ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 846 เกาะล่องแก่ง

อยู่ที่บ้านยี่สิบกว่าวัน ช่วงเวลานี้ฉินสือโอวและวินนี่ได้ไปร่วมพิธีแต่งงานของซ่งจวินเหมยและเยียนเฟย ครั้งนี้ทุกคนค่อนข้างจะยับยั้งชั่งใจ นอกจากกินดื่มกันแล้ว ก็ไปร้องเพลงที่คาราโอเกะ
อาจเป็นเพราะว่าเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ฉินสือโอวมีอาการอ่อนไหวง่ายขึ้นมา เพลงที่เขาเลือกร้องในคาราโอเกะล้วนเป็นเพลงเก่าที่มีความหมายพิเศษ เช่น ‘มิตรภาพยั่งยืนนิรันดร’ ‘เสียงของความเงียบ’ ‘เพื่อน’ และ ‘พี่น้อง’
เทียบกับคนรุ่นหลังยุค 95 ที่เรียนมหาวิทยาลัยในตอนนี้แล้ว พวกนี้ต่างก็เป็นกลุ่มคนแก่แล้ว บางครั้งเวลาที่ร้องเพลงอยู่ก็จะกอดคอกัน ดวงตาแดงก่ำ
ยังดีที่ห้องคาราโอเกะมืดสลัว
ตอนที่ร่วมพิธีแต่งงาน ฉินสือโอวเอาผลไม้แห้งและผลไม้กระป๋องมาด้วย ของพวกนี้ไม่เสียเงิน ในบ้านมีกองเป็นภูเขา เขาเอามาให้ซ่งจวินเหมยและเยียนเฟย สามารถเอามารับของแขกได้พอดี
แบบนี้ตอนที่พวกเขาไป เยียนเฟยที่เกรงใจจึงเตรียมของของฝากท้องถิ่นให้เขาอีกกองหนึ่ง เขาจึงต้องเอาขึ้นเครื่องบินไปกับเหมาเหว่ยหลง
ท้ายเดือนตุลาคม ตามกระแสลมหนาวที่พัดมาจากขั้วโลกเหนือ ฉินสือโอวและวินนี่กลับมาถึงเกาะแฟร์เวล
ตอนที่ลงจากเครื่องบินที่โทรอนโต ฉินสือโอวรู้สึกว่าอากาศยังดีอยู่ แต่พอถึงนครเซนต์จอห์น ก็กลายเป็นอากาศหนาวไปเลย
เอาของฝากที่เอากลับมาแบ่งให้กับเหล่าชาวประมงและทหาร ฉินสือโอวกำลังพูดคุยไร้สาระกับคนกลุ่มหนึ่ง การ์เซียและเซลียาหาเขาจนเจอ ยิ้มบอกว่า “ฉิน การออกแบบของพวกเราสิ้นสุดแล้ว คงได้เวลาที่จะเริ่มทริปท่องเที่ยวทั่วโลกแล้วล่ะ”
ทั้งสองคนอยู่ที่เกาะแฟร์เวลเป็นเวลาประมาณสองเดือน ฉินสือโอวรู้สึกว่าทั้งสองคนดีมาก การ์เซียทำอะไรอย่างตั้งใจและพยายาม ถ้าหากเป็นไปได้ เขายินดีที่จะจ้างทั้งสองคนให้ทำงานอยู่ที่ฟาร์มปลา
แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้ สองสามีภรรยาคู่นี้ยังมีทริปที่อยากจะท่องเที่ยวทั่วโลกอีก
ฉินสือโอวเชิญทั้งสองคนให้อยู่ต่อ หนุ่มหล่อชาวสเปนปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม “ไม่ล่ะ ฉิน คุณก็รู้ พวกเราจากบ้านเกิดมาเพื่อท่องเที่ยวทั่วโลก เกาะแฟร์เวลสวยมาก พวกคุณเองก็ดีมาก แต่ว่าพวกเราไม่สามารถอยู่ต่อได้”
เซลียายิ้มเอ่ย “ระหว่างที่ท่องเที่ยว พวกเราพบเจอการยั่วยวนหลายต่อหลายครั้ง หลายๆ สถานที่เป็นที่ที่ยอดเยี่ยมมาก พวกเราอยากจะใช้ชีวิตอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไป แต่ว่าพวกเรารู้ว่า ถ้าหากจะท่องเที่ยวทั่วโลกให้สำเร็จ ก็ต้องพบเจอกับการยั่วยวนมากมาย แต่โชคดีที่พวกเรารับมือกับมันได้”
เมื่อพูดถึงขนาดนี้แล้ว ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงอวยพรให้ทั้งสองคนเท่านั้น
เขาแวะไปชมเกาะพลาสติก มันใหญ่กว่าที่คิดเล็กน้อย ขนาดพื้นที่มีเพียงสองพันห้าร้อยตารางเมตร
เดิมทีคาดการณ์ว่าเป็นสองพันตารางเมตร การ์เซียอธิบายว่า “ตอนปลายเดือนกันยายนก็เสร็จสิ้นส่วนที่คาดการณ์เอาไว้ แต่หลังจากนั้นผมคิดว่า ในเมื่อยังไม่สามารถไปไหนได้ชั่วคราว อย่างนั้นทำไมผมถึงไม่ขยายพื้นที่ให้คุณสักหน่อยล่ะ?”
ฉินสือโอวตบไหล่การ์เซียอย่างซาบซึ้งใจ “ขอบคุณ เพื่อน ผมทำให้พวกคุณเสียเวลาไปหน่อย”
การ์เซียยักไหล่ว่า “อย่าพูดแบบนี้เลย ฉิน คุณก็รู้ เหตุผลที่พวกเรายังอยู่ไม่ใช่เพราะคุณไม่อยู่แคนาดาแล้วรับเงินไม่ได้ แต่เป็นเพราะว่าพวกเราชื่นชอบที่นี่จริงๆ”
“ทุกคืนก่อนนอน ฉันกับการ์เซียมักจะพูดว่า นี่เป็นคืนสุดท้ายที่พวกเราจะอยู่ที่นี่ แต่พอตื่นนอนขึ้นมา พวกเราก็โน้มน้าวตัวเอง ให้อยู่ที่นี่ต่ออีกหนึ่งวัน มันเป็นแบบนั้นนั่นแหละ” เซลียาพูดเสริม
เกาะพลาสติกไม่มีปัญหาอะไร จุดสำคัญคือแผ่นพีวีซีและขวดพลาสติก แต่ส่วนสำคัญระหว่างนี้มีพวกวัสดุเช่น ไม้ กระจกนิรภัยเทมเปอร์และสเตนเลสคอยพยุง ทั้งตัวเป็นสายเบ็ดที่ยืดหยุ่นและเทปกาวกันน้ำจำนวนมาก ค่อนข้างแข็งแรงเป็นอย่างมาก
เกาะนี้ถูกมัดไว้กับท่าเรือ แม้ว่าจะใช้พลาสติกเป็นหลัก แต่เพราะมีความหนาพอ น้ำหนักของเกาะจึงค่อนข้างเยอะ ตอนที่ลมทะเลพัดมาเบาๆ เกาะสามารถลอยอยู่บนน้ำทะเลได้โดยไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
ฉินสือโอวใช้เรือเด็คลองดึงให้ห่างออกจากฝั่งไปไกลกว่าหนึ่งกิโลเมตรดู พอลองยืนบนเกาะพลาสติกก็เหมือนกับกำลังยืนอยู่บนทะเล อีกหน่อยถ้าย้ายกระท่อมเขามา จะต้องน่าสนใจอย่างแน่นอน
การตรวจรับงานผ่าน ฉินสือโอวให้วินนี่โอนเงินห้าแสนดอลลาร์แคนาดาให้กับการ์เซีย การ์เซียหนุ่มหล่อยกมือถือขึ้นมาดู “นี่เป็นเงินที่พวกเราเคยได้เยอะที่สุดภายในครั้งเดียว ขอบคุณมาก ฉิน อนาคตถ้ามีโอกาส พวกเราจะมาฟาร์มปลาของคุณอีกอย่างแน่นอน”
“ยินดีเป็นอย่างยิ่ง นี่เป็นสิ่งที่พวกคุณควรจะได้รับ พวกคุณให้เกาะเล็กๆ ที่เยี่ยมที่สุดกับผมเกาะหนึ่ง” ฉินสือโอวพูดอย่างชอบใจว่า “เกาะสำหรับฉัน”
แบล็คไนฟ์พาคนไปถอดกระท่อมออกมา จากนั้นใช้รถกระบะขนไปที่ท่าเรือ แล้วย้ายไปไว้บนเกาะเล็ก ประกอบขึ้นใหม่บนนั้น อย่างนี้เกาะเล็กที่อยู่อาศัยก็เสร็จสิ้นแล้ว
การ์เซียและเซลียาไปถ่ายรูปบนนั้นหลายรูป สุดท้ายหนุ่มหล่อการ์เซียก็ก้มลงจูบเกาะพลาสติกทีหนึ่ง แล้วพูดว่า “ลาก่อนเพื่อน แล้วเราค่อยเจอกันใหม่”
ช่วงกลางวันวันที่สองหลังจากฉินสือโอวกลับมาถึงฟาร์มปลา เรือสีขาวลำนั้นก็ออกไปจากท่าเรือของฟาร์มปลาล่องขึ้นเหนือ
การ์เซียและเซลียาโบกมือลาทุกคนอยู่บนท้ายเรือ ฉินสือโอวพาเหล่าชาวประมงทุกคนมาส่งทั้งสองคน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมองไม่เห็นร่างอีกฝ่ายแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงโบกมือให้กันอยู่
ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบกับฉากที่สวยงามอีก
นี่ก็เป็นสิ่งที่งดงามที่สุดของชีวิตคน เราไม่อาจล่วงรู้ในสิ่งที่ยังไม่เกิด อนาคตอาจจะดำมืด หรืออาจจะสวยสดงดงาม และสิ่งที่มันยั่วยวนก็คือความลึกลับไม่แน่นอนของมัน
พระเจ้าไม่ได้เป็นใจ เพราะว่าการมาถึงของกระแสลมหนาว ลมทะเลหลายวันมานี้ค่อนข้างแรง ทำให้เกาะล่องแก่งไม่ได้ใช้งานเลย จึงได้แต่ลากขึ้นไปบนชายหาดเพื่อหลบเลี่ยงคลื่นลม
กระทั่งถึงปลายเดือนตุลาคม กระแสลมหนาวนี้จากไป คลื่นลมน่านน้ำนิวฟันแลนด์ถึงได้กลับมาสงบอีกครั้ง แต่ว่าอากาศก็เย็นลงแล้ว องุ่นล็อตแรกของสวนองุ่นฟาร์มปลายังไม่เคยได้เก็บเกี่ยวก็ยังถูกแช่แข็งอยู่บนราวองุ่น
องุ่นที่ใช้มักเหล้าในองุ่นล็อตนี้ไม่สามารถเก็บได้แล้ว ฉินสือโอวเองก็ไม่ได้คิดจะเก็บเกี่ยว แต่ว่ายังปลูกพวกองุ่นแดงองุ่นเขียวที่เอาไว้กินอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะพวงเล็กเม็ดเล็ก แต่เพราะมีการพัฒนาจากพลังโพไซดอน จึงทำให้มีรสชาติไม่เลวเลย
กระแสลมช่วงกลางคืนก็คือตู้เย็นธรรมชาติ รสชาติขององุ่นพวกนั้นหลังแช่เย็นจะยิ่งอร่อย วินนี่ทำเป็นสลัดให้ฉงต้า ฉงต้าสามารถกินได้มื้อละกว่าห้ากิโลกรัมเลย!
ฉินสือโอวเด็ดองุ่นและบลูเบอร์รีมาจำนวนหนึ่ง ปลายเดือนคลื่นลมบนทะเลสงบลงแล้ว เขาใช้เรือเด็คลากเกาะล่องแก่งไปยังสถานที่ที่ห่างจากชายทะเลไปไกลมาก วางเก้าอี้ยาวไว้บนนั้น พาวินนี่และพวกหู่เป้าฉงหลัวไปอาบแดดบนทะเล
นครเซนต์จอห์นเป็นสถานที่ยอดนิยมในการอาบแดดช่วงฤดูใบไม้ร่วง ฟ้าสูงอากาศสดชื่น แสงอาทิตย์สดใส ฉินสือโอวนอนคว่ำลงบนเก้าอี้ยาว ปล่อยให้แผ่นหลังถูกปลอบประโลมจากแสงแดด จิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็เข้าสู่ฟาร์มปลา
พอเข้าไปในฟาร์มปลา ก็เห็นเข้ากับปลาหัวเมือกฝูงใหญ่ที่เขานำกลับมาจากสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ปลาหัวเมือกพวกนี้อาศัยอยู่ในฟาร์มปลาได้ไม่เลว พวกมันหาสถานที่ใต้ทะเลลึกหนึ่งพันเมตรกว่าเพื่อพักผ่อน บางครั้งก็ออกไปหาอาหารกันเป็นกลุ่มเป็นฝูง ส่วนใหญ่แล้วจะอาศัยอยู่ใต้พื้นทะเลอย่างสงบ ไม่มีวิกฤตการณ์อะไร
ฉินสือโอวตั้งความหวังไว้กับปลาหัวเมือกไว้มากอยู่ จนถึงตอนนี้ ได้มีการจับปลาชนิดนี้ในเชิงพาณิชย์มายี่สิบกว่าปีแล้ว ทรัพยากรกำลังอยู่ในสถานการณ์ขาดแคลน ทรัพยากรปลาหัวเมือกในแถบมหาสมุทรแอตแลนติกแทบจะสูญสิ้นแล้ว ปลาชนิดนี้ยังมีแนวโน้มดีในตลาดอนาคตอยู่
………………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset