ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 954 รับศิษย์

บนมือถือเป็นบทความหนึ่งจาก ‘หนังสือพิมพ์นิวฟันแลนด์’ เป็นบทความที่พูดถึงยอดฝีมือจีนคนหนึ่ง รวมไปถึงเรื่องความกล้าหาญที่ไปช่วยคนในพายุบนท้องทะเล และรวมไปถึงเรื่องการมีเรื่องกับแก๊งต้มตุ๋นในเซนต์จอห์น ที่ทำเอานักเลงสิบกว่าคนเจ็บหนักภายในสิบกระบวนท่า…
ฉินสือโอวมองดูบทความนี้แล้วส่ายหัวไม่หยุด ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่ายอดฝีมือคนจีนนี้ก็คือเขานั่นเอง แต่ว่าเนื้อหานี้ช่างแตกต่างกับความเป็นจริงมากเลย นี่มันพูดเกินจริงไปหน่อยแล้ว
ไวส์นึกว่าเขาไม่พอใจ จึงเลื่อนหน้าจอไปเจอกับบทความอีกอันหนึ่ง ที่พูดถึงเรื่องปีก่อนที่มีทหารรับจ้างพวกหนึ่งอยากจะเข้ามาปล้นฟาร์มปลาแล้วถูกฉินสือโอวจับได้
เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า ตอนนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียว ก็ผู้ต้องหาเป็นถึงทหารรับจ้างของฝรั่งเศสนี่นา เรียกได้ว่าเป็นสุนัขสงครามระดับมืออาชีพเลย พวกเขาทั้งมาสังเกตการณ์ล่วงหน้า วางแผนได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่สุดท้ายไม่เพียงปล้นไม่สำเร็จเท่านั้น แถมยังถูกฉินสือโอวซัดจนร่วงจนถูกจับอีก
ตอนนั้นเขาเพิ่งไปที่เกาะแฟร์เวลได้ไม่นาน ในหมู่ผู้สื่อข่าวที่อยากจะเพิ่มยอดขายให้กับหนังสือพิมพ์ จึงพากันโหมเรื่องยกยอว่าเขาเป็นยอดฝีมือจากตะวันออกกัน
แต่เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ได้กระทบกับชีวิตฉินสือโอวมากนัก เขาจึงไม่ได้ใส่ใจมาก แต่พอตอนนี้หันกลับไปมองดูแล้ว พบว่ากระทบไม่มากก็จริง แต่ว่าดึงเขาถอยกลับไปต่างหาก
หัวเล็กๆ ของไวส์พิงอยู่ข้างๆ ฉินสือโอวดูข่าวไปพร้อมกัน เขาดูไปพลางพึมพำไปพลาง “ว้าวๆ ซัดพวกเลวนี่ให้หมอบไปเลย! อะจารย์สุดยอดมากเลย วันนี้ตอนผมเห็นคุณออกหมัดก็รู้เลยว่าคุณคือยอดฝีมือ แต่นึกไม่ถึงว่าฝีมือคุณจะยอดถึงขนาดนี้! ย้าๆ! ฉันจะเป็นจอมยุทธ์ ฉันจะเรียนกังฟู! กังฟูจีน! ย้าๆ!”
ฉินสือโอวยัดมือถือคืนให้เขา แล้วพูดอย่างหมดทางเลือกว่า “ฟังนะเด็กน้อย ฉันเข้าใจว่านายชื่นชมกังฟูมาก แต่ถ้าให้ฉันพูดนะ นั่นน่ะล้วนเป็นของปลอมทั้งนั้น ไม่มียอดฝีมือแบบนั้น ไม่มี…”
ไวส์จ้องมองเขาอย่างงุนงง แล้วถามว่า “ของปลอม? กังฟูจีนเป็นของปลอมเหรอครับ? กังฟูจีนไม่มีจริงเหรอครับ?”
เมื่อมองดูใบหน้าไร้เดียงสาของเด็กน้อยคนนี้ แล้วคิดถึงเรื่องที่วัฒนธรรมจีนนั้นเข้าถึงอเมริกาได้ยากเพียงใด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีสาวกกังฟูจีนโผล่มาสักคน ตัวเองไม่ควรแค่กลัวว่าตัวเองจะลำบากแล้วทำลายมันลงนะ
ดังนั้น ฉินสือโอวจึงสูดหายใจลึกแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “แน่นอนว่ากังฟูจีนเป็นของจริง! ฉันหมายถึงว่า ฉันไม่ใช่ยอดฝีมือแบบนั้น เรื่องนี้น่ะเป็นของปลอม ฉันเองก็ไม่ใช่จอมยุทธ์…”
“ไม่เป็นไรครับ อะจารย์ ผมจะต้องเป็นจอมยุทธ์แน่ จอมยุทธ์ไวส์ บรูซ เท่านี้ต่อไปคุณก็จะได้เป็นอะจารย์ของจอมยุทธ์แล้ว” ไวส์มีท่าทีตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินสือโอวบ่น** แล้วพูดอย่างเลือกไม่ได้ว่า “ฉันก็อยากเป็นอาจารย์ของจอมยุทธ์ แต่ว่าฉันน่ะ…”
“อะจารย์ โปรดรับการคารวะจากศิษย์ด้วย!” เหมือนว่าไวส์จะฟังคำเขาแค่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เขาพูดตัดบทฉินสือโอว และคุกเข่าลงอีกครั้ง!
“ลุกขึ้นมาก่อน ลุกขึ้นมา มีอะไรก็พูดกันก่อน อย่าคุกเข่าได้ไหม?” ฉินสือโอวดึงตัวไวส์ขึ้นอย่างร้อนรน เด็กคนนี้ทำไมต้องคุกเข่าด้วยล่ะ ยังดีที่เขาไม่ได้อาศัยอยู่จีน ไม่อย่างนั้นคงได้คุกเข่ากันจนเข่าแหลกแน่
ไวส์แสดงสีหน้ามุ่งมั่นออกมาแล้วพูดว่า “อะจารย์ หากคุณไม่รับผมเป็นศิษย์ ผมก็จะคุกเข่าอยู่อย่างนี้! ผมจะเรียนกังฟูให้ได้!”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ จึงถีบไปที่โซฟาทีหนึ่ง แต่เพราะตอนนี้เขามีพลังล้นหลาม การถีบครั้งนี้ ทำเอาโซฟาพื้นไม้แท้ที่คนปกติจะลากยังลากไม่ไหวถึงกับลอยขึ้นมา…
ใบหน้าไวส์เต็มไปด้วยความตกตะลึง แล้วตามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีอกดีใจ…
ในตอนนี้นั่นเองที่เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากด้านหลัง ฉินสือโอวหันกลับไปมองด้วยความสงสัย เห็นนิกกี้ ฮิลตันในชุดบิกินียืนอยู่หลังประตูห้องรับแขก มองเขาที่ถีบโซฟาจนลอยอย่างตกใจ
นี่มันอะไรเนี่ย? ฉินสือโอวใกล้จะสติแตกแล้ว เขามองไปที่นิกกี้แล้วถามว่า “คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าคุณเข้ามาได้อย่างไรครับ?”
นิกกี้ชี้ไปที่สระว่ายน้ำด้านหลังอย่างหมดแรง แล้วพูดเสียงเบาว่า “แค่ปีนทีเดียวก็ปีนข้ามมาได้แล้วนี่คะ ฉันได้ยินเสียงทะเลาะกันที่นี่ จึงอยากมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น”
ฉินสือโอวเดินไปพลิกโซฟาที่ล้มลงกลับมา แล้วดึงไวส์ราวกับดึงลิงไปโยนไว้บนโซฟา แต่เจ้าเด็กนี่กลับคุกเข่าบนโซฟาขึ้นมาทันที สองมือทำท่าคำนับ มองดูฉินสือโอวด้วยใบหน้าจริงจัง
“ฉันไม่เป็นกังฟูจริงๆ นะ! ฉันเป็นแค่ชาวประมงเท่านั้น!” ฉินสือโอวตะโกนออกไปอย่างหมดทางเลือก “อีกอย่างฉันเป็นคนแคนาดา ไม่ได้อาศัยอยู่ในอเมริกา!”
ไวส์ก็ตะโกนออกมาว่า “งั้นผมก็จะไปแคนาดา! คุณป้าผมก็อยู่ที่แคนาดา! เซนต์จอห์น อยู่ที่เซนต์จอห์น! นี่ก็คือโชคชะตานำพาให้พบกันในยุทธภพใช่ไหมครับ?”
ให้ตายสิ ยังจะมาพบกันในยุทธภพอีก? ฉินสือโอวรู้สึกว่าวัฒนธรรมจอมยุทธ์ของจีนได้ซึมเข้าไปในอเมริกาสำเร็จแล้วล่ะ
นิกกี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามว่า “ฉันขอพูดอะไรได้ไหมคะ?”
ฉินสือโอวทำท่าบอกว่าตามสบาย นิกกี้จึงถามว่า “เฮ้ หนุ่มหล่อ ทำไมเธอถึงต้องเรียนกังฟูจีนล่ะ?”
ไวส์หันตัวกลับไปทำท่าคำนับให้กับนิกกี้แล้วพูดว่า “เรียนอะจารย์แม่…”
“ฟัค เธอเป็นแค่เพื่อนบ้าน อ้า ไม่ใช่สิ แม้แต่เพื่อนบ้านก็ไม่ใช่! เธอไม่ใช่อาจารย์แม่ของนาย อาจารย์แม่ของนายอยู่แคนาดา!” ฉินสือโอวใกล้จะสติแตกแล้ว
ไวส์ดีใจขึ้นมาอีก แล้วร้องว่า “อะจารย์ คุณยอมรับผมเป็นศิษย์แล้วเหรอครับ?”
ฉินสือโอวปัดมือ แล้วพูดว่า “นายพูดก่อนว่าทำไมต้องเรียนกังฟู”
ไวส์พยักหน้าอย่างดีใจ แล้วพูดว่า “ผมร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก จะต้องกินยาทุกวัน ผมไม่อยากกินยา และก็ไม่อยากไปผ่าตัดอีกด้วย กังฟูจีนสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรง เฉินเจินบอกไว้แบบนี้!”
ฉินสือโอวยกนิ้วโป้งให้ เด็กน้อยทำไมนายถึงเท่อย่างนี้? นายไม่เพียงแต่รู้จักบรูซ ลี ยังรู้จักเฉินเจินอีก นายคงไม่ได้เป็นเด็กจีนที่ข้ามเวลาไปอเมริกาใช่ไหมเนี่ย?
นิกกี้หัวเราะแล้วพูดว่า “อยากร่างกายแข็งแรงน่ะง่ายมาก ฉันรู้จักเทรนเนอร์เก่งๆ หลายคนเลย ไว้จะแนะนำให้เธอรู้จักดีไหม? อีกอย่าง อยากแข็งแรงไม่จำเป็นต้องพึ่งแต่กังฟูจีนอย่างเดียว คาราเต้หรือเทควันโดก็ทำได้เหมือนกันนี่”
ไวส์เบะปากอย่างไม่พอใจแล้วพูดว่า “เทรนเนอร์พวกนั้นแค่ดูผลตรวจร่างกายของผมก็ตกใจจนจะร้องไห้แล้ว พวกเขาไม่กล้าเทรนให้ผมหรอก เทควันโดกับคาราเต้เหรอ? นั่นน่ะแค่ดูดีเฉยๆ กังฟูจีนสิถึงจะดั้งเดิมจริงๆ!”
หลังจากได้ยินประโยคหลังนี้ ฉินสือโอวก็เริ่มคิด เทียบกับเด็กคนนี้แล้ว ก็รู้สึกว่าคนจีนอย่างตัวเขาเองก็ยังไม่มีความมั่นใจในกังฟูจีนอย่างนี้เลย ช่างเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เสียจริง งั้นตัวเองก็รับเด็กคนนี้เป็นศิษย์แล้วกัน ปกป้องเกียรติของกังฟูจีนหน่อยก็ดีเหมือนกัน
 “อีกอย่างนะ” ไวส์พูดต่อ ใบหน้าเผยสีหน้าเขินอายเหมือนก่อนหน้านี้ “ตอนผมเรียนชั้นประถม มักจะถูกคนรังแกประจำ พวกเขารู้ว่าผมมีเงิน จึงมักจะมาขอเงินจากผม ผมมีเพื่อนเชื้อสายจีนคนหนึ่ง พ่อของเขาเปิดสำนักการต่อสู้ เขาก็เรียนกังฟูจีนเหมือนกัน เก่งมากเลย เขาช่วยผมจัดการพวกคนเลวที่รังแกผมไปเยอะเลย!”
“เพราะเขาช่วยผมไว้ ผมจึงเอาเงินให้เขา แต่เขาก็ไม่เคยรับเลย ผมถามเขาว่างั้นทำไมถึงช่วยผม เขาบอกว่านี่น่ะคือจิตวิญญาณของจอมยุทธ์จีน! เขาเป็นจอมยุทธ์ ผมก็จะเป็นจอมยุทธ์ด้วย! ตั้งใจฝึกฝนกังฟู ปราบคนชั่วช่วยเหลือคนอ่อนแอ!” ไวส์พูดอย่างมุ่งมั่น
นิกกี้ทำท่าคำนับแล้วพูดว่า “ใช่ งั้นเธอก็ควรจะเรียนกังฟูจะได้เป็นจอมยุทธ์!”
ฉินสือโอวเงียบไปสักพักแล้วถามว่า “งั้นนายก็ไปเรียนที่สำนักกังฟูของเพื่อนนายได้นี่นา”
ไวส์พูดด้วยเสียงเศร้า “พวกเขาอาศัยอยู่ที่ชิคาโกแค่ครึ่งปีเท่านั้น แล้วก็ย้ายไปแล้ว อะจารย์ ผมอยากจะเรียนกังฟูจริงๆ นะครับ! ตั้งใจมาก!”
ฉินสือโอวจะพูดอะไรได้อีก? เขาตบไปที่ไหล่ของเด็กหนุ่มเบาๆ แล้วพูดว่า “นั่งลงเถอะ อาจารย์รับนายเป็นลูกศิษย์แล้ว แต่ว่าจากนี้นายต้องจำไว้ให้แม่นนะ เรียนการต่อสู้ก็เพื่อช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอ ไม่ใช่เอาไว้รังแกคนอ่อนแอ เข้าใจไหม?”
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset