ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 885 เรือขุนพลเคลย์ตัน

ในสถานที่เล็กๆ อย่างเกาะแฟร์เวล วิธีการคิดคำนวณเวลาของฉินสือโอว ก็คือวันเทศกาล
เฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าไปแล้ว นั่นหมายความว่าเดือนพฤศจิกายนกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว และถ้าฉลองเทศกาลคริสต์มาสเสร็จ นั่นหมายความว่าปีนี้กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว
เทศกาลคริสต์มาสใกล้จะมาถึงแล้ว
หลังจากที่ฉินสือโอวตัดสินใจซื้อเรือประมงลำใหญ่ เขาก็ดำเนินการติดต่ออุตสาหกรรมต่อเรือโพไซดอนทันที จะต่อเรือประมงแบบบูรณาการรุ่นใหม่ขนาดสองพันตัน แบบนั้นจะต้องใช้เงินราวๆ แปดล้านดอลลาร์แคนาดา แต่รัฐบาลจะสงเคราะห์เงินอุดหนุนให้ประมาณเจ็ดแปดแสนดอลลาร์แคนาดา
แคนาดามีเงินอุดหนุนสำหรับอุตสาหกรรมประมงเป็นจำนวนมาก การลงทุนในหนึ่งปีในฟาร์มปลาของฉินสือโอว อาศัยแค่เงินอุดหนุนก็ได้เงินคืนมาแล้วหนึ่งในแปดส่วน ช่วงหลายปีมานี้เศรษฐกิจไม่ดี แต่เมื่อก่อนแคนาดามีสภาพเศรษฐกิจที่ดีมาก เรือประมงเดินสมุทรขนาดใหญ่จะได้รับเงินอุดหนุนถึงหนึ่งในห้าส่วน
สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกพึงพอใจได้ยากก็คือ ถ้าจะต่อเรือลำใหม่ จะต้องใช้เวลาหกเดือนถึงจะเสร็จ!
ใช้เวลาหกเดือน! รอให้ต่อเรือเสร็จตอนนั้น คาดว่าน่าจะเข้าสู่ฤดูห้ามจับปลาของแคนาดาพอดี!
แลนซ์จึงช่วยฉินสือโอวเสนอความคิด ว่าให้ซื้อเรือประมงมือสองมาหนึ่งลำ ถ้าไปหาถูกคน ตรวจสอบสภาพเรือแล้วว่าไม่มีปัญหา แบบนั้นเรือประมงมือสองอาจจะเหมาะมากกว่าเรือประมงลำใหม่
งานนี้ต้องใช้นายหน้า ฉินสือโอวค้นหาในเว็บไซต์เรือประมงของแคนาดา เว็บไซต์เกี่ยวกับเรือของอเมริกาเหนือกับเว็บไซต์อื่นๆ อยู่หลายวัน เห็นเรือมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยลำ แต่ก็ยังรู้สึกไม่พึงพอใจ
ที่จริงในช่วงสองปีนี้มีการโอนย้ายเรือประมงอยู่เยอะมาก ธุรกิจการประมงไม่ดี เรือประมงเดินสมุทรยิ่งทำได้ยากเป็นพิเศษ เนื่องจากความผันผวนอย่างรุนแรงระหว่างประเทศ การทำงานในมหาสมุทรที่อยู่ไกลอาจจะต้องประสบกับเหตุการณ์ความรุนแรง หากบริษัทประมงประสบปัญหานั้นสักครั้ง แบบนั้นจะเป็นคราวที่ต้องเสียเงินจำนวนมหาศาล
เรือประมงที่ฉินสือโอวดูพวกนี้ ถ้าไม่ได้มีขนาดที่ไม่เหมาะสม ก็เก่าและผุพังเกินไป สรุปว่าดูมาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจนใกล้ถึงเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ฉินสือโอวก็ยังไม่เจอเรือที่เหมาะๆ เสียที กว่าจะหาเรือเดินสมุทรขนาดหนึ่งพันห้าร้อยตันที่ท่าเรือเชอร์ชิลเจอหนึ่งลำ แต่ปรากฏว่าพอโทรศัพท์ไป เรือลำนั้นก็เพิ่งจะถูกขายให้คนอื่น…
แต่ในช่วงระยะนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีผลสำเร็จอะไรเลย ฉินสือโอวรู้จักบริษัทคนกลางในอินเทอร์เน็ตอยู่บางส่วน เขาทิ้งเบอร์โทรศัพท์กับข้อมูลความต้องการเอาไว้ ต่อให้ต้องเสียเงินค่านายหน้าเพิ่ม แต่ขอแค่ได้เจอเรือประมงที่เหมาะสมกับความต้องการก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมควรทำ
ช่วงกลางเดือนเกือบจะถึงปลายเดือนธันวาคม ในที่สุดฉินสือโอวก็ได้รับสายโทรศัพท์จากนายหน้าคนหนึ่ง ฝ่ายนั้นมีชื่อว่าแฮร์ริสัน หลังจากฉินสือโอวรับสายโทรศัพท์แล้วเขาก็พูดอย่างกระตือรือร้นว่า “คุณฉินเป็นคนจีนใช่ไหมครับ? สวัสดีครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้คุยกัน ผมจำได้ว่าคุณอยากได้เรือประมงขนาดประมาณสองพันตันใช่ไหมครับ?
ฉินสือโอวตอบเขาไปว่า “ใช่ครับ ประมาณสองพันตัน ขอเรือที่มีสมรรถนะที่ดีหน่อยนะครับ ผมวางแผนไว้ว่าปีหน้าจะลองไปที่มหาสมุทรแปซิฟิก”
“ว้าว ถ้าอย่างนั้นก็บังเอิญจริงๆ ผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่กำลังอยากจะเปลี่ยนมือเรือประมงของเขาอยู่พอดี นั่นเป็นเรือสภาพดีแน่ๆ ใช้งานมาได้แค่สี่ปีเท่านั้น มีชื่อว่า ‘เรือขุนพลเคลย์ตัน’ คุณลองเสิร์ชดูในอินเทอร์เน็ตก็ได้ครับ เป็นเรือที่ดีลำหนึ่งอย่างแน่นอน”
ขณะที่กำลังคุยโทรศัพท์ ฉินสือโอวก็เรียกนีลเซ็นให้เข้ามาหา แล้วบอกให้เขาค้นหาเรือขุนพลเคลย์ตันบนเว็บไซต์ของกรมประมงดู
เป็นอย่างที่นายหน้าขายเรือบอกไว้ เรือลำนี้เพิ่งจะลงน้ำเมื่อสี่ปีก่อนจริงๆ อีกทั้งจำนวนครั้งที่ออกทะเลก็ยังไม่มาก กัปตันเรือก็ดูท่าทางเหมือนจะรักและทะนุถนอมเรือเป็นอย่างดี
ถ้าดูจากข้อมูลของขนาดและอุปกรณ์เรือที่ให้มา เรือลำนี้ก็ถือว่ามีความเหมาะสม มีขนาดทั้งหมดสองพันสองร้อยตัน และถึงแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นเรือประมงปลาทูน่า แต่ก็สามารถปรับแต่งให้กลายเป็นเรือที่ใช้อวนลากกับอวนล้อมจับได้ ทั้งยังดูทันสมัยมาก จับสัตว์จำพวกหมึกก็ทำได้เช่นกัน
อ่านข้อมูลเสร็จแล้ว ฉินสือโอวก็เริ่มใจเต้นขึ้นมานิดๆ เขาถามว่า “แล้วเรือลำนี้ราคาเท่าไรครับ?”
แฮร์ริสันนายหน้าขายเรือกล่าวว่า “เพื่อนของผมหวังว่าจะขายในราคาสี่ล้านห้าแสน แต่คุณก็รู้ ขอแค่พวกเราตกลงกันได้ ราคาก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้วใช่ไหมล่ะครับ? ขอแค่ค่าคนกลางของผมไม่มีปัญหาอะไร ผมก็จะช่วยคุยให้คุณอย่างดีเลย”
ราคาไม่นับว่าแพงเลยจริงๆ ฉินสือโอวจึงบอกกับเขาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ส่งข้อมูลของเรือลำนี้มาให้ผมแล้วกัน ผมขอคิดดูก่อน โอเคไหมครับ?”
แฮร์ริสันตอบรับอย่างกระตือรือร้น “ถ้าคุณรู้สึกสนใจจริงๆ ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่มาลองดูเลยล่ะครับ? หรือจะให้เพื่อนของผมไปที่ท่าเรือของคุณไหม? พวกเราอยู่ที่แฮลิแฟกซ์ คุณอยู่ที่นครเซนต์จอห์นใช่ไหมครับ? พวกเราอยู่ใกล้กันมาก สะดวกมากๆ”
จัดการด้วยความกระตือรือร้นขนาดนี้ ทั้งยังไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว ฉินสือโอวจึงตอบตกลงออกไปตรงๆ ถ้าอย่างนั้นก็มาเจอกันหน่อยแล้วกัน
ในตอนท้ายแฮร์ริสันพูดกับเขาว่า “ฉิน ต้องขอพูดกันให้เคลียร์ตั้งแต่แรกนะ เรือใหญ่แบบนี้เดินทางจากแฮลิแฟกซ์ไปถึงนครเซนต์จอห์น ถึงยังไงก็ต้องใช้น้ำมันดีเซล ถ้าตกลงซื้อขายกันได้ แบบนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน แต่ถ้าการซื้อขายครั้งนี้ไม่สำเร็จ คุณต้องรับภาระค่าน้ำมันครึ่งหนึ่ง หรือคุณจะบินมาดูที่แฮลิแฟกซ์ก็ได้นะครับ”
ค่าน้ำมันครึ่งหนึ่งก็เป็นเงินแค่ไม่กี่ดอลลาร์ ฉินสือโอวบอกกับเขาว่าไม่มีปัญหา ให้เขาเป็นคนมาที่นี่เถอะ
ต่อจากนั้นอีกฝ่ายก็ส่งสัญญาอิเล็กทรอนิกส์มาทันที เป็นสัญญาเกี่ยวกับค่าน้ำมัน ฉินสือโอวเห็นข้อมูลของเรือลำนี้ในอินเทอร์เน็ต ระยะเวลาลงน้ำไม่ถึงห้าปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ จำนวนครั้งที่ออกทะเลก็ไม่มาก ทั้งยังซื้อประกันอยู่โดยตลอด ดูเหมือนจะเป็นเรือที่ดีมาก เขาจึงเซ็นยินยอมลงไป
แฮลิแฟกซ์เป็นเมืองประจำรัฐและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐโนวาสโกเชีย เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดารัฐต่างๆ ของชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก และยังเป็นท่าเรือน้ำลึกธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกและเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ไม่กลายเป็นน้ำแข็งที่ลึกที่สุดในโลก ได้สมญานามว่าเป็น “ประตูสู่ตอนเหนือ” ของทวีปอเมริกา
ขับจากแฮลิแฟกซ์ตรงมาทางทิศเหนือ ก็จะเป็นนครเซนต์จอห์น อีกฝ่ายก็จริงใจมากๆ หลังจากนั้นหนึ่งวันครึ่งก็โทรศัพท์เข้ามา บอกว่าเรือขับมาถึงนครเซนต์จอห์นแล้ว
ฉินสือโอวพาเออร์บักกับชาร์คและคนอื่นๆ ไปที่ท่าเรือของเมือง เขาโทรศัพท์บอกเรค บิ๊กฟุตไว้ล่วงหน้า บอกให้เขาช่วยพาเพื่อนที่มีความรู้เกี่ยวกับเรือประมงขนาดใหญ่ ให้มาช่วยเขาดูหน่อย
ทุกๆ คนขับเรือมาถึงท่าเรือนครเซนต์จอห์นแล้ว ไม่ต้องออกแรงอะไรก็หาร่องรอยของเรือขุนพลเคลย์ตันเจอ เรือประมงจอดเทียบท่าอยู่บนท่าเรือหมายเลขสอง ด้านนอกทาสีดำป้องกันการผุกร่อน แสงแดดฤดูหนาวตกกระทบลงบนตัวเรือ ปรากฏให้เห็นพลานุภาพที่แข็งแกร่งและความยิ่งใหญ่ของเรือ
ฉินสือโอวตั้งใจบอกให้ชาร์คขับเรือเล็กขับผ่านข้างๆ เรือประมงลำใหญ่ เขาวัดขนาดด้วยสายตาความยาวของเรือใหญ่ลำนี้อยู่ระหว่างแปดสิบเมตรถึงแปดสิบห้าเมตร บำรุงรักษาได้ไม่เลวจริงๆ สีป้องกันการผุกร่อนไม่ได้มีความเสียหาย ตัวเรือราบรื่น ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุและไม่เคยถูกดัดแปลงให้เกิดความรู้สึกไม่สบอารมณ์ ถ้าดูจากภายนอกฉินสือโอวรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
หลังจากขึ้นฝั่ง เขาโทรศัพท์ไปหาแฮร์ริสัน ชายวัยกลางคนแต่งตัวเป็นระเบียบเรียบร้อยประมาณสี่ห้าคนก็เข้ามาหาพวกเขา ทั้งสองฝ่ายจับมือแนะนำตัวกัน ได้พบกับเจ้าของตัวจริงแล้ว
คนพวกนี้เป็นชาวอิตาลี แฮร์ริสันมีอายุประมาณสี่สิบกว่าปี ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแบบประจบ ดูแล้วเหมือนจะเป็นนักธุรกิจที่เป็นมิตรมาก ชุดสูทเรียบตรง สวมเสื้อโค้ทเอาไว้ด้านนอก ดูเหมือนกับพนักงานของบริษัทประกันภัย
หลังจากได้เจอกันกับฉินสือโอวแล้ว แฮร์ริสันก็เอ่ยชมเรือขุนพลเคลย์ตันอย่างออกนอกหน้า บอกว่าฉินสือโอวได้ของที่มีราคาถูกแล้ว ทั้งยังได้เรือดีๆ ที่หาได้ยากในตลาดตอนนี้
ฉินสือโอวเป็นคนตรงไปตรงมา เขาจึงพูดออกไปว่า “ถ้าเรือลำนี้ดีอย่างที่คุณพูดจริงๆ แบบนั้นผมคงจะไม่ขอต่อราคาหรอกครับ ราคาสี่ล้านห้าแสน ผมจะซื้อมันไว้เอง โอเคไหมครับ?”
แฮร์ริสันกับคนที่ร่วมทางมาด้วยกันก็ยิ้มออกมาทันที ชายวัยกลางคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นกัปตันเรือโบกมือปัดพร้อมกับพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เชิญตามสบายเลยนะครับ คุณจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นด้านไหนๆ ของเรือลำนี้ ก็สมบูรณ์แบบทั้งนั้น!”
ขณะที่กำลังจะขึ้นเรือ เรค บิ๊กฟุตที่รีบพาเพื่อนมาด้วยกัน ก็โทรศัพท์มาหาเขา “ฉิน นายอยู่ที่ไหน? ขอโทษด้วยนะ ที่พวกเรามาสาย เอาอย่างนี้นะ นายบอกชื่อเรือที่นายจะซื้อมา เดี๋ยวฉันให้คนบนท่าเรือพาฉันไป”
“ชื่อเรือขุนพลเคลย์ตัน” ฉินสือโอวกล่าว
แต่ปรากฏว่าพอเขาพูดชื่อนี้ออกไป เรคก็นิ่งอึ้งไปทันที เขาถามกลับมาว่า “เรือขุนพลเคลย์ตัน? เฮ้ย นายมั่นใจไหมว่าใช่เรือขุนพลเคลย์ตันเวรนั่นจริงๆ?!”
……………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset