ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 921 อยากเป็นนายกเทศมนตรีไหม

“นี่เป็นผลงานศิลปะที่จัดทำโดยจิตรกรชาวจีนนามว่าคุณหลิวเฉิงจง ผลงานมีชื่อว่า ‘พื้นที่บริเวณรอบแม่น้ำในเทศกาลชิงหมิง’ เป็นการเกิดใหม่ของชีวิตในสมัยราชวงศ์ซ่ง ได้รับการขนานนามว่าเป็นสารานุกรมของราชวงศ์ซ่ง ราคาประมูลเริ่มต้นอยู่ที่ 4,500 ดอลลาร์แคนาดา…” ชายสวมถุงมือขาวพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
หลังจากที่เสียงเขาเงียบลง ฉินสือโอวชูแผ่นพับในมือขึ้น “4,600 ดอลลาร์แคนาดา”
แฮมเล็ตพิจารณาอยู่สักพัก แล้วพูดขึ้นว่า “ราชวงศ์ซ่งเป็นราชวงศ์ที่เก่าแก่มากใช่ไหม? ภาพนี้เป็นของปลอมหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวยิ้ม “แน่ล่ะว่าเป็นของปลอม ภาพของจริงตอนนี้ไม่สมบูรณ์แบบแล้ว ถ้าหากเป็นภาพวาดของแท้ จะมีราคาแค่ 4,500 ดอลลาร์แคนาดาได้อย่างไรกัน มากกว่า 45 ล้านดอลลาร์แคนาดาด้วยซ้ำ! เพราะเป็นสมบัติประจำชาติของพวกเรา!”
เขาคิดที่จะประมูลของชิ้นนี้เพราะที่วิลล่าขาดของประดับบ้าน มีเพียงซากดึกดำบรรพ์ที่น่ากลัวอยู่จำนวนหนึ่ง ภาพ ‘พื้นที่บริเวณรอบแม่น้ำในเทศกาลชิงหมิง’ ใหญ่พอดีและยังสวยด้วย ดังนั้นถ้าเอาไปแขวนเป็นของตกแต่งบ้านก็ไม่เลวเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นภาพวาดนี้ถูกคัดลอกโดยคนชาติเดียวกันที่มีชื่อว่า หลิวเฉิงจง ถึงแม้ว่าจะเป็นของปลอม แต่ก็ไม่ใช่ของที่ทำออกมาลวกๆ จากโรงงาน ดังนั้นจึงน่าจะมีมูลค่าทางศิลปะอยู่
ผู้คนส่วนมากที่มางานประมูลมาจากครอบครัวที่สุขสบาย พวกเขามาเพื่อแสดงจิตใจที่มีเมตตา พร้อมกับดูไปด้วยว่าจะเจอของถูกใจหรือเปล่า
ซึ่งโบราณวัตถุและงานศิลปะของจีน เป็นตัวชี้วัดของสะสมบนโลกใบนี้เสมอ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลาย ๆ คนให้ความสนใจกับภาพม้วนที่มีขนาดยาวนี้มากทีเดียว
ดังนั้น จึงมีคนยกมือขึ้นเสนอราคาอย่างต่อเนื่อง ราคาสูงขึ้นตลอด จาก 4,500 ขึ้นเป็น 8,000 อย่างรวดเร็ว สร้างสถิติราคาใหม่ ณ ตอนนี้
ฉินสือโอวยังคงยกมืออย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่เขาอยากจะได้ภาพนี้ พอราคาถึง 8,000 ดอลลาร์แคนาดาก็ไม่ค่อยมีใครประมูลแข่งกับเขาแล้ว หลายคนส่ายหน้ายอมแพ้ไม่เอาภาพนี้
ท้ายที่สุด ภาพวาดมีราคาสูงถึง 9,200 ดอลลาร์แคนาดา ฉินสือโอวจึงเพิ่มไปเป็น 10,000 ดอลลาร์แคนาดา คู่แข่งที่เหลืออยู่ท่านหนึ่งยักไหล่แล้วยอมแพ้ ไกอาพยักหน้าให้เขา ยินดีที่เขาประมูลภาพนี้ได้
ชายสวมถุงมือขาวใช้ค้อนในมือเขาตีลงไปที่โต๊ะ โอเค ตกลงที่ราคา 10,000 ดอลลาร์แคนาดา
คนที่อยู่ข้างฉินสือโอวทั้งซ้ายและขวาจับมือกับเขา ซึ่งครั้งนี้ไม่ได้เป็นการแสดงความยินดี แต่เป็นการขอบคุณที่เขาบริจาคเพื่อการกุศล
หลังจากที่งานประมูล ‘พื้นที่บริเวณรอบแม่น้ำในเทศกาลชิงหมิง’ เสร็จสิ้นลง งานประมูลก็หยุดลงชั่วคราว ทุกคนจึงพักผ่อน
แฮมเล็ตตบไปที่ไหล่ฉินสือโอวสื่อให้เขาตามเข้าไปที่ห้องสวดมนต์เล็กๆ ห้องหนึ่งที่สามารถนั่งได้แค่สองคน หลังจากนั้นท่านนายกเทศมนตรีก็ถามตรงๆ เลยว่า “ยังจำคำสัญญาที่ฉันให้นายก่อนจะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีได้ไหม?”
แน่นอนว่าฉินสือโอวจำได้ เขายิ้มแล้วพูดว่า “ให้เกาะแฟร์เวลกลายเป็นเกาะส่วนตัวของผม?”
แฮมเล็ตแก้คำพูด “ไม่ได้กลายเป็น แต่ความหมายคล้ายๆ กัน”
ฉินสือโอวยักไหล่เพื่อบอกว่าเขาเข้าใจ “แน่นอนว่าผมจำได้ แล้วคุณจะมีวิธีอย่างไรเหรอ? ขายสิทธิ์ให้กับผมเหรอ?”
แฮมเล็ตยิ้ม “เวลาที่นายใช้ชีวิตบนเกาะก็ยาวนานพอแล้ว น่าจะรู้จักเกาะเล็กๆ นี้ดีทีเดียว ใช่ไหม?”
“ในความเป็นจริงแล้วเกาะแฟร์เวลเป็นเหมือนโลกใบเล็กๆ ที่แยกออกมาจากผืนแผ่นดินอย่างเป็นเอกเทศ ประชากรที่อยู่อาศัยก็สนใจแต่ชีวิตของตัวเอง พวกเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องการเมือง การทหาร เศรษฐกิจของประเทศหรือแม้แต่ระดับจังหวัดและเทศบาลเลยสักนิดเดียว”
“ฉันเป็นนายกเทศมนตรี แน่นอนว่าฉันรับรู้สิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่า ตอนที่ฉันอยู่บนเกาะก็รู้สึกว่าเกาะนั้นก็เหมือนเป็นเกาะของฉัน เพราะเหตุนี้ฉันถึงพยายามที่จะพัฒนามันและสร้างมันให้ดีขึ้น”
“ถ้าอยากจะครอบครองเกาะนี้ ฉิน ฉันจะให้คำแนะนำนายอย่างหนึ่ง นายต้องกลายเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองเล็กนี้ก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ลงทุนธุรกิจทุกอย่างในเกาะ ตามที่ฉันรู้นายก็ทำแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? สุดท้ายเมื่ออำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจของเกาะเป็นของนายอย่างสมบูรณ์แบบ ก็ไม่เท่ากับว่าเกาะนั้นเป็นของนายแล้วหรอกเหรอ?”
“นายอยากเป็นนายกเทศมนตรีไหม? สิ่งนี้ต้องให้ประชาชนเป็นผู้เลือก แต่ฉันมีอำนาจในการเสนอชื่อ ฉันเชื่อว่าถ้าฉันเสนอชื่อนายเป็นนายกเทศมนตรี นายก็ต้องเป็นนายกเทศมนตรีอย่างแน่นอน!”
พอแฮมเล็ตพูดจบยกใหญ่ ฉินสือโอวรวบรวมสมาธิขึ้นมา เขามองไปที่แฮมเล็ตอย่างสงสัย “คุณจริงจังเหรอครับ?”
“แน่นอน ฉันกำลังทำตามสัญญากับผู้สนับสนุนทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของฉัน แน่นอนว่าต้องพูดอะไรจริงจังสักหน่อย!”
ฉินสือโอวลูบมือของเขา มองตรงไปที่แฮมเล็ต “ทำไมผมถึงมีความรู้สึกว่า พวกเรากำลังร่วมมือกันทำเรื่องเลวร้ายเตรียมการที่จะช่วงชิงอำนาจอะไรสักอย่าง?”
“เมื่อวานนายคงดู เรื่อง ‘มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล’ ‘เกมอำนาจ’ ‘ฝ่าวิกฤติวินาศกรรมทำเนียบขาว’ หนังเรื่องพวกนี้หรือไง? บ้าจริงๆ ฉิน พวกเรากำลังวางแผนเพื่อที่จะพัฒนาหมู่บ้านแฟร์เวลนะ ช่วงชิงอำนาจอะไรกัน!” แฮมเล็ตแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา
ที่จริงแล้ว ความคิดที่แฮมเล็ตเสนอออกมา ถูกใจฉินสือโอวมาก!
เขาไม่ได้สนใจตำแหน่งนายกเทศมนตรีของแฟร์เวลอะไรเลยสักนิด แต่ถ้าเขาสามารถควบคุมอำนาจทางการเมืองได้ จากนั้นก็ทะลุทะลวงเศรษฐกิจ ท้ายสุดเกาะแฟร์เวลก็จะกลายเป็นเกาะส่วนตัวของเขาจริงๆ
แน่นอนว่า คนในเมืองควรใช้ชีวิตอย่างไรก็ใช้แบบนั้น พวกเขาสามารถหาเงินได้มากกว่าเดิม เพราะว่าการทะลุทะลวงเศรษฐกิจของฉินสือโอวไม่ใช่แค่การควบรวบหรือตัดทอนธรรมดา แต่คือการร่วมลงทุน!
ก็เหมือนกับที่เขาและฮิวจ์คนน้องร่วมกันทำร้านขายของชำ เขากับซาโกรร่วมกันเปิดร้านขายปืนแบบนั้น คนในหมู่บ้านส่วนมากไม่ได้มีเงินเยอะแยะอะไร เขาถึงสามารถอัดฉีดเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจได้
ฉินสือโอวกล่าวด้วยความกระวนกระวายใจ “ผมสนใจ วิลเลียม แต่ผมมีคุณสมบัติลงเป็นนายกเทศมนตรีเหรอ?”
แฮมเล็ตชี้นิ้วชี้ขึ้นมา “เพียงแค่หนึ่งปี สภาพแวดล้อมทางการเมืองของนิวฟันด์แลนด์ก็จะผ่อนคลายมากที่สุด ขอแค่ย้ายไปอยู่ที่นั่นครบหนึ่งปี ก็จะสามารถร่วมลงสมัครตำแหน่งนายกเทศมนตรีได้”
“ถ้าอย่างนั้นหลังจากงานประมูล เรามานั่งคุยรายละเอียดกันอีกที” ฉินสือโอวพูดอย่างมีความหวัง
แรงดึงดูดของอำนาจนั้นมีมาก ฉินสือโอวไม่ได้หลงใหลในอำนาจ แต่เขามีจิตสำนึกของชาวนาอย่างแรงกล้า ซึ่งสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขา ชาวจีนส่วนมากที่ครอบครัวเป็นเกษตรกรต่างก็มีความหวังว่าจะมีผืนดินที่เป็นของตัวเอง
จริงๆ แล้วก็คือฉินสือโอวรู้สึกไม่ปลอดภัย เขากังวลว่าหากภายหลังมีนายกเทศมนตรีที่ไม่กินเส้นกับเขามาที่เกาะแฟร์เวล ถ้าอย่างนั้นก็คงปวดหัวน่าดู เงินทุนที่เขาลงไปในฟาร์มปลาเยอะเกินไปแล้ว จึงจำเป็นจะต้องรับประกันว่าจะมีสิทธิ์สมบูรณ์แบบในฟาร์มปลา
เวลาพักสิบห้านาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉินสือโอวกลับไปที่โบสถ์ การประมูลต่อจากนั้นเขายังคงยกป้ายประมูลอย่างต่อเนื่อง เขาให้ราคาที่ไม่เลวและได้ของที่คิดว่าคงไม่ได้ใช้มาเป็นกอง
ของประมูลชิ้นสุดท้าย มีชื่อว่า ‘เจ็ดวันปริศนา’ ชายสวมถุงมือขาวหยิบไข่มุกดำที่งดงามเจ็ดเม็ดที่ฉินสือโอวเอามา ใช้คำพูดสวยหรูบรรยายพร้อมกับชื่นชมมัน หลังจากนั้นก็แนะนำชื่อผู้บริจาค ฉินสือโอว
ไข่มุกดำเจ็ดเม็ดถูกถ่ายจากมุมต่างๆ และตอนนี้กำลังฉายอยู่บนม่านฉากที่โบสถ์ บนรูปมีรายละเอียดชัดเจน ไข่มุกดำเปล่งประกายเห็นให้ถึงความดำสนิทอันบริสุทธิ์ ในเวลานี้มีแสงประกายอ่อนๆ ปรากฏขึ้นในโบสถ์ทำให้รู้สึกถึงความลึกลับของมันขึ้นมาจริงๆ
ฉินสือโอวลุกขึ้นทักทาย เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วงาน ชายสวมถุงมือขาวบอกว่า “เจ้าของฟาร์มปลาที่เก่งกาจคนนี้  เพียงคนเดียวก็สามารถจัดการงานประมูลนี้ได้ไปถึงครึ่งหนึ่ง พระเจ้าได้โปรดอวยพรให้กับเขา พระเจ้าคุ้มครองเขา! คนดีทุกคนจะถือเขาเป็นแบบอย่าง!”
หลังจากเกริ่นมาพอสมควรแล้ว งานประมูลสุดท้ายก็เริ่มขึ้น ไข่มุกดำเจ็ดเม็ดมีมูลค่ามากที่สุดในบรรดาของประมูลทั้งหมด และราคาก็แพงมากที่สุดด้วย ราคาประมูลเริ่มต้นคือ 100,000 ดอลลาร์แคนาดา แล้วการเพิ่มราคาของการประมูลก็ไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อย แต่เป็นหลักพัน!
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset