ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 867 ติดไฟขึ้น

จัดปาร์ตี้แบบนี้ โต๊ะอาหารที่ต้องใช้จึงมีจำนวนมากจนน่ากลัว คุณลุงฮิคสันช่วยสนับสนุนมาจำนวนหนึ่ง ผับดาราประกายก็ช่วยสนับสนุนอีกจำนวนหนึ่ง แน่นอนว่ายังมีเบียร์อุ่นกับไวน์องุ่นทุกชนิดและเหล้าขาวจีนอีกด้วย
หลังหิมะตก อากาศไม่เลวเลย อุณหภูมิในตอนกลางวันพอใช้ได้ ถึงยังไงก็ยังเป็นต้นฤดูหนาวอยู่ หลังกระแสลมหนาวจากขั้วโลกเหนือผ่านแดนมา พระอาทิตย์ยังลอยสูงส่องสว่างอยู่ด้านบน รวมกับที่บริเวณรอบๆ เกาะแฟร์เวลคือมหาสมุทร น้ำทะเลความร้อนจำเพาะต่ำ ระดับอุณหภูมิลดลงได้ช้า จนช่วงพลบค่ำก็นับว่าอากาศยังไม่หนาวมากนัก
บิลลี่เคยเป็นราชาของไนต์คลับมาก่อน หลังจากมาถึงฟาร์มปลาเมื่อตอนบ่าย เขาก็ยุ่งอยู่กับการทดสอบชุดอุปกรณ์ดีเจ หลังจากทดสอบเสร็จแล้วถึงได้พูดอย่างจนปัญญาว่า “ฉิน พวกเราเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว อย่าเอาแต่เล่นเลย พวกเราต้องทำงานนะ โอเคไหม?”
ฉินสือโอววางโต๊ะลง แล้วพูดอย่างสบายๆ ว่า “แล้วยังไงต่อ? งมเรือโจรสลัดเสร็จแล้วเหรอ?”
พอพูดถึงเรือโจรสลัด บิลลี่ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เขาพูดว่า “ใช่แล้ว เป็นการกู้เรือที่เกินความคาดหมายจริงๆ! ให้ตายสิ ในเรือโจรสลัดพวกนั้นมีของดีอยู่ไม่น้อยเลย แต่น่าเสียดายที่อับปางอยู่ในทะเลมานานเกินไป ที่ยังมีมูลค่าก็ไม่มากแล้ว ถ้ากู้ขึ้นมาตั้งแต่หนึ่งร้อยปีก่อน…”
“หนึ่งร้อยปีก่อน สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเป็นเสมือนไฟโหมไหม้ เว้นแต่ว่าเราจะขุดขีปนาวุธกับรถถังขึ้นมาได้ นอกจากนั้นก็มีแต่อึหมาแล้ว!” เสียงหนึ่งดังขึ้นรับคำต่อ ฉินสือโอวหันหัวกลับไป พบกับเบลคและแบรนดอนที่เดินเข้ามาพร้อมกัน
แบรนดอนขับรถเก๋งมาหนึ่งคัน พอเปิดออกก็พบว่าด้านในมีแฮมอยู่เป็นจำนวนมาก ฉินสือโอวถามเขาว่า “นี่คืออะไร?”
“อาหารของชาวเอสกิโม แฮมเนื้อนก ถึงเวลาก็ลองชิมดูสิ รสชาติสุดยอดจริงๆ” แบรนดอนพูดยิ้มๆ
พอวินนี่ที่อยู่ข้างๆ ได้ยินเขาพูด เธอจึงพูดแก้ว่า “ชาวอินูเปียต ไม่ใช่ชาวเอสกิโม ขอบคุณค่ะ”
แบรนดอนยักไหล่ กล่าวว่า “คุณก็รู้นี่ ว่าที่คุณแม่ ผมไม่ได้ตั้งใจจะเรียกพวกเขาแบบนั้น เพื่อนกันตลอดไปไง ใช่ไหมล่ะ?”
ชื่อเรียกชาวเอสกิโมมีนัยของการดูถูกเหยียดหยาม ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือชาวอินูเปียต แน่นอนว่า ที่แคนาดามีการเหยียดชาติพันธุ์จนเป็นเรื่องปกติ
ทั้งสี่คนกำลังยืนคุยกัน พวกชาวประมงก็เริ่มจุดไฟด้วยฟืนในร่องลึกทรงกลม พวกเขาเทน้ำมันก๊าดลงไปด้านบน หลังจากจุดไฟเปลวเพลิงก็ลุกโชน อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น บริเวณโดยรอบของสถานที่จัดงานเลี้ยงยามค่ำคืนตกอยู่ท่ามกลางไฟลุกโหม
บรรดานักท่องเที่ยวร้องเสียงแหลมขึ้นมา ในมือแทบจะมีกล้องถ่ายรูปกันทุกคน พากันถ่ายรูปไว้สารพัด
หลังจากนั้นนีลเซ็นก็ทำท่าทางลับๆ ล่อๆ เดินเข้ามา หยิบเบียร์สองขวดแล้วกำลังจะจากไป ทว่าฉินสือโอวดึงเขาเอาไว้ แล้วถามเขาว่า “นายจะไปไหน?”
“ผมจะไปเข้าเวรครับ บอส”
ฉินสือโอวมองเขาอย่างไม่เชื่อใจ เขาเปิดวิทยุสื่อสารเพื่อถามว่า “แบล็คไนฟ์ วันนี้ใครเข้าเวร?”
“แอร์แบ็คกับแซ็กครับ บอส”
ฉินสือโอวชี้นิ้วใส่นีลเซ็น ปรากฏสีหน้าไม่ค่อยดีออกมา
นีลเซ็นเลยทำได้แค่ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา “แพรีสก็มาแล้วเหมือนกัน ผมเชิญเธอให้มาร่วมงานปาร์ตี้ของพวกเรา แต่คุณก็รู้ใช่ไหมล่ะครับบอส ผมจะพาเธอมาที่แบบนี้ได้ยังไง? นี่ไม่ใช่ที่ที่เหมาะกับการเดต ผมเลยเลือกที่จะเดตในอพาร์ตเมนต์ของพวกเรา”
“ฟัคยู นายพาเธอขึ้นเตียงแล้วเหรอ?” ฉินสือโอวถามอย่างยากที่จะเชื่อ
นีลเซ็นยิ้มกรุ้มกริ่มต่อ พร้อมกับพูดว่า “ยังครับ แต่คืนนี้ก็น่าจะประมาณนั้นมั้ง?”
ฉินสือโอวตบไหล่เขาแปะๆ แล้วพูดด้วยความเลื่อมใสว่า “นายนี่มันร้ายกาจจริงๆ พลทหาร แต่ก็ระวังหน่อยแล้วกัน อย่าให้ถึงแก่ชีวิตล่ะ”
พอล้อเล่นเสร็จ ฉินสือโอวก็ให้ชาร์ครีบทำอาหารให้นีลเซ็นพยายามทำให้พิถีพิถันสักหน่อย ตอนนี้ถ้าการ์เซียยังอยู่ที่นี่ ต่อให้เป็นดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับเจ้าหญิงสโนวไวท์ เขาก็คงทำให้ได้
นีลเซ็นกับแพรีสมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ฉินสือโอวคิดว่าใช้เวลาอีกไม่นานทั้งสองคนก็จะมีข่าวดีให้ได้สมหวังแล้ว กระทั่งงานแต่งก็อาจจะจัดก่อนเขากับวินนี่
ในวิลล่า ตู้อบทั้งห้าตู้ทำงานพร้อมกัน ข้างในคือซี่โครงแกะ ซี่โครงวัวชิ้นใหญ่ นอกจากนี้เตาอบที่สั่งทำมาก็กำลังหมุนอยู่เช่นกัน ข้างในมีไก่เป็ดห่านกับกระต่ายขั้วโลกเหนือ ในระหว่างนั้นบูลต้องเข้ามาตรวจดูกล่องวงจรไฟฟ้าอยู่บ่อยๆ เพราะกลัวสวิตช์ตัดกระแสไฟ
สิ่งที่บรรดานักท่องเที่ยวอยากทานคือเนื้อหมูป่าย่างกับบาร์บีคิวเนื้อกวาง โดยปกติพวกเขาจะหาซื้อของพวกนี้ไม่ได้ เพราะนอกจากช่วงฤดูหนาว เพื่อที่จะรักษาสภาพแวดล้อมของเทือกเขาเคอร์บัล กวางกับหมูป่าที่ล่ามาได้มีอยู่น้อยมาก
โอดอมพาลาร่ามาด้วยกัน ฉินสือโอวกอดทักทายทั้งคู่ เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยินดีต้อนรับครับ ยินดีต้อนรับ คุณหมอดีเด่น คุณพยาบาลที่น่านับถือ ตอนนี้พวกคุณคือบุคคลที่เป็นที่ต้อนรับที่สุดบนเกาะแห่งนี้แล้ว”
ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่เกิดอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยอย่างโรคหวัดได้ง่ายที่สุด เนื่องจากกระแสลมหนาวและหิมะของปีนี้มาเร็วเกินไป ดังนั้นผู้ป่วยจึงเยอะขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีแต่ปัญหาเล็กน้อย แต่เมื่อก่อนถ้าอยากตรวจไข้ ก็ต้องไปที่นครเซนต์จอห์น
หลังจากโรงพยาบาลชุมชนของโอดอมเปิดให้บริการจึงสะดวกสบายมากขึ้น บรรดานักท่องเที่ยวก็สามารถไปหาหมอได้ ไม่ได้จ่ายค่าลงทะเบียนมากมายเท่าไรนัก
ตอนนี้โอดอมเป็นบุคคลที่ได้รับการต้อนรับที่สุดในเมืองอย่างแท้จริง หมอกับทนาย เดิมทีก็เป็นอาชีพที่ค่อนข้างได้รับความเคารพในแคนาดาอยู่แล้ว อีกทั้งโอดอมยังสามารถทำงานได้หลายอย่างทั้งด้านศัลยกรรม สูตินรีเวชวิทยาและทันตกรรม เขาล้วนแต่ชำนาญงานเป็นอย่างดี
ลาร่านำเค้กข้าวไรย์ที่เธออบเองมาด้วย เค้กชิ้นเล็กหลากรสชาติ ฉินสือโอวผิวปากขึ้นมา เชอร์ลี่ย์ก็วิ่งเข้ามารับเค้ก เธอกล่าวขอบคุณลาร่า แล้วจึงเดินเอาเค้กไปวางไว้บนโต๊ะอาหาร
ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวทำข้าวผัดน้ำมันหมูที่เป็นที่นิยมมากๆ ไว้ ก่อนจะทานสิ่งนี้ ต้องนำถาดรองที่ทำจากเหล็กไปอังไว้บนไฟเสียก่อน เนื่องจากน้ำมันหมูแข็งตัวได้ง่าย เพียงแต่พอเขาลองสังเกตความรู้สึกดูแล้วกลับพบว่า สิ่งที่ทุกคนให้การต้อนรับไม่ใช่รสชาติของข้าวผัด แต่เป็นความเพลิดเพลินขณะที่นำไปอุ่นร้อนเองต่างหาก
คุณครูที่โรงเรียนก็มางานเลี้ยงแล้วเช่นกัน เชอริล แฮรี่คุณครูหน้าอกบึ้มที่เคยเป็นคนรักในฝันของเหมาเหว่ยหลง ฟอกส์และวินนี่กำลังคุยกันอย่างออกรส เบลคมองดูแวบหนึ่ง จากนั้นจึงยิ้มชั่วเดินเข้าไปหาเพื่อทักทาย แต่ปรากฏว่าโดนวินนี่ด่าตะเพิดออกไปแทน
เบลคเดินกลับมาด้วยความคับแค้นใจ เขาพูดว่า “ผู้หญิงตอนท้องนี่น่ากลัวชะมัด ฉิน ฉันไม่รู้ว่านายทนวินนี่ได้ยังไง เธอไล่ฉันออกมาซะอย่างนั้นน่ะ?! โอ้ พระเจ้า! วินนี่ที่อ่อนโยนหายไปไหนซะแล้ว?”
ฉินสือโอวขี้เกียจจะสนใจคุณชายเพลย์บอยคนนี้ เขาถามบิลลี่ว่าคิดยังไงกับเชอริล แฮรี่ ยังไม่ก้าวออกจากห้วงอารมณ์ของความพ่ายแพ้ในการไล่ตามหวงเจียเจียเลย
บิลลี่จึงพูดอย่างเฉื่อยๆ ว่า “เธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง แต่ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่พระเจ้าเตรียมไว้ให้ฉัน”
เบลครีบพูดขึ้นมาว่า “แต่ฉันมีลางสังหรณ์ ที่บอกฉันว่าเธอคือผู้หญิงที่พระเจ้าเตรียมไว้ให้ฉันนะ”
แบรนดอนจึงยิ้มอย่างเหยียดหยามแล้วพูดกับเขาว่า “สัตว์ตัวเมียที่สวยหน่อย ก็เป็นสิ่งที่พระเจ้าเตรียมไว้ให้นายทั้งหมดนั่นแหละ”
เชอร์ลี่ย์ถือจานสีเหลืองทองใส่ซี่โครงแกะย่างมาให้พวกเขาสองสามจาน แต่กลับไม่มีของเบลค เบลคถามเธอว่าแล้วของฉันล่ะ เชอร์ลี่ย์จึงยักไหล่น้อยๆ บอกเขาว่า “นี่เป็นแกะตัวเมียสวยๆ คุณทำใจกินมันลงเหรอคะ?”
ฉินสือโอวกับคนอื่นๆ ที่เหลือพากันหัวเราะเสียงดังออกมา เบลคเลยต้องเดินไปหยิบเอง
ที่บิลลี่และคนอื่นๆ มาที่นี่ในครั้งนี้ ก็เพราะอยากจะบอกผลลัพธ์ของการกู้ซากเรืออับปาง ใบแสดงรายการกองใหญ่ นอกจากเครื่องเสาหัวเรือไม้จันทน์แดงกับเหรียญเงินเหรียญทอง ก็ยังมีกาน้ำ จานใส่อาหาร อุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหารที่ทำมาจากเครื่องเงินเครื่องทองและอาวุธที่มีมูลค่า
บริษัทประมูลของตระกูลเบลคทำการประเมินราคาไว้แล้ว ของล็อตนี้มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์แคนาดา ส่วนสำคัญเป็นเครื่องเสาหัวเรือของไม้จันทน์แดงอันนั้นที่มีความล้ำค่ามากจริงๆ พวกผู้มีอิทธิพลชาวตะวันออกกลางกับมหาเศรษฐีชาวยิวต่างก็แสดงความสนใจและหมายมั่นที่จะได้มันมา
…………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset