ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 898 ซ่อมแซมฟาร์มเลี้ยงสัตว์

กระทั่งขาของยุงยังนับเป็นเนื้อ รายได้จากร้านขายของชำทำให้ฉินสือโอวรู้สึกมีความสุขไปตลอดทั้งเย็น เขากำลังวางแผนว่าจะจะใช้เงินก้อนนี้ยังไงดี ขยายร้านขายของชำให้กว้างขึ้นอีกหน่อยก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เลยใช่ไหม?
ทว่าหลังจากตื่นเช้าวันถัดมา อารมณ์ดีๆ ของเขาก็ไม่มีเหลืออยู่แล้ว
วิ่งออกกำลังกายตอนเช้าเหมือนที่ทำเป็นประจำ พอวิ่งไปได้รอบหนึ่ง ฉินสือโอวกลับรู้สึกแปลกๆ ทำไมไม่ค่อยเห็นลูกหมูป่ากับฝูงกวางเท่าไรเลยล่ะ? ไม่สินี่ไม่ถูกต้อง โดยปกติตอนเช้าจะเห็นพวกมันพากันวิ่งพล่านไปทั่ว
เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาในใจ ฉินสือโอวมองออกไปไกลๆ ก็มองไม่เห็นลูกสัตว์ป่า เขานึกถึงสวนผักขึ้นมาโดยพลัน จากนั้นจึงออกไปที่นั่นด้วยความเร่งรีบ
ปรากฏว่า ห่างออกมาไกลๆ เขาก็พบว่า ผ้าใบของสวนผักได้ขาดออกจากกันแล้ว…
พอเขาตามรอยโหว่ของผ้าใบเข้าไปดูก็ถึงกับตะลึงตาค้างไปทันที ผักสดและเบอร์รีในสวน เหมือนโดนพายุทอร์นาโดบุกเข้าโจมตี ผักจำพวกผักกาดขาว ผักปวยเล้งกับกะหล่ำปลีถูกแทะจนเละเทะไปหมด แตงกวา มะเขือเทศ ต้นกล้ามะเขือเทศถูกเหยียบย่ำเสียหายอย่างรุนแรง มันเทศและมันฝรั่งก็ถูกขุดขึ้นมาจากในพื้นดินเช่นกัน
พวกลูกหมูป่ากับลูกกวางนอนกรนอยู่บนพื้นอย่างอิ่มอกอิ่มใจกับหน้าท้องตุงๆ ของพวกมัน คาดว่าในโรงเรือนเพาะปลูกยังอบอุ่นอยู่ พวกมันถึงไม่ยอมปีนออกไปแต่พากันอยู่ที่นี่ต่อ
ฉินสือโอวรู้สึกโมโหขึ้นมาทันที แล้วปอหลัวล่ะ? ทำไมไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้? มันไม่ได้เฝ้าสวนผักอยู่ตลอดหรอกเหรอ?
ปอหลัวหาพื้นที่ที่สะอาดๆ นอนอยู่ด้านนอกสวนผัก เมื่อฉินสือโอวมองเห็นมันอารมณ์โกรธอย่างรุนแรงของเขาก็ค่อยๆ หายไป สัตว์เลี้ยงของเขาตัวนี้กำลังเหน็ดเหนื่อยมาก คล้ายกับว่าขนสีทองบนตัวไม่ได้เจิดจ้าเหมือนที่เคยเป็นประจำแล้ว ในขณะนี้มันกำลังหลับลึก ที่มุมปากยังมีน้ำลายไหลออกมาเหมือนเด็กเล็กๆ อีกต่างหาก
หลายวันที่ผ่านมา ปอหลัวต้องแบกรถลากเลื่อนหิมะวิ่งทั้งในเมืองและนอกเมือง คนที่ได้หน้าคือพวกเด็กๆ ปอหลัวต่างหากล่ะที่ต้องเหนื่อย
ฉินสือโอวส่ายหัว เขากลับไปที่วิลล่าแล้วใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกับพวกชาวประมง เขาต้องไล่สัตว์ป่าพวกนี้ให้กลับเข้าไปในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ปล่อยเลี้ยงอย่างอิสระไม่ได้แล้ว อย่างมากที่สุดก็ต้องแบ่งพื้นที่เลี้ยงสัตว์
หลังจากเบิร์ดตรวจดูสวนผัก เขาก็กลับมาบอกว่า “พวกที่ฉีกผ้าใบจนขาดไม่ใช่ลูกหมูป่ากับลูกกวาง แต่เป็นกวางโตเต็มวัย แน่นอนว่าบางทีก็อาจจะเป็นหมูป่าที่ตัวค่อนข้างใหญ่หลายตัวก็ได้ ดังนั้นผมขอแนะนำ ให้พวกเราซ่อมแซมฟาร์มเลี้ยงสัตว์สักหน่อยดีกว่าครับ”
“เปิดประตูทางใต้กับทางด้านหลังของฟาร์มไว้ฝั่งละหนึ่งบาน ความสูงครึ่งเมตร แบบนี้ทำให้ลูกกวางกับลูกหมูป่าสามารถเข้าออกได้ตามสบาย แต่กวางกับหมูป่าตัวใหญ่จะออกไปไม่ได้”
ฉินสือโอวได้ยินอย่างนี้ก็รู้สึกโอเคเหมือนกัน ลูกกวางกับลูกหมูป่าตัวไม่ใหญ่มากไม่มีความสามารถที่จะก่อการได้ ปล่อยเลี้ยงไว้ด้านนอกก็ไม่ทำให้สกปรกร้ายแรง ทำให้เกิดความทรุดโทรมแค่เล็กน้อยเท่านั้น
แต่ความขัดแย้งของฝูงกวางกับฝูงหมูป่ามาจากลูกสัตว์ป่า พวกมันต่างก็เป็นสัตว์ใหญ่ที่รังแกสัตว์เล็กจนทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้นมา ดังนั้นขอแค่สัตว์ตัวเล็กสามารถวิ่งหนีออกไปได้ แบบนั้นความขัดแย้งก็จะลดน้อยลงเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้แล้ว หลังจากนี้ถ้ามีฝนมีหิมะตกตลอดจนอากาศหนาวในตอนกลางคืน ลูกสัตว์ป่าก็จะสามารถกลับเข้าไปในฟาร์มได้เองอีกด้วย
ซ่อมแซมฟาร์มเลี้ยงสัตว์ได้ง่ายมากๆ ใช้เหล็กเส้นเชื่อมกันเป็นรั้ว ตัดด้านล่างให้มีขนาดเล็กกว่าครึ่งหนึ่ง ก็ออกมาเป็นประตูขนาดเล็กแล้ว
ประจวบเหมาะพอดี ผ่านไปแค่วันสองวัน แม่หมูเบอร์กเชียร์ที่ตั้งท้องก็คลอดลูกหมูออกมาแล้ว มีทั้งหมดสองครอก ครอกหนึ่งสิบสี่ตัวอีกครอกสิบห้าตัว เป็นลูกหมูสีดำเงาวาวทั้งหมด
โดยทั่วไปแล้ว แม่หมูที่คลอดลูกครอกแรกจะมีลูกค่อนข้างน้อย แต่ว่าหมูพันธุ์ท้องถิ่นจะมีความสามารถให้การออกลูกที่ดีกว่าหมูที่เกิดจากหมูมียี่ห้อ เนื่องจากพวกมันเติบโตได้ช้า เลยต้องรักษาขนาดของเผ่าพันธุ์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์ ดังนั้นพวกมันจึงต้องมีความสามารถในการแพร่พันธุ์ที่แข็งแกร่ง
แม่หมูเริ่มคลอดในตอนกลางคืน ขณะที่กำลังเข้าเวรยามแบล็คไนฟ์ได้ยินเสียงแม่หมูร้องเสียงดัง เขานึกว่ามีสัตว์ป่าบุกเข้ามา จึงถือปืนวิ่งเข้าไปหา หลังจากนั้นก็ได้เห็นลูกหมูสีดำหลายตัวที่กำลังนอนดิ้นร้องฮึมฮัมๆ อยู่บนกองฟาง
แบล็คไนฟ์บอกให้ฉินสือโอวรู้แล้ว เหมือนกับว่านัดกันไว้ แม่หมูดำทั้งสองตัวถึงได้คลอดลูกออกมาพร้อมกัน เมื่อเป็นแบบนี้งานของฉินสือโอวก็เริ่มยุ่งขึ้นมาแล้ว เขาเตรียมซุปปลาไว้ให้แม่หมู เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายให้กับพวกมัน
ทำงานตั้งแต่ห้าทุ่มมาเรื่อยๆ จนพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ลูกหมูครอกหนึ่งถึงจะคลอดออกมาได้สำเร็จ
ในตอนนี้แม่หมูกินแค่ซุปอย่างเดียวก็อิ่มท้อง มีปริมาณน้ำนมเพียงพอ เหล่าลูกหมูเข้ามารวมกันอยู่ใต้ท้อง แล้วดูดนม ‘จ๊วบๆๆ’
“เป็นภาพที่น่ารักมากๆ” เชอร์ลี่ย์ที่พอตื่นนอนแล้วก็รีบวิ่งมาดูลูกหมูพูดขึ้นมาว่า “ลูกหมูน่ารักมาก ไม่ขี้เหร่ ไม่สกปรกเหมือนหมูที่โตแล้ว”
ที่จริงหมูบ้านพวกนั้นไม่ได้สกปรก ฉินสือโอวเปิดคูน้ำเล็กๆ ให้ไหลผ่านฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วงจะมีน้ำไหลอย่างไม่ขาดสาย พวกมันจะหาวิชพืชในน้ำกับงมปลางมกุ้งตัวเล็กๆ ขึ้นมากิน ซึ่งก็เท่ากับว่าพวกมันได้อาบน้ำตลอดทั้งวัน
ขณะที่ฉินสือโอวมองดูลูกหมูพวกนี้ ในใจของเขารู้สึกปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างมาก ต่อไปนี้นับว่ามีหมูให้ทานแล้ว
กอร์ดอนแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เขากลืนน้ำลายพร้อมกับถามว่า “พวกเราควรจะฉลองเรื่องนี้สักหน่อยไหม?”
“ฉลองยังไง?” มิเชลถาม “จัดปาร์ตี้เหรอ? แต่พวกเราจะเข้าร่วมงานด้วยไม่ได้นะ เพราะพวกเราดื่มเหล้าไม่ได้”
กอร์ดอนหัวเราะเหอะๆ ตอบกลับไปว่า “จัดปาร์ตี้กับผีน่ะสิ เพื่อนๆ ให้คุณลุงฮิคสันมาย่างลูกหมูให้กินสักตัวไง แบบนี้ถึงใช่หมูหัน ใช่ไหม ฉิน?”
เชอร์ลี่ย์รีบเข้ามาดึงหูกอร์ดอนไว้ด้วยความรวดเร็ว แล้วพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “ทำไมต้องเป็นนายที่พูดอะไรแบบนี้ให้เสียบรรยากาศทุกครั้งเลย? กอร์ดอน นายมีความสามารถพิเศษในการทำให้คนรู้สึกสะอิดสะเอียนได้ในพริบตาเดียวใช่ไหม?”
“นี่เรียกว่ารัศมีแห่งการเสียดสี ตอนเล่นเกมฉันก็เคยใช้สกิลนี้มาก่อน ค่าความเกลียดของมอนสเตอร์รุนแรงมาก” ชาร์คจูเนียร์มองดูที่ผิดรูปผิดร่างของกอร์ดอนพร้อมทั้งพูดอย่างคึกคะนอง
กอร์ดอนขอให้วินนี่ช่วยผดุงความยุติธรรม วินนี่จึงเขกมะเหงกเขาหนึ่งครั้งอย่างจนปัญญา เชอร์ลี่ย์ส่งสายตาเตือนให้เขาระวังตัว หลังจากนั้นถึงได้ยอมปล่อยหูของเขา
เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกหมูถูกหมูป่ากับฝูงกวางเผลอเหยียบตาย ฉินสือโอวจึงแยกพวกหมูบ้านออกมา และยังป้อนซุปปลาให้แม่หมูกินอีกด้วย
ซุปปลาช่วยเสริมสร้างร่างกายได้มาก ออกลูกในฤดูหนาวจะทำให้แม่หมูได้รับบาดเจ็บค่อนข้างมาก หมูสองตัวนี้เพิ่งจะออกลูกครอกแรก คาดว่าน่าจะมีน้ำนมไม่เพียงพอ กินซุปปลาเพื่อบำรุงร่างกายจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
แคนาดามีการควบคุมสัตว์ที่เคร่งครัดมาก ในฟาร์มปลามีลูกหมูเกิดมาสองครอก ฉินสือโอวต้องรายงานไปยังสำนักตรวจสอบโรคของนครเซนต์จอห์น พวกเขาลองมาตรวจสอบดูแล้ว เมื่อเห็นว่าหมูพวกนี้ไม่มีความสามารถที่จะแพร่กระจายเข้าไปในป่าถึงสามารถเพาะพันธุ์ต่อไปได้
ทำงานมาแล้วครึ่งสัปดาห์ ฟาร์มถึงเพิ่งจะซ่อมเสร็จ ฝูงกวางกับฝูงหมูป่าถูกต้อนเข้าไปขังไว้แล้ว ต่อไปนี้จะไม่สามารถออกไปก่อกรรมทำชั่วข้างนอกได้อีก
ลูกหมูกับลูกกวางออกปฏิบัติการอย่างไม่พลาด หลังจากถูกขังไว้พวกมันก็มุดออกมาจากประตูเล็กทันที พวกมันเสพติดการกินผักสดในสวนแล้ว หลังจากออกมาก็พากันวิ่งกระหืดกระหอบด้วยความดีใจออกไปทันที
สิ่งที่รอต้อนรับพวกมันอยู่คือเครื่องบินบก หลังจากที่พบว่าอาณานิคมของตัวเองถูกหยามเกียรติปอหลัวก็รู้สึกโมโหมาก พลั่วที่อยู่บนหัวบินขึ้นด้านบนครั้งแล้วครั้งเล่า เชิญให้บรรดาลูกหมูป่ากับลูกกวางได้เพลิดเพลินกับความสนุกสนานจากการบินฟรีๆ
อีกทั้งเบิร์ดยังพูดถูก ลูกหมูกับลูกกวางไม่มีฟันที่แหลมคมหรือเขาขนาดใหญ่ที่จะนำมาฉีกผ้าใบพลาสติกให้เปิดออก ความอันตรายของพวกมันต่อสวนผักมีอยู่น้อยมาก
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ฉินสือโอวกับเออร์บักก็ได้พาคนอื่นๆ มาช่วยกันลงแรงครั้งใหญ่เพื่อจัดการสวนผักที่มีสภาพเละเทะให้กลับมาเป็นระเบียบอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฉินสือโอวเป็นหวัดครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ที่แคนาดา
อุณหภูมิข้างในและข้างนอกโรงเรือนเพาะปลูกแตกต่างกันเกินไป ฉินสือโอวต้องเข้าๆ ออกๆ อยู่หลายครั้ง เมื่ออยู่ด้านในมักจะมีเหงื่อออกทั่วทั้งตัวแล้วอยู่ๆ ก็ต้องออกไปรับปะทะกับอากาศหนาวด้านนอกเป็นประจำ หลังจากนั้นไม่กี่ครั้ง เขาก็ต้านทานการโจมตีของไวรัสไม่ไหว จนทำให้ต้องเป็นหวัด!
ฉินสือโอวเริ่มรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายของเขาไร้ซึ่งเรี่ยวแรงตั้งแต่ช่วงพลบค่ำ กระดูกอ่อนยวบ แถมมือและเท้าก็ยังรู้สึกชา ในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจ เพราะตั้งแต่หลังจากได้รับการปรับเปลี่ยนจากพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน เขาก็คิดว่าตัวเองทนทานต่อสารพัดโรค
แต่พอถึงช่วงดึก วินนี่กลับเริ่มมีไข้ก่อนเขา ส่วนตัวเขาก็รู้สึกคัดจมูกหายใจไม่สะดวก จึงรีบวัดอุณหภูมิร่างกาย พอตรวจวัดถึงได้รู้ว่าแย่แล้ว วินนี่มีไข้สูงถึง 38 องศา เขาก็เริ่มมีไข้เล็กน้อยแล้วเหมือนกัน!
……………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset