ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 908 หมีทรัฟเฟิล

ฉินสือโอวช่วยตบหลังให้วินนี่พลางมองเธอด้วยสายตาสงสารแล้วพูดขึ้นมาว่า “น่าขยะแขยงมากใช่ไหม?”
วินนี่ไม่ได้อ้วกอะไรออกมา เธอถลึงตาใส่เขาแล้วพูดขึ้น “เด็กโง่ นี่เขาเรียกว่าแพ้ท้อง!”
ฉินสือโอวไม่เชื่อหรอก เพราะวินนี่ท้อง ตัวเขาเลยแทบจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชวิทยาไปครึ่งหนึ่งแล้ว แพ้ท้องเป็นอาการช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ อย่างมากสี่เดือนก็จะหายสนิท วินนี่ไม่ค่อยจะเคยแพ้ท้องเท่าไร ตอนนี้จะแพ้ท้องได้ไง?
พอเป็นเรื่องของตัวเองก็กังวล เดิมทีการอ้วกเล็กน้อยก็ไม่มีอะไร ฉินสือโอวห่วงว่าจะเกี่ยวกับไวรัสไข้หวัด อย่างไรเสียตอนนี้ภูมิคุ้มกันของวินนี่ก็อ่อนแอมาก เขาจะพาวินนี่ไปตรวจกับโอดอมสักหน่อย
วินนี่ล่ะอับจนคำพูด เธอบอกว่าไม่มีอะไรก็อย่าไปรบกวนหมอเขาเลย
ปรากฏว่าวินนี่มีอาการคลื่นไส้ทั้งคืน แต่แค่ทำท่าอ้วก ไม่ได้อ้วกอะไรออกมา แล้วก็ไม่อยากอาหาร แค่กินนมไขมันต่ำเข้าไปก็ขึ้นเตียงไปพักผ่อน
ฉินสือโอวกังวลทั้งคืน ตอนกลางวันเขาเห็นวินนี่ไม่ค่อยร่าเริงก็เลยพาไปตรวจดูที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ในนครเซนต์จอห์น อย่างไรเขาก็เป็นลูกค้าวีไอพีของโรงพยาบาลใหญ่ต่างๆ ในอเมริกาเหนือ สามารถลัดคิวได้
ตอนที่ผ่านธนาคารมอนทรีออล ฉินสือโอวไม่ค่อยมีเงินสดเหลือกับตัวแล้ว เดี๋ยวตอนไปโรงพยาบาลจะซื้ออะไรอาจต้องใช้เงินสด เขาก็เลยหยุดรถเพื่อที่จะกดเงิน
ตอนนั้นเองวัยรุ่นสวมเสื้อแจ็กเกตหนังสี่ห้าคนก็เดินตรงเข้ามา ตอนที่เดินมาถึงหน้าประตูธนาคารต่างก็สบตากัน แล้วจู่ๆ ก็ไอออกมากันทุกคน
ฉินสือโอวที่กำลังจะลงจากรถล็อกประตูรถในทันที วินนี่เอ่ยถาม “เป็นอะไรไปคะ?”
ฉินสือโอวชี้ไปที่วัยรุ่นห้าคนนั้นแล้วพูดน้ำเสียงปนเครียด “คุณดูสิ จู่ๆ พวกเขาก็ไอที่หน้าประตู จะเป็นสัญญาณอะไรหรือเปล่า พวกปล้นธนาคารอะไรแบบนี้?”
วินนี่เอ่ยด้วยความตะลึง “ล้อเล่นหรือเปล่า ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้งคะ?”
การรักษาความปลอดภัยในแคนาดาจะแย่ที่สุดในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะก่อนหิมะตกกับตอนหิมะตก แคนาดากว้างใหญ่คนน้อย หลังการปล้นถ้ามีหิมะตก งั้นก็หาร่องรอยของโจรได้ยาก
วัยรุ่นทั้งห้าคนเดินเข้าไปในธนาคาร ทุกอย่างปกติ ฉินสือโอวยักไหล่แล้วพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด “ตอนนี้ผมอยู่กับคุณ ความรู้สึกเลยไวไปหมดเลย”
วินนี่พูดอย่างจนใจ “คุณช่วยทำตัวปกติสักทีเถอะค่ะ ฉันยังไม่อยากประสาทกินตามคุณไปด้วยนะคะ!”
แต่หลังจากนั้นมีอีกหลายคนที่ผ่านมาซึ่งก็ไอตรงหน้าประตูธนาคาร ดูสีหน้าเหยเกมาก ฉินสือโอวเปิดลิ้นชักหน้ารถหาของ วินนี่ถามเขาว่าหาอะไร เขาตอบว่าหาคู่มือรถ
วินนี่ถามด้วยความแปลกใจ “คุณหาหนังสือคู่มือไปทำไมคะ?”
ฉินสือโอวตอบ “ผมจำได้ว่าตอนที่ซื้อรถ คนขายบอกว่าฟังก์ชันการฟอกอากาศของรถคันนี้สามารถกรองไวรัสกับแบคทีเรียได้”
วินนี่งง แบมือไปข้างตัวแสดงออกว่าเธอไม่เข้าใจ
ฉินสือโอวทำสีหน้าจริงจังแล้วชี้ไปที่คนที่ไออยู่ด้านนอกแล้วพูดขึ้น “คุณดูสิ พวกเขาเดินมาถึงตรงนี้ก็ไอ อาจจะมีพวกแหล่งแพร่เชื้อไวรัสที ไวรัสแบล็คไลท์อยู่แถวนี้หรือเปล่า? ผมต้องปกป้องคุณ”
วินนี่หัวเราะออกมาแล้วเอ่ยปาก “ก็ได้ ถ้าคุณจะทำให้ฉันขำ คุณทำสำเร็จแล้ว”
ฉินสือโอวพูดจริงจัง “ผมไม่ได้ล้อเล่น…”
“อย่ายั่วให้ฉันตีคุณนะคะ! ฉันไม่ปรานีพวกประสาทหรอก!” วินนี่พูดแทรกเขาพลางกัดฟันกรอด
ฉินสือโอวถอนหายใจลงจากรถไปกดเงิน พอเดินออกไปได้ไม่เท่าไรเขาเองก็ไอออกมาจึงรีบร้อนวิ่งกลับไป
วินนี่กลัวขึ้นมาเล็กน้อย เธอรีบเปิดประตูรถแล้วตะโกนออกมา “เป็นอะไรไปคะที่รัก? มีไวรัสอะไรจริงๆ เหรอคะ?”
ฉินสือโอวบ่น “ไม่ใช่ ให้ตายเถอะ ผมกลับมาก็เพื่อบอกคุณว่าอย่าลงจากรถ! ข้างๆ มีร้านอาหารอินเดียอยู่ ที่เขาทำน่ะมันอาหารอินเดียไม่ใช่เสฉวนสักหน่อย ทำเผ็ดขนาดนี้เพื่ออะไรกัน?!”
วินนี่อดขำไม่ได้ เธอหัวเราะร่าโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์
พอไปตรวจที่โรงพยาบาล สุขภาพของวินนี่ไม่ได้เป็นอะไร หมอบอกว่านี่ก็คือการแพ้ท้อง ฉินสือโอวถามอย่างสับสนว่าการแพ้ท้องจะหมดตั้งแต่ระยะสี่เดือนไม่ใช่เหรอ? หมอถามเขาว่าไปรู้มาจากไหน ฉินสือโอวตอบว่าแน่นอนว่าจากกูเกิล
คุณหมอถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วเอ่ย “อย่าไปหาข้อมูลทางการแพทย์ทั่วไปบนกูเกิลโอเคไหม? ถ้ากูเกิลมีประโยชน์จริงจะมาโรงพยาบาลทำไม? การแพ้ท้องไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงไหนอย่างแน่ชัด ในช่วงไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์มีคนที่มีอาการแบบนี้ไม่น้อย นี่ก็มีส่วนเกี่ยวกับสภาพร่างกายของคุณแม่ด้วย”
ขากลับที่ข้อมือของวินนี่ก็มีสายรัดข้อมือมาด้วย สายรัดข้อมือป้องกันอาการคลื่นไส้
สายรัดข้อมือป้องกันอาการคลื่นไส้เป็นของที่ใช้บรรเทาอาการอาเจียนที่เป็นที่นิยมอย่างมากในยุโรปและอเมริกา หลักการคือมันจะบรรเทาอาการแพ้ท้องโดยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางผ่านการกระตุ้นจุด สามารถป้องกันการเมาเรือได้ด้วย
จ่ายไปหนึ่งร้อยห้าสิบแคนาดาต่อหนึ่งอัน ฉินสือโอวเอาสายรัดมาผูกไว้ที่ข้อมือเธอแน่น ปุ่มกระตุ้นบนสายรัดก็กดลงบนจุดตรงข้อมือด้านใน เห็นว่าแบบนี้จะยับยั้งส่วนที่ควบคุมการอาเจียนในสมองได้
หลังจากที่ใส่สายรัด วินนี่พักครู่หนึ่งก็พยักหน้าให้ฉินสือโอว บอกว่ารู้สึกดีขึ้นมาก ฉินสือโอววางใจได้แล้ว แม้เขาจะรู้ว่าสิ่งนี้ไม่มีทางเห็นผลไวแบบนี้ วินนี่แค่อยากให้เขาสบายใจเลยพูดออกมาแบบนั้น
พอกลับไปที่วิลล่า ฉินสือโอวเห็นเบิร์ด แบล็คไนฟ์ และทหารอีกสองสามคนกำลังล้อมฉงต้าทำอะไรบางอย่าง เขาเข้าไปถามอย่างแปลกใจ “พวกนายทำอะไรอยู่? เป็นไข้หวัดหายกันหมดแล้วเหรอ? หายแล้วก็ไปออกทะเล ไปจับปลาโอแถบกับปูราชินีกัน!”
แบล็คไนฟ์ทำท่าเคารพแบบทหารอเมริกัน ฉินสือโอวบอกว่าตามระเบียบพัก จากนั้นแบล็คไนฟ์ก็พูดยิ้มๆ “เบิร์ดกำลังฝึกฉงต้า อยากจะฝึกให้มันเป็นหมีทรัฟเฟิล”
“หมีทรัฟเฟิล? คืออะไร?” ฉินสือโอวถามอย่างประหลาดใจ
เบิร์ดอธิบายให้เขาฟัง ทรัฟเฟิลจะโตแค่ในธรรมชาติเท่านั้นแถมยังไม่มีกฎการอยู่รอดตายตัวด้วย นั่นจึงทำให้ต้องการผู้ช่วยในการเก็บทรัฟเฟิล
ที่ฝรั่งเศสคนมักจะชินกับการเอาหมูตัวเมียมาเป็นผู้ช่วยมือดีในการเก็บทรัฟเฟิลดำ ประสาทดมกลิ่นของหมูตัวเมียไวมาก แล้วยังไวต่อกลิ่นของทรัฟเฟิลมากด้วย เพราะกลิ่นของสิ่งนี้คล้ายกับแอนโดรสเตนอลที่กระตุ้นการสืบพันธุ์ในหมูตัวเมีย
ว่ากันว่าหมูตัวเมียสามารถได้กลิ่นทรัฟเฟิลที่ฝังอยู่ใต้ดินลึก 25 ถึง 30 เซนติเมตรจากจุดที่ห่างไปมากกว่า 6 เมตร จากนั้นก็ขุดขึ้นมากิน
แต่ที่อิตาลี คนจะชอบใช้หมาล่าเนื้อตัวเมียที่ผ่านการฝึกเพื่อมาหาทรัฟเฟิล หมาล่าเนื้อมักจะใช้อุ้งเท้าทำเครื่องหมายไว้ตรงจุดที่มีทรัฟเฟิลเพื่อรอจนเจ้านายมา แล้วใช้คราดอันเล็กขุดเอาทรัฟเฟิลแสนหายากออกมาจากดินอย่างระมัดระวัง
ฉินสือโอวเกาหัวแล้วเอ่ยปาก “แล้วไง?”
“ประสาทดมกลิ่นของหมีดีกว่าหมาแล้วก็หมูตัวเมีย ถ้าสามารถฝึกฉงต้าได้ งั้นเราก็ให้มันขึ้นเขาไปหาทรัฟเฟิลได้แล้ว มันแพงยิ่งกว่าทองตั้งเยอะ ปอนด์หนึ่งขายได้เป็นหมื่นดอลลาร์เลยนะครับ!” เหล่าทหารรับจ้างพูดอย่างอารมณ์ดี
“ใช่ เรารีบฉวยโอกาสตอนนี้ที่ทรัฟเฟิลยังไม่เน่าขึ้นเขาไปขุดออกมา โอกาสทองแบบนี้ พระเจ้าส่งมาให้ตรงหน้าแล้วเราจะปล่อยไปไม่ได้ ไม่ใช่เหรอครับ?”
ทรัฟเฟิลเป็นราชนิดที่แปลกมาก มันมีขนาดไม่แน่นอน มีตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าเมล็ดถั่วเหลืองไปจนใหญ่เท่ากำปั้น แต่นี่ก็ไม่เกี่ยวกับอายุเลย เพราะวงจรชีวิตของพวกมันมีเพียงหนึ่งปี เติบโตไปตามความเปลี่ยนแปลงของทั้งสี่ฤดู
โดยทั่วไปแล้วทรัฟเฟิลดำมักจะเข้าสู่ช่วงสุกงอมในเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมีนาคมของอีกปี หลังจากนั้นก็จะสุกเกินไป จากนั้นทรัฟเฟิลก็จะเน่าแล้วย่อยสลายไป
………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset