ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 138 หนังฮอลลีวูด

บทที่ 138 หนังฮอลลีวูด
โดย
Ink Stone_Fantasy

รถจู่โจม JTF-2 ที่บุกเข้ามาก็จอดลงเช่นกัน ประตูรถถูกเปิดออก คนสองกลุ่มที่สวมเสื้อผ้าเพื่อการรบพิเศษสีดำ ในมือถือปืนเตรียมทำการโจมตี สวมหมวกไหมพรมปิดบังบริเวณใบหน้าไว้ก็บุกออกมา เมื่อพวกเขาออกมาก็อาศัยรถจู่โจมเป็นที่กำบัง ดูท่าทางพร้อมบุกได้ทุกเมื่อ
อันธพาลทั้งสองคนบนรถกระบะกลับไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนก คนขับรถที่เย็นชาดึงเอาแผ่นบังงแสงอาทิตย์ลงมา ข้างหลังมีปืนไรเฟิลที่ส่งแสงสะท้อนสีครามเข้มขึ้นมาวาววับ
เมื่อมองเห็นของปืนกระบอกนี้ เหมาเหว่ยหลงก็ร้องครวญครางออกมา “ฉิบหายแล้ว SIG-556! อะไรกันวะเนี่ย นั่นมันเครื่องจักรสังหารขนาดยักษ์เลยนะ!”
ฉินสือโอวรีบเตือนเขาด้วยเสียงเบาๆว่า “หุบปาก!”
อันธพาลตัวใหญ่ที่นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับก็แสยะยิ้มออกมา แล้วจึงชักปืนเรมิงตัน โมเดล 870 ออกมา แล้วตะโกนออกมาอย่างป่าเถื่อนว่า “ไอ้เวรเอ๊ย น้องชาย ให้พวกเราได้เอาเลือดลูกหมาพวกนี้ออกทีเถอะ!”
ประตูรถถูกเปิดออก คนขับรถที่ไร้ซึ่งอารมณ์กับอันธพาลโตใหญ่ดุร้ายก็เปิดประตูออกแล้วลากฉินสือโอวกับเหมาเหว่ยหลงลงมาจากรถ มีทั้งสองคนเป็นโล่ ทหารหน่วยจู่โจมทั้งหลายจึงไม่กล้ายิง หัวหน้านายทหารคนหนึ่งก็ตะโกนออกมาว่า “ปล่อยตัวประกันซะ……”
เขาเพิ่งจะพูดออกมาได้ไม่กี่คำ อันธพาลร่างยักษ์ป่าเถื่อนก็ยกปืนเรมิงตันขึ้นมา เหนี่ยวไกปืนอย่างโหดเหี้ยม เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้นมา กระสุนปืนลูกซองก็ถูกยิ่งถล่มออกมา!
“หุบปากไปซะ! ไอ้พวกหมาดำลูกอีตัว ฮ่าฮ่า วันนี้กูจะทำให้พวกมึงได้เลือดเอง!”หลังจากยิงปืนออกไปแล้วอันธพาลที่เหี้ยมโหดคนนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างกำเริบเสิบสาน
ต่อมา ก็มีรถกระบะอีกคนที่ขับมาจากข้างหลัง รถกระบะคันนี้จอดอยู่ที่ท้ายรถกระบะอีกคนที่จอดลงก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงประกอบกันเป็นบังเกอร์ จากนั้นประตูรถด้านหลังก็ถูกเปิดออก ปรากฏให้เห็นเงาของชายร่างยักษ์ ใบหน้าไร้ซึ่งการแสดงอารมณ์ถามออกมาว่า “เป็นไปได้ยังไง? ทำไม JTF ถึงได้รู้เรื่องนี้?”
เหมาเหว่ยหลงเผลอหันไปมองชายร่างยักษ์ที่เป็นคนถามคำถามนี้ขึ้นมา เมื่อมองออกไป เขาก็รู้สึกว่ากล้ามเนื้อหูรูดของเขาเริ่มหดตัวทันที เจ้าหมอนี่มีร่างกายที่บึกบึนเกินไป ท้ายรถของรถกระบะฟอร์ด F150ที่กว้างขวางกลับทำให้มีความรู้สึกว่าจะยัดเขาไม่ลง คล้ายกับถ้าว่าเขาที่มีตัวใหญ่เหมือนกับไดโนเสาร์ดิ้นแรงสักหน่อย รถกระบะคนนี้ก็จะปริแตกได้ยังไงยังงั้น
“ไม่รู้ หรือว่าระหว่างทางเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า?”คนขับรถที่มีสีหน้าไร้อารมณ์ขมวดคิ้วถาม
ร่างใหญ่กระโดดลงมาจากรถ ในมือของเขาถือปืนDesert Eagleอยู่หนึ่งกระบอก ปืนล่าช้างกระบอกใหญ่อยู่ในมือของเขา ก็ดูเหมือนกับมีดส้อมอันเล็กๆเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าลักษณะภายนอกของเขาน่ากลัวเพียงใด
ส่วนอันธพาลร่างใหญ่อีกคนที่ไปจับตัวฉินสือโอวกับเหมาเหว่ยหลงที่สนามบิน ก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถือปืน AR-15 แล้วตะโกนว่า “น่าจะให้อีวิลสันพกเอาปืนM60ไป แล้วยิงถล่มไอ้พวกลูกหมานี่ให้เรียบ!”
เหมาเหว่ยหลงถึงกับกลืนน้ำลาย ปืนM60! พระเจ้าช่วย นี่จะรบกันหรือยังไง?! นี่เป็นพวกมาเฟียหรือกองกำลังกบฏกันแน่!
เมื่อมองเห็นชายร่างยักษ์คนนั้น ฉินสือโอวเองก็ลนลานขึ้นมาบ้างแล้ว เขากระซิบเสียงเบาว่า “อีวิลสัน ลูกของปีศาจร้าย! นี่เป็นนักฆ่าที่มีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ที่สุดในแคนาดาฝั่งตะวันออก! เรื่องวันนี้หนักหนามากๆ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกก็คงไม่แจ้งตำรวจ!”
เหมาเหว่ยหลงยิ้มออกมาด้วยสีหน้าที่แย่ยิ่งกว่าร้องไห้ เขาทำปากแข็งแล้วขึ้นว่า “ไม่เป็นไร ไอ้น้อง เหอะเหอะ ยังไงคนเราก็ต้องตายอยู่แล้ว น่าเสียดายที่ฉันยังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์อยู่เลย!”
“แล้วจะทำยังไงกับไอ้สองคนนี้ดี?”อันธพาลหน้าเหี้ยมหันไปถามชายร่างยักษ์
ชายร่างยักษ์หันไปมองทั้งสองคนด้วยใบหน้าไร้ซึ่งการแสดงอารมณ์หนึ่งครั้ง เส้นเลือดดำบนหน้าผากกระตุกไปมา อ้าๆหุบๆปากอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา คล้ายกับว่าในใจกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง
เหมาเหว่ยหลงก็เต้นตูมตามขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเจ้าหมอนี่กำลังคิดว่าจะฆ่าพวกเขาหรือไม่ฆ่าพวกเขาอยู่หรอกนะ?”
คนขับรถที่เงียบขรึมก็ยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าย เขาชักเอาปืน M1911A1ออกมาจากเอวแล้วส่งให้ฉินสือโอว “คุณฉิน วันนี้ถึงคราวเข้าตาจนแล้ว! พวกเราคงหนีได้ยาก โดยเฉพาะถ้าต้องพาภาระอย่างพวกคุณสองคนไปด้วย! ดังนั้น จะให้พวกคุณมาเป็นตัวถ่วงของเราไม่ได้ คุณเป็นคนที่เจ้านายเราต้องการ พวกเราต้องพาคุณไปด้วย ส่วนเพื่อนของคุณ ก็ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว!”
“แต่ว่านะ คงต้องให้คุณเป็นคนลงมือฆ่าเจ้าหมอนี่เองแล้วล่ะ พวกเราจะได้ลงเรือลำเดียวกัน พวกเราถึงจะมั่นใจได้ว่า คุณยินยอมที่จะต่อต้านทหารตำรวจพวกนี้!”
เข่าทั้งสองข้างของเหมาเหว่ยหลงก็อ่อนลงจนลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้น ไอ้คนชั่วช้าพวกนี้ไม่สำนึกบาปบุญคุณโทษเลยหรือยังไงกัน? ช่างเป็นเดนมนุษย์โดยแท้!
ฉินสือโอวรับเอาปืนมา แต่แค่ครู่เดียวเขาก็เข้ามาบังเหมาเหว่ยหลงไว้ เขาพูดอย่างคนที่ยืนหยัดเพื่อความถูกต้องว่า “พวกแกคิดว่าคนตระกูลฉินอย่างฉันเป็นคนยังไงกัน? นี่คือพี่น้องของฉัน ฉันไม่มีทางทำร้ายเขาเด็ดขาด! ถ้าพวกแกกล้าพอก็จัดการพวกเราที่นี่เลยสิ! ไม่อย่างนั้นพวกแกกับเราสองคนก็ลงหลุมไปด้วยกัน!
เหมาเหว่ยหลงรู้สึกซาบซึ้ง ฉินโซ่ว นายเป็นเหมือนพี่น้องแท้ๆเลยจริงๆ!
ตอนที่เขากำลังรู้สึกซาบซึ้งอยู่ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกทะแม่งๆขึ้นมา การลักพาตัวที่อยู่ตรงหน้านี้ยังไม่เท่าไร แต่ตั้งแต่หน่วยJTF ปรากฏตัว เรื่องพวกนี้ก็ไม่ถูกต้องแล้ว
หน่วยJTF เป็นที่รู้จักของทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในสิบหน่วยรบปราบปรามการก่อการร้ายฉุกเฉิน แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้เอาแต่หลบอยู่หลังรถจู่โจมไม่ลงมือยิง? เรื่องนี้ไม่สมกับฐานะของพวกเขาเลยนี่สิ
ไหนจะ เจ้าฉินโซ่วนี่อีก ออกจะรักพี่รักน้องเกินไปเกินไปหน่อยนะ……
เขาลองสังเกตคนขับรถที่เงียบๆคนนั้นกับชายสูงใหญ่ท่าทางดุร้าย ยิ่งหันมาดูปืนAR-15 กับปืนเรมิงตันที่อยู่ในมือของคนพวกนี้อีก ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นมาว่า “เฮ้ ชาร์ค ซาร์ดเซ็น!”
ชายร่างสูงใหญ่ที่ถือปืนเรมิงตันไว้ในมือก็หันกลับมาแสยะยิ้มให้เขา ทันทีหลังจากนั้น รอยคิ้มของเขาก็ค้างอยู่บนในหน้า
เหมาเหว่ยหลงเห็นท่าทางอย่างนั้นแล้วก็เดาได้ทันทีว่าแท้จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาตะโกนออกมาว่า “แม่แกสิ ฉินโซ่ว นายหลอกฉันนี่!”
ฉินสือโอวรู้ว่าแกล้งแสดงต่อไปไม่ได้แล้ว เขาเอาปืน M1911A1 เสียบไว้ที่เอว แล้วหัวเราะฮ่าฮ่าออกมา “ไอ้กากตอนนี้ทักษะการสังเกตของแกของแกแย่เกินไปแล้ว! รูปของเจ้าพวกนี้แกน่าจะเคยเห็นมาตั้งกี่ร้อยรอบแล้วไหม? ชาร์ค ซีมอนสเตอร์ ส่วนนี่คือเรกจี นีลเซ็น แกเพิ่งจะดูออกตอนนี้น่ะเหรอ?!”
เมื่อเห็นอย่างนี้ ทั้งสี่คนก็เปลี่ยนสีหน้า ชายร่างสูงใหญ่สองคนนั้นก็ก้มหน้าถอดแว่นกันแดด BOLON ออกแล้วจึงถูหน้าตัวเองแรงๆ คนขับรถที่ดูเฉยเมยก็ยิ้มแล้วยื่นมือออกมาหาเหมาเหว่ยหลง “คุณเหมา สวัสดีครับ ผมคือเรกจี นีลเซ็น ยินดีต้อนรับสู่นิวฟันด์แลนด์ ยินดีที่คุณมาเป็นแขกของนิวฟันด์แลนด์นะครับ!”
ชายท่าทางดุดันกำลังเล่นกับปืน Desert Eagle ที่อยู่ในมือ ซีมอนสเตอร์จึงยืนมือออกไปแย่งปืนมาแล้วตะโกนว่า “อีวิลสัน อย่ายิงคนอื่น แล้วก็อย่างยิงตัวเองด้วย! น่าตายจริงๆ บอสไม่น่าให้เขามาเล่นละครด้วยกันเลย!”
รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด เหมาเหว่ยหลงก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะพูดอะไร เขาชี้นิ้วไปที่ฉินสือโอวแรงๆ แล้วด่าว่า “ไอ้เวรเอ๊ยฉันเกือบจะโดนแกอำจนตายแล้ว! แม่แกสิ เซอร์ไพรส์เหรอเซอร์ไพรซ์ นี่น่ะเหรอเซอร์ไพรส์ที่แกเตรียมไว้ให้ฉัน?!”
ฉินสือโอวก็พูดอย่างจนปัญญา “แกก็ทำให้ฉันเซอร์ไพรส์เหมือนกันน่า ฉันนึกว่าเมื่อครู่นี้ที่ขึ้นรถมาแกจะดูออกแล้วว่าเป็นนีลเซ็นกับชาร์ค แต่ปรากฏว่าแกดันกลัวซะได้ ฉันเลยต้องส่งข้อความไปบอกให้เจ้าพวกนี้แกล้งเอารถJTS-2 มาแสดงด้วย”
เหมาเหว่ยหลงพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “โคตรแม่แกสิ เมื่อก่อนฉันเคยเห็นแต่รูปถ่าย อีกทั้งพวกเขายังใส่แต่ชุดทำงาน แล้วแกดูตอนนี้สิ ใส่สูทสวมแว่นตาดำกันทุกคน ทำฉันกลัวแทบแย่!”
พูดจบ เขาก็ยื่นมือออกไปทุบฉินสือโอวหนึ่งหมัด
ฉินสือโอวหลบแล้วหัวเราะด้วยความสนุกสนาน
ด้านหน้ากลุ่มคนจากสมาคมการดำรงชีวิตในทุ่งกว้าง A&M ก็โบกมือมาหาเขา พอล ซาโกร หัวหน้าสมาคมก็ถามกับเขาว่า “ไม่ต้องแสดงแล้วเหรอ? น่าตายจริงๆ นายควรจะเล่าบทให้พวกเราฟังก่อนสักหน่อยนะ พวกเราไม่รู้ว่าต้องแสดงอะไรต่อเลย!”
ละครเวทีนี้ออกจะเล่นนอกบทไปนอก เดิมทีฉินสือโอวแค่อยากจะแกล้งเหมาเหว่ยหลงให้ตกใจสักหน่อย แต่พอได้แกล้งก็ดันแกล้งจนเลยเถิดมาถึงตอนนี้ ไม่ได้แกล้งจนเหมาเหว่ยหลงกลัวจนตายก็นับว่าเขายังใจดีอยู่มากนัก
เหมาเหว่ยหลงก็งอนเขาอย่างหนัก รอจนขึ้นรถมา ก็ด่าเขาอีกรอบ “แกนี่มันกวนตีนดีจริงๆ โคตรแม่เอ๊ย ฉันคิดว่าถ้ามาถึงที่ของแกแล้วจะได้ชื่นชมความสวยงามของสาวแคนาดาสักหน่อย ตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินมาฉันก็แข็งจนเหมือนกับปืน แกทำกับฉันแบบนี้ ฉันคิดว่าทั้งชีวิตนี้ฉันคงต้องปล่อยให้มันแข็งอย่างนี้ไปตลอดแล้ว”
ฉินสือโอวหัวเราะคิกๆคักๆ “ไอ้อ่อนแบบแกยังไม่มีความคืบหน้าอีกเหรอ แกคิดแต่เรื่องผู้หญิงทั้งวันทั้งคืน แต่กลับยังเวอร์จิ้นอยู่เนี่ยนะ?” ไหนใครมันบอกกับฉันตอนโทรศัพท์ว่าตัวเองตัวเองมีสาวเป็นร้อยคนกันนะ?”
เหมาเหว่ยหลงอารมณ์เสีย เขาตอบกลับไปว่า “ไม่ต้องมาพูดจาไร้สาระกับฉัน ไม่ว่ายังไงแกก็ต้องปลอบขวัญให้หัวใจดวงน้อยๆของฉันที่โดนทำร้าย แกคิดหาวิธีเอาเอง ถ้าทำให้ฉันพอใจไม่ได้ ฉันจะไปประจานแกในกลุ่ม!”
……………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset