ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 929 บินท่ามกลางหิมะ

พอใส่รองเท้าสกีแล้วยืนอยู่บนไม้สกี ทำให้เดินลำบากมาก โดยเฉพาะตอนที่เดินบนหิมะ
กองหิมะบนเนินเขาแห่งนี้ถูกกดด้วยเครื่องอัดหิมะไว้ล่วงหน้าแล้ว พื้นหิมะจึงค่อนข้างแน่นและแข็ง เพราะถ้าเป็นพื้นที่หิมะที่เพิ่งตกลงมาใหม่ๆ ตอนเดินจะยากลำบากมาก
ฉินสือโอวเห็นคนใส่ไม้สกีแล้วเดิน ดูๆ แล้วก็เหมือนเป็ด ด้านหน้าของไม้จะยกขึ้นมา แล้วใช้ไม้สกีส่วนครึ่งหลังในการก้าวเดิน เขาลองเดินไปข้างหน้า หิมะยังมีความนิ่มอยู่ ยังดีว่าเขาเป็นคนรักษาความสมดุลได้ดี พอลองเดินไม่กี่ก้าวจนเริ่มคุ้นชินแล้วก็ทำให้เดินต่อไปง่ายขึ้นแล้ว
มีเงาหนึ่งแวบผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม้สต็อกที่อยู่ในมือก็ปักไปบนหิมะด้านหน้าอย่างเต็มมือ ขาเรียวยาวสองขาก้าวสลับไปมาจนเกล็ดหิมะลอยล่อง แล้วร่างที่ว่องไวก็ค่อยหยุดลง คนนั้นก็คือทิญา
“เทคนิคเยี่ยม” ฉินสือโอวเอ่ยชมด้วยความจริงใจ ท่าทางตอนร่อนบินของสาวน้อยคนนี้มีสไตล์เก๋ ราวกับบุชที่กำลังโบยบินอยู่ มีความรู้สึกงดงามที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและพลัง
ทิญาฉีกยิ้ม “ฉันยังเป็นแค่มือสมัครเล่นเท่านั้นค่ะ แต่ถ้าคุณยินดี ฉันก็สามารถสอนคุณได้นะคะ”
ครูสาวสวยเป็นความฝันของฉินสือโอวมาโดยตลอด เขารอคอยโอกาสนี้มาตลอดตั้งแต่เขาได้ดูซีรี่ย์ดังมาแรงที่ญี่ปุ่น ในที่สุดตอนนี้ก็มีครูสาวสวยมาถึงที่ แถมดูท่าแล้วครูสาวสวยท่านนี้พยายามจะยั่วเขาซะด้วย ถ้าอย่างนั้น เขาปฏิเสธดีกว่า
“ขอบคุณในความหวังดีครับ แต่ผมมีเบิร์ดแล้ว คุณอาจจะไม่รู้นะทิญาว่าเบิร์ดเป็นเด็กหนุ่มที่มีหัวใจเปราะบางมาก ถ้าตอนนี้ผมเปลี่ยนครูสอน เขาอาจจะเสียใจได้ หลังจากนั้นเขาก็จะพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด พระเจ้า ผมรับไม่ได้หรอกนะ” ฉินสือโอวยักไหล่ทำท่าทางแบบช่วยไม่ได้
เบิร์ดก็ยักไหล่เช่นกัน บอสเป็นคนดีจริงๆ เลย
ทิญาก็ไม่ได้รบเร้าอะไรต่อ ยิ้มแล้วก็เหวี่ยงไม้สต็อกเพื่อใช้แรงจากนั้นก็บินร่อนจากไป ขายาวสองข้างภายใต้กางเกงรัดรูปสีแดงเรียวบางแต่ก็สันทัด ราวกับเป็นกวางน้อยที่กระโดดลงไปในลานหิมะ
มีเงาอีกเงาหนึ่งร่อนผ่านเขาไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน แล้วก็เหมือนเช่นเดิมเกล็ดหิมะกระจายไปทั่ว แต่เจ้าหนุ่มนี่ไม่ได้หลบฉินสือโอวอย่างที่ทิญาทำ แต่กลับโอบไหล่เขาตอนที่ร่อนมาอยู่ข้างเขา
ต่อให้เหยียบไม้สกียืนอยู่บนพื้นหิมะ ฉินสือโอวก็ไม่อยากขยับไปไหน เขาจึงทำตัวเหมือนภูเขาไม่ขยับไปไหน เขาคว้าร่างข้างๆ แล้วดึงมาด้านหลัง จนตัวเขาลอยแล้วล้มตุ้บลงไปบนพื้นหิมะ
“โอ้ ชิท ฉินนายมันร้ายกาจ!” ฮิวจ์คนน้องลุกขึ้นจากกองหิมะด้วยสีหน้าบึ้งตึง หิมะเต็มตัวเขาไปหมด
หู่จือและเป้าจือที่นั่งข้างๆ มองฉินสือโอวเรียนเล่นสกีลุกขึ้นมา ผลักฮิวจ์คนน้องที่เพิ่งยืนขึ้นมาให้ล้มกองลงไปอีกครั้งจากด้านหลัง หลังจากนั้นปอหลัวก็วิ่งมา ก้มหน้าแล้วเอาขาท่อนใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนพลั่วล็อกร่างของฮิวจ์คนน้องเอาไว้ พอเงยหน้าขึ้นมา ฮิวจ์คนน้องก็เหมือนกับน้ำเต้าที่กลิ้งไปมาบนพื้น
ชั่วครู่เดียว ฮิวจ์คนน้องก็ยอมแต่โดยดี เขายกมือขึ้นต่อหน้าฉินสือโอวแล้วตะโกนบอกว่า “ช่วยฉันด้วย พี่ชาย เห็นแก่พระเจ้า! เห็นแก่ความเป็นหุ้นส่วนของพวกเราด้วยเถอะ!”
ฉินสือโอวหัวเราะเสียงดัง แล้วก็ผิวปาก หู่จือ เป้าจือและปอหลัววิ่งไปอยู่ข้างกายเขาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ถือซะว่าปล่อยฮิวจ์คนน้องไปสักครั้ง
ฮิวจ์คนน้องลุกขึ้นมา ทั้งตัวเต็มไปด้วยหิมะ เขามองไปที่หู่จือและเป้าจือที่มีชัยพร้อมพูดอย่างเกลียดชังว่า “แม่งเอ๊ย ฉิน ฉันจะต้องแก้แค้น! หมาบ้านนายหยิ่งเกินไปละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อคอเคเซียนหรือไม่ก็พิตบูลมาสักตัว ต้องทำให้หมาของนายเดือดร้อนได้แน่!”
ฉินสือโอวขู่ว่า “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ฉันจะปล่อยหมา ให้วันพรุ่งนี้นายนอนได้แค่บนเตียงที่โรงพยาบาลโอดอม”
พอได้ยินคำพูดประโยคนี้ ฮิวจ์คนน้องรีบยิ้มให้ โบกมือแล้วบอกว่า “อย่าๆๆ นะ ฉิน ล้อเล่น ฉันชอบล้อเล่นนายไม่รู้หรอกเหรอ? โอเค เรามาพูดประเด็นหลักกันดีกว่า สาวสวยคนนี้มาจากไหนเหรอ? ว้าว เธอเซ็กซี่จริงๆ!”
ฉินสือโอวมองไปที่ทิญา แล้วพูดขึ้น “เธอเป็นนักเทคนิคลับที่ฉันจ้างมา ทำไมเหรอ?”
ฮิวจ์คนน้องตาเป็นประกาย เขาถามอย่างตื่นเต้นว่า “เธอทำบัญชีหรือเปล่า? ใช่ที่จะไปดูแลบัญชีร้านขายของชำของพวกเราไหม?”
ฉินสือโอวหัวเราะ “ฝันไปเถอะ แม่ง อย่าแม้แต่จะคิดเลย! บัญชีของนายฉันก็หาได้แล้ว เป็นคุณลุงวัยกลางคน!”
“เชี่ย!”
“หู่จือเป้าจือไปกัดเขาเลย!”
หู่จือและเป้าจือมีท่าทีที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ฮิวจ์คนน้องดูสถานการณ์แล้วไม่น่าจะดี ไม้สต็อกที่อยู่ในมือพลันยกขึ้น แล้วจึงร่อนลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว
คนอื่นๆ ก็เริ่มเล่นสกีกัน คนส่วนมากเล่นด้วยความเร็วไม่มาก เพราะเป็นมือใหม่กันทั้งนั้น จึงเห็นได้ชัดเลยว่าปกติแล้วโอกาสในการเล่นสกีมีไม่มาก แต่ที่เล่นสกีเป็นครั้งแรกแบบฉินสือโอวกลับมีน้อยมาก
เบิร์ดขึ้นมาสอนท่าทางและทักษะการเล่นสกีเบื้องต้นให้กับฉินสือโอว เขาพูดว่า “บอส ก่อนอื่นเลยคุณต้องเรียนรู้เทคนิคการไถลลง เช่น การไถลลงเนิน ไถลลงแบบตรง ไถลลงแบบทแยง พอไถลลงได้ ผมจะค่อยสอนการฝึกเลี้ยว ซึ่งสองสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานสุดละในการเล่นสกี มาครับบอส จากพรสวรรค์การเล่นกีฬาของบอส แค่นี้ง่ายนิดเดียวครับ!”
ทางที่ฮิวจ์คนน้องเลือกเป็นแบบเรียบง่ายมาก ยาวประมาณ 600-700 เมตร ความชันก็ไม่มาก ที่ส่วนมากจะเป็นระดับ 4-5 แต่ก็มีบางที่ที่มีความชันถึงระดับ 10 ขึ้นไป ความกว้างของทางก็มากพอ อย่างน้อย 50 เมตรได้
เส้นทางเล่นสกีเส้นนี้จริงๆ แล้วเมื่อก่อนเป็นเส้นทางหลักในการเข้าออกเทือกเขาเคอร์บัล ร้อยกว่าปีแล้วที่ประชาชนในเมืองใช้เส้นทางนี้ขึ้นลงเขา ด้วยเหตุนี้ถนนจึงเรียบมาก ตอนเล่นสกีต่อให้หกล้มก็ไม่ง่ายที่จะเกิดอุบัติเหตุ ไม่เหมือนชูมัคเกอร์ที่หัวล้มฟาดโดนก้อนหิน
เบิร์ดเป็นคุณครูที่ดี อย่ามองแค่ว่าปกติเขาเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยพูด แต่เขาสามารถสอนคนได้ ซึ่งสิ่งนี้ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับอาชีพครูฝึกของเขา
เขาค่อยๆ อธิบายให้ฉินสือโอวฟังอย่างละเอียดเกี่ยวกับเทคนิคการไถลลงเป็นเส้นตรง หลังจากนั้นก็ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
ฉินสือโอวเรียนรู้จากเบิร์ดที่จะให้ส่วนหลังของไม้สกีทั้งสองอันหันเบนออกด้านนอก ซึ่งแบบนี้มันก็จะมีลักษณะเหมือนเลขแปดตัวจีน 八 ดูน่าเกลียดนิดหน่อย แต่รวบรวมกำลังได้ง่าย
เบิร์ดสอนให้ฉินสือโอวดันเข่าไปข้างหน้า ส่วนบนของร่างกายโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย ให้ร่างกายเกิดความสมดุล น้ำหนักลงที่ขาสองข้างเท่าๆ กัน ท้ายสุดกดสันสกีด้านในทั้งสองอันจิกลงกับหิมะแล้วไถลลงไปตามเนินก็เรียบร้อย
“คุณดูนะครับ มันง่ายมาก ยิ่งมุมของไม้สกีสองอันยิ่งกว้างมากเท่าไร แรงต้านทานก็จะยิ่งมาก การเลื่อนไถลลงไปก็จะช้า ในทางกลับกันถ้าแรงต้านทานน้อย การเลื่อนไถลลงก็จะเร็วขึ้น แต่ทางที่ดีที่สุดคือคุณควรทำมุมให้กว้างขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการเบรก” เบิร์ดพูดไปก็ไถลไปอย่างราบรื่น
ความเร็วในการไถลแบบนี้จะไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ แต่สำหรับคนอย่างฉินสือโอวที่ไม่เคยแม้แต่เล่นโรลเลอร์สเก็ต สามารถใช้ท่วงท่าแบบนี้ช่วยให้เลื่อนไถลช้าลงก็เยี่ยมมากแล้ว
ไม้สต็อกที่อยู่ในมือเขาแกว่งอยู่บนหิมะอยู่ตลอดเพื่อเพิ่มแรง ความเร็วในการไถลก็เริ่มมากขึ้น
หู่จือและเป้าจือตื่นเต้นจนวิ่งไปพร้อมๆ กับฉินสือโอว แต่สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวนายใหญ่หงุดหงิดก็คือ ความเร็วที่เขาเล่นสกียังไม่เท่ากับหมาสองตัวที่วิ่งไปอย่างยากลำบากบนหิมะเลย!
แม่งเอ๊ย ฉันจะบิน ฉินสือโอวนายใหญ่เริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียว เขาหุบขาเข้าด้วยกัน เพิ่มกำลังไปที่ไม้สต็อกทันใด ขาทั้งสองข้างขยับออกแรงเต็มเหนี่ยว ทันใดนั้นความเร็วในการไถลก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
 ไม้สกีฝ่าหิมะจนเกิดเป็นเสียงดัง ‘ซ่า ซ่า’ และแผงป้องกันทั้งสองด้านของเส้นทางสกีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉินสือโอวเริ่มสนุกกับการเล่นสกี ยิ่งเร็วยิ่งมีความสุข ราวกับกำลังโบยบินอยู่บนก้อนเมฆ…
“โอ้ไม่ !” เบิร์ดพูด**อย่างช่วยไม่ได้ บอสที่โง่เขลา เขาจะเบรกยังไงล่ะ?!
ฉันจะหยุดอย่างไร?! ฉินสือโอวร้อนใจขึ้นมา สุดท้ายก็ควบคุมไม่อยู่ เขากำลังจะตาย!
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset