ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 869 ซากศพอันตราย

ที่นอนอยู่บนชายหาดคือวาฬสีน้ำเงินตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นสัตว์ที่น่ากลัวมาก ตอนนี้ยิ่งมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งน่ากลัว มีบางส่วนที่มองลักษณะเดิมของมันไม่ออกแล้วยิ่งทำให้ดูเหมือนกับสัตว์ประหลาด
วาฬสีน้ำเงินเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ว่ากันว่ามันสามารถโตจนมีความยาวถึงสี่สิบเมตร ฉินสือโอวไม่เคยเห็นวาฬที่มีขนาดยาวเท่านั้นมาก่อน วาฬสีน้ำเงินที่ยาวที่สุดที่เขาเคยเจอก็แค่ยี่สิบเมตรเท่านั้น ตอนที่ได้เห็นเขายังตะลึงไปชั่วขณะ เขาถูกปลุกเร้าจนใจเต็มไปความห้าวหาญ จึงตัดสินใจว่าจะเป็นเทพโพไซดอน
นั่นเป็นเรื่องตั้งแต่ประมาณห้าเดือนก่อน ฉินสือโอวกับนีลเซ็นพบวาฬสีน้ำเงินยักษ์พร้อมกัน หลังจากนั้นเขากลับไม่ได้พบสัตว์ชนิดนี้อีกเลย
ได้เห็นวาฬสีน้ำเงินที่ฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ ไม่ใช่ว่าจะสามารถพบเห็นได้ตามใจต้องการ นี่เกี่ยวข้องกับอาหารของพวกมันด้วย
ปากของวาฬสีน้ำเงินเวลาอ้าออกนั้นใหญ่โตยิ่งกว่าอุโมงค์รถไฟเสียอีก ทว่าพวกมันกลับไม่สามารถกินปลาใหญ่ได้ ที่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือมันสามารถกินได้แค่กุ้งแดงกับสัตว์ชั้นเซฟาโลพอดเท่านั้น ดังนั้นมันจึงใช้ชีวิตอยู่ในซีกโลกใต้เสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากซีกโลกใต้มีทรัพยากรกุ้งอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นสิ่งที่เลี้ยงดูพวกมันได้
วาฬสีน้ำเงินตัวนี้มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าตัวที่ฉินสือโอวเคยเจอ ความยาวมากถึงยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดเมตรเต็มๆ บนพื้นผิวลำตัวปรากฏให้เห็นเป็นสีเทาน่าเกลียด ส่วนหลังมีลายเส้นเล็กสีอ่อนอยู่ด้านบน ส่วนบริเวณอกมีลายจุดสีขาว ลายเส้นกับลายจุดพวกนี้ ตอนนี้บวมพองออกมาอย่างรุนแรง
ถ้าไม่สังเกตดูให้ดี ก็จะมองแยกแยะไม่ออกแล้วว่าลักษณะของวาฬสีน้ำเงินที่แท้จริงแล้วเป็นยังไง ทั้งตัวของมันบวมเป่งอย่างถึงที่สุด ดูเหมือนกับลูกบอลยักษ์ที่ถูกเป่าจนถึงขีดสุด
เดิมทีบนตัวของวาฬสีน้ำเงินมีร่องรอยพับขนาดมหึมาถึงยี่สิบกว่าแถว บนท้องมีรอยจีบอยู่ทั่วทั้งบริเวณ ทว่าตอนนี้กลับไม่เห็นรอยจีบแล้ว ผิวหนังเรียบลื่นเหมือนหนังฟอก ตำรวจนายหนึ่งกำลังยกเท้าขึ้นไปไว้บนตัวมันแล้วลองเตะๆ หนังของมันบุ๋มเข้าไป ต่อจากนั้นก็นูนกลับขึ้นมาในทันที
พอชาร์คเห็นภาพเหตุการณ์นี้เขาก็ร้องตะโกนออกไปทันที “เฮ้ เพื่อน ถ้านายอยากตายก็อย่าให้มันลำบากมาถึงพวกเราสิ! ออกห่างจากมันหน่อย อย่าไปโดนตัวมัน! แล้วก็ ไอ้พวกสิงห์อมควัน รีบดับบุหรี่ซะ!”
นายตำรวจคนหนึ่งหัวเราะฮ่าๆ เสียงแล้วพูดกับเขาว่า “ชาร์ค เพื่อนเก่า นายจริงจังเกินไปแล้ว พวกเราไม่ได้ไม่เคารพซากศพของวาฬสีน้ำเงินตัวนี้…”
“ฟัคยู เดวิส! ฉันไม่สนว่านายจะเคารพหรือไม่เคารพของพวกนี้ รีบออกห่างจากมัน! มันระเบิดได้นะโว้ย! ตอนนี้มันก็คือระเบิดเวลาลูกหนึ่ง!” ชาร์คตะโกนลั่น
พวกตำรวจไวต่อคำว่า ‘ระเบิดเวลา’ มาก พอชาร์คพูดออกไปแบบนี้ พวกเขาก็ถอยออกมาไกลเลยทันที สารวัตรโรเบิร์ตดึงมวนบุหรี่ออก แล้วเข้ามาถามว่า “หมายความว่ายังไง ระเบิดเวลา?”
ชาร์คถอนหายใจแล้วตอบเข้าว่า “เจ้าพวกซื่อบื้อ ฉันได้ยินว่าตำรวจมีแต่คนที่จบมหาวิทยาลัยมา แต่ความรู้ทั่วไปง่ายๆ แบบนี้ทำไมถึงไม่รู้?”
ฉินสือโอวรู้ว่าเรื่องที่ชาร์คพูดหมายความว่าอะไร ถ้าซากวาฬพองบวมขึ้นมา มันค่อนข้างอันตรายมากจริงๆ
ตอนยังมีชีวิตอยู่วาฬจะกินอาหารอยู่โดยตลอด ในกระเพาะกักเก็บอาหารจำนวนมากไว้ตลอดเวลา หลักๆ แล้วคือกุ้งปูหมึกและสัตว์ไฟลัมครัสเตเชียน ของพวกนี้หลังจากถูกวาฬย่อยแล้วจะสร้างก๊าซมีเทน ไฮโดรเจนซัลไฟด์รวมถึงก๊าซชนิดต่างๆ ขึ้นมา
ดังนั้นวาฬจึงต้องลอยขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อถ่ายเทอากาศทุกๆ ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่เพียงแต่เป็นการหายใจ แต่ยังต้องพ่นก๊าซมีเทนพวกนี้ออกมาด้วย
และก่อนวาฬจะตาย ถ้าหากมันเคยระบายก๊าซที่ลุกไหม้ได้พวกนี้ออกไปแล้วพอดี แบบนั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ามันยังไม่ได้ระบายก๊าซพวกนี้ออกไป แบบนั้นก็ถือว่าอันตรายแล้ว
หลังจากวาฬตาย ระบบกับอวัยวะภายในจะเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว แบคทีเรียจะสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ดังนั้นการแยกสลายโปรตีนในร่างกายของพวกมันก็จะทำให้เกิดก๊าซในปริมาณมาก เมื่อก๊าซเหล่านี้ผสมเข้ากับก๊าซที่สามารถลุกไหม้ได้ จะทำให้ความดันในช่องท้องและลำไส้เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง
หากจัดการอย่างไม่ถูกต้อง มันก็จะระเบิดออกมา!
วาฬสีน้ำเงินตัวใหญ่ความยาวยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดเมตร แน่นอนว่า ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่วาฬสีน้ำเงินต้องไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่านี้แน่ๆ มากที่สุดก็น่าจะยี่สิบเมตร หลังจากมันตายแล้วร่างกายถูกก๊าซทำให้ขยายใหญ่ขึ้นจึงได้มีขนาดที่ใหญ่มากถึงขนาดนี้
แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง ถ้ายักษ์ใหญ่ตัวนี้ระเบิดขึ้นมา เช่นนั้นคนที่อยู่ข้างๆ มันคงไม่มีชีวิตรอดต่อไปได้อีกแล้ว
พอชาร์คกับฉินสือโอวอธิบายเรื่องนี้ให้พวกตำรวจฟังแล้ว โรเบิร์ตจึงฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “นี่พวกนายตั้งใจพูดให้มันดูน่ากลัวหรือเปล่า? เจ้านี่สามารถระเบิดได้ด้วยเหรอ?”
ฉินสือโอวจึงเสิร์ชหาข่าววาฬระเบิดบางส่วนจากอินเทอร์เน็ตให้เขาดูทันที ตัวที่ระเบิดใกล้กับตอนนี้ที่สุดคือเมื่อปีที่แล้ว ซากวาฬหัวทุยตัวหนึ่งซัดขึ้นมาบนชายหาดหมู่เกาะแฟโร นักชีววิทยาคนหนึ่งดำเนินการผ่าตัดในที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าวาฬเกิดระเบิดขึ้นมา นักชีววิทยากับนักวิจัยกลุ่มย่อยของเขา ไม่เหลือแม้แต่ซากกระดูก!
“ดูสิ หลังจากซากศพของวาฬหัวทุยตัวนี้พองบวมแล้วมีขนาดแค่สิบสี่เมตร แล้ววาฬสีน้ำเงินตัวนี้มีขนาดใหญ่แค่ไหน พวกคุณวัดดูกันได้เอง” ฉินสือโอวพูดพร้อมกับชี้ไปที่ข้อมูลสถิติหลังการรายงานข่าว
โรเบิร์ตมองดูอย่างตะลึงงันอยู่สักพัก จากนั้นจึงหันกลับมาตะโกนว่า “ไอ้พวกลูกหมาหน้าโง่! รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! ขึงเส้นกั้นเขตเส้นแล้วก็รีบไสหัวออกไป! ฟัค โรมิโอ ทำไมนายยังสูบบุหรี่อยู่อีก? ฉันขอสั่งให้นายดับบุหรี่ภายในสองวินาที! ไม่อย่างนั้นฉันจะเอามวนบุหรี่ยัดใส่รูตูดนาย!”
ฉินสือโอวสังเกตดูซากวาฬสีน้ำเงินตัวนี้ ตอนนี้มันบวมขึ้นมาเหมือนกับลูกบอลหนึ่งลูก ร่างกายส่งกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนท่อระบายน้ำออกมา นีลเซ็นบอกว่านี่คือกลิ่นของไฮโดรเจนซัลไฟด์ ถ้าเข้มข้นสักหน่อย แค่ก้นบุหรี่หนึ่งอันก็สามารถติดไฟได้ แล้วก็จะทำให้เกิดการระเบิด!
คนที่พบซากวาฬเป็นคนแรกคือไกด์นำเที่ยวคนหนึ่ง เขาถูกโรเบิร์ตสอบสวนจนได้ความว่า เขาตื่นขึ้นมาที่ท่าเรือเพื่อตรวจสอบเรือท่องเที่ยวเมื่อตอนตีห้าครึ่ง ก็พบกับวาฬตัวนี้ที่ถูกคลื่นทะเลซัดขึ้นมาบนชายหาด
วาฬตัวนี้ตายมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว อาจจะตายในทะเลลึก ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีลมทะเลพัดอยู่ตลอด ซากศพของมันมีแก๊สจึงลอยขึ้นมาถึงผิวน้ำ สุดท้ายก็ขึ้นมาเกยอยู่บนชายฝั่ง
ตอนนี้ไกด์นำเที่ยวยังค่อนข้างตกใจจนตัวสั่นไม่หาย เขาพูดว่า “ผมไม่รู้ว่ามันจะระเบิดไหม แต่อยู่ให้ห่างจากมันหน่อย เพื่อน ดูสิ นี่คือที่ผมถ่ายไว้เมื่อเช้า แค่สองชั่วโมงครึ่ง มันก็ขยายขึ้นเป็นวงกลมแล้ว!”
ฉินสือโอวเข้าไปดูหน้าจอโทรศัพท์ ด้านบนมีรูปรูปหนึ่ง ในตอนนั้นวาฬสีน้ำเงินมีขนาดเล็กกว่าตอนนี้อยู่เล็กน้อย
ได้เห็นภาพแบบนี้ โรเบิร์ตกับฉินสือโอวและคนอื่นๆ ก็รีบพากันขับรถให้ห่างออกไปจากซากวาฬประมาณสองร้อยเมตร
หลังจากฮานี่ย์ แรมโบ้ ตัวแทนนายกเทศมนตรีของเมืองทราบข่าวก็ได้รายงานไปยังสำนักงานประมงนครเซนต์จอห์นแล้ว การตายของวาฬไม่ใช่เรื่องเล็ก แคนาดาไม่อนุญาตให้ล่าวาฬกับฉลาม หากพบการตายของวาฬก็ต้องดำเนินการสอบสวน ให้ทราบถึงสาเหตุการตายอย่างชัดเจน เพื่อค้นหาผู้รับผิดชอบ
หลังจากคนของสำนักงานประมงทราบว่าซากศพวาฬสีน้ำเงินบวมขึ้น ก็รีบเตือนพวกเขาทันที บอกว่าไม่ต้องเข้าไปมุงดูและอย่าเข้าไปทำการวิจัย หากซากวาฬบวมขึ้นจะเป็นอันตรายมาก ต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญจากโทรอนโตหรือออตตาวาให้เข้ามาจัดการ
ในตอนนี้บริเวณรอบๆ ท่าเรือคึกคักขึ้นมาแล้ว บรรดานักท่องเที่ยวที่ได้เห็นซากศพวาฬเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะวาฬสีน้ำเงินที่ตอนนี้มีขนาดใหญ่มาก ทั้งยังประหลาดมากอีกต่างหาก แน่นอนว่า อย่าว่าแต่บรรดานักท่องเที่ยวเลย พวกชาวเมืองเองก็ไม่เคยเห็นฉากเหตุการณ์อย่างนี้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงค่อยๆ ทยอยกันเข้ามา พอถึงช่วงเที่ยงคนที่มาดูซากวาฬตัวนี้อาจมีสี่ร้อยถึงห้าร้อยคน แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปสว่างขึ้นจนเป็นผืนแผ่น มันสว่างจ้าจนแทบจะทำให้คนตาบอด
ฉินสือโอวไปหาโรเบิร์ต แล้วพูดกับเขาว่า “แบบนี้ไม่ได้ เพื่อน ทุกคนอยู่ใกล้เกินไปแล้ว คุณให้คนของคุณลากเส้นกั้นเขตออกไปให้ไกลกว่าเดิมอีกหน่อยเถอะ”
โรเบิร์ตยิ้มแหยขณะที่กำลังใช้มือดึงเข็มขัดบนพุงบวมเบียร์ของเขา แล้วพูดด้วยความเก้อเขินว่า “นี่มันอันตรายเกินไปแล้ว ฉิน นายก็รู้ว่าพวกเราต่างก็มีครอบครัว พวกเรา…”
“ฟัคยู! พวกคุณเป็นตำรวจนะ!” ฉินสือโอวอดที่จะขัดคำพูดเขาไม่ได้ เจ้าโง่นี่ขี้ขลาดจริงๆ
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset