ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 830 ปลาของใครวะ

ปลาหัวเมือกมหาสมุทรแอตแลนติกนั้นไม่ได้จับกันได้ง่ายๆ ก่อนยุค 70 ในหนึ่งปีสามารถจับได้แค่หลักพันตัน ต่อมาการทำประมงเชิงพาณิชย์เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น และปริมาณการกู้ซากเรือที่จมอยู่ใต้น้ำก็เพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้เหลือเพียงสี่ถึงห้าหมื่นตันต่อปี
อย่าคิดว่าสี่ถึงห้าหมื่นตันเป็นตัวเลขที่สูง จำนวนนี้ถือว่าต่ำมากสำหรับการจับปลาในมหาสมุทร หาอะไรมาเปรียบเทียบกันเถอะ เป็นที่รู้กันดีว่าปลาทูน่ามีราคาสูงเพราะจับได้ยาก แล้วจำนวนที่สามารถจับได้ต่อปีคือเท่าไหร่กันล่ะ? ในหนึ่งปีจำนวนที่สามารถจับได้ในมหาสมุทรทั้งสี่มีมากกว่า 4.2 ล้านตัน
สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะปลาหัวเมือกอาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึกที่มีอุณหภูมิน้ำเย็นจัดของบริเวณไหล่ทวีป สันเขาใต้มหาสมุทรและภูเขาใต้ทะเลที่สูงชัน และพวกมันก็ชอบอาศัยอยู่ในก้นทะเลและที่สูงชัน พวกมันกินพวกกระดองเป็นอาหาร จึงหาตัวได้ยากและจับยาก
เนื่องจากปลาชนิดนี้อาศัยอยู่แต่ในน้ำลึก ดังนั้นเนื้อของมันจึงเป็นสีขาวมุก พวกมันมีลวดลายที่ชัดเจน รสชาติอร่อยจึงทำให้มีราคาสูงเหมือนจำพวกหอย
ปลาชนิดนี้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ใต้ทะเลน้ำลึก เครื่องหาปลาตรวจจับพวกมันได้ยากมาก เฉพาะเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนเท่านั้นที่พวกมันจะปรากฏตัวในเขตระดับน้ำสูงและกลาง เดือนสิงหาคมเป็นฤดูผสมพันธุ์ ส่วนเดือนกันยายนเป็นช่วงผ่อนคลายหลังฤดูผสมพันธุ์
สหรัฐอเมริกาและแคนาดามีกฎไม่อนุญาตให้จับปลาหัวเมือกในช่วงต้นและกลางเดือนสิงหาคมที่เป็นช่วงฤดูวางไข่ของมัน ในช่วงเดือนกันยายนจึงจะสามารถเริ่มจับปลาหัวเมือกได้
แต่ในช่วงเวลานั้นปลาหัวเมือกส่วนใหญ่ก็จะกลับลงไปที่ใต้ทะเลลึกอีกครั้ง การจับพวกมันก็เป็นเรื่องยากอีกเช่นเคย ต้องอาศัยโชคช่วยว่าจะเจอฝูงของมันหรือไม่
ปลาหัวเมือกเป็นปลาที่อยู่ด้วยกันเป็นฝูง เนื่องจากพวกมันมีสีสันที่สว่างเกินไป จึงถูกศัตรูค้นพบได้ง่าย พวกมันจึงชอบอยู่กันเป็นกลุ่ม เพื่อใช้จำนวนที่มากของข่มศัตรู
ฉินสือโอวหาฝูงของปลาชนิดนี้เจอ ดูผ่านๆ มีประมาณหลักหมื่นถึงหลักแสนตัว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เยอะมาก น่าจะมีน้ำหนักประมาณสองร้อยถึงสามร้อยตัน เป็นปลาฝูงใหญ่ที่ใหญ่สมชื่อจริงๆ
สิ้นเสียงเตือนของเขา ชาวประมงก็ลดความเร็วของเรือลง และค้นหาฝูงปลาที่อยู่รอบๆ อย่างละเอียด บูลและคนอื่นๆ หว่านอวนครอบทะเลลึกลงไป ของสิ่งนี้มีไว้สำหรับเก็บกลุ่มตัวอย่าง เมื่อพบฝูงปลาแล้วก็หว่านแหลงไป จะทำให้สามารถจับปลาได้หลายตัวเลยทีเดียว หลังจากจับขึ้นมาแล้วก็จะสามารถนำมาประเมินชนิดของปลาได้
ฝูงปลาหัวเมือกแหวกว่ายไปมาในเขตระดับน้ำตื้นและระดับกลาง พวกมันน่าจะเพิ่งจบจากฤดูผสมพันธุ์ได้ไม่นาน และยังไม่ได้กลับไปยังบริเวณภูเขาใต้ทะเล สันเขาใต้มหาสมุทรและก้นทะเลที่พวกมันชอบ ดังนั้น การจะเจอพวกมันหรือไม่เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
ไม่นาน เหล่าชาวประมงต่างก็รู้แล้วว่าใต้ท้องเรือของพวกเขามีปลาฝูงใหญ่ฝูงหนึ่งอยู่
หลังจากนั้น บูลดึงอวนครอบขึ้นมาจากน้ำ มีปลาหัวเมือกสี่ถึงห้าตัวกำลังกระโดดอยู่ในนั้น
ทันใดนั้น เหล่าชาวประมงต่างก็พากันตื่นเต้น “ให้ตายเถอะ พระเจ้าอวยพร นี่มันปลาหัวเมือกนี่!”
แบล็คไนฟ์ชูกำปั้นขึ้นเหวี่ยงไปมาพร้อมกับส่งเสียงร้อง จากนั้นเขาดึงบูลแยกออกมาอย่างระมัดระวังและถามว่า “เพื่อน ปลาหัวเมือกราคาเป็นยังไงบ้าง?”
บูลพูดเสียงดังว่า “นายไม่รู้เหรอ? เคยเข้าเรียนหรือเปล่า?”
“เข้า เคยเข้าเรียน มหาวิทยาลัยชุมชน…” แบล็คไนฟ์รู้สึกละอาย แต่เขาไม่รู้ว่าการเข้าเรียนเกี่ยวข้องกับการรู้ราคาของปลาหัวเมือกยังไง?
“แล้วทำไมนายถึงไม่รู้ล่ะ? ปลาหัวเมือกแม้แต่ขายส่งก็ตกปอนด์ละ 10 ดอลลาร์แคนาดา ดูจากขนาดของปลาฝูงนี้แล้ว ต้องมีอย่างน้อยหลักแสนปอนด์ หรือแม้กระทั่งหลักล้านปอนด์”
แบล็คไนฟ์เองก็ตื่นเต้นไปตามๆ กัน เขาถามด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อใจว่า “พระเจ้า ถ้าอย่างนั้นการแบ่งกันในอัตราส่วนสี่ต่อหกก็จะได้หลักล้านดอลลาร์แคนาดาเลยใช่ไหม? พวกเรามีกันทั้งหมดสิบคน เฉลี่ยแล้วก็จะได้รับคนละหนึ่งแสน หรือแม้กระทั่งหลายแสนใช่ไหม?”
บูลพูดว่า “ไม่เพียงเท่านี้! ปลาหัวเมือกของเราไม่น่าจะขายส่งแน่นอน เพราะมันคือปลาน้ำลึก หลังจากจับขึ้นมาแล้วมันก็จะตาย จะต้องนำไปแช่แข็งก่อน และเมื่อนำไปวางขายในร้านค้าแบรนด์ของบอส ปอนด์หนึ่งอย่างน้อยก็ตกอยู่ที่ 20 ดอลลาร์แคนาดาเลยล่ะ!”
แบล็คไนฟ์พึมพำ “ฟัค! ฟัค! ฟัค! ถ้ารู้อย่างนี้จะไม่ไปเป็นทหารรับจ้างเลย ฟัค! ควรจะมาเป็นชาวประมงตั้งแต่แรก!”
เหล่าชาวประมงเตรียมอวนจับปลากันอย่างกระตือรือร้น ฉินสือโอวยืนดูพวกเขาทำงานด้วยรอยยิ้ม อันที่จริงพวกเขาจะไม่ได้รับเงินมากมายอย่างนี้หรอก ไม่ใช่เพราะเขาตระหนี่ แต่เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะจับปลาหัวเมือกทั้งหมดได้ ปลาชนิดนี้เมื่อถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าพวกมันก็จะมุดลงไปใต้ทะเล ดังนั้นต้องใช้อวนล้อมจับจึงจะเป็นไปได้
บนเรือฮาวิซทมีแต่อวนครอบ ไม่มีอวนล้อมจับ
ฉินสือโอวคิดดีแล้ว ว่าจะให้เหล่าชาวประมงจับขึ้นมาส่วนหนึ่งก่อน ส่วนที่เหลือที่มุดลงใต้ทะเลไป เขาจะนำกลับไปที่ฟาร์มปลาเอง
ปลาหัวเมือกเป็นปลาเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมีค่า ในฟาร์มปลาของเขาก็มีอยู่ฝูงหนึ่ง แต่มีแค่หลักพันตัว ไม่สามารถเทียบขนาดกับปลาฝูงนี้ได้
เหล่าชาวประมงหว่านแหลงไปพร้อมเสียงร้องตะโกนโหวกเหวก ชาร์คขับเรือมาจับปลาด้วยตัวเอง ครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็ดึงอวนที่หว่านลงไปครั้งแรกขึ้นมา ในนั้นเต็มไปด้วยปลาหัวเมือกที่อวบอ้วน เกล็ดปลาสีส้มสะท้อนแสงแดด ทำเอาพวกชาวประมงตาลายไปหมด
ปลาอวนนี้มีน้ำหนักกว่าสี่ตัน เมื่อแปลงเป็นดอลลาร์แคนาดา ก็เท่ากับสองแสนกว่า
อวนจับปลาถูกเปิดออกตรงทางเข้าห้องแช่แข็ง ปลาหัวเมือกที่เต็มไปด้วยพลังดิ้นรนอย่างหนักขณะร่วงลงไป พวกมันบิดตัวไปมาและสะบัดหางอย่างต่อเนื่อง บูลเข้าไปจัดการปลาที่ร่วงลงมา แต่ปรากฏว่าถูกปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่มีความยาวครึ่งเมตรกระโดดขึ้นมาตบเข้าไปที่หน้าจนเขาล้มลงกับพื้น
พวกชาวประมงหัวเราะขึ้นมาทันที ฉินสือโอวเข้าไปจับปลาที่มีความยาวครึ่งเมตรตัวนี้ แล้วปล่อยมันกลับเข้าลงไปในน้ำ
แบล็คไนฟ์ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาทำ มีชาวประมงอธิบายให้เขาฟังว่า “ปลาหัวเมือกเติบโตช้า ขีดจำกัดของพวกมันคือครึ่งเมตร การที่จะเติบโตได้ขนาดนี้ มันต้องมีชีวิตมาแล้วอย่างน้อย 80 ปีหรือมากกว่านั้น การที่กัปตันโยนมันลงไปนั้น เพื่อเซ่นไหว้เทพโพไซดอน และเพื่อแสดงเจตนาว่า เราไม่ได้ต้องการฆ่าพวกมันทั้งหมด”
หลังจากจัดการกับอวนปากกลุ่มแรก พวกชาวประมงกำลังเตรียมจะหว่านอวนต่อไปอย่างมีความสุข จู่ๆ ก็มีเรือประมงลำหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าเรือฮาวิซทหนึ่งเท่าแล่นเข้ามา
มีชาวประมงหลายคนยืนอยู่บนดาดฟ้า คนเหล่านี้ชู้กำปั้นขึ้นเหวี่ยงไปมาและตะโกนมาทางเรือฮาวิซทด้วยท่าทีที่ดุดัน
ฉินสือโอวขมวดคิ้วและตรงไปที่ห้องบังคับเรือ แล้วเชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สายของเรือลำนั้น แต่เขายังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไร ฝั่งนั้นก็เริ่มด่าขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดุดันว่า “ฟัคยู พวกชาวแคนาดา ใครให้พวกนายเข้ามาในอาณาเขตของเรา? ไป! ออกไป! ฟัคยู ฟัค!”
บูลที่เป็นคนอารมณ์ร้อนกำลังจะเอ่ยปากด่า ฉินสือโอวโบกมือส่งสัญญาณให้เขาใจเย็น เขายกไมค์ไร้สายขึ้นแล้วพูดว่า “เพื่อน เป็นคนต้องมียางอาย นี่คืออาณาเขตของใครนะ? นี่คืออาณาเขตของเทพโพไซดอนต่างหาก! การที่เรามาจับปลาที่นี่มีปัญหาอะไรล่ะ?”
คนในเรือลำนั้นด่าขึ้นมาว่า “เทพโพไซดอนบ้าอะไร! นี่เป็นอาณาเขตของเรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ของเรา! ปลาหัวเมือกที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นของเราทั้งสิ้น ไป พวกนายรีบไสหัวไป!”
ฉินสือโอวเองก็ไม่ใช่คนอารมณ์ดีอะไร เมื่อครู่ที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดี เป็นเพราะว่าเขาให้เกียรติคนเหล่านี้ หลักการทำงานของเขาคือเจรจาพาทีตามมารยาทแล้วจึงใช้กำลัง ฉันยอมให้คุณทำเสแสร้งต่อหน้าฉัน แต่ไม่จะยอมให้คุณทำเสแสร้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในเมื่อเจ้าพวกนี้ยืนยันที่จะทำเสแสร้ง ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยพวกเขาทำไป ฉินสือโอววางสาย และให้ชาร์คหว่านแหเพื่อจับปลาต่อ
การที่การจับปลาหัวเมือกมาพร้อมกับการแข่งขันนั้น เนื่องจากปลาชนิดนี้มีจำนวนน้อยเกินไป และนับวันก็ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ
ดูจากชื่อของเรือลำนี้แล้ว ‘เรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์’ แปลว่าพวกเขาน่าจะจับปลาหัวเมือกเป็นหลัก
อันที่จริงในทะเลใช้คำกล่าวมาก่อนมาหลังในการบุกยึดอาณาเขต ฝูงปลาจะปรากฏในอาณาเขตใดอาณาเขตหนึ่งในเวลาหนึ่ง ดังนั้น เมื่อมีเรือค้นพบอาณาเขตส่วนนั้นก่อน อย่างนั้นที่นั่นก็จะกลายเป็นอาณาเขตของเขา
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็มีเงื่อนไขเหมือนกัน ซึ่งเงื่อนไขก็คือ อาณาบริเวณนั้นจะเป็นของเรือลำนั้นแค่ชั่วคราว ถ้าเขาจากไปแล้ว อาณาบริเวณนั้นก็จะกลายเป็นที่ที่ไม่มีเจ้าของแล้วล่ะ
………………………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset