ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 873 ความขัดแย้งของการฆ่าและเลี้ยง

หลังจากแซนเดอร์สได้รับการว่าจ้างให้มาทำงานที่ฟาร์มปลา เขาจะยังไม่สามารถเข้าทำงานได้ทันที เพราะเขาต้องกลับไปส่งมอบงานให้กับคณะของมหาวิทยาลัยก่อน หลังจากนั้นจึงจะพานักเรียนมาทำงานที่ฟาร์มปลา
นี่เป็นผลประโยชน์แฝงอย่างหนึ่ง ฉินสือโอวจ้างแซนเดอร์สแค่คนเดียว แต่ว่าเขายังพานักศึกษาระดับปริญญาเอกมาสองคนกับนักศึกษาปริญญาโทอีกบางส่วน คนพวกนี้เท่ากับแรงงานของฟาร์มปลาที่ไม่ต้องเสียเงินจ้างเอง อีกทั้งผลงานการวิจัยก็ยังเป็นของฟาร์มปลา
แต่อย่าดูแคลนคนพวกนี้ หากสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยโทรอนโตระดับปริญญาโทหรือไปไกลจนถึงปริญญาเอกได้ อย่างน้อยๆ คนพวกนี้จะต้องมีความเชี่ยวชาญทางด้านชีววิทยาทางทะเลอยู่บ้าง
การระเบิดวาฬ สำหรับฟาร์มปลาถือว่ามีผลดีอยู่ด้วย กุ้งมังกรที่อยู่รอบๆ ก็จะได้กินอาหารมื้อใหญ่อย่างเต็มอิ่ม
เมนล็อบสเตอร์มีลักษณะการกินที่หลากหลายมาก ซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยก็เป็นหนึ่งในอาหารที่พวกมันโปรดปรานที่สุด ของสิ่งนี้อาจจะดูสกปรก แต่มันขัดขืนไม่ได้ วิ่งหนีก็ไม่ได้ อีกทั้งโปรตีนและไขมันเน่าในเนื้อที่เน่าเปื่อยก็ย่อยได้ง่ายกว่า เพราะมีแบคทีเรียอยู่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งนับว่าเป็นอาหารที่ไม่เลวเลยเหมือนกัน
ฝูงกุ้งมังกรเริ่มปฏิบัติการด้วยความรวดเร็ว พวกมันล้อมเข้ามาจากทั่วทุกทิศจนมาถึงน่านน้ำบริเวณที่ทำการระเบิดวาฬ ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ซากวาฬสีน้ำเงินขนาดความยาวกว่ายี่สิบเมตรก็ถูกจัดการจนหมด
ถ้าใครเป็นโรคกลัวรูแล้วลองลงไปดูใต้น้ำในเวลานี้ คงจะอาการกำเริบอย่างแน่นอน
ตอนนี้ตลาดกุ้งมังกรถูกพังทลายไปแล้ว ผ่านการบริโภคไปแล้วหนึ่งปีกุ้งที่เก็บไว้ในสต๊อกถูกขายออกไปจนเกือบหมดแล้ว อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ยังเป็นวันขอบคุณพระเจ้ากับเทศกาลคริสต์มาส ชาวแคนาดาและอเมริกาพากันทานกุ้งมังกรในทั้งสองเทศกาลนี้ ดังนั้นกุ้งมังกรจึงเป็นสินค้าที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
เมื่อเร็วๆ นี้กรมประมงของประเทศจีนกำลังเจรจากับแคนาดาและอเมริกา เพื่อทุ่มตลาดนำเข้ากุ้งมังกรจากจีน ใช่แล้ว ทุ่มตลาด กรมประมงจะหยิบฉวยโอกาสฉ้อโกงรัฐบาลอเมริกาและแคนาดาเอาไว้ ปล่อยให้พวกเขาวางท่ากำแหงกันไปก่อน
อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉิน เมื่อก่อนยังไม่ได้ใช้ไพ่กุ้งมังกรใบนี้ เพราะไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น แค่อาหารทะเลทั่วๆ ไปก็เพียงพอที่จะเปิดตลาดในไมอามีแล้ว
แต่ตอนนี้บัตเลอร์อยากจะเปิดร้านสาขา จึงจำเป็นต้องมีลูกเล่น ซึ่งลูกเล่นนั้นก็คือกุ้งมังกร เพียงแต่เป็นแค่เมนล็อบสเตอร์ไม่ใช่ล็อบสเตอร์สีรุ้ง
ล็อบสเตอร์สีรุ้งเป็นหนึ่งในไพ่ตายของเรือประมง หลังจากบัตเลอร์ได้เห็น ยังนึกว่าของพวกนี้คือกุ้งสวยงามชนิดใหม่ แต่หลังจากทานเข้าไปเขาก็อุทานออกมาด้วยความตื่นตะลึงทันที ของพวกนี้เก็บไว้เก็งกำไรทีหลัง จะต้องได้ผลกำไรมูลค่าสูงแน่ๆ
กุ้งมังกรของฟาร์มปลาแบ่งออกเป็นสองชนิด ชนิดแรกคือพวกที่ติดเชื้อแบคทีเรียในตอนนั้นหลังจากซึมซับพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปจึงวิวัฒนาการมาเป็นล็อบสเตอร์สีรุ้ง กุ้งมังกรชนิดนี้มีปริมาณค่อนข้างน้อย ในฟาร์มปลาที่ใหญ่ขนาดนี้แต่กลับมีอยู่แค่ไม่กี่หมื่นตัวเท่านั้น
ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากคือเมนล็อบสเตอร์ธรรมดาๆ เมื่อก่อนตอนที่ฉินสือโอวเลี้ยงลูกกุ้งเขาก็ได้เพิ่มพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปไม่ยั้ง พวกมันสามารถมีชีวิตรอดภายใต้การโจมตีของแบคทีเรียได้ ทว่าเปลือกของพวกมันไม่ได้มีสีสันงดงามเหมือนท้องฟ้าในยามค่ำคืน แต่เป็นสีธรรมดาๆ ทั่วไปเท่านั้น
ฉินสือโอวอ้างกับคนภายนอกว่าเป็นการกลายพันธุ์บางส่วนในถิ่นเดียวกัน เขาใช้รายงานการวิจัยที่บาลซักทิ้งไว้ให้ บอกกับบัตเลอร์ว่า ล็อบสเตอร์สีรุ้งคือกุ้งมังกรธรรมดาที่โครงสร้างเปลือกเกิดการเปลี่ยนแปลงภายใต้การกระตุ้นของเชื้อราตระกูลแก๊ฟคี่
เปลือกของล็อบสเตอร์สีรุ้งมีความแข็งแกร่งมากกว่ากุ้งมังกรธรรมดา แบบนี้จึงสามารถลดความเสียหายได้มากกว่าเดิม นอกจากนี้ตอนนี้ยังมีไคทินอยู่ในเปลือก ซึ่งสามารถยับยั้งเชื้อราตระกูลแก๊ฟคี่ในกุ้งมังกรได้
ทุกวันนี้กุ้งมังกรในฟาร์มปลาอยู่อาศัยรวมๆ กัน ทั้งยังสามารถผสมพันธุ์กันหลังจากนั้นก็ดำเนินการสืบพันธุ์ได้ด้วย เพราะพวกมันไม่ได้เกิดการแบ่งแยกทางสายพันธุ์ระหว่างกันและ ยังเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันอยู่ ดังนั้นเวลาจับขึ้นมา จะจับพวกมันขึ้นมาได้พร้อมกันเป็นธรรมดา
แบบนี้จะสามารถอำพรางเรื่องการปรากฏตัวของล็อบสเตอร์สีรุ้งได้
การระเบิดของวาฬดึงดูดฝูงกุ้งมังกรมาไว้ที่น่านน้ำบริเวณเดียว พวกชาวประมงเดินเรือออกทะเล เก็บรวบรวมกรงตาข่ายจับกุ้งบนเกาะทั้งหมด แล้วทิ้งลงไปในน้ำด้วยกัน เพื่อเตรียมจับกุ้งมังกรเป็นบริเวณกว้าง หลังจากนั้นจึงส่งไปที่นิวยอร์ก
ร้านจัดส่งอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉิน ถูกเปิดขึ้นที่นิวยอร์ก
เชื่อมต่อไมอามีเข้ากับนิวยอร์กได้เสร็จสมบูรณ์ เช่นนั้น เส้นทางของร้านอาหารระดับสูงตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ก็จะถูกเชื่อมทะลุถึงกันแล้ว
เรือประมงลอยออกไปสู่ทะเลของฟาร์มปลา ฉินสือโอวยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ เขาพูดอย่างทอดถอนใจว่า “ดูสิ ว่าเวลาผ่านไปเร็วขนาดไหน ตอนนี้ของปีที่แล้ว เพราะได้ไปจับกุ้งมังกรที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์เลยทำให้พวกเราได้รู้จักกัน ตอนนี้พวกเรากลายเป็นสหายร่วมรบที่ขาดกันไม่ได้ซะแล้ว”
บูลหัวเราะแหะๆ เขายิ้มอย่างซื่อๆ พร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณลิขิตของพระเจ้า กัปตัน ถ้าไม่ได้เจอคุณ พูดกันจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเน่าตายไปตั้งแต่ตอนไหน!”
“เหมือนวาฬสีน้ำเงินตัวนั้นน่ะเหรอ?” แบล็คไนฟ์พูดหยอกล้ออย่างยิ้มๆ
บูลพูดด้วยท่าทีจริงจังว่า “ใช่แล้ว เหมือนวาฬสีน้ำเงินตัวนั้น!”
ล้อกันเล่นเสร็จ กรงตาข่ายจับกุ้งแต่ละอันก็ถูกโยนลงไปในทะเล บนเรือฮาวิซทบรรจุกรงตาข่ายจับกุ้งอยู่เต็มลำ ด้านหลังกำลังลากเกาะล่องแก่ง ส่วนด้านบนก็วางกรงตาข่ายจับกุ้งสูงๆ เอาไว้ แบบนี้จะช่วยเก็บประสิทธิผลได้
กรงตาข่ายจับกุ้งลงไปในทะเล ฉินสือโอวถูมือทั้งสองข้างที่หนาวจนเกือบจะแข็งพร้อมกับพูดว่า “หน้าหนาวปีนี้หนาวจริงๆ ฟัค ใครสักคนไปตรวจดูเตาไฟฟ้าหน่อย อีกเดี๋ยวพวกเราไปกินหม้อไฟกันเถอะ”
“อากาศแบบนี้ ไม่มีอะไรเหมาะกว่ากินหม้อไฟแล้วล่ะ” พวกชาวประมงพูดด้วยรอยยิ้ม
ชาร์คที่โผล่หัวออกมาจากห้องขับเรือก็ตะโกนออกมาว่า “บอส นายกเทศมนตรีฮานี่ย์กำลังตามหาคุณครับ ”
ฉินสือโอวไปที่ห้องขับเรือ ตัวแทนนายกเทศมนตรีฮานี่ย์ถามว่าเขาอยู่บ้านไหม เขาจึงตอบไปว่าตอนนี้กำลังจับกุ้งมังกรอยู่ที่ทะเล ถามว่าเขามีเรื่องอะไร
ฮานี่ย์ตอบว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก คืออย่างนี้นะ คุณก็เห็นใช่ไหม อากาศเปลี่ยนแปลงไป นับวันยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ สัตว์บางส่วนกับนกบนภูเขาหาอาหารไม่ได้ เลยต้องลงมาจากภูเขา ทำให้เกิดการปะทะกับชาวเมืองได้ง่าย ผมขอถามหน่อยนะ คุณพอจะมีวิธีแก้ปัญหาไหม?”
ชาร์คพูดแทรกขึ้นมาว่า “ให้พวกผู้ชายพกปืนไปด้วยทุกคน ขึ้นเขาไปจัดการพวกมันสักรอบ”
“นี่เป็นไอเดียเน่าๆ เป็นไอเดียที่เน่ามาก เน่าเหมือนไข่ที่ย่าของฉันเก็บเอาไว้ในหลุมใต้ดินมาแล้วสองปี” ฮานี่ย์พูดอย่างไร้ความปรานี เขาเป็นผู้ชายที่มีนิสัยอ่อนโยน เกลียดสงครามและการฆ่าล้าง และยังเป็นสมาชิกผู้ต่อต้านการทำสงครามคนหนึ่ง
ฉินสือโอวเคยไตร่ตรองถึงปัญหานี้มาตั้งแต่แรกแล้ว เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีวิธีหรอก เพียงแต่ว่ายังไม่มีวิธีดีๆ ก็เท่านั้น ฝูงกวางกับฝูงหมูป่ายังพอจัดการได้ เพราะพวกมันกินหญ้า พวกเราไปออนแทรีโอเพื่อซื้อหญ้าเลี้ยงสัตว์มาส่วนหนึ่ง สุ่มกองไว้ที่ตีนเขา ก็พอจะคลี่คลายวิกฤตการณ์ไปได้บ้าง”
“นี่ต้องใช้เงินนะ”
ฉินสือโอวกลอกตาอย่างจนปัญญา เขากล่าวว่า “ฟังนะ ท่านนายกเทศมนตรี อาจจะมีวิธีที่ไม่ต้องใช้ต้องใช้ทั้งความรุนแรงแล้วก็ไม่ต้องใช้เงินอยู่ เพียงแต่ว่าผมนึกวิธีนั้นไม่ออก”
ฮานี่ย์ลองไตร่ตรองอยู่สักพัก แล้วจึงพูดขึ้นมา  “โอเค ที่จริงผมก็เคยคิดจะทำแบบนี้เหมือนกัน รายได้ของเมืองมาจากการท่องเที่ยว สัตว์ป่าพวกนี้ก็มีส่วนช่วยเหลือกิจการการท่องเที่ยวเหมือนกัน ตอนนี้เป็นเวลาที่พวกเราจะต้องตอบแทนพวกมันบ้างแล้ว”
ชาร์คไม่เข้าใจวิธีการแบบนี้ เขาส่ายหัวแล้วเดินออกไปจากห้องขับเรือ พูดพึมๆ พำๆ ว่า “คนใจบุญผู้ยิ่งใหญ่!”
พวกสัตว์ปีกจะค่อนข้างยุ่งยาก พวกมันไม่กินหญ้า แต่กินเบอร์รีกับปลาและกุ้ง ทะเลสาบเฉินเป่ากลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว แบบนั้นจะต้องซื้อเรือตัดน้ำแข็งมาสักลำอย่างนั้นน่ะเหรอ? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
ทั้งสองคนคุยกันอยู่สักพัก สุดท้ายจึงทำได้แค่ทุบน้ำแข็งขุดเจาะทะเลสาบ เพื่อให้สัตว์จำพวกนกได้มีโอกาสมีชีวิตรอดต่อไป
ตอนนี้ตัดสินใจไว้เท่านี้ก่อน ฉินสือโอวไปที่ดาดฟ้าเรือ พวกชาวประมงก็กำลังคุยกันเรื่องนี้อยู่ บูลส่ายหัวแล้วพูดว่า “ที่ราบแพร์รีกับรัฐออนแทรีโอกำลังพากันฆ่าหมูป่ากับกวางกันทั้งนั้น แต่พวกเรากลับคุ้มครองพวกมันไว้ นี่มันน่าขำจริงๆ”
นีลเซ็นก็พูดขึ้นมาว่า “เงินพวกนั้น ฉันแนะนำว่าน่าจะลองเอาไปช่วยคนไร้บ้านในนครเซนต์จอห์นดูก็ไม่เสียหายนะ พวกเขาใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาวอย่างลำบากเหมือนกัน”
ฉินสือโอวจึงพูดขึ้นมาว่า “ช่างมันเถอะ เพื่อนเอ๊ย มองอนาคตไกลๆ สิ ฉันถามพวกนายหน่อยว่า ถ้าบนภูเขาไม่มีสัตว์ป่า แล้วแบบนั้นจะยังเป็นภูเขาอยู่ไหม?”
“นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนภูเขา ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าหมูป่ากับกวางป่าอยู่แล้ว”
“แต่ล่าไก่ป่ากับกระต่ายป่าได้ ล่ามัสค์แร็ตได้ ล่าสัตว์อื่นๆ ได้อีกตั้งหลายอย่าง อีกทั้งทุกสัปดาห์ยังมีโควตาของหมูป่ากับกวางป่า นี่ยังไม่พออีกเหรอ?”
พวกชาวประมงลองคิดๆ ดู ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หมูป่ากับกวางป่าเป็นสัตว์อันตรายสำหรับรัฐอื่น แต่เป็นสิ่งทำเงินสำหรับเกาะแฟร์เวล เหมือนกันกับปลาคาร์ฟเอเชีย
……………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset