ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 866 ปาร์ตี้ร้อนแรงในหน้าหนาว

ที่ฉินสือโอวรู้จักสุนัขที่ชื่อว่า ‘จูดี้’ ตัวนี้ เป็นเรื่องหลังจากที่เขามาแคนาดาแล้ว แคนาดาถือเป็นประเทศสหพันธ์รัฐ ถึงแม้ว่าจักรวรรดิอังกฤษจะขาดอำนาจในการปกครองไป แต่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การผสมกลมกลืน จึงแพร่กระจายของหลายอย่างในประเทศอังกฤษไปทั่วแคนาดา
ทว่าชาวอังกฤษทำไม่ถูกต้อง เวลาพวกเขาพูดถึงสุนัขที่ชื่อว่าจูดี้ตัวนี้ จะมีบางสิ่งที่พวกเขาไม่เคยพูดออกไป นั่นก็คือสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขพันธุ์ท้องถิ่นของประเทศจีน
สุนัขพื้นบ้านสามารถกลายมาเป็นสุนัขทหารที่เป็นที่รู้จักที่สุดในระดับนานาชาติ หลังจากได้รู้เรื่องนี้ฉินสือโอวจึงรู้สึกภาคภูมิใจมาก ดังนั้นพอวินนี่พูดถึงจูดี้เขาจึงยิ้มออกมา เขายังรู้จักสุนัขตัวนี้มากกว่าวินนี่เสียอีก
เห็นเขายิ้ม วินนี่จึงตีเขาด้วยความไม่พอใจหนึ่งที คิ้วโค้งสวยได้รูปยกสูงขึ้น เธอพูดอย่างไม่พอใจว่า “ห้ามยิ้ม! นี่เป็นเรื่องที่จริงจังมาก คนนิสัยไม่ดี! ฟังฉันเล่าต่อสิ ถึงยังไงฉันก็ชอบจูดี้มาก เธอเป็นเด็กดี…”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” ฉินสือโอวถามผสมโรงไปกับเธอ
วินนี่รู้สึกเศร้าโศกขึ้นมา เธอพูดด้วยความระทมทุกข์ว่า “ต่อมามีอยู่วันหนึ่ง ฉันพาเธอไปเดินเล่น แต่อยู่ๆ เธอก็ร้องเรียกคนคนหนึ่งขึ้นมา แล้วปรากฏว่าคนนั้นคือเจ้าของของเธอ! ฉันเลี้ยงจูดี้มาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ฉันอาบน้ำป้อนอาหารให้เธอกินทุกๆ วัน แถมยังคุยกับเธอด้วย แต่หลังจากได้เจอเจ้าของแล้ว เธอก็วิ่งหนีไปทันที!”
“เจ้าหมาใจดำ” ฉินสือโอวพูดเออออไปกับเธอ
วินนี่หันกลับมากอดฉินสือโอวไว้ ใบหน้าของเธอยังคงมองไปทางพื้นหิมะที่อยู่ด้านนอกรอคอยให้เงาร่างสีขาวเล็กๆ นั้นวิ่งกลับมาด้วยความกังวล
รอจนถึงเที่ยงคืน หลัวปอก็ยังไม่กลับมา
วินนี่จะร้องไห้แล้วจริงๆ ฉินสือโอวจึงต้องโอบกอดเธอให้เธอขึ้นไปนอนข้างบนก่อน เขาเรียกพวกหู่จือ เป้าจือ เสี่ยวหมิงเข้ามาในห้องนอนกันทั้งหมด ลูกแมวป่าที่เพิ่งมาถึงก็ถูกยัดไว้ในอ้อมกอดของวินนี่ แบบนี้วินนี่ถึงนอนหลับได้
ช่วงเช้าตรู่ ขณะที่ฉินสือโอวยังนอนหลับอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องแหลมดังขึ้นมาจากชั้นล่าง เขาตกใจจนสะดุ้ง เขาฟังออกมาว่าเป็นเสียงของวินนี่ พอพลิกตัวไปดูถึงได้เห็นว่าในผ้านวมเหลือเพียงราชาเจ้าป่าซิมบ้าที่กำลังนอนหงายท้องหลับสบาย ส่วนวินนี่กลับไม่อยู่ให้เห็นแล้ว
เขาฟาดมือลงไปบนก้นของราชาเจ้าป่าซิมบ้าเบาๆ เจ้าเด็กชั่วไม่สำนึกบุญคุณเลยจริงๆ เขารีบสวมเสื้อผ้าอย่างลนลานแล้ววิ่งลงไปข้างล่างทันที ต่อจากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องดีใจของวินนี่ดังขึ้นมา “โอ้ พระเจ้า ขอบคุณนะคะ! โอ้ที่รัก ฉันรักเธอจริงๆ…”
ฉินสือโอวเดินมาถึงหัวบันไดแล้วลองมองดู หลัวปอกำลังนั่งอยู่ตรงประตู ตาโต ‘หลุกหลิก’ กลอกไปมา ตอนนี้วินนี่กำลังกอดมันอยู่ เธอแทบจะถูมันเข้าไปข้างในร่างกายของเธอแล้ว
ขนสีขาวบนตัวของหลัวปอมอมแมมเล็กน้อย มีคราบโคลนติด อยู่ไม่น้อย เหมือนว่าเมื่อคืนได้ตามพ่อแม่วิ่งไปไหนมาสักที่
เพียงแต่ว่า ในที่สุดมันก็กลับมาแล้ว
วินนี่กอดหลัวปอเอาไว้สักพัก ต่อจากนั้นเธอก็จับมันแกว่งไปมา หัวของหลัวปอถูกแกว่งไกวจนเหมือนกับกลองป๋องแป๋ง ลูกตาของมันสั่นจนแทบจะถลนออกมา
ฉินสือโอวเข้ามาลูบหัวของมัน มันดิ้นหนีจากอ้อมกอดของวินนี่ด้วยความเร่งรีบ เพราะพอวินนี่จูบหน้าผากมันเสร็จ เธอก็จะแกว่งคอมันต่อ!
หลัวปอกลับมาได้ สำหรับวินนี่แล้ว นี่เป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆ
นี่คือลูกของเธอ ปีที่แล้วตอนที่หลัวปอมาถึงมันไม่ใช่ราชาหมาป่าโลโบ นั่นคือหัวไชเท้าน้อยหนึ่งหัว ฉินสือโอวยังจำได้ว่า เดือนแรกวินนี่จะกอดมันนอนอยู่ทุกคืนวัน เธอจะตื่นขึ้นมากลางเด็กเพื่อป้อนนมและพามันไปฉี่
ไม่ต่างอะไรกับการดูแลเด็กหนึ่งคน
วินนี่กังวลว่าหลัวปออาจจะจากไปอีก แต่หลังจากนั้นตลอดหลายวัน หลัวปอก็ยังอยู่ที่ฟาร์มปลาอย่างเชื่อฟังเป็นอย่างดี
เพียงแต่บางครั้งในตอนพลบค่ำ มันจะมองไปทางเทือกเขาเคอร์บัลอย่างเลื่อนลอย เกิดอะไรขึ้นคืนนั้น ฉินสือโอวก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ครอบครัวหมาป่าขาวคงจะตกลงกันเรียบร้อยแล้ว
เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนก็มีหิมะตกลงมาสองครั้งแล้ว หิมะครั้งที่สองยังตกติดต่อกันถึงสองวันสองคืน ในที่สุดเหล่าสัตว์ป่าก็ไม่มีอาหารให้กิน ยังพากันทยอยลงมาจากภูเขาเพื่อหาอาหาร เมื่อไม่นานมานี้ก็ปรากฏเหตุการณ์ความขัดแย้งของคนในเมืองกับสัตว์ป่าสองฝูงขึ้น
อากาศดีแล้ว จึงตัดสินใจที่จะจัดปาร์ตี้ โรงพยาบาลชุมชนของเมืองถูกเปิดขึ้นแล้ว เขาจึงอยากต้อนรับลาร่ากับโอดอมสักหน่อย
เขาตะโกนบอกข่าวตามช่องวิทยุสาธารณะบอกว่าถึงตอนนั้นให้ทุกคนที่สนใจมาที่ฟาร์มปลาของเขา เขาจะหาพื้นที่ว่างในฟาร์มปลาบ้านเกิดของปลาค็อดเพื่อจัดงานปาร์ตี้ครั้งนี้ เนื่องจากที่นั่นเคยเป็นบ้านของโอดอมมาก่อน
วันสุดท้ายของต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี อีกทั้งพวกบิลลี่กับเบลคก็จะมาที่นี่ จึงเลือกจัดปาร์ตี้ในช่วงเวลานี้
ครั้งนี้คนมาเข้าร่วมค่อนข้างมาก ฉินสือโอวกับบรรดาชาวประมงจึงต้องเตรียมตัวล่วงหน้า หน้าหนาวอากาศหนาวมาก แน่นอนว่าควรจะจัดงานปาร์ตี้ตอนค่ำภายในอาคาร แต่ชาร์คเสนอความคิดเห็นหนึ่งขึ้นมา นั่นคือการจัดอาหารค่ำรอบกองไฟ งานเลี้ยงรอบกองไฟสไตล์ชนพื้นเมืองอเมริกัน แม้จะเป็นภายนอกอาคารก็สามารถจัดได้
ที่ฟาร์มปลาไม่มีพื้นที่ว่างภายในอาคารที่ใหญ่พอ และเขาก็เชิญนักท่องเที่ยวให้มาเข้าร่วมงานปาร์ตี้ด้วย ดังนั้นคาดว่าคนที่จะมาเข้าร่วมงานน่าจะมีอย่างน้อยสองร้อยกว่าคน ภายในอาคารแข่งบาสเกตบอลยังจุจำนวนคนเท่านี้ไม่ไหว ไม่มีทางเลือกแล้ว พวกเขาต้องจัดงานนอกอาคารเท่านั้น
ส่วนเรื่องอากาศหนาว? ใครสนกันล่ะ? จุดไฟขึ้นมาหน่อย ดื่มเหล้าเข้าไปอีกนิด ให้ทุกคนเริ่มคลั่งขึ้นมาก็พอแล้ว
หนึ่งวันก่อนหน้า มีผู้คนในเมืองส่งไม้สน ไม้เมเปิล ไม้คอนวูดมาเป็นจำนวนมาก ชาวประมงหาที่สำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำบนชายหาดไว้เรียบร้อยแล้ว ขุดหลุม ทรงกลมไว้หนึ่งเส้น ร่องกว้างหนึ่งลึกยี่สิบกว่าเซนติเมตร ฟืนทั้งหมดถูกโยนลงไปข้างใน
ฮิวจ์คนน้องขับรถกระบะมาส่งกวางเรนเดียร์กับหมูป่าอย่างละสองตัว พร้อมกับบอกว่า “สดๆ ทั้งนั้นเลยนะ ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ฉันกับเพื่อนๆ เจอเจ้าพวกนี้ที่ลงมาจากเขาตอนที่กำลังเฝ้ายาม ปังๆ ฉันจัดการพวกมัน เลยเอามาส่งให้นายนี่แหละ”
ฉินสือโอวเห็นว่ามีกวางเรนเดียร์หนึ่งตัวที่มีเขาอยู่สิบง่าม จึงพูดกับเขาว่า “เฮ้ กวางเรนเดียร์นี่ตัวใหญ่แฮะ เหลือไว้ให้ฉันทำผลงานศิลปะหัวกวางได้ไหม?”
ฮิวจ์คนน้องถามเขาว่า “นายชอบเหรอ? ถ้าอย่างนั้นรอให้ฉันไปขอมาจากคนเผ่าซูบนเทือกเขาร็อกกีมาสักอันแล้วกัน ในเผ่าของพวกเขามีแต่หัวกวางใหญ่เขาสิบสี่ง่ามทั้งนั้น”
คาร์สันส่งแพะภูเขาตัวอ้วนมาให้หนึ่งตัว บอกว่านี่มาจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของเพื่อนเขา เขารู้ว่าจะจัดงานเลี้ยง เลยตั้งใจซื้อส่งมาให้หนึ่งตัว ให้ทุกๆ คนได้ลองชิมว่ารสชาติของเนื้อแพะเป็นยังไง
ต่อจากนั้นก็ทยอยตามมาเรื่อยๆ และยังมีชาวเมืองส่งของอย่างอื่นเช่น ไก่ป่าเฮเซล กระต่ายขั้วโลกเหนือ ห่านเทาปากดำ เป็ดป่า พวกอาหารป่าที่มีอยู่น้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงไว้เอง อย่างไก่เป็ดห่าน โอดอมก็จัดหาวัวตัวใหญ่มาให้ครึ่งตัว ลากมาจากโรงฆ่าสัตว์โดยตรง
ชาวแคนาดาไม่ค่อยสนใจอาหารป่าเท่าไรนัก ก่อนหน้านี้ไม่นานยังเคยมีข่าวหนึ่งที่ว่าร้านอาหารแห่งหนึ่งในนครเซนต์จอห์นเห็นที่ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่เป็นจำนวนมาก จึงล่ากวางมาหนึ่งตัวเพื่อจะทำอาหาร
แต่ปรากฏว่า ร้านอาหารแห่งนี้กลับถูกลูกค้ารายงานต่อทางการ ตำรวจกับกระทรวงสาธารณสุขก็มาตรวจสอบในห้องครัวและพบว่ามีร่องรอยการจัดการกวางป่าอยู่จริง จึงสั่งปิดร้านอาหารแห่งนี้
สำหรับชาวแคนาดาแล้ว อาหารป่าที่ไม่ถูกตรวจโรคและจัดการมาก่อนเป็นอาหารที่ไม่ปลอดภัย กินไม่ได้อย่างเด็ดขาด แต่ตอนนี้สถานการณ์แบบนี้ที่เกาะแฟร์เวลเปิดกว้างแล้ว เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนมีความสนใจต่อของพวกนี้มาก
ฮิวจ์คนน้องส่งกวางกับหมูป่ามาให้ ก็เพื่อเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยว คนท่องถิ่นแบบพวกเขาไม่กินของพวกนี้
เริ่มตั้งแต่ช่วงบ่าย ก็เริ่มมีคนกระจัดกระจายกันมาถึงฟาร์มปลา เป็นนักท่องเที่ยวไปแล้วครึ่งหนึ่ง เพราะนี่เป็นงานปาร์ตี้ที่ไม่ต้องเสียเงิน สามารถมาเข้าร่วมได้ตามสบาย แน่นอนว่าไกด์นำเที่ยวเองก็แนะพวกเขาเป็นนัยๆ ว่า ให้ทุกคนนำของขวัญติดไปด้วย ถึงยังไงไปกินฟรีดื่มฟรีคงไม่ดีเท่าไร
……………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset