทำความสะอาดเบ็ดตกปลาที่อยู่ท้ายเรือ ตอนกลางคืนจึงไม่มีคนดูแล ปลาตัวใหญ่จะติดเบ็ด หลังจากนั้นเบ็ดตกปลาจะพาวิ่งไปรอบๆ ดังนั้นตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องนำออกมา
ตอนที่ทำความสะอาดเบ็ดตกปลา ทันใดนั้นบูลก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “เฮ้ย พระเจ้า ไม่คาดคิดว่าจะมีสิ่งนี้อยู่?!”
เดิมทีฉินสือโอวไม่ได้สนใจ เพราะบูลคนนี้ชอบตกใจเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจากที่ชาวประมงคนอื่นๆ เข้าไปมุงดูและส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจอย่างต่อเนื่องจึงไปกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเขา เขาจึงเดินไปดู
ภายในมือของบูลถือปลาตัวเล็กขนาดไม่ถึง 20 เซนติเมตรตัวหนึ่งไว้ ปลาตัวนี้คล้ายกับปลากะตักนิดหน่อย ตัวยาวและแบน ความโค้งจากส่วนหัวไปจนถึงส่วนหางจะค่อยๆ เรียว หน้าท้องเรียบและกลม ขากรรไกรยาวเกินฐานของครีบออกไปอีก
มองดูโดยรวมแล้ว ปลาตัวนี้เหมือนเซเบอร์ โดยเฉพาะส่วนหางที่รูปร่างเหมือนกริชอย่างชัดเจนเป็นพิเศษ หัวและหลังของมันเป็นสีฟ้า ลำตัวเป็นสีเหลือง หน้าท้องเป็นสีขาว ส่วนครีบก็เป็นสีเบจ
ฉินสือโอวมองแล้วก็รู้ทันทีว่าสิ่งนี้คืออะไร ปลาสายพันธุ์นี้จำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ในสาหร่ายทุ่นที่อยู่รอบๆ ซากเรืออับปาง เขาเพิ่งจะเคยเจอที่ก้นทะเล เพราะปลาตัวเล็กเกินไป ฝูงปลาก็ไม่ใหญ่จึงไม่ได้สนใจ
ตอนนี้ดูเหมือนปลาสายพันธุ์นี้จะดูแปลกนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นหลังจากที่พวกชาวประมงมองมันก็คงไม่ตื่นเต้นขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงอยากถามลักษณะเฉพาะของปลาตัวนี้ ผลคือยังไม่ทันเปิดปาก แอร์แบ็คที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการประมงก็ถามแทนเขาแล้วว่า “ปลาตัวเล็กตัวนี้คือปลาอะไรเหรอ?”
ชาร์คยิ้มและตอบว่า “นี่ก็คือไข่มุกของมหาสมุทรแอตแลนติกไงสหาย ที่มาของมันนั่นยิ่งใหญ่มาก นี่เป็นปลาสายพันธุ์หนึ่งที่มีค่าอย่างมาก”
“สรุปมันคืออะไร?”
“ปลาคลอเลียนาซัสฟุโชว!”
เมื่อฉินสือโอวได้ยินชื่อ ‘ปลาคลอเลียนาซัส’ นี้ ภายในใจของเขาก็เต้นรัวและถามว่า “ปลาคลอเลียนาซัส? ปลาสายพันธุ์นี้ที่เกิดในแม่น้ำและเติบโตในทะเลใช่ไหม?”
เกิดในแม่น้ำและเติบโตในทะเลเป็นศัพท์สแลงของชาวประมงประโยคหนึ่งที่รัฐนิวฟันด์แลนด์ ซึ่งหมายถึงปลาที่ต้องโยกย้ายไปยังน้ำจืดเพื่อวางไข่แต่สุดท้ายก็กลับมาเติบโตและล่าเหยื่อที่มหาสมุทร ตัวอย่างเช่นปลาเเซลมอนแปซิฟิกก็เป็นปลาประเภทนี้
เหตุผลที่ถามแบบนี้เป็นเพราะฉินสือโอวคิดถึงปลาที่มีชื่อเสียงอีกสายพันธุ์หนึ่ง ‘ปลาดาบแยงซี’
เขาจำได้รางๆ ว่าชื่อทางวิทยาศาสตร์ของปลาดาบแยงซีก็ดูคล้ายกับปลาคลอเลียนาซัส
………………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset