ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 935 หมึกกระดองที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์

ไม่เสียแรงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักล่ามหากาฬของป่าใหญ่แห่งอเมริกาเหนือ แรงกระโดดของแมวป่านั้นคือที่สุดจริงๆ
ซิมบ้าหอนไปพลางกระโดดโลดเต้นไปพลาง มันกระโดดเพียงครั้งเดียวก็ไปได้ไกลถึงสองเมตรครึ่งแล้ว ทำเอาฉินสือโอวมองจนตาค้างเลยทีเดียว
วินนี่ตกใจ ร้องออกมาทันใดว่า “เกิดอะไรขึ้น? นี่เกิดอะไรขึ้นคะ? ลูกรักรีบมาหาหม่ามี้เร็ว ให้หม่ามี้ดูว่าหนูเป็นอะไร…”
เมื่อได้ยินวินนี่เรียกหา ซิมบ้าที่กระทืบเท้าไปมาอย่างแรง แต่ไม่ว่ามันจะกระทืบอย่างไรก็รู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมา สุดท้ายจึงร้องเอ๋งๆ แล้วโผเข้าหาอ้อมกอดของวินนี่ อุ้งเท้าน้อยนั้นกอดไปที่ข้อมือของวินนี่อย่างแรง แล้วร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
วินนี่กำลังปลอบซิมบ้าอยู่ ทางฝั่งหลัวปอก็เริ่มบ้าง มันเองก็อ้าขาออกอย่างไม่สบายตัว วินนี่นึกว่ามันคงอยากฉี่ จึงตะโกนออกไปว่า “ไปข้างนอก รีบออกไปข้างนอก! ลืมไปแล้วเหรอว่าครั้งที่แล้วที่ฉี่ในบ้าน หม่ามี้จัดการยังไง?”
ไม่ช้า วินนี่ก็เข้าใจว่าหลัวปอไม่ได้อยากฉี่ เพราะหู่จือกับเป้าจือเองก็อ้าขาออกด้วยเช่นกัน อุ้งเท้าหน้ากดลงกับพื้น ท่าทางเหมือนกับนักเต้นที่กำลังยืดเส้นอยู่ จากนั้นก็พยายามฉีกขาออกเต็มที่ ราวกับจะทำท่าฉีกขาให้ได้อย่างนั้น
ทั้งหู่จือและเป้าจือเป็นสัตว์เพศผู้ ไม่เหมือนกับหลัวปอที่ต้องนั่งฉี่ พวกมันจะฉี่โดยการยกขาขึ้นข้างหนึ่ง
พอตอนนี้พวกมันต่างก็ทำท่านี้กันทั้งคู่ จึงเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพราะจะฉี่ แต่คือรู้สึกไม่สบายตรงบริเวณหว่างขาต่างหาก
ฉินสือโอวเข้าใจถึงความรู้สึกไม่สบายที่หว่างขาแบบนี้ดี อาการแบบนี้พูดได้ง่ายๆ ว่าหว่างขาไฟลุกแล้ว
เขาเองกำลังเผชิญกับความแสบร้อนตรงหว่างขาเหมือนกัน แต่ในใจกลับดีใจอย่างมาก ถึงขั้นทนไม่ไหวที่จะหัวเราะร่าออกมา ช่างสะใจจริงๆ ใครใช้ให้เจ้าพวกนี้ทำเลียนแบบเขาไปเสียทุกอย่าง!
วินนี่เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จึงมองตาเขม็งไปที่เขาทีหนึ่ง แล้วถามว่า “คุณทำอะไรอีกแล้ว? เกิดอะไรขึ้น? คุณทาน้ำมันพริกตรงหว่างขาพวกมันหรือเปล่าคะ?!”
ฉินสือโอวพูดอย่างไม่พอใจว่า “จะใช่ได้อย่างไรกัน? ผมรักพวกมันมากนะ…”
 “พูด! ความ! จริง!” วินนี่ฉุนขึ้นมา สีหน้าพวกเจ้าตัวเล็กเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจริงๆ ทำให้เธอรู้สึกปวดใจมาก
ฉินสือโอวชูสเปรย์ยาพ่นในมือขึ้นมา แล้วพูดว่า “เมื่อกี้ผมฉีดเจ้านี่น่ะ พวกมันก็จะเอาด้วย ผมก็เลยฉีดให้พวกมันนิดหนึ่ง”
 “นิดหนึ่ง?” วินนี่ถามอย่างสงสัย
 “โอเค ฉีดพักหนึ่ง” ฉินสือโอวยิ้มด้วยความรู้สึกผิด
วินนี่จ้องไปที่เขาอีกที แล้วพาพวกเจ้าตัวเล็กขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้นบน ในตอนนี้ทั้งหู่เป้าและหลัวปอล้วนเดินไปข้างหน้าโดยใช้ขาหน้าลากตัวไปกับพื้น พวกมันไม่กล้าหุบขาหลัง จำเป็นต้องฉีกขาไว้ ทำให้ต้องพึ่งการลากตัวในการไปข้างหน้าอย่างเดียว
จากนั้นทั้งวัน พวกเจ้าตัวเล็กล้วนเดินโดยการลากขาทั้งหมด เพราะว่าสเปรย์ยาพ่นสีแดงนั้นเป็นของเหลวประเภทน้ำมัน หลังจากฉีดเข้าไปแล้วก็ซึมเข้าไปในผิวหนังทันที แม้จะใช้น้ำล้างก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก
สเปรย์ยาพ่นแบบนี้มีประสิทธิภาพดีมาก การนำทั้งสีแดงและสีเขียวมาผสมกันใช้ เพียงแค่สองวันเท่านั้น เส้นเอ็นที่ได้รับบาดเจ็บของฉินสือโอวก็ดีขึ้นมากแล้ว แม้ว่าจะไม่สามารถทำกิจกรรมโลดโผนได้ แต่กิจกรรมจำพวกลุกยืนหรือเดินนั้นไม่มีปัญหา
ฉินสือโอวนึกว่าตัวเองคงจะพลาดงานประจำปีของบริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรสเสียแล้ว แต่ตอนนี้ดูท่าว่าความกังวลของเขานั้นคงจะเสียแรงเปล่า
เมื่อร่างกายฟื้นฟูได้ระดับหนึ่งแล้ว ก็พอดีกับที่ฉินสือโอวได้รับโทรศัพท์จากเรค ที่โทรมาบอกว่าค้อนเหล็กกล้าขนาดใหญ่ที่เขาสั่งไว้ได้ทำเสร็จแล้ว แล้วถามเขาว่าจะให้ส่งไปให้เลยหรือเปล่า
ฉินสือโอวบอกให้เรคส่งไปที่ท่าเรือก็พอ เขาขับเรือลาดตระเวนพาอีวิลสันตามไปที่นั่น มีคนงานสองคนกำลังยกไม้กระบองที่ทำจากทองผสมกำลังเปล่งแสงสว่างไสวขึ้นมาอยู่
เมื่อได้เห็นหน้าอีวิลสันที่มีร่างกายกำยำแล้ว คนงานสองคนก็ตกใจ แล้วถามว่า “ของนี้เอาไว้ให้เขาคนนี้ใช้เหรอครับ? พระเจ้า ช่างเป็นคนที่ร่างกายใหญ่โตจริงๆ!”
ฉินสือโอวเพียงหัวเราะแต่ไม่ได้อธิบายอะไร เจ้าสิ่งนี้คนจะใช้ได้ไง นอกจากว่าคนคนนั้นจะเป็นเทพเฮอร์คิวลีสลงสวรรค์มา ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางที่จะยกอาวุธที่หนักแบบนี้ได้หรอก
กระบองแบบนี้มีรูปร่างเหมือนกันหมด พอตั้งมันไว้บนพื้นจะมีแท่งเหล็กแหลมหลายแท่งยื่นออกมา ดูท่าทางน่ากลัวและน่าเกรงขามอย่างที่สุด
ฉินสือโอวสั่งให้คราเคนมาหา พร้อมกับขับเรือมุ่งไปทางทะเลลึก เมื่อทั้งสองพบกันแล้ว เขาจึงหาพื้นที่โล่งในท้องทะเลมาจุดหนึ่ง แล้วให้อีวิลสันโยนกระบองทั้งเก้าอันลงไป
หนวดอีกข้างของคราเคนยังไม่โตออกมาเต็มที่เลย
กระบองที่หนักอึ้งได้ถูกโยนลงไปติดต่อกัน แม้ว่าจะมีแรงต้านในน้ำให้จมช้าลง แต่ตอนที่พวกมันจมลงไปใต้ท้องทะเลนั้น ก็ยังคงมีบางส่วนที่จมลงไปในโคลนทะเล
มีปูสีน้ำตาลที่โชคร้ายตัวหนึ่งที่อยู่ข้างล่างนั้นแล้วไม่ทันหลบ ทำให้โดนกระแทกเข้าอย่างจัง จากนั้นพอฉินสือโอวมองดูอีกที ก็เห็นว่าเจ้าตัวเล็กที่น่าสงสารนี้ ได้สลายกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว!
ฉินสือโอวสอนให้คราเคนยื่นหนวดเข้าไปในกระบอง ในนั้นได้ออกแบบช่องเอาไว้แล้ว แบบนี้เมื่อยื่นหนวดเข้าไปพันไว้ไม่กี่รอบ ก็สามารถยึดกระบองไว้ได้โดยที่ไม่หลุดแล้ว
ฉินสือโอวมองดูทีหนึ่ง คราเคนที่ติดอาวุธแล้วนั้น ดูราวกับเป็นบอสใหญ่ของโลกแห่งเทคโนโลยีอย่างไรอย่างนั้น ภาพลักษณ์ที่ออกมานั้นช่างดุดันนัก ลำตัวสีแดงสด อาวุธสีเงินสว่างไสว ทำเอาท่านฉินคนนี้มองดูแล้วก็ไฟลุกขึ้นมาทันที
อีกเรื่องที่ทำให้เขาไฟลุกขึ้นมามากกว่าเดิม ก็คือหนวดข้างที่คราเคนเสียไปนั้น ได้งอกออกมาใหม่จนมีความยาวสองเมตรกว่าแล้ว ครั้งก่อนที่เจอเพิ่งจะงอกออกมาเป็นตอเท่านั้น ไม่คิดว่าจะงอกได้ช้าขนาดนี้
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็คิดได้ว่าต้นเหตุน่าจะเป็นเพราะหลังจากที่พลังโพไซดอนของเขาได้พัฒนาแล้วนั้น พลังโพไซดอนในตอนนี้ทั้งแรงกล้าและทรงคุณภาพ ยิ่งกับสัตว์จำพวกปลาแล้วยิ่งทำให้ทรงคุณภาพมากขึ้น
เมื่อคิดทบทวนอยู่สักพัก ฉินสือโอวตัดสินใจโยนกระบองอีกอันลงไป หนวดของคราเคนมีความยาวสองเมตรกว่าๆ แม้ว่าจะไม่สามารถใช้งานเจ้าสิ่งนี้ได้ดังใจนัก แต่การจะหยิบมาใช้นั้นไม่มีปัญหา
มองดูคราเคนที่ได้อาวุธแล้ว ฉินสือโอวยังคงมีความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย นั่นก็คือยังขาดเสื้อเกราะอยู่
แต่เรื่องนี้จนปัญญาจริงๆ เพราะคราเคนยังเติบโตได้อีก เทียบกับตอนที่เจอกันกับตอนนี้ คราเคนโตมาหนึ่งเมตรกว่าแล้ว ความยาวทั้งตัวก็มีมากกว่ายี่สิบเอ็ดเมตรแล้ว!
แม้ว่าฉินสือโอวจะสามารถทำเสื้อเกราะตามขนาดของคราเคนได้ก็ตาม แต่ก็ยังใส่ไม่ได้อยู่ดี
หลังจากติดอาวุธเสร็จ ก็ถึงเวลาทดลองใช้ ฉินสือโอวไปสำรวจดูรอบๆ แล้วพบเข้ากับปลาค็อดที่ไม่ค่อยมีค่าอยู่กลุ่มหนึ่ง
เขาออกคำสั่งให้คราเคน จัดการปลาค็อดฝูงนี้ซะ!
แต่กลายเป็นว่าคราเคนเพิ่งจะพ่นน้ำวิ่งเข้ามาเท่านั้น ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ ฝูงปลาค็อดก็แตกกระเจิง หายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที!
“ให้ตายสิ รังสีอำมหิตของเจ้านี่ สามารถไปไกลได้หลายร้อยเมตรเลยนะเนี่ย” ฉินสือโอวคิดในใจอย่างมีความสุข
ใต้ท้องทะเลไกลออกไปอีกนิดมีโขดหินอยู่จำนวนหนึ่ง ฉินสือโอวให้คราเคนทดลองพลังโจมตีกับโขดหินพวกนี้
คราเคนพุ่งพรวดเข้าไป ตามด้วยฟาดหนวดออกไปรัวๆ
 ‘ตู้ม’ เสียงดังก้องกังวาน จากนั้นบนโขดหินพวกนี้ที่มีขนาดสิบกว่าตารางเมตรก็ได้ปรากฏรอยร้าวออกมาทีเดียวหลายรอย ส่วนจุดของโขดหินที่โดนเข้ากับกระบองนั้น ได้กลายเป็นฝุ่นผงไปแล้ว!
พวกหมึกยักษ์ล้วนเป็นสัตว์ประเภทที่มีความโหดร้าย คราเคนก็คือที่หนึ่งในสัตว์โหดร้ายทั้งปวง ความชื่นชอบของมันก่อนหน้านี้ก็คือการทำลายเรืออับปางให้เป็นผุยผงเพื่อแสดงความร้ายกาจของมัน ตอนนี้เมื่อมีกระบองแล้ว ก็เท่ากับเป็นการเสริมปีกให้กับเสือเลย
หลังจากนั้นไม่รอให้ฉินสือโอวออกคำสั่ง หมึกยักษ์ได้ทำการสะบัดหนวดไปมาอย่างรวดเร็ว ใช้กระบองทำลายโขดหินรอบข้างจนแหลกในเวลาไม่นาน
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังคุ้นเคยกับการสะบัดหนวดไปมาอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถรักษาพลังในการทำจู่โจมต่อเนื่องไว้ได้ด้วย
ความสามารถในการเรียนรู้ในการต่อสู้ของสัตว์นั้นดีกว่ามนุษย์มาก จากการเรียนรู้วิธีสะบัดหนวดเพียงข้างเดียวจนถึงสามารถสะบัดหนวดหลายข้างรัวๆ ออกไปได้นั้น คราเคนใช้เวลาไปเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น
………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset