ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 897 ลู่ทางหารายได้เล็กๆ

เฮลิคอปเตอร์ออกบินมาสองวัน พอจะตรวจสอบลู่ทางที่บรรดาสัตว์ป่าใช้เพื่อลงมาจากภูเขาได้อย่างแน่ชัดแล้ว ท้ายที่สุดพวกมันจะมารวมตัวกันในบริเวณรอบๆ ทะเลสาบเฉินเป่า ที่นั่นมีวัชพืชน้ำที่เติบโตแม้ในฤดูหนาว สามารถกินเป็นอาหารได้
เทศบาลจ้างงานชาวเมือง ให้ขับรถกระบะแล้วนำเอาหญ้าที่ซื้อมาไปแจกจ่ายไว้ที่ทะเลสาบเฉินเป่าในหลายจุด กวางเรนเดียร์ที่กำลังหิวโหยลงมากินหญ้าเป็นพวกแรก หญ้าสำหรับให้อาหารสัตว์มีรสชาติดีและชวนกินยิ่งกว่าหญ้าบนภูเขา พอกวางเรนเดียร์ได้กินไปหนึ่งครั้งหลังจากนั้นก็มีครั้งที่สอง ครั้งที่สามตามมา
เมื่อเห็นแบบนี้ กวางฝูงอื่นจึงพากันทำตาม พวกมันก็มากินหญ้าเหมือนกัน อีกทั้งพวกหมาป่าสีเทายังซ่อนตัวอยู่ระหว่างทางที่ฝูงกวางกับพวกหมูป่าเดินทางกลับ เพื่อคอยจ้องหาโอกาสโจมตี เนื่องจากมีจำนวนน้อย ดังนั้นจึงมีผลกระทบไม่มาก
ฉินสือโอวให้เทศบาลยืมเฮลิคอปเตอร์ เพื่อใช้สังเกตสภาพการดำรงชีวิตของสัตว์ป่าบนภูเขา
หิมะเริ่มละลาย จนทำให้พื้นที่ของฟาร์มปลาบางส่วนกลายเป็นกองเลน ไม่ต้องพูดถึงไก่เป็ดห่านที่มีจำนวนมหาศาล หลักๆ แล้วคือฝูงหมูป่ากับฝูงกวาง ที่พากันวิ่งวุ่นและถ่ายไปทั่วฟาร์มปลา เหยียบย่ำพื้นหิมะจนมันเละเทะไปหมด
ฉินสือโอวเลี้ยงฝูงลูกหมูป่ากับฝูงลูกกวางอย่างอิสระ ตอนนี้ดูเหมือนว่าคงจะทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว ลูกหมูป่ากับลูกกวางยังไม่เท่าไร แต่ในนั้นยังมีหมูป่าขนาดกลางกับกวางโตเต็มวัยอยู่ด้วย สัตว์พวกนี้ทั้งกินเก่งทั้งขับถ่ายไม่เป็นที่ ทำให้ฟาร์มปลาสกปรกเละเทะ
แต่กลับเป็นฝูงนกจมูกหลอดหางสั้นที่เกิดตามป่าต่างหากที่ทำตัวค่อนข้างดี โดยปกติแล้วพวกมันจะไม่เข้ามาในฟาร์มปลา ตอนกลางวันพวกมันจะลอยอยู่บนผิวทะเลเพื่อจับปลา ส่วนตอนกลางคืนก็จะมุดกลับเข้าไปในป่าเล็กเพื่อพักผ่อน ไม่ทำให้ฉินสือโอวต้องทุกข์ใจ อีกทั้งยังทำให้เขาได้กินไข่นกด้วยซ้ำไป
หลังจากหิมะตกลงมาประมาณสัปดาห์กว่าๆ ในที่สุดฉินสือโอวที่เห็นฟาร์มปลามีร่องรอยสกปรกเละเทะยุ่งเหยิงปนกันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
สัตว์ป่าพวกนี้กลับรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง วันๆ เอาแต่วิ่งเล่นตีกันอยู่ข้างนอก อยู่ดีกินดียิ่งกว่าตอนอยู่บนภูเขา ไม่ต้องกังวลว่าศัตรูตามธรรมชาติจะจู่โจม ซึ่งทำให้พวกมันอ้วนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฉินสือโอวตะโกนเรียกชาร์คกับซีมอนสเตอร์มา แล้วบ่นให้พวกเขาฟังว่า “ไม่ไหวแล้ว เพื่อน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปฉันทนไม่ไหวแน่ ไล่ไอ้พวกนี้ให้กลับไปที พวกมันจะทำลายฟาร์มปลาของฉันแล้ว!”
ชาร์คไหวไหล่บอกกับเขาว่า “นี่เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยากจริงๆ ดูสิ พอเราจับพวกมันกลับไป แบบนั้นลูกกวางกับลูกหมูป่าก็ต้องได้ขยับตัวบ้าง ไม่อย่างนั้นก็จะไม่ดีต่อการเจริญเติบโตของพวกมัน”
“และอีกอย่าง หมูป่าที่โตแล้วก็อาจจะรังแกลูกกวาง กวางที่โตเต็มวัยก็อาจจะแกล้งลูกหมูป่า ถึงยังไงระหว่างพวกมันก็จะทะเลาะกันจนเกิดความวุ่นวายอยู่ดี” ซีมอนสเตอร์พูดเสริม
พอฉินสือโอวลองนึกดูก็เห็นว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ขนาดอยู่ในสภาวะแวดล้อมด้านนอกที่กว้างขวางขนาดนี้พวกมันยังตีกัน ถ้าพาพวกมันไปไว้ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่คับแคบ จะต้องยิ่งตีกันวุ่นวายแน่
ขณะที่กำลังคิดว่าจะแก้ไขปัญหายังไง ฮิวจ์คนน้องก็เข้ามาหา เขาเข้ามาในฟาร์มปลาแล้วโบกมือตะโกนว่า “เฮ้ บอสที่รัก วันนี้ว่างหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวจึงถามเขาว่า “ถ้ามากินข้าวก็ว่าง แต่ถ้ามายืมเงินก็ไม่ว่าง”
ฮิวจ์คนน้องควักกระเป๋าตังค์ออกมาตบแปะๆ พูดอย่างหยิ่งผยองว่า “โอ้เย้ ตอนนี้ฉันเป็นหนึ่งในคนที่มีเงินเยอะที่สุดบนเกาะแฟร์เวล ดังนั้นนายไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้มายืมเงิน แต่จะเอาเงินมาให้นายต่างหาก”
ฉินสือโอวนึกว่าเขาล้อเล่น แต่ปรากฏว่าพอเข้าไปในวิลล่า ฮิวจ์คนน้องก็หยิบสมุดสำหรับทำบัญชีเล่มหนึ่งออกมาส่งให้เขา บอกเขาว่าข้างในคือรายการบัญชีของปีที่แล้วทั้งปี ให้ฉินสือโอวลองตรวจสอบดู ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเขาจะได้แบ่งผลกำไรให้กับฉินสือโอว
ตอนนี้ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชนเผ่าซูเป็นหนึ่งในร้านค้าที่เพียบพร้อมด้วยศักยภาพที่สุดในเมือง ที่ฮิวจ์คนน้องบอกว่าเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีเงินมากที่สุดในเมืองนี้กลับไม่ใช่การคุยโวแต่อย่างใด ร้านค้าแห่งนี้ทำเงินให้เขาได้ไม่น้อยเลยจริงๆ
ซื้อผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นของชาวอินเดียนแดงมาขายต่อเป็นธุรกิจที่ทำกำไรอย่างมหาศาล สำหรับคนในเมืองแล้วผลิตภัณฑ์จากเทือกเขาร็อกกี้ยังนับว่าเป็นของที่แปลกใหม่ แล้วนับประสาอะไรกับนักท่องเที่ยวชาวจีนล่ะ?
โสมอเมริกา ของป่าแห้ง ผลิตภัณฑ์สินค้าที่ทำจากหนังสัตว์ทุกประเภท งานศิลปะเครื่องเงินเครื่องทองและงานฝีมือ เกลือครึ่งกิโลกรัมสามารถนำไปแลกกับโสมอเมริกาได้หนึ่งหัว ฮิวจ์คนน้องสามารถปิดราคาขายได้ห้าร้อยดอลลาร์แคนาดา แถมยังไม่โดนต่อราคาอีกด้วย!
สมุดทำบัญชีถูกทำขึ้นอย่างง่ายๆ ซึ่งประกอบไปด้วยต้นทุนที่ซื้อสินค้าเข้ามากับรายรับที่ได้จากการจำหน่ายสินค้า ฮิวจ์คนน้องไม่ได้มีการศึกษาที่สูงเท่าไรนัก ด้วยเหตุนี้เขาจึงทำสมุดบัญชีอย่างง่ายๆ แต่แบบนี้ก็ยิ่งทำให้ตรวจสอบได้ง่าย
ฉินสือโอวไม่สนใจรายได้ เดิมทีนี่เป็นธุรกิจที่เกิดจากความคิดที่บังเอิญนึกขึ้นมาได้ ซึ่งมีฮิวจ์คนน้องเป็นคนคอยดูแลจัดการอยู่โดยตลอด เขาเชื่อใจชายหนุ่มคนนี้ เนื่องจากในที่ที่เป็นเกาะปิดอย่างเมืองแฟร์เวลแห่งนี้ ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ฮิวจ์คนน้องเองก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเงินตรา ความเป็นไปได้ที่จะบิดเบือนงบบัญชีจึงมีอยู่น้อยมาก
ถึงแม้ว่าบัญชีจะถูกทำขึ้นอย่างง่ายๆ ทว่าฉินสือโอวก็ยังรู้สึกปวดไข่ตอนอ่านดูอยู่ดี วินนี่จึงแนะนำเขาว่า “คุณควรหานักบัญชีส่วนตัวได้แล้ว ที่จริงจากบิลที่คุณจ่ายให้กับบริษัทบัญชีดีลอยท์ทุกไตรมาส ก็เพียงพอที่จะให้คุณจ้างนักบัญชีเก่งๆ สักคนแล้ว”
ฮิวจ์คนน้องบอกว่า “จ้างนักบัญชีมาทำงานให้ที่ร้านขายของชำของพวกเราด้วยสิ ให้เขามาช่วยจดบัญชีที พระเจ้า ทำบัญชีทุกวันมันยากยิ่งกว่าทำสแลมดังค์ซะอีก ถ้าไม่ใช่เพราะมีพี่ชายฉันคอยช่วย ฉันคงเป็นเนื้องอกในสมองไปนานแล้ว”
เออร์บักที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างๆ พับหนังสือพิมพ์อย่างเงียบๆ แล้วส่งมันให้กับฉินสือโอว ด้านบนเป็นข่าวเกี่ยวกับมหกรรมการจัดหางาน ที่รัฐบาลเมืองนครเซนต์จอห์นจัดขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มอัตราการมีงานทำ
หลังจากตรวจดูบัญชีของร้านขายของชำ ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าตัวเองต้องจ้างพนักงานบัญชีสักคนแล้วจริงๆ
เขาประเมินร้านขายของชำไว้ต่ำเกินไป รายรับของปีที่แล้วที่ฮิวจ์คนน้องบันทึกไว้เป็นจำนวนเงินแปดแสนสองหมื่นดอลลาร์แคนาดา เศษที่เหลือเขาขี้เกียจคำนวณจึงตัดทิ้งไป ฉินสือโอวก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน
นี่ไม่ใช่เงินทุนจำนวนน้อยๆ แล้ว ซึ่งมีนัยว่าร้านขายของชำมีรายได้รวมเดือนละเจ็ดหมื่นเต็มๆ บริษัทเล็กๆ บางแห่งในนครเซนต์จอห์นก็มีรายได้เท่านี้ และเช่นเดียวกันกับการออกเรือขนาดหนึ่งพันตันลำหนึ่ง รายรับที่ได้ก็เป็นเงินประมาณเท่านี้
นอกจากนี้ยังมีร้านผลิตภัณฑ์อาวุธที่เขาร่วมทุนกับซาโกร พอลองนับดูแล้ว ฉินสือโอวก็พบว่าตัวเองมีธุรกิจอยู่ไม่น้อยเลย
ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทีมของฉินสือโอวกับฮิวจ์คนน้องจะแบ่งเปอร์เซ็นต์กันห้าสิบห้าสิบ รายรับของปีที่แล้วอยู่ที่แปดแสนสองหมื่น ทว่านี่คือรายได้รวมที่ยังไม่หักค่าใช้จ่าย กำไรสุทธิจะอยู่ที่เจ็ดแสน ซึ่งเขาจะได้ส่วนแบ่งเป็นเงินจำนวนสามแสนห้าหมื่น
หลังจากแน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไร ฉินสือโอวจึงเซ็นชื่อลงไปในข้อตกลงการจ่ายเงินปันผลที่เออร์บักเป็นคนร่างกำหนด ฮิวจ์คนน้องติดต่อธนาคารเพื่อโอนเงินให้ฉินสือโอวเรียบร้อยแล้ว เขาตบหน้าตักตัวเองแล้วพูดว่า “ดูสิ นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมพวกเราถึงได้เกลียดนายทุนนัก นายแย่งเงินของพวกเราไปหมดแล้ว!”
ฉินสือโอวลุกขึ้นยืนตบไหล่เขาแปะๆ แล้วพูดกับเขาว่า “ผู้คนอาจจะเกลียดนายทุน แต่พวกเขายังมีคนที่เกลียดยิ่งกว่านั้นอีกนะ นายรู้ไหมว่าใคร?”
“ใคร?”
“ก็พ่อค้าหน้าเลือดที่เอาของมาขายเกินราคาจริงอย่างนายไงล่ะ!”
คนที่ซื้อผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นของชนเผ่าซูไม่ได้มีแค่นักท่องเที่ยว ร้านขายของชำของฮิวจ์คนน้องมีชื่อเสียงในนครเซนต์จอห์นแล้ว คนในท้องถิ่นหลายคนก็มาซื้อของที่นี่เช่นกัน”
ตามประเพณีของชาวจีน ฉินสือโอวบอกให้ฮิวจ์คนน้องอยู่ทานอาหารด้วยกันที่นี่ ประจวบกับที่เขากำลังรำคาญลูกหมูป่าที่ทำตัวน่าปวดหัวพวกนั้นอยู่พอดี มื้อเย็นฉินสือโอวเลยจับมันมาย่างหนึ่งตัว
ฮิวจ์คนน้องทานเนื้อเข้าไปคำใหญ่ เขาพูดงึมงำๆ กับฉินสือโอวว่า “ฉันขอให้นายจ้างนักบัญชีมาสักคนเถอะ นี่ฉันจริงจังนะ เพราะฉันกะว่าจะขยายลู่ทางสักหน่อย”
ฉินสือโอวถามเขาว่า “นายคิดจะทำอะไรเหรอ?”
ฮิวจ์คนน้องกลืนเนื้อหมูลงไปอย่างยากลำบาก หลังจากกลืนลงไปได้แล้วก็ถอนหายใจออกมา “ฉันเจอของที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างเลย อย่างเช่นฟันฉลามที่ขัดเงาจนกลายเป็นมีดจากเกาะไอซ์ไฟเออร์ที่เปิดร้านขายอยู่ที่นี่ ฉันอยากรับซื้อสินค้าของพวกเขามาขาย ยักษ์ใหญ่มาร่วมมือกันถึงจะชนะกันทั้งคู่ ใช่ไหมล่ะ?”
สถานการณ์การจำหน่ายมีดของเกาะไอซ์ไฟเออร์กลับไม่ได้เป็นไปในทางที่ดีอย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ หลักๆ แล้วเป็นเพราะพวกเขามีแค่มีดบางส่วน แต่ยังขาดสินค้าชนิดอื่นๆ นักท่องเที่ยวน้อยมากที่จะเจาะจงไปเที่ยวที่ร้านค้าแบบนั้น
ฉินสือโอวคิดว่าไอเดียของฮิวจ์คนน้องก็ไม่เลวเหมือนกัน จึงสนับสนุนความคิดของเขา แล้วบอกว่าถ้าเขาเตรียมตัวจะเปิดลู่ทางนี้ เดี๋ยวฉินสือโอวจะไปพบนายกเทศมนตรีเมืองกาบีลาเพื่อพูดคุยเรื่องการรับซื้อสินค้า
…………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset