ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 832 ฉงต้าเศร้าใจมาก

ครั้งนี้ความเร็วของลูกธนูไม่เร็วเท่าไร มันพุ่งขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดแล้วตกลงมา จากการจับจ้องอย่างหวาดระแวงของพวกชาวประมงบนเรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ ลูกธนูตะกั่วตกลงบนกระจกด้านหน้าห้องบังคับเรือ…
หลังจากเสียง ‘เพล้ง…’ ดังขึ้น กระจกแตกออกเป็นชิ้นๆ จากแรงกระแทกของลูกธนู
คนขับเรือรีบคลานออกมา บนตัวเต็มไปด้วยเศษกระจก เขาตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
แบล็คไนฟ์ทำตาหยีและยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นทิ้งคันธนูแล้วหยิบปืนขึ้นมา เขายิงขึ้นไปบนฟ้า ‘ปัง ปัง ปัง’ หลายนัด ทำให้เรือฝั่งตรงข้ามตกใจ
ฉินสือโอวยืนมองความบันเทิงอยู่ทางด้านหลัง ชาร์คยื่นหน้ามาแล้วตะโกนว่า “กัปตัน ไอ้โง่คนนั้นต้องการพบคุณ”
เมื่อกลับไปยังห้องบังคับเรือ ก็มีเสียงตื่นเต้นหวั่นวิตกและดูจนปัญญาดังมาจากวิทยุสื่อสาร “เพื่อน โอเค นายเก่ง พวกนายเก่งมาก ไม่เพียงแย่งที่ของฉันไป ยัง…”
“นี่นาย ถ้านายต้องการเจรจากันดีๆ ก็ควรจะพูดกันดีๆ ฉันไม่อยากคุยกับคนที่เพิ่งกินขี้มา เข้าใจไหม? อีกอย่าง ประโยคที่ว่าแย่งที่ของนายไปนั่นมันหมายความว่าอย่างไร? ตอนที่พวกฉันมาถึงที่นี่ ก็ไม่มีแม้แต่ผีสางเทวดาสักตัว เข้าใจไหม?” ฉินสือโอวขัดจังหวะของชายคนนั้นอย่างเยือกเย็น
คนคนนั้นข่มอารมณ์เอาไว้ แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “โอเค ถือว่าทั้งหมดนี้คือความเข้าใจผิด ให้ตายเถอะ นี่คือความเข้าใจผิด! ตอนนี้เรามาคุยกันเรื่องค่าชดเชยกันเถอะ นายดูสิ…”
“ฟัคยู! นายรนหาที่เอง เข้าใจไหม? ค่าชดเชยเหรอ? ฉันจะชดเชยด้วยขี้หมานายจะเอาไหม?!” ฉินสือโอวด่าและวางสายไป และแน่นอนว่า ก่อนจะวางสายเขาได้ตะโกนว่า “บอกทุกๆ คน ให้ทำการสู้ต่อไป ฆ่าไอ้พวกลูกกะหรี่พวกนี้ซะ!”
พูดจบ ก็วางสายในทันที
ไม่นาน เรือลำนั้นเริ่มเปลี่ยนทิศ พวกเขาหนีไปโดยไม่กล้าพูดอะไรอีก
ฉินสือโอวคิดว่าพวกเขาอาจจะโทรเรียกตำรวจให้มาจัดการ แต่คนพวกนั้นไม่แน่จริง พวกเขามักจะรังแกคนที่อ่อนแอกว่าแต่เกรงกลัวคนที่แข็งแรงกว่า เมื่อรู้ว่าคนบนเรือฮาวิซทไม่ธรรมดา พวกเขาก็เลยกลายเป็นฝ่ายที่ยอมแพ้ไปเสียเอง
อย่างไรก็ตาม เรือฮาวิซทก็ไม่ได้ได้เปรียบมากเท่าไร เนื่องจากการขัดจังหวะของเรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ พวกเขาจึงพลาดโอกาสดีๆ ที่จะจับปลาหัวเมือก ฝูงปลาตกใจและว่ายดิ่งลงไปใต้น้ำลึกกว่าสองร้อยเมตร พวกมันได้หนีรอดจากขอบเขตของอวนจับปลาไปแล้ว
พวกชาวประมงดูไม่มีความสุข แต่ฉินสือโอวยังมีท่าทีปกติ เขาหาฝูงปลาจนเจอ หลังจากควบคุมจ่าฝูงปลาหัวเมือกที่แข็งแกร่งกลุ่มนั้นแล้ว ก็ออกคำสั่งให้พวกมันตรงไปยังเขตทะเลน้ำลึกของฟาร์มปลาต้าฉิน
หลังจากนั้น ปลาหัวเมือกหลายหมื่นตัวรวมตัวกันราวกับเป็นมังกรแดงใต้ทะเล และมุ่งตรงไปทางทิศเหนืออย่างน่าเกรงขาม
พวกชาวประมงต้องการอยู่ที่นี่อีกสักพักเพื่อลองเสี่ยงโชคดูอีกสักครั้ง แต่ฉินสือโอวปฏิเสธ จะมีน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำจืดมากมายเหลืออยู่ในทะเลได้อย่างไร? พวกเขาจึงแล่นเรือกลับ เจออะไรระหว่างทางก็จับมา
เมื่อกลับไปถึงเกาะแฟร์เวล ผลเก็บเกี่ยวของเรือฮาวิซทเป็นที่น่าพึงพอใจ บนเรือมีผลเก็บเกี่ยวกว่าห้าสิบตัน มีทั้งปลาค็อดแอตแลนติก ปลาหัวเมือก หมึกกระดองและปลากระโทงดาบ ปะปนกันอย่างละนิดละหน่อย
ฉินสือโอวให้ชาร์คนำปลาเหล่านี้ไปจัดการที่นครเซนต์จอห์น เก็บปลาล้ำค่าบางส่วนให้บัตเลอร์เอาไปขาย ส่วนที่เหลือให้นำไปขายได้เลยและแบ่งโบนัสให้กับทุกคน
เขาลงที่ท่าเรือในตัวเมือง เซลียานั่งมองเขาด้วยรอยยิ้มบนเกาะพลาสติก ส่วนการ์เซียกำลังยุ่งอยู่กับขั้นตอนสุดท้ายในการทำให้เกาะพลาสติกมั่งคงอีกรอบ จากนั้นก็ถึงตาของฉินสือโอวแล้วที่ต้องทำการตรวจสอบก่อน
ฉงต้าก็นั่งอยู่บนเกาะเหมือนกัน มันมองดูทะเลด้วยสายตาโศกเศร้า ฉินสือโอวลงเรือไปแล้ว แต่มันก็ยังไม่ปีนขึ้นไป ยังคงนั่งเศร้าอยู่ที่นั่นอย่างไม่สนใจใคร
ทันทีที่ฉินสือโอวก้าวขึ้นไปบนท่าเรือ หู่จือ เป้าจือและปอหลัวต่างก็วิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว หัวไชเท้าน้อยสับขาทั้งสี่ขาของมันอย่างรวดเร็ว ทันทีที่วิ่งมาถึงก็กระโดดโผเข้าใส่เขา ขณะที่ฉินสือโอวกำลังยิ้มอย่างมีความสุข ก็หันไปเห็นปอหลัวที่กำลังกระโดดขึ้นและหันเขากวางเข้าหาเขา…
ฉินสือโอวรีบกระโดดลงไปในน้ำโดยไม่พูดอะไร หัวไชเท้าน้อยที่กำลังกระโดดอยู่ก็ทำหน้าตกใจไปตามๆ กัน จากนั้นไม่มีใครรับตัวมันเอาไว้ ‘ตู้ม’ มันก็ตกลงไปในน้ำตามหลังฉินสือโอว
ฉินสือโอวตกลงไปในน้ำก่อน ตามด้วยหัวไชเท้าน้อย หู่จือและเป้าจือคิดว่าทุกคนกำลังกระโดดน้ำเล่น ก็กระโดดลงน้ำไปด้วยโดยไม่คิดอะไร หัวไชเท้าน้อยเอียงหัวมองดูทุกคนกระโดดลงไปในน้ำอย่างสงสัย คิดว่าตัวเองก็ไม่ควรน้อยหน้า จึงกระโดดตามลงไปด้วย
ฉินสือโอวตามหาหัวไชเท้าน้อยที่ตัวแข็งทื่อกำลังจมลงไปในน้ำเหมือนลูกตุ้มเหล็กจนเจอ เขารีบดึงมันขึ้นมาจากน้ำ สาวน้อยผู้น่าสงสารกลืนน้ำทะเลเข้าไปเต็มปาก
หลังจากขึ้นไปบนฝั่ง มาสเตอร์เดินมาอย่างช้าๆ บนไหล่ของเขาพาดผ้าเช็ดตัวไว้ผืนหนึ่ง วินนี่เม้มปากยิ้มอยู่ด้านหลัง
ฉินสือโอวถอนหายใจแล้วพูดว่า “เด็กๆ กระตือรือร้นกันเหลือเกิน ดูเหมือนว่าหลายวันมานี้ที่ผมไม่อยู่บ้าน พวกมันจะคิดถึงผมไม่น้อยเลย”
วินนี่หัวเราะเบาๆ และพูดว่า  “ใช่ค่ะ โดยเฉพาะฉงต้า มันคิดถึงคุณมากที่สุด”
เวลานี้เอง ฉินสือโอวเพิ่งจะสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติไป เขาถามขึ้นมาว่า “เกิดอะไรขึ้น? ดูเหมือนว่าฉงต้าจะไม่ค่อยมีความสุขเลย”
วินนี่แสดงสีหน้าโศกเศร้าและพูดว่า “หลายวันที่แล้วมีคณะละครสัตว์มาเล่นในเมือง ในนั้นมีหมีสีน้ำตาลที่น่ารักมากตัวหนึ่ง ฉันพาฉงต้าไปดูพวกมัน ฉงต้าอยากเล่นกับมัน แต่มันไม่ยอมเล่นด้วย”
“ก็ซื้อหมีน้อยตัวนั้นเลยสิ” ฉินสือโอวกล่าว
วินนี่พูดอย่างจนปัญญาว่า “เถ้าแก่ไม่ยอมขายค่ะ พวกเขาไม่ได้เลี้ยงหมีน้อยเพื่อทำเงิน แต่เลี้ยงดูในฐานะสมาชิกตัวหนึ่งในครอบครัว ฉันเสนอให้ราคาหนึ่งแสน พวกเขาก็ไม่ยอมขาย”
ฉินสือโอวหันกลับไปมองฉงต้า ในเวลานี้เป็นเวลาพรบค่ำพอดี ฉงต้านั่งเงียบๆ บนเกาะพลาสติก แลดูโดดเดี่ยวมาก มันมองไปทางพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า บนใบหน้าอ้วนๆ ของมันเต็มไปด้วยความเหงาหงอย
ฉินสือโอวขึ้นไปบนเกาะ เขาให้การ์เซียและเซลียากลับไปก่อน เขาโอบกอดฉงต้า ฉงต้าเงยหน้าขึ้นมามองเขา และมุดหน้าเข้าไปในอ้อมแขนของเขา มันสองเสียงร้องสองครั้ง ราวกับว่ากำลังร้องไห้
ฉินสือโอวกอดเจ้าตัวเล็กไว้อย่างสงสารและปลอบใจมันว่า “แกรู้สึกโดดเดี่ยวใช่ไหม โอเค พ่อกลับมาแล้ว ต่อจากนี้ไปพ่อจะเล่นกับแกเองดีไหม? ในไม่ช้าแกก็จะมีน้องชายและน้องสาวแล้ว พวกเขาก็สามารถเล่นกับแกได้เหมือนกันนะ”
“อู้ว!” ฉงต้ายังคงสะอึกสะอื้น
ฉินสือโอวตบหลังของมันเบาๆ และพูดว่า “พ่อพาแกขึ้นไปบนภูเขาดีไหม? หลังทำธุระเสร็จ จะพาแกไปเล่นในป่า บางทีอาจเจอเพื่อนของแกก็ได้ ถึงเวลานั้นแกค่อยไปเล่นกับพวกมันดีไหม?”
ฉงต้ายังคงสะอื้น “อู้ว!”
ฉินสือโอวถอนหายใจแล้วพูดว่า “ให้คุณแม่วินนี่ทำของอร่อยๆ ให้แกกินดีไหม? ต่อไปนี้แกไม่ต้องไปว่ายน้ำเพื่อลดน้ำหนักอีกแล้ว แกจะได้กินสลัดผลไม้น้ำเชื่อม กินทุกวันเลยดีไหม?”
ฉงต้ารีบเงยหน้าขึ้นเบิกตามองเขา ราวกับกำลังถามเขาว่าพูดจริงใช่ไหม
ฉินสือโอวยิ้มและจับไปที่หูอันนุ่มและอ้วนของมัน แล้วอุ้มมันขึ้น เดิมทีอยากอุ้มมันขึ้นไปบนท่าเรือ แต่เจ้านี่อ้วนเกินไป เขาทรงตัวไม่อยู่จึงสะดุดล้มบนเกาะพลาสติก และหลุดมือโยนมันออกไป
‘บูม’ เกี๊ยวตัวที่หกตกลงไปในหม้อแล้ว
ฉงต้าใช้อุ้งเท้าของมันตะกายอย่างหนัก ในที่สุดมันก็ขึ้นฝั่งได้ หลังจากขึ้นไปบนฝั่งก็ส่งเสียงร้องอู้วๆ กับฉินสือโอว ‘อะไรกัน ความเชื่อใจล่ะ? ที่เคยบอกว่าจะไม่บังคับให้ว่ายน้ำเพื่อลดน้ำหนักอีกล่ะ?’
………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset